“เจ้าหมายความว่า ข้าจะตายจากการล่าในอีกห้าปีต่อจากนี้หรือ”

เสียงของราชาองค์ใหม่เจือด้วยความกังวล

“ใช่ ท่านจะถูกแทงด้วยหอกเหมือนกับราชาเทพองค์ที่แล้ว ทำให้ถึงแก่ความตายในทันที” เทพจินเยี่ยนตอบ

เกิดความเงียบบนบัลลังก์เทพ

“นี่เป็นตอนจบที่ไม่น่ายินดีเอาเสียเลย” เทพแห่งความเย็นยะเยือกพึมพำเสียงต่ำ

ถึงแม้พิธีราชาภิเษกจะยังไม่ได้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ แต่เทพองค์นี้มีชะตาให้กลายเป็นราชาเทพแล้ว ดังนั้นเขามีคุณสมบัติที่จะเป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์เทพทั้งมวลเพื่อสนทนากับผู้ส่งสารจากอนาคต

เทพจินเยี่ยนและมนุษย์แสงยืนอยู่บนเบื้องล่างบัลลังก์ขณะมองราชาองค์ใหม่

เหล่าเทพยืนอยู่สองฝั่งเบื้องล่างเช่นกัน พวกเขาฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างเงียบงัน

ตัวตนของเทพจินเยี่ยนและมนุษย์แสงถูกพิสูจน์แล้ว เห็นได้ชัดว่ามาจากอนาคต

ข่าวที่พวกเขานำมาน่าเชื่อถือ

ดังนั้นนับจากช่วงเวลานี้ไป เทพผู้ทรงพลังยิ่งเหล่านั้นพลันล้มเลิกความคิดที่สู้เพื่อเป็นราชาเทพ

นี่มันช่างน่าขันสิ้นดี!

ห้าปีต่อมาต้องเผชิญหน้ากับความคลุ้มคลั่งของผู้ปกครองโลกบรรพกาล ไม่ว่าราชาเทพจะเป็นใครก็ต้องหาทางผ่านเรื่องราวนี้ไปก่อนให้ได้

หากไม่สามารถผ่านไปได้ก็จะสูญสิ้นชีวิต!

บนบัลลังก์เทพ เทพแห่งความเย็นยะเยือกวางมือบนที่วาง ร่างเอนมาข้างหน้าขณะถามด้วยความร้อนรนว่า “เจ้ามาจากอนาคต ดังนั้นการที่เจ้ามาที่นี่ก็เพื่อเปลี่ยนแปลงเรื่องทั้งหมดนี้ใช่หรือไม่”

มีความคาดหวังและความปรารถนายิ่งในดวงตาของราชาเทพองค์ใหม่

เทพจินเยี่ยนสูดหายใจก่อนเล่าตามแผนเดิมที่วางเอาไว้

เทพแห่งความเย็นยะเยือกทรงพลังยิ่ง แถมตอนนี้ยังเป็นราชาเทพ

ต้องซื่อตรงเข้าไว้

“ราชาเทพ ข้าจะบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ ดังนั้นตราบที่ท่านสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้นแล้วหลบหนีออกมาก่อนจนถึงท้ายที่สุดได้ ท่านจะไม่ตาย ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนแปลงเพราเหตุนี้” เทพจินเยี่ยนกล่าว

เทพแห่งความเย็นยะเยือกได้ยินดังนั้นจึงค่อยผ่อนคลาย

“ใช่…หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น ข้าต้องเตรียมตัวไว้ก่อน” เขาพึมพำ

“ราชาเทพ ข้าจะช่วยท่านฟันฝ่าความยากลำบาก แต่ข้าเองก็มีเรื่องอยากจะขอสักเล็กน้อย คำขอนี้ข้องเกี่ยวกับโชคชะตาของพวกเราเผ่าพันธุ์เทพทั้งสิ้น” เทพจินเยี่ยนกล่าว

