บริษัทอสังหาริมทรัพย์หม่าซื่อได้ล้มละลาย
สำหรับเรื่องนี้ ได้แพร่กระจายส่งต่อจนถึงหมู่บ้านตระกูลเย่
ในตอนแรก ผู้คนยังไม่เชื่อ
เพราะในเมื่อหม่าเถิงนั้นเป็นถึงตัวพ่อของเมือง ทำอาชญากรรมมาหลายปี และไม่มีใครกล้าจะยุ่ง
ได้แต่รอให้กรมตำรวจนั้นมีการประกาศออกมา
หยางเฟิงมาถึง การกลับมาอย่างปลอดภัย และลงจากรถ
ทุกคนจึงค่อยๆที่จะเชื่อ
หยางเฟิงพูดกับเย่หลง “ปู่น้อย ท่านอย่าเกรงใจเลย เรื่องพวกนี้คือสิ่งที่ผมควรทำ”
เมื่อพูดจบ เขาก็มองไปที่ชาวบ้าน “ทุกคนฟังผมนะ ตอนนี้หม่าเถิงได้ถูกจับตัวแล้ว และก็จะไม่มีใครกล้ามาทำลายบ้านของพวกคุณอีก”
“มันช่างดีจริงๆ!”
“ในที่สุดพวกเราก็สามารถกลับไปอยู่ในบ้านยุคสมัยของหมู่บ้านตระกูลเย่แล้ว!”
“ขอบคุณพวกท่านจริงๆ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ชาวบ้านแต่ละคนก็ดีใจจนน้ำตาเอ่อล้นออกมา
ในช่วงเวลานี้
ในช่วงนี้พวกเขากำลังได้รับปัญญาอย่างหนักเกี่ยวกับการรื้อหมู่บ้าน
หยางเฟิงได้จัดการกับปัญหานี้ให้แล้ว ก็เท่ากับว่าได้ช่วยชีวิตผู้คนในหมู่บ้าน!
หลังจากนี้ทุกคนก็จะสามารถอยู่กันอย่างสงบสุข
จะไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ว่าตอนกลางคืนจะมีคนขับรถไถมาไถบ้านทิ้งอีกต่อไป
หยางเฟิงพูดต่อ “อีกอย่าง บริษัทอสังหาริมทรัพย์หม่าซื่อได้ล้มละลายไปแล้ว ที่เหลืออีกกี่ร้อยล้าน ผมจะเอาส่วนที่เหลือเอามาบริจาคให้กับหมู่บ้านตระกูลเย่ เพื่อรอปรับปรุงพัฒนาหมู่บ้าน แล้วก็จะมีกองทุนช่วยเหลือ สำหรับให้เด็กหมู่บ้านตระกูลเย่ได้เรียนหนังสือโดยฟรีค่าเล่าเรียนอีกด้วย”
ไม่อยากจะเชื่อเลย ผู้คนทั้งหมู่บ้านต่างตกตะลึง
หลังจากนั้น ชาวบ้านถึงค่อยๆรู้สึกตัวอีกที
“โอ้พระเจ้า! ท่านคือพระเจ้าของพวกเรา!”
“คนดี พวกท่านช่างเป็นคนดีจริงๆ!”
“พวกเราหมู่บ้านตระกูลเย่ขอบคุณพวกท่านมากๆ!”
……
โว้ โว้!
พวกชาวบ้านนั้นต่างก็ดีใจจนน้ำตาเอ่อล้น ก่อนจะทยอยคุกเข่ากันลง
“พวกเจ้ายืนขึ้นเถอะ!”
“พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทำอย่างงี้หรอก เพราะข้าก็คือคนของหมู่บ้านตระกูลเย่เหมือนกัน!”
เย่ไห่และเย่เมิ่งเหยียนทั้งสองคน ต่างก็รีบเข้าไปช่วยพยุงให้ชาวบ้านลุกขึ้น
ไม่ว่าจะทำอย่างไรพวกเขาก็ไม่ยอมขยับ!
