ตอนที่ 224 หลงกล

พ่อของหยางหลางหันมาถามเสี่ยวซวนด้วยน้ำเสียงตกใจ “เธอกำลังจะบอกว่าหยางโปไม่ได้อยู่จินหลิงเหรอ?”

เสี่ยวซวนเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเธอก็รู้ทันทีว่าตัวเองพูดผิดไป หลังจากที่เธอกลับมาก็ได้ยินเพื่อร่วมงานของเธอพูดว่าหยางโปจ่ายเงินค่ารักษาล่วงหน้ามาแล้วสิบวัน เธอเองก็เดาว่าหยางโปอาจจะออกไปที่อื่นแล้ว แต่ที่คาดไม่ถึงคือแม้แต่พ่อแม่ของเขาเองก็ยังไม่รู้เรื่องนี้

เสี่ยวซวนส่ายหน้า “หนูแค่ได้ยินมาว่าเขาจ่ายเงินค่ารักษาล่วงหน้า แต่เรื่องอื่นหนูเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”

พูดจบเธอก็พูดต่อว่า “คุณลุงพักผ่อนเถอะค่ะ หนูขอตัวกลับไปทำงานก่อน”

 

หลังจากที่เธอออกจากห้องไป พ่อของหยางโปก็เขวี้ยงแก้วในมือของเขาลงที่พื้นพร้อมกับพูดด้วยความโมโห “ไอ้เด็กเลี้ยงไม่เชื่อง! ไอ้เด็กนอกคอก! นี่มันกำลังหลบหน้าอยู่ฉันงั้นสิ!”

หยางหลางที่อยู่ข้างๆพูดแทรกขึ้นมา “นั่นซิ หมอนั่นคงจะพยายามจะหลบหน้าเพื่อที่จะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย!”

“ชิ! ต่อให้มันจะหลบไปอยู่มุมไหนของโลกมันก็ต้องเลี้ยงดูฉัน! ไอ้งูพิษ ฉันเลี้ยงมันมาตั้งหลายปีก็เพราะจะให้มันมาเลี้ยงดูฉันตอนแก่เถ้า แต่มันกลับหลบหน้าหลบตาไม่โผล่มาให้เห็นหน้า นี่มันคิดจะลองดีกับฉันสินะ!”

พ่อของหยางหลางพูดด้วยความโมโห ในขณะที่แม่หยางยังคงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไร

หลังจากถึงช่วงค่ำหยางหลางก็ได้รับข้อความจากหลานเยว่ที่ส่งมาบอกให้เขากลับไปหาเธอ

 

อันที่จริงเขาไม่ได้มีแพลนไว้ว่าจะกลับวันนี้ แต่หลังจากที่เห็นข้อความจากหญิงสาวเขาก็ใจอ่อนขึ้นมาในทันที

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็บอกพ่อแม่ของเขาก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาลไป อันที่จริงร่างกายพ่อของเขาก็ดีขึ้นมากแล้ว แต่หลังจากที่ลุงและเขากลับไป ก็ยังมีแม่ของเขาที่สามารถดูแลพ่อของเขาได้อยู่

โรงแรมอยู่ห่างจากโรงพยาบาลไม่ได้ไกลเท่าไหร่นัก หยางหลางจึงกลับมาถึงโรงแรมได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

โรงแรมที่พวกเขาอยู่เป็นโรงแรมห้าดาว หลังจากที่เข้ามาด้านในห้องหยางหลางก็ต้องชะงักไปในทันทีเพราะภายในห้องเวลานี้มืดสนิท มีเพียงแค่แสงไฟสลัวเท่านั้น และเขาก็เห็นว่าภายในห้องมีการตกแต่งใหม่แถมบนฝาผนังก็ยังมีดอกไม้หลากสีแขวนอยู่

 

หลังจากเดินเข้าไปด้านในห้องก็พบว่าหลานเยว่กำลังนั่งอยู่ข้างโต๊ะแถมบนโต๊ะยังมีเทียนที่ถูกจุดเอาไว้จนทำให้เห็นภาพสลัวตรงหน้า

หยางหลางได้กลิ่นเทียนหอมก็เผลอยิ้มออกมา “นี่เธอเป็นคนจัดทั้งหมดเลยเหรอ?”