“เจ้าว่ามาเลย” เทพแห่งความเย็นยะเยือกกล่าว

“ในอนาคต พวกเราต้องเผชิญกับปัญหาใหม่ นักพรตนามกู่ฉิงซานถือกำเนิดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาได้รับบางสิ่งที่พิเศษเพื่อมาหยุดยั้งพวกข้าจากยุคโบราณ นับตั้งแต่นั้นมา แผนการของเผ่าพันธุ์ข้าจำนวนมากเป็นอันถูกทำลายสิ้น เทพจำนวนมากตายด้วยมือของเขาองค์แล้วองค์เล่า” เทพจินเยี่ยนกล่าวอย่างโกรธแค้น

เทพแห่งความเย็นยะเยือกหรี่ตาพลางกล่าวว่า “นี่มันเป็นไปไม่ได้ เผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ในการควบคุมของพวกเรามาตลอด จะมีใครหน้าไหมมาขัดขืนได้”

เทพจินเยี่ยนไม่พูดขณะกวาดตามองเทพที่อยู่เบื้องล่าง

เทพแห่งความเย็นยะเยือกรู้ความหมายดี

“พวกเจ้าทั้งหมดออกไปก่อน” เขาสั่ง

ถึงแม้เหล่าเทพอยากอยู่ฟังสิ่งเหล่านั้นในอนาคต แต่ราชาเทพพูดมาเช่นนั้น พวกเขามีแต่ต้องออกจากตำหนักไป

ไม่ช้า เทพแห่งความเย็นยะเยือก เทพจินเยี่ยนและมนุษย์แสงล้วนเป็นกลุ่มเดียวที่อยู่ภายในตำหนัก

เทพจินเยี่ยนก้าวขึ้นไปจนมาถึงบัลลังก์

เขาลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า “กู่ฉิงซานได้รับดาบสองเล่มมาจากยุคโบราณ เล่มแรกดาบศักดิ์สิทธิ์  อีกเล่มดาบพิภพ ดาบสองเล่มนี้เป็นดาบคู่ที่มีพลังไร้ขีดจำกัด”

เทพแห่งความเย็นยะเยือกส่ายหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ข้าไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะถึงกับสามารถสร้างอาวุธที่สามารถฆ่าเผ่าพันธุ์พวกเราได้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทพจินเยี่ยนเองก็เผยสีหน้าสับสนเล็กน้อยออกมาเช่นกัน

เขาอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ “ความจริง ในอนาคต พวกเราต้องไตร่ตรองอีกหลายสิ่ง แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ภายใต้การควบคุมและการจับตาดูของพวกเรามาตลอด ไม่เคยแยกห่าง ฉะนั้นพวกเราจึงไม่เข้าใจว่าพวกเขาเริ่มสร้างดาบสองเล่มนั้นตั้งแต่ตอนไหน”

เทพแห่งความเย็นยะเยือกครุ่นคิด “ใช่แล้ว สำนักระดับสูงของเผ่าพันธุ์มนุษย์จำนวนมาก แม้กระทั่งระดับผู้นำเองก็ล้วนเป็นข้ารับใช้ผู้จงรักภักดี”

เทพจินเยี่ยนกล่าวว่า “ดังนั้นข้าจึงเดินทางจากอนาคตเพื่อกลับมาสู่ปัจจุบันเพื่อตามหากู่ฉิงซานแล้วฆ่าเขา จากนั้นก็สืบความลับสุดท้ายของเผ่าพันธุ์มนุษย์”

เทพแห่งความเย็นยะเยือกถามว่า “ดาบสองเล่มนั้นพวกเราจะยึดมาใช้ได้งั้นหรือ”