ไม่ยอมลุกขึ้น!
ในสายตาของชาวบ้านตระกูลเย่ หยางเฟิงก็เปรียบเสมือนพระเจ้า!
ต้องรู้ว่า
ที่หมู่บ้านตระกูลเย่นั้นห่างไกลความเจริญ มีเด็กหลายคนที่เรียนจบแค่มอต้นก็ไม่ได้เรียนต่อ เพราะไม่มีเงินจึงทำได้แค่หยุดเรียนกลางคัน
หยางเฟิงก่อตั้งกองทุนครั้งนี้ ก็เพื่อให้เด็กๆสามารถเรียนฟรี แล้วก็ให้โอกาสแก่หมู่บ้านตระกูลเย่!
แค่หนึ่งคนยื่นมือเข้ามา ก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของอีกคนหนึ่งได้แล้ว!
อีกทั้ง
ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการศึกษาแล้ว!
ความสำเร็จ ชื่อเสียง สิ่งดีๆนั้น เริ่มต้นมาจากการศึกษาพากเพียรทั้งนั้น!
เย่หลงจับมือหยางเฟิง ก่อนจะพูดด้วยความตื่นเต้น “ไปกัน! พวกเราได้จัดงานเลี้ยงไว้ที่หอบรรพบุรุษแล้ว ตอนนี้แค่รอให้พวกท่านมาร่วมทานข้าวด้วยกัน!”
หลังจากนั้น หยางเฟิงและคนอื่นๆก็ได้เดินทางไปยังหอบรรพบุรุษเพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ
ในระหว่างการทานข้าว ชาวบ้านมีความตื่นเต้นกระตือรือร้นอย่างมาก ช่วยกันจัดเตรียมงาน เพื่อรอต้อนรับหยางเฟิงเป็นอย่างดี
แต่ว่าอย่างนั้น ทุกคนต่างก็เข้ามาขอชนแก้วกับหยางเฟิง
แม้แต่เย่เมิ่งเหยียนที่ไม่ดื่มเหล้า ก็อดไม่ได้ที่จะดื่มสักแก้ว
ในขณะเดียวกัน เย่ไห่ก็ได้ประกาศออกมาว่า
บริษัท เฟิง เมิ่ง กรุ๊ปจะจัดสร้างโรงเรียนประถมศึกษาสังคมสงเคราะห์ เพื่อที่จะให้เด็กๆในหมู่บ้านตระกูลเย่ได้เรียนหนังสือ
เมื่อก่อน ที่หมู่บ้านตระกูลเย่นั้นไม่มีโรงเรียน เลยทำให้เด็กๆในหมู่บ้านไม่สะดวกในการเรียน เพราะต้องเดินทางไปนอกเมืองถึงสามสิบกิโลในการไปโรงเรียน
ตอนนี้พอมีโรงเรียน หลังจากนี้เด็กๆในหมู่บ้านก็จะได้สะดวกในการเรียนมากขึ้น
เมื่อได้ยินข่าวดังนั้น ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็ดีใจเป็นอย่างมาก และ กล่าวขอบคุณต่อคุณเย่ไห่ไปด้วย
เมื่อถึงช่วงเวลากลางคืน เย่ไห่ได้ดื่มเหล้าจนเมาหนัก
เย่เมิ่งเหยียนก็เมาจนกระทั่งเผลอหลับฟุบไปกับโต๊ะ
เมื่อมองเห็นเย่เมิ่งเหยียนสภาพนี้ หยางเฟิงก็หัวเราะก่อนจะเอาเสื้อคลุมไปคลุมบนไหล่ให้เย่เมิ่งเหยียน
ในสายตานั้น ที่เต็มไปด้วยความรักและทะนุถนอม!
เย่หลงมองหน้าแล้วพยัก พร้อมสายตาเปล่งประกาย ก่อนจะถือแก้วเหล้ามา และเอ่ยว่า “หยางเฟิง ข้าขอชนแก้วกับท่านหน่อย!”