แดนนิรมิตเทพ บทที่ 408
พวกผู้มีอิทธิพลเมื่อได้รับยาเสริมจิตไปแล้ว ก็ยิ่งมีพลังงานในการทำงานมากขึ้นอีก แต่ว่าสิ่งของอย่างพวกหินทิพย์ ไม่ใช่ผักริมทาง เริ่มแรกยังพอรวบรวมได้ง่าย แต่หลังจากนั้นก็จะยิ่งอยู่ยิ่งน้อยลง และยิ่งอยู่ยิ่งหายากมากขึ้น

เฉินโม่เริ่มทำการเช็กรายการหินทิพย์ หินทิพย์ธาตุน้ำมียี่สิบห้าก้อน หินทิพย์ธาตุไม้มียี่สิบเอ็ดก้อน ที่เหลือก็มีหินทิพย์ที่มีพลังชะตาธาตุต่างๆบรรจุไว้อีกประมาณสามสิบกว่าก้อน

“ค่ายกลรวมพลังทิพย์โคจรมหาจักรวาล จำเป็นต้องใช้หินทิพย์ทั้งหมดสามสิบก้อน ทะเลสาบกลับคืนรังต้องใช้สิบแปดก้อน เนินเขาวิหคจอดต้องใช้สิบแปดก้อน เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”

“ส่วนค่ายกลปกป้อง วัสดุที่ต้องการใช้ก็ยิ่งหายากมากกว่าเดิม ฉันทำการสร้างค่ายกลรวมพลังทิพย์ขึ้นมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

เฉินโม่เลือกหินทิพย์ออกมาจากในกองทั้งหมดสามสิบหกก้อน จากนั้นก็ขังตัวเองไว้ในห้อง และเริ่มทำการเสกคาถาและสลักผนึกบนหินทิพย์พวกนั้น

หากว่าเฉินโม่ยังมีพลังบำเพ็ญระดับแดนดั่งเทพของชาติก่อน การสร้างค่ายกลในระดับแค่นี้ ใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็พอแล้ว แต่ว่าในตอนนี้เขามีพลังเพียงแค่ระดับชั้นสี่แดนรวมพลัง หากคิดอยากจะสร้างค่ายกลที่ครอบคลุมทั้งทะเลสาบกลับคืนรังและเนินเขาวิหคจอด ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลย

เพียงแค่การเสกคาถาและสลักผนึก เฉินโม่ก็ใช้เวลาถึงสองวันกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ แล้วยังเป็นรูปแบบที่ไม่พักไม่หลับนอนอีกด้วย

เมื่อหินทิพย์ก้อนสุดท้ายทำการสลักเรียบร้อย เฉินโม่ถึงกับเหนื่อยจนล้มลงกับพื้น สลบนอนหลับ

กลางคืน พระจันทร์ส่องสว่าง เฉินโม่นำเอาหินทิพย์ที่ทำการเสกคาถาและสลักผนึกเรียบร้อยแล้วสามสิบหกก้อน วางไว้ตามตำแหน่งดาวเด่นประจำสัปดาห์ วางไว้ตรงกลางระหว่างทะเลสาบกลับคืนรังและเนินเขาวิหคจอด

เมื่อจัดวางเสร็จแล้ว เฉินโม่กลับสู่บนดาดฟ้าของคฤหาสน์ นั่งขัดสมาธิ พลังงานเทพล่องลอยไปทั่วฟ้าดิน

พลังเทพมีพลังทิพย์ที่แข็งแกร่ง ใช้พลังงานที่รวดเร็วยิ่งกว่าพลังงานแสงไปสัมผัสเข้ากับสลักผนึกของหินทิพย์ทั้งสามสิบหกก้อน

ภายใต้การสัมผัสของพลังเทพ หินทิพย์ทั้งสามสิบหกก้อนเหมือนดั่งดวงดาวบนท้องฟ้าที่มืดมิด ส่องสว่างแล้วหายไปในพริบตา

โครม!

