ตอนที่ 71 ฉันบอกได้เลยว่าพวกเขาเป็นขยะ

ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน

จ้าว ซินเจีย หัวหน้าจากสาขาการวัดและการควบคุมตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า“รั่วหราน ฉันแค่อยากบอกเรื่องนี้กับเธอเพราะฉันรู้จักเธอ ผู้หญิงไม่เหมาะที่จะร้องเพลง ‘แม่น้ำเหลือง’ ไม่ว่าเธอจะฝึกซ้อมหนักแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถนำเสนอสาระสำคัญที่แท้จริงของเพลงออกมาได้”

“นายหมายความว่ายังไง จะหาเรื่องกันใช่ไหม”

“การแข่งขันยังไม่ได้ทันได้เริ่มเลย ไม่ใช่ว่ามันเร็วเกินหรอกเหรอที่นายจะมาอวดดีแบบนี้ ”

“นายไม่รู้หรอกว่าในอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้น เราอาจจะได้อันดับที่สูงกว่านายก็ได้! เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เราจะได้เห็นว่าใครที่เป็นคนหัวเราะคนสุดท้าย!”

เมื่อผู้หญิงเอกอังกฤษที่ได้ยินคำพูดของ จ้าว ซินเจีย พวกเธอก็เริ่มพูดเหน็บแนมเขาทันที

สถานการณ์ในตอนนี้ของ จ้าว ซินเจีย นั้นค่อนข้างน่าอึดอัดใจ แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์ในการพูดตลกเป็นภาษาอังกฤษ แต่เขาก็จริงจังเกี่ยวกับความคิดเห็นของเขาที่พูดออกไป ท้ายที่สุดแล้วสาขาเอกวัดและการควบคุม ก็เต็มไปด้วยผู้ชายดังนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนอยู่ในวัด หากเขาเข้ากับพวกสาวๆจากเอกภาษาอังกฤษเหล่านี้ได้ดี เขาก็จะสามารถช่วยเหลือพวกผู้ชายหลายคนในสาขาของเขารวมถึงตัวเขาเองด้วย!

และเขาก็ไม่กล้าฝันที่จะชนะใจดอกไม้ของมหาวิทยาลัยหัวเย่ อย่างชูเยว่ อย่างไรก็ตามเขาก็มีความมั่นใจว่าเขาจะทำคะแนนได้ดี จากผู้ดูแล ฮวาง รั่วหราน

“เฮ้ สาวสวย ฉันพูดจริงจังนะ ฉันต้องการช่วยพวกเธอจริงๆในเรื่องนี้ ในเมื่อเธอยืนยันที่จะร้องเพลง ‘แม่น้ำเหลือง’ ฉันสามารถพา ชิวเหลียง ที่เป็นสมาชิกคณะกรรมการวรรณกรรมและศิลปะที่อยู่ในสาขาของเรามาเพื่อฝึกสอนพวกเธอได้ เขาเป็นอัจฉริยะในการร้องเพลงและเป็นนักร้องหลักในวงที่เขาก่อตั้งขึ้นในช่วงโรงเรียนมัธยม หากฉันพาเขามาสอนพวกเธอ ฉันรับรองได้เลยว่าพวกเธอจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการร้องเพลง” แม่น้ำเหลือง“ในเวลาไม่นานอย่างแน่นอน”

ความสงสัยถูกเขียนไปทั่วใบหน้าของพวกผู้หญิง สาขาการวัดและควบคุมเป็นคู่แข่งของสาขาพวกเธอ พวกเธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องและแปลกเป็นอย่างมากที่ผู้ชายจากสาขานี้เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือพวกเธอ

“นายชื่อ จ้าว ซินเจีย ใช่ไหม? ทำไมนายถึงพยายามที่จะช่วยเรา?” ชูเยว่ อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

เธอสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์สีน้ำเงินที่โชว์เรียวขาที่เรียวยาวของเธอ ใบหน้าที่สดใสและละเอียดละอ่อนของเธอกับจมูกที่่คมโด่งและริมฝีปากเล็กน่ารัก มันทำให้เธอดูสง่างามและบริสุทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ

“เจ้าหญิงชู เชื่อใจฉันได้เลย มันไม่มีอะไรอยู่ในก่อไผ่ทั้งนั้น ฉันแค่ต้องการช่วยพวกเธอ นั่นคือทั้งหมด”จ้าว ซิน เจีย กล่าวด้วยความจริงจัง

สำหรับชูเยว่ นั้นไม่มีนักศึกษาคนไหนในหัวเย่ ที่ไม่รู้จักเธอ เพราะทุกคนรู้จักเธอในฐานะ”Moon Princess”

“ทำไมนายถึงมามีมีจิตใจที่ใจดีอะไรตอนนี้” ชูเยว่พูดพร้อมกับจ้องมองตรงไปที่เขา

“ตามจริงแล้ว มันก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะช่วยผู้หญิง นอกจากนี้พวกเราก็เป็นเพื่อนกันดังนั้นการช่วยเหลือพวกเธอทุกคน มันก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร” จ้าว ซินเจีย กล่าวอย่างใจกว้าง