หลานเยว่ขยับตัวเล็กน้อยจนทำให้กระโปรงสีแดงของเธอเลิกขึ้นมาจนเผยให้เห็นขาที่ขาวนวลราวกับหิมะ ก่อนที่จะค่อยๆก้าวเท้ามาหาเขาพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างโอบรอบคอของเขา “ชอบไหม?”

หยางหลางที่ถูกอีกฝ่ายรุกจนเกิดอาการงุนงง แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจกับของพวกนี้สักเท่าไหร่นักแต่การที่เห็นหลานเยว่ทำแบบนี้ก็ยังทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

 

“ชอบสิ ชอบมากเลยล่ะ” หยางหลางยิ้ม

หลานเยว่ยิ้มพร้อมกับลากเขาให้นั่งลง “แล้วชอบของพวกนี้ไหม?”

หยางหลางนั่งลงพร้อมกับมองดูอาหารที่อยู่บนโต๊ะที่มีทั้งซี่โครงวัว ปลาอบซอส เป็ดย่างแถมยังมีไวน์แดงที่ถูกรินลงในแก้วแชมเปญอีกสองแก้ว

หลานเยว่กระซิบด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนแต่แผ่วเบาว่า “สามีที่รัก เรามาทานอาหารกันเถอะ!”

ทันทีที่หยางหลางได้ยินคำว่า ‘สามี’ ออกมาจากปากของอีกฝ่ายเขาก็รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที “อื้อๆๆๆ”

หยางหลางนั่งลงทว่าสายตาของเขายังคงจ้องหลานเยว่

หลานเยว่เองก็มองมาที่เขาพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนไปที่อีกฝ่าย

 

หลังจากทานอาหารตรงหน้าแล้ว หยางหลางก็ถามขึ้นมาว่า “นี่คือเซอร์ไพรส์เหรอ?”

หลานเยว่จับแขนหยางหลางก่อนที่จะดึงให้เขาเดินไปที่ห้องน้ำ “รีบเข้าไปอาบน้ำก่อนสิ”

หยางหลางชะงักไปในทันทีพร้อมกับถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น “จริงเหรอ?”

หลานเยว่มองมาที่เขาด้วยสายตาเป็นประกายจนทำให้หยางหลางรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาจนอดใจไว้ไม่อยู่ เขาจึงรีบถอดเสื้อก่อนที่จะเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำทันที

หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วหยางหลางก็ออกมาพร้อมกับกอดหลานเยว่ไว้อย่างแนบแน่น…….

เช้าวันรุ่งขึ้นหยางหลางก็รู้สึกเจ็บตรงบริเวณหลังและเอวเป็นอย่างมากแถมเขายังรู้สึกเหนื่อยล้าจนทำให้รู้สึกง่วงนอนเป็นอย่างมาก

 

เขายื่นมือออกไปข้างๆก่อนที่จะควานหาคนที่นอนอยู่ข้างเขา ทว่าเขากลับพบว่าข้างตัวของเขากลับไม่มีใครเลย เป็นเพราะม่านถูกปิดไว้จึงทำให้มองไม่เห็นอะไรภายในห้อง เขาจึงยกมือขึ้นเพื่อหยิบโทรศัพท์แต่กลับไม่พบโทรศัพท์ของตัวเอง

หยางหลางรีบลุกขึ้นมานั่งทว่าเขายังอยู่บนเตียงอยู่พร้อมกับหันไปมองทางฝั่งห้องน้ำ แต่ก็พบว่าในห้องน้ำไม่มีแสงไฟเล็ดลอดออกมาเลยแม้แต่น้อย

หยางหลางรีบเปิดโคมไฟที่อยู่ข้างหัวเตียงก่อนที่จะเดินลงมาจากเตียง “หลานเยว่! หลานเยว่!”

ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย หยางหลางเดินไปที่ห้องน้ำพร้อมกับเปิดประตูออกมาเพื่อเช็คให้มั่นใจว่าไม่มีเธออยู่ในนั้น และมันก็ไม่มีอย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆ จนทำให้เขาเริ่มเกิดความสงสัยว่าหลานเยว่ออกไปไหน

 

ทว่าหยางหลางก็ไม่ได้สนใจอะไร หลังจากที่เขาเดินกลับมาที่เตียงก็พบว่ากระเป๋าตังของเขาถูกวางอยู่บนหัวเตียง แต่เขาจำไม่ได้เลยว่าเขาหยิบมันมาวางตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

หยางหลางยิ้มก่อนที่จะหยิบกระเป๋าขึ้นมา ตอนนี้เขามีเงินห้าแสนกว่าหยวน ถ้าหากเขาสามารถพูดให้หยางโปซื้อบ้านให้เขาได้เขาก็น่าจะทำเงินได้อีกหลายแสน แค่นี้เขาก็พอใจมากแล้วเพราะคงจะไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้เขาได้เงินเร็วไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ

ทันทีที่เขาเปิดกระเป๋าเงินเขาก็ต้องผงะไปในทันทีเพราะเขาพบว่าบัตรเอทีเอ็มในกระเป๋าของเขาได้หายไปแล้ว! บัตรเอทีเอ็มสองใบของเขาหายไปแล้ว!

 

หยางหลางเห็นแบบนั้นก็รีบควานหาบัตรของเขาด้วยท่าทางกระวนกระวายใจทั้งบนโต๊ะ ใต้เตียง ที่พื้น และไม่ว่าจะพลิกเปิดดูสักกี่ครั้งเขาก็ไม่พบบัตรเอทีเอ็มของเขาเลย เขาจึงรีบหาโทรศัพท์ภายในห้อง

หลังจากที่เจอโทรศัพท์ที่อยู่ในห้องแล้วเขาก็รีบโทรเข้าหาเบอร์ของตัวเองทันที ก่อนที่จะพบว่ามีเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นซึ่งอยู่บริเวณปลายเตียง

หลังจากหยิบโทรศัพท์แล้วเขาก็รีบโทรหาหลานเยว่ทันที “ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางของท่านได้ในขณะนี้ กรุณติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ!”

หยางหลางรู้สึกช็อกไปในทันที นอกจากจะไม่เจอหลานเยว่แล้ว โทรศัพท์ของเธอก็ปิดสายแถมบัตรเอทีเอ็มของเขาก็หายไปด้วยทว่ายังเหลือบัตรที่ผูกอยู่อีกใบ! หยางหลางแทบจะเป็นบ้าไปในทันทีเพราะเขาแทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับเขา

 

เขารีบหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าเงินก่อนที่จะวิ่งออกไปด้านนอกพร้อมกับเดินไปที่ตู้กดเงิน ก่อนที่จะใช้บัตรที่เหลืออยู่อีกใบเสียบเข้าไปในตู้ก่อนที่จะพบว่าเงินที่มีอยู่ได้หายไปหมดแล้ว หยางหลางรู้สึกได้ถึงความมืดมนราวกับโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมา

“ห้าแสน! ห้าแสนของฉ๊านนนนนน! อ๊ากกกกกกกกกก! ” หยางหลางตะโกนออกมาราวกับคนเสียสติไปในทันที

“ไม่สิ…ไม่ใช่ห้าแสน! แต่มันคือหนึ่งล้านหยวนต่างหากล่ะ!!!” หยางหลางนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เขาเองก็ได้ให้เงินหลานเยว่อีกห้าแสนด้วยหากรวมกับครั้งนี้มันเป็นมูลค่าเงินถึงหนึ่งล้านหยวน!

นี่เป็นเรื่อง “เซอร์ไพรส์” จริงๆ!

 

หยางหลางเรียกสติขึ้นมาได้อีกครั้งพร้อมกับรู้แล้วว่าตัวเองกำลังถูกหลอก แถมหลานเยว่ก็ใช้ช่วงเวลากลางคืนตอนที่เขาหลับขโมยบัตรเอทีเอ็มของเขาไป มิน่าล่ะทำไมเธอถึงคะยั้นคะยอให้เขาทำเรื่องเชื่อมต่อแบบอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ที่แท้ก็เพราะมันสามารถโอนเงินทั้งหมดออกมาได้ภายในครั้งเดียวยังไงล่ะ!

หยางหลางเปล่งเสียงตะโกนร้องออกมาจนดังลั่นก่อนที่จะล้มหมดสติลงไปที่พื้นพร้อมกับภาพที่ตัดไปในทันที