“ข้าไม่รู้ ทุกสิ่งเกี่ยวกับดาบสองเล่มนั้นเป็นความลี้ลับ” เทพจินเยี่ยนกล่าว

ทั้งสองเงียบไปสักพัก

“เดี๋ยวนะ ในเมื่อเจ้ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้า หมายความว่ากู่ฉิงซานคนนั้นมีชีวิตในยุคที่ข้าอยู่อย่างนั้นหรือ” เทพแห่งความเย็นยะเยือกถาม

“ถูกต้องแล้ว” เทพจินเยี่ยนกล่าว

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาซ่อนตัวที่ใด”

“ยังไม่แน่ชัด อาจจะเป็นสำนักมนุษย์สักแห่งหรือไม่ก็อาจจะไปโลกมารแล้ว”

“แบบนี้ก็เป็นปัญหาน่ะสิ ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็บอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ จากนั้นข้าจะส่งคนไปช่วยเจ้าตามหาคนคนนั้น” เทพแห่งความเย็นยะเยือกกล่าว

เทพจินเยี่ยนมองอีกฝ่ายก่อนกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “ดีมาก ถือว่ายุติธรรมสุดๆ ”

เขาเริ่มบอกทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ให้ราชาเทพองค์ใหม่ทราบ

ในเหตุการณ์สำคัญเหล่านั้น ยังมีปัญหาในการอธิบายให้ราชาเทพทราบ ดังนั้นจึงต้องโน้มน้าวให้ราชาเทพสนใจปัญหาเหล่านั้นเพิ่มด้วย

ท้ายที่สุด ทุกอย่างก็จบสิ้น

“ขอบคุณ” เทพแห่งความเย็นยะเยือกกล่าว “ข้าต้องคิดทบทวนทุกสิ่งที่เจ้าเล่ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตให้จงได้”

“หลายอย่างเป็นเรื่องรอง มีเพียงผู้ปกครองโลกบรรพกาลที่ท่านต้องระวัง นอกนั้นก็ไม่มีใครทำอะไรท่านได้” เทพจินเยี่ยนเตือน

“อย่าห่วงไปเลย ข้าจะให้ความสนใจเขาเป็นพิเศษ” ราชาเทพองค์ใหม่กล่าว

ตอนนี้เอง เทพองค์หนึ่งปรากฏตัวขึ้นในวิหาร

“มีอะไร” เทพแห่งความเย็นยะเยือกถาม

“สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการต่อสู้อย่างดุเดือด เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้รายงานสถานการณ์น่าสงสัยมาสองอย่างขอรับ” เทพองค์นั้นกล่าว

เขามองเทพจินเยี่ยนและมนุษย์แสงก่อนหุบปากลง

เทพจินเยี่ยนและมนุษย์แสงมองเทพแห่งความเย็นยะเยือกกลับ

“ไม่มีอะไร ว่าต่อเลย” เทพแห่งความเย็นยะเยือกพยักหน้า

เทพองค์นั้นกล่าวว่า “อย่างแรก มีนักพรตคนหนึ่งที่สามารถใช้พลังวิญญาณอสนีบาตเพื่อฆ่าสัตว์ประหลาดบรรพกาลได้ ที่แนวหน้า มีหลายคนที่ได้เห็นสิ่งนั้นกับตา”

“อย่างที่สอง สำนักส่วนใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์รายงานว่านักพรตระดับสูงจำนวนมากของเผ่าพันธุ์มนุษย์หายไปที่จุดเชื่อมต่อของสองโลก”

เกิดความเงียบขึ้นในตำหนัก

เทพจินเยี่ยนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “อย่างที่สองพวกข้าล้วนรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาส่วนใหญ่ถูกผู้ปกครองโลกบรรพกาลกินนั่นแหละ มีส่วนน้อยเท่านั้นที่โชคดีจนหนีรอดกลับมาได้”

“เจ้าสามารถตอบพวกเขาตามตรงได้เลย ตอบไปว่าคนพวกนั้นหลงทางอยู่ในโลกบรรพกาล” เทพแห่งความเย็นยะเยือกกล่าว