ฮวาง รั่วหราน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบว่า“เอาล่ะ ถ้า ชิวเหลียง สามารถแก้ปัญหาการร้องเพลงของเราได้ ฉัน ฮวาง รั่วหราน จะเป็นหนี้บุญคุณเขา”

“โอเค ได้เลย ฮิฮิ…”

จ้าว ซินเจีย รู้สึกเบิกบานใจ ในที่สุดเขาก็คว้าโอกาสมาได้แล้ว ในที่สุดพวกผู้หญิงจากเอกภาษาอังกฤษก็ตกอยู่ในกำมือของเขา ด้วยความคิดนี้มันทำให้สัตว์ร้ายที่อยู่ในตัวของเขาเกิดความปรารถนา จนเลือดของเขานั้นเดือดพล่านไปหมด เขาส่งสัญญาณให้กับเพื่อนของเขาและตะโกนว่า“ชิวเหลียง มาที่นี่หน่อย!”

คนที่ค่อนข้างหล่อเดินเข้ามา รูปร่างหน้าตาโดยรวมของเขาให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่น ข้อเสียเพียงอย่างเดียวสำหรับเขาก็คือจมูกที่เชิดสูงอยู่เสมอ มองเขาเพียงแว็บเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเขาชอบทำตัวสูงส่งและเย่อหยิ่ง

ทันทีที่ ชิวเหลียง มาถึงเขาพูดราวกับว่าเขาเป็นครูผู้อาวุโส “ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอ ร้องเพลง’แม่น้ำเหลือง’ ได้ไม่ค่อยดี น้ำเสียงของพวกเธอไม่สูงก็ต่ำจนเกินไป และพวกเธอก็ขาดการกลืมกลืนอย่างสิ้นเชิง ขอโทษนะที่ฉันต้องพูดตรงๆ ฉันบอกได้เลยว่าพวกเธอมันก็เป็นเพียงแค่กลุ่มผู้หญิงที่ไร้ฝีมือ”

การได้ยินคำพูดเหล่านี้มันทำให้ผู้หญิงจากเอกภาษาอังกฤษโกรธมาก แต่พวกเธอก็ได้แต่เก็บมันเอาไว้ในใจ การร้องเพลงของพวกเธอไม่ได้มาตรฐานตามที่พูดจริงๆนั้นแหละ และตอนนี้พวกเธอก็ต้องการความช่วยเหลือทั้งหมดเท่าที่จะทำได้

“ฉันจะช่วยเหลือพวกเธอ แต่ละคนในการปรับปรุงการร้องเพลงเอง เราจะเริ่มจากเธอก่อนเลยเป็นคนแรก”

ชิว เหลียง ยืนถัดจาก อันหวน ซึ่งยืนอยู่ที่มุมขวาสุดและสั่งให้เธอร้องเพลง“เธอลองร้องเพลง‘แม่น้ำเหลือง” ให้ฉันฟังหน่อยสิ เอาตั้งแต่ต้นจนจบเลยนะ”

“ร้องเพลง?” อันหวน กระพริบตาอย่างลังเล

“ใช่ร้องเพลง” ชิวเหลียง ตอบยืนยัน

อันหวนไม่ต้องการเป็นภาระดังนั้นเธอกัดฟันและเริ่มร้องเพลงออกมา:“ลมกำลังคำรามม้ากำลังตะโกน สีเหลือง…”

“หยุด! ระดับเสียงของเธอสูงเกินไป ลดระดับลงซะ” ชิวเหลียง ขัดจังหวะ

อันหวนปรับเสียงของเธอแล้วร้องเพลงต่อไป:“ลมคำราม…”

“ยังสูงเกินไป! ลองอีกครั้ง!” ชิวเหลียง ขัดจังหวะอีกครั้ง

อันหวน รู้สึกโกรธมาก แต่เพื่อชื่อเสียงของสาขาเธอจึงต้องกล้ำกลืนแล้วร้องเพลงอีกครั้ง

อันหวน ร้องมาทั้งหมดหกครั้งแล้ว ตามความต้องการของ ชิวเหลียง

“พวกเราทุกคนเคยได้เรียนดนตรีมาตั้งแต่ระดับประถมมาจนถึงมัธยม ทำไมเธอยังร้องผิดพลาดอีก? ตอนมัธยมอาจารย์พละสอนวิชาดนตรีให้เธอหรือไง?” ชิวเหลียง พูดตำหนิ อันหวน

“นาย … ”

ใบหน้าของ อันกวน แดงก่ำด้วยความโกรธ เธอขบฟันพร้อมกับจ้องมอง ชิวเหลียง เขม็ง

“อันหวน!”

ฮวาง รั่วหนาน ร้องออกมาโดยบอกอันหวนเป็นนัยว่าอย่างเพิ่งทะเลาะกับ ชิวเหลียง แม้ว่าอันหวนจะโกรธ แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะยับยั้งตัวเอง

“เสียงของเธอต่ำเกินไป เธอคิดว่าเธอเป็นซับวูเฟอร์หรือไง?” (ซับวูเฟอร์ เป็นลำโพงเสียงเบส)

“เธอร้องอะไรออกมา นั่นเป็นวิธีที่เธอคิดว่าเธอร้องออกมาถูกแล้วหรือไง”

“เธอเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่แย่ที่สุดที่ฉันเคยเจอมา! เธอกำลังร้องเพลงหรือแค่ท่องเนื้อเพลง?”

