บทที่282 คัมภีร์ซือจิง
จ่ายเงินไปแล้ว สารานุกรมหลอมยาก็มาอยู่ในมือของกู้ชูหน่วน

ทุกคนต่างก็มองดูสารานุกรมหลอมยาในมือของนาง สายตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา

กู้ชูหน่วนกวาดตามองทุกคนในงานประมูล อารมณ์ที่อยากเปิดสารานุกรมหลอมยาจนใจจะขาด ก็กลับดับสลายไป

นางกอดอกพิงพนักเก้าอี้ เอามาทำเป็นหมอนหนุนหัวนอน แล้วตะโกนออกมาอย่างสบายใจว่า “สายตาของข้านี่มันดีจริงๆ เอาม้วนหนังแกะโบราณมาทำเป็นหมอน สบายจริงๆเล้ย”

“……”

นี่มันทำลายของมีค่าชัดๆ

ช่างน่าเสียดายจริงๆ

สารานุกรมหลอมยาถูกนางประมูลไป ช่างสิ้นเปลืองเสียจริง

องค์หญิงตังตังด่าอย่างโมโห “เจ้า……ทำไมเจ้าไร้ยางอายเช่นนี้?”

กู้ชูหน่วนพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าใช้เงินตัวเองจ่าย ซื้อของให้ตัวเองมันน่าอายตรงไหน? ถ้าเจ้าอยากได้ งั้นเพิ่มราคาก็ได้นี่? หรือข้าไปบังคับเจ้า ไม่ให้เจ้าเพิ่มราคากัน”

“องค์หญิง ช่างเถอะเพคะ สินค้าประมูลชิ้นต่อไปหากพวกเราชอบ นางก็ชอบด้วย พวกเราก็ประมูลมาในราคาสูงๆเลย ไม่ให้นางได้ไป นางจ่ายไปตั้งหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงแล้ว บนตัวคงไม่มีเงินเหลือมากมายเท่าไหร่แล้วเพคะ” เสี่ยวลวี่กอดขาของนางเอาไว้แน่น

ดูแลรับใช้องค์หญิงตังตังมานานหลายปี ถึงแม้องค์หญิงจะมีนิสัยจองหองเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่เคยโกรธเหมือนเช่นวันนี้เลย

องค์หญิงตังตังพูดอย่างโมโหว่า “ถึงแม้จะไม่ชอบ ข้าก็จะประมูลมาเช่นกัน ข้าจะต้องแก้แค้นให้ได้”

“สินค้าประมูลชิ้นต่อไปคือคัมภีร์ซือจิงที่หายสาบสูญไปนานถึงสองพันกว่าปี รวมไปถึงเฟิงหย่าซ่งรวมแล้วหนึ่งร้อยเก้าสิบหกหน้า ทุกหน้ามีบทกวีฉบับสมบูรณ์ ได้สูญหายไปจากโลกมาเป็นเวลานาน ยากที่จะค้นหาได้ง่ายๆ”

พอพูดแบบนี้ออกไป งานการประมูลก็กลับมาฮือฮาอีกครั้ง

วันนี้มันอะไรกัน?

ทำไมที่จัดงานประมูลเฟิงเซียงถึงประมูลแต่ของชั้นดีขนาดนี้นะ

คัมภีร์ซือจิง……

บนโลกนี้ใครบ้างที่ไม่อยากได้คัมภีร์ซือจิง โดยเฉพาะคัมภีร์ซือจิงฉบับสมบูรณ์แบบ

พวกนักวิชาการต่างก็เริ่มเคลื่อนไหวกันใหญ่ คัมภีร์ซือจิงมีแรงดึงดูดต่อพวกเขามาก มันเป็นหลักฐานของการพัฒนาประวัติศาสตร์ และเป็นสมบัติล้ำค่าที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ด้วย

ถ้าได้คัมภีร์ซือจิงเล่มนี้มา ก็จะรู้ถึงประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของอดีตกาล และยังได้รู้ถึงการสร้างผลงานของคนโบราณ

มีคนถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “คัมภีร์ซือจิงสูญหายไปนานสองพันกว่าปี แล้วพวกเจ้าไปหามาจากไหน? คัมภีร์ซือจิงเล่มนี้เป็นของจริงหรือเปล่า?”

“ที่จัดงานประมูลเฟิงเซียงขอรับประกันด้วยชื่อเสียงของร้าน คัมภีร์ซือจิงเฟิงหย่าซ่งถูกทิ้งไว้เมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว พวกเราก็หาเจอโดยบังเอิญ เล่มนี้ไม่เพียงแต่เป็นต้นฉบับเท่านั้น แถมยังมีเนื้อหาที่คนรุ่นหลังแปลไว้ด้วย”

“ว่าไงนะ……มีต้นฉบับด้วยเหรอ?”

“ใช่แล้ว ตัวอักษรโบราณพวกนั้นไม่ได้สืบทอดต่อกันมาหลายปีแล้ว แล้วถูกคนรุ่นหลังแปลออกมาอีกที สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากสำหรับนักวิชาการทั่วใต้หล้านี้ โดยเฉพาะสำนักหรูเจีย”

คุณพระ……

ถ้าเป็นอย่างที่พูดจริง งั้นคนที่ได้รับคัมภีร์ซือจิงแล้ว ก็จะได้รู้อักษรโบราณไปด้วยน่ะสิ?

นี่ต้องเป็นเรื่องที่ทำให้ทั่วโลกตะลึงแน่นอน

ทุกคนต่างเริ่มเคลื่อนไหวกัน

กู้ชูหน่วนไม่มีความสนใจ

คัมภีร์ซือจิงอะไรกัน? เมื่อก่อนเรียนหนังสือยังท่องไม่พออีกเหรอ?

ส่วนตัวอักษรโบราณ?

บังเอิญจัง นางไม่เพียงแต่อ่อนออก แถมยังเขียนได้ด้วย

คัมภีร์ซือจิงไม่มีประโยชน์สำหรับนางมากเท่าไหร่

องค์หญิงตังตังไม่คิดว่าสินค้าที่ประมูลจะเป็นคัมภีร์ซือจิง

ถึงแม้คัมภีร์ซือจิงจะสำคัญมาก แต่นางไม่ชอบเรียนหนังสือ จะเอาคัมภีร์ซือจิงมาทำไมกัน

กู้ชูหยุนกลับสนใจอย่างมาก

อาจารย์ซ่างกวนเรียนบทกลอนบทกวีมามาก และยังสนใจบทกลอนโบราณด้วย

ถ้าเอาคัมภีร์ซือจิงเล่มนี้ส่งให้อาจารย์ซ่างกวนได้ อาจจะทำให้อาจารย์ซ่างกวนดีใจได้

เย่จิ่งหานไม่สนใจเลยสักนิด

ซ่างกวนฉู่สายตาซับซ้อนยากที่จะมองออกว่าคิดอะไรอยู่

คนรับใช้ของอี้เฉินเฟยสายตาเปล่งประกาย “ท่านอี้ หลายปีมานี้สำนักหรูเจียรวบรวมคัมภีร์ซือจิงมาตลอด แต่เสียดายที่รวบรวมฉบับสมบูรณ์ไม่ได้ ตอนนี้คัมภีร์ซือจิงอยู่ตรงหน้าแล้ว พวกเราจะ……”