“ขอรับ” เทพองค์นั้นรับคำสั่ง

เทพแห่งความเย็นยะเยือกกล่าวต่อว่า “เรื่องนั้นเป็นอันจบสิ้น ส่วนเรื่องแรกมันน่าสงสัยตรงที่นักพรตมนุษย์สามารถใช้พลังของวิญญาณอสนีบาตได้นี่แหละ”

“ใช่ เรื่องนี้ต้องได้รับการตรวจสอบ ราชาเทพ โปรดส่งกำลังคนมาให้ข้าด้วย” เทพจินเยี่ยนกล่าว

เทพแห่งความเย็นยะเยือกตะโกนไปยังนอกวิหาร “ถ่ายทอดคำสั่ง สิบสองอารักขาเทพที่อยู่ด้านหน้าตำหนัก จงติดตามเทพจินเยี่ยนเพื่อร่วมทำการค้นหาด้วยกัน”

“ขอบพระทัยเป็นอย่างยิ่ง” เทพจินเยี่ยนกล่าวอย่างพึงพอใจ

“ด้วยความยินดี ข้าต้องขอบคุณเจ้าเรื่องข้อมูลเช่นกัน” เทพแห่งความเย็นยะเยือกกล่าว

เทพจินเยี่ยนและมนุษย์แสงทำข้อตกลงกับอีกฝ่าย จากนั้นจึงหันหลังแล้วออกจากวิหารไป

พวกเขาออกไปค้นหาร่องรอยของนักพรตวิญญาณอสนีบาต

ในตำหนัก

เหลือเพียงราชาเทพองค์ใหม่เท่านั้น เทพแห่งความเย็นยะเยือกยังคงนั่งอยู่บนบัลลังก์

เขาจมสู่ห้วงความคิด

ตามที่เทพจินเยี่ยนว่า ห้าเดือนต่อมาจะเกิดการกบฏและการแย่งชิง

ในเรื่องของเวลา นี่เป็นหายนะที่ใกล้เข้ามาที่สุด

แต่เรื่องนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว

ตอนนี้เทพทุกองค์รู้ว่าหลังจากผ่านไปห้าปี ราชาเทพจะถูกสังหารโดยผู้ปกครองโลกบรรพกาลอีกครั้ง

ถ้าเช่นนี้ เกรงว่าจะไม่เกิดการกบฏและการแย่งชิง

เขาจึงสามารถปล่อยวางเรื่องนี้ออกจากจิตใจได้

อย่างที่เทพจินเยี่ยนกล่าว เขาต้องตรวจสอบว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เชี่ยวชาญวิธีการหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพได้อย่างไร

ไม่ว่าอาวุธจะทรงพลังแค่ไหน พวกมันก็ล้วนต้องถูกหลอมขึ้นมาก่อน

ดาบศักดิ์สิทธิ์ก็เช่นเดียวกัน

หากได้รับวิธีการหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์ก็ย่อมสามารถเริ่มทำการหลอมดาบศักดิ์สิทธิ์ได้!

นอกจากนั้น ประวัติกับต้นกำเนิดของเทพยังเป็นเรื่องลี้ลับเช่นกัน

ต้องทำการตรวจสอบปัญญาของเหล่าเทพทั้งหมด!

เมื่อคิดได้ดังนี้ กู่ฉิงซานยืนขึ้นแล้วเดินกลับเข้าตำหนัก

เบื้องหน้าประตูเหล็กขนาดใหญ่ เขาถูกหยุดไว้โดยสิบสองอารักขาเทพ

“นายท่าน ท่านยังไม่สามารถเข้าที่นี่ได้”

สิบสองอารักขาเทพคุกเข่าลงกับพื้นดินขณะกล่าวด้วยความเคารพ

กู่ฉิงซานหรี่ตา น้ำเสียงเย็นชาดูอันตราย “โห นี่พวกเจ้ากล้ามาหยุดข้างั้นหรือ”