ชิวเหลียง วิพากษ์วิจารณ์ผู้หญิงทุกคนในสาขาเอกอังกฤษ จนกระทั่งใบหน้าของพวกเธอทุกคนแดงก่ำและเต็มไปด้วยความโกรธ ทุกคนเริ่มมีความสงสัยแล้วว่า การร้องเพลงของพวกเธอมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?

จ้าว ซินเจีย มองดู ชิวเหลียง ที่อวดดี จนคิ้วของเขาเริ่มขมวด ในใจของเขากำลังแอบด่าเพื่อนของเขาอยู่: ชิวเหลียง แกยังต้องการที่จะหาแฟนสาวจากเอกภาษาอังกฤษอยู่อีกไหมเนี้ย? เพียงแค่โอ้อวดทักษะของแกเพียงเล็กน้อยก็พอแล้ว! ตอนนี้แกกำลังทำให้พวกผู้หญิงขุ่นเคืองและดูถูกพวกเธอทั้งหมด แกเป็นแค่ไอโง่หรือไงฟระเนี้ย”

จ้าว ซินเจีย ไอสองสามครั้งพยายามที่จะส่งสัญญาณให้ ชิวเหลียง

อย่างไรก็ตาม ชิวเหลียง ก็เป็นคนที่หลงตัวเองและคิดว่าตัวเองมีความสามารถทางดนตรีที่เหนือใคร เขาคิดว่าเขาดูเท่ห์และได้บรรลุสถานะของเทพเจ้าในสายตาของพวกผู้หญิงเหล่านี้ ทันใดนั้นเอง เขาก็มองเห็นว่ามีที่นั่งว่างเปล่าอยู่สามที่นั่ง เขาชี้ไปที่เก้าอี้ว่างสามตัวพร้อมกับพูดว่า“เกิดอะไรขึ้น ทำไมที่ตรงนั้นถึงว่างเปล่า?”

“ที่นั่งเหล่านั้นเป็นของนักศึกษาชายสามคนในชั้นเรียนของเรา” ฮวาง รั่วหราน อธิบาย เพื่อปรับปรุงการร้องเพลงของสาขา เธอจึงอดทนครั้งแล้วครั้งเล่ากับ ชิวเหลียง คนนี้

“ทำไมพวกเขาถึงไม่มาที่นี่” ชิวเหลียง ตวาดถามเสียงดัง

“นายไม่รู้หรือไงว่าหอพักชายนั้นค่อนข้างอยู่ไกลจากที่นี่ แน่นอนว่าพวกเขาต้องใช้เวลามากขึ้นในการเดินทางมาที่นี่” ฮวาง รั่วหราน ตอบคำถามพร้อมกับกอดอก

“นั่นคือเหตุผล? ไม่น่าแปลกใจเลยที่มาตรฐานการร้องเพลงของพวกเธอถึงได้ต่ำขนาดนี้ หากเธอไม่สามารถทำให้ทุกคนมาตรงเวลาได้ เธอจะไปคาดหวังเรื่องการร้องเพลงได้ดี ได้อย่างไร?”

เมื่อ ชิวเหลียง เห็นพวกผู้หญิงเริ่มจ้องมองมาที่เขาด้วยความเกลียดชัง ในที่สุด ชิวเหลียง ก็ตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ล้ำเส้นเกินไป เขาจึงอยากจะที่จะไขมันให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ดังนั้นเขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพมากขึ้น “ที่จริงแล้วพวกเธอ ก็ร้องเพลงได้ดี แต่พวกเธอกลับมีแกะดำสามตัวที่ขาดความรับผิดชอบและไม่มีเกียรติ ฉันบอกได้เลยว่าไอพวกสามตัวนี้ มันก็เป็นได้แค่ไอพวกขยะและพวกหนูที่น่าขยะแขยง มีใครเห็นด้วยไหม?”

เขากลัวที่จะทำให้สาวๆพวกนี้ขุ่นเคือง แต่เขาไม่สนใจพวกลูกหมาสามตัวนั่นมากนัก

หลังจากได้ยินคำพูดนี้ พวกผู้หญิงทุกคนก็ตกใจ พวกเธอล้วนแล้วแต่คิดว่า: ชิวเหลียง คนนี้มันมาจากดาวอังคารใช่ไหม เขาถึงได้พูดว่า เทพหลัวและเพื่อนของเขา เป็นพวกขยะและพวกหนูที่น่าขยะแขยง ผู้ชายคนนี้กำลังขอตั๋วเครื่องบินไปกลับนรกฟรีอยู่หรือไง

“ผู้ดูแลเรามาแล้ว!”

ทันใดนั้นเสียงของ จูเสี่ยวเฟย ก็ดังขึ้นมาแต่ไกล