ตอนที่ 95 ฉันคือผู้ฝึกสัตว์วิญญาณ

 

สิ่งที่สะท้อนให้เห็นในสายตาของพวกเขาคือหัวหมูยักษ์ของหมูขนเหล็กและเศษซากของมัน

 

เมื่อครู สมาชิกทีมทั้ง 5 คนรีบหนีเอาชีวิตรอดจึงไม่ทันสังเกตให้ดี

 

เมื่อมองดูอย่างใกล้ชิด ทั้งห้าคนก็ตกตะลึงกับผลการต่อสู้ของหลิงเชียวและสมาชิกทีมคน อื่นๆของเขา

 

พวกเขาถูกไล่ล่าโดยสัตว์วิญญาณ แต่หลิงเชียวและสมาชิกทีมของเขากลับกินเนื้อของสัตว์ วิญญาณไปแล้ว!

 

ถ้าพวกเขารู้ว่าหลิงเซียวต่อสู้กับหมูขนเหล็กด้วยตัวคนเดียว พวกเขาก็อาจจะหมดสติจากการ ตกใจได้

 

พวกเขาได้กลิ่นหอมในอากาศ นี่มัน…. รสชาติของหม้อไฟ!

 

บ้าเอ๊ย ทีมนี้มันเป็นสัตว์ประหลาดประเภทไหนกัน? ทําไมพวกเขามาถึงนําหม้อไฟมาที่ต่างโล กด้วย!

 

“วัตถุดิบ? มันไม่จําเป็นแล้ว หมาป่าตัวนี้ดูแล้วไม่ค่อยมีเนื้อเท่าไหร่ “หลิงเซียวกล่าว

 

ซูเหยาและคนอื่นๆได้ยินดังนั้นพวกเธอก็ถอนสายตาที่กระตือรือร้นออกจากร่างของหมาปาวา

 

หมาปาวายุรู้สึกราวกับว่ามันเดินวนเวียนอยู่หน้าประตูนรกหลายรอบ

 

ถ้ามันพูดภาษามนุษย์ได้มันจะต้องโพล่งออกมาว่า ” ทีมของพวกเจ้ามองมาที่ข้าด้วยสายตาที่ หิวกระหายแบบนั้นได้ยังไง! มนุษย์ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว!”

 

เมื่อเหล่าคนดูในห้องถ่ายทอดสดเห็นดังนั้นก็พากันหัวเราะอีกครั้ง

 

“หวังไฉ โชคดีที่รักษาชีวิตน้อยๆของตัวเองเอาไว้ได้”

 

“ทําไมฉันถึงรู้สึกว่าทั้งทีมถูกหลิงเซียวทําให้เปลี่ยนไป?”

 

“หลิงเชียวมาแข่งแน่เหรอ? นี่มันทีมปิกนิก! ที่มาหาวัตถุดิบชัดๆ!”

 

“คุณเห็นการแสดงออกของสมาชิกทีมทั้งห้าคนนั้นหรือเปล่า? สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วย ความสงสัยในชีวิตอีกแล้ว!”

 

“เทพเจ้าหลิงไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติในการตบหน้าเท่านั้น แต่เขายังมาพร้อมกับออร่าที่ น่าตกใจด้วย”

 

หลิว รั่วเหยียน ถาม “ถ้าใช้เป็นวัตถุดิบไม่ได้ แล้วหมาปาวายุตัวนี้จะทํายังไงกับมันดี?”

 

หลิงเซียวคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกล่าวอย่างจริงจังว่า “บอกตามตรง จริงๆแล้วฉันคือผู้ฝึกสัตว์ วิญญาณ”

 

ซูเหยาถึงกับหลุดหัวเราะ

 

หลิว รั่วเหยียน พูดไม่ออก “…”

 

ชายหัวสนามหญ้าและชายหัวกลมมองหน้ากัน ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้สิ่งที่ยินหลิงเซียวพูด

 

สมาชิกทีมทั้งห้าก็เงียบเช่นกัน

 

หลิงเซียวโกรธเล็กน้อย ฉันกําลังเปิดเผยความแข็งแกร่ง พวกนายช่วยไว้หน้าฉันหน่อยไม่ได้ หรือไง?

 

เมื่อเห็นว่าคนพวกนี้ไม่เชื่อ หลิงเซียวก็ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจพวกเขา

 

หลิงเซียวใช้ภาษาหมาป่าและพูดกับหมาปาวายุว่า ” หวังไฉ ในอนาคตแกจะต้องอยู่กับฉัน ฉัน รับรองว่าแกจะได้ลิ้มรสและดื่มดํากับรสชาติที่สุดยอดอย่างแน่นอน”

 

หมาปาวายุได้ยินดังนั้นก็ตอบกลับทันทีว่า “ข้าเกิดมามีเกียรติ จะยอมอ่อนข้อให้มนุษย์ได้ อย่างไร! ว้ววว”

 

สีหน้าของหลิงเซียวมืดครึม ตอนนี้แม้แต่หมาปาวายุยังเริ่มดูถูกเขาแล้วหรือ? แกอยากจะตาย ใช่ไหม?

 

“ฉันจะให้โอกาสแกจัดระเบียบภาษาอีกครั้ง” สีหน้าของหลิงเชียวดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก ขณะที่เขาเปิดปากพูด

 

หมาปาวายุหดคอลง เห็นได้ชัดว่ามันหวาดกลัว

 

แต่ในฐานะสัตว์วิญญาณที่มีสติปัญญาเป็นของตัวเอง มันย่อมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

 

“หมาปาวายุอย่างข้า ไม่มีทางยอมอ่อนข้อให้เจ้า!” แม้ว่าหมาปาวายุจะหวาดกลัว แต่มันก็ยัง คงพูดเสียงแข็ง

 

ฉากการสนทนาระหว่างหนึ่งคนกับหมาป่าทําให้ซูเหยาและคนอื่นๆถึงกับตกตะลึง

 

ความคิดแปลกๆผุดขึ้นมาในใจของพวกเธอ เป็นไปได้ไหมว่าหลิงเซียวจะเป็นผู้ฝึกสัตว์วิญ ญาณจริงๆ? แต่นั่นไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่ไหม?

 

ซูเหยาถาม “หลิงเซียว ที่หมาปาวายุเห่า มันหมายความว่าอะไร?”

 

ใบหน้าของหลิงเซียวมืดครึ้มขึ้นมาทันที จะให้ฉันบอกเรื่องน่าอับอายเช่นนี้กับเธอหรือไง?

 

หลิงเชียวจึงกล่าวออกมาอย่างไร้ยางอายว่า “สิ่งที่มันพูดน่าจะหมายถึง ข้าคือคนที่กล้าหาญ และแกร่งกล้าราวกับเทพเซียน”

 

เป็นไปได้อย่างไรที่หมาปาวายุธรรมดาๆตัวนี้จะปีนป่ายขึ้นไปอยู่จุดนั้นได้?

 

“ดังนั้นตอนนี้ฉันกําลังเตรียมที่จะปราบหมาปาด้วยคุณธรรมและปล่อยให้มันยอมจําน นต่อฉัน”

 

ซูเหยาพูดไม่ออก ” ”

 

หลิว รั่วเหยียน พูดไม่ออก ””

 

คนที่เหลือก็พูดไม่ออกเช่นกัน”