“ไม่ใช่แบบนั้น นายท่าน โปรดอดทนรอเสียหน่อย เมื่อได้รับการสวมมงกุฎ ท่านจะสามารถเข้าที่นี่ได้หลังจากได้รับคทาราชาเทพมาแล้วเท่านั้น” หัวหน้าอารักขาเทพรีบอธิบาย

ประตูบานนี้ถูกคุ้มกันโดยอารักขาเทพที่จงรักภักดีที่สุด มีเพียงราชาเทพจากกาลก่อนเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าไป

เบื้องหลังประตูมีบันทึกประวัติศาสตร์ตัวตนของเผ่าพันธุ์เทพ ความลับมากมายและแม้กระทั่งกฎอันสอดคล้องที่เทพโบราณเลียนแบบมาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคนั้น

กู่ฉิงซานเงียบไปสักพัก

จิตสังหารแผ่ออกจากตัวเขา ถึงตรงนี้อารักขาเทพอดที่จะสั่นสะท้านไม่ได้ แต่ฉับพลันนั้นเองเขากลับหัวเราะออกมาแล้วกล่าวว่า “วางใจได้ ข้ายังมีความอดทนเหลืออยู่”

เขาหันหลังแล้วจากไป

สิบสองอารักขาเทพผงะ รู้สึกแค่ว่าไม่อาจตัดสินความคิดและความรู้สึกของราชาเทพได้เลย จึงช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะเริ่มกังวลอีกครั้ง

กู่ฉิงซานเดินกลับไปที่โถงด้านหน้าก่อนนั่งลงบนเก้าอี้ของราชาเทพ

ฉับพลันนั้นเอง ความคิดหนึ่งทะลวงเข้าสู่จิตใจ เขาไม่สามารถกำจัดมันออกไปได้

ตามที่เทพจินเยี่ยนว่า เผ่าพันธุ์มนุษย์จงรักภักดีและอยู่ภายใต้การดูแลของเผ่าพันธุ์เทพมาโดยตลอด

ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะได้รับดาบสองเล่มนั้น

นั่นเพราะอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังเสมอมา…

กู่ฉิงซานยืนขึ้นทันที

เขาพลันจำข่าวที่เพิ่งได้รับขึ้นมาได้

ยอดนักพรตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ตกลงไปในโลกบรรพกาล

จ้าวตำหนักสวรรค์เมฆาวิเวก เซี่ยกูหง!

เซี่ยกูหงหายไปในช่วงเวลานี้

ยอดนักพรตแห่งตำหนักสวรรค์เมฆาวิเวกคิดว่าเซี่ยกูหงหลงเข้าไปในโลกบรรพกาล ดังนั้นพวกเขาถึงกล้าโจมตีศิษย์ทั้งสามผู้อยู่จุดสูงสุด!

ผู้หนุนหลังยอดนักพรตเหล่านี้คือเทพ

จากตรงนี้ ทำให้สรุปได้ว่าช่วงเวลานี้ แม้แต่เทพก็ไม่รู้ว่าเซี่ยกูหงเป็นหรือตาย

ในช่วงเวลานี้ เซี่ยกูหงล่องหน ไม่มีใครหาตัวเขาพบ

ตามข้อมูลที่ได้รับมาในภายหลัง เขาเข้าสู่ส่วนลึกของโลกบรรพกาล เด็ดหัวมารนักปราชญ์ ทำให้ขวัญกำลังใจของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดเพิ่มขึ้นมา

ใช่แล้ว นั่นแหละเขา

กู่ฉิงซานลอบพยักหน้า

ครั้งนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ในช่วงเวลาที่จะหลบหนีจากการเผ้าระวังของพวกเทพ

เซี่ยกูหงมุ่งหน้าสู่โลกบรรพกาล!

ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับเขาแน่ๆ

……………………………..