วินาทีนั้น ทั่วทั้งฟ้าดินเหมือนสั่นสะเทือนไปหมด พลังงานที่ไร้ตัวตนแต่ละอันครอบคลุมไปทั่วทั้งทะเลสาบกลับคืนรังและเนินเขาวิหคจอด

ทั้งๆที่ไม่มีลม แต่ใบไม้ใบหญ้าบนเนินเขาวิหคจอดกลับพัดปลิวอ่อนๆ สายน้ำในทะเลสาบกลับคืนรังเองก็ได้มีคลื่นเกิดขึ้นเล็กน้อย

พลังชี่ทิพย์ที่อยู่รอบด้านหลายร้อยกิโล เหมือนถูกน้ำวนใต้ทะเลลึกดูดกลืน ต่างก็ลอยมาทางค่ายกลรวมพลังทิพย์อย่างรวดเร็ว

เพียงชั่วครู่ เฉินโม่ก็รู้สึกได้ถึงพลังชี่ทิพย์ที่อยู่รอบด้านหลายร้อยเมตรมีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเมื่อกี้ถึงสิบเท่า แล้วยังคอยเพิ่มมากขึ้นอีกเรื่อยๆ

ไม้เหี่ยวแห้งและดอกหญ้าที่เดิมทียังไม่ถึงเวลาออกดอก ใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง กลับมีดอกผุดบานออกมา ภายใต้พลังที่เข้มข้นของชี่ทิพย์ ทั่วทั้งเนินเขาวิหคจอดต่างก็เบิกบานสดใส

แต่ว่า เฉินโม่ยังไม่พอใจเพียงเท่านี้ หินทิพย์ที่พวกฉู่เหวินสงหามาได้มีมากกว่าที่เฉินโม่คาดการณ์ไว้ หินทิพย์ที่เหลืออยู่ยังสามารถนำมาสร้างค่ายกลรวมพลังทิพย์ขนาดเล็กที่รอบข้างคฤหาสน์ได้อีก

พลังของค่ายกลรวมพลังทั้งสองแห่งรวบรวมกัน พลังชี่ทิพย์ที่รอบข้างคฤหาสน์มีความเข้มข้นมากกว่าของค่ายกลรวมพลังทิพย์ภายนอกนับพันเท่า

เวลาผ่านมาจนกระทั่งค่ำคืน เฉินโม่ถึงได้สร้างค่ายกลรวมพลังทิพย์ขนาดเล็กไว้รอบข้างคฤหาสน์จนเสร็จเรียบร้อย

ในวินาทีที่ค่ายกลเปิดใช้งาน ทั่วทั้งคฤหาสน์ก็ได้มีหมอกปกคลุมไปทั่ว แต่สิ่งพวกนั้นไม่ใช่หมอก แต่เป็นพลังชี่ทิพย์ที่เข้มข้นมากมายจนแทบจะรวมตัวเป็นรูปร่าง

เฉินโม่นั่งขัดสมาธิอยู่บนดาดฟ้า มองดูพลังชี่ทิพย์ที่เกาะตัวเป็นหมอกรอบด้าน แล้วยิ้มออกมา “พลังชี่ทิพย์มากเหมือนหมอก แม้ว่ายังไม่มากถึงขั้นที่พลังชี่ทิพย์มากเหมือนสายน้ำของโลกบำเพ็ญเซียน แต่เมื่ออยู่บนโลกที่มีพลังชี่ทิพย์ขาดแคลนเช่นนี้ นับว่าดีมากแล้ว”

“ถ้าหากว่าคุณแม่และพี่เวินฉิงมาพักอาศัยที่นี่บ่อยๆ พลังชี่ทิพย์คอยเข้าสู่ร่างกายของพวกเธออยู่ตลอด สามารถช่วยให้พวกเธอไม่เจ็บไม่ป่วย และอ่อนวัยสวยสง่า”