บทที่ 49 เขาอยากหาเรื่อง ก็ให้เขามา

รักหวานอมเปรี้ยว

“เขาเล่นบาสเป็นงานอดิเรก ถึงจะเล่นเป็นจริงเป็นจังไม่ได้ ก็ยังสามารถกลับไปผลาญเงินของตระกูลได้ ส่วนนายเล่นบาสเพื่อความเป็นอยู่ เพื่อหาเงิน อีกอย่างนี่ก็เป็นแค่การทดสอบ จะเข้าทีมชาติได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้” มายมิ้นท์มองเด็กผู้ชายคนนั้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเวทนา “น่าสงสารจริงๆ”

“เธอ!” แม่ของเด็กชายโกรธจนหน้าดำหน้าแดง

เมื่อปีโป้เห็นมายมิ้นท์ค่อนแขวะคนอื่นจนอีกฝ่ายหายใจหอบหน้าดำคร่ำเครียดด้วยใบหน้านิ่งๆ ในใจของเขาก็ยิ่งรู้สึกสะใจ

เมื่อเห็นเธอเดินมาหาตัวเอง เขาก็ตัวสั่น จากนั้นก็เดินเข้าไปจับชายเสื้อของเธอเอาไว้ เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “ผมอยากเล่นบาสจริงๆนะ พี่อย่าให้พี่ทามทอยพาผมกลับไปเลย ให้ผมเข้าร่วมฝึกกับเขาเถอะนะ”

“ฉันพูดตอนไหนว่าจะให้ทามทอยพานายกลับไป?” มายมิ้นท์หันมามองเขา “หรือว่า นายอยากกลับไปกับเขา?”

ปีโป้นิ่งงัน “แล้ว แล้วทำไมพี่ทามทอย….”

“เขามาส่งฉัน”

“อย่างนี้นี่เอง” ปีโป้ลูบอกอย่างโล่งใจ “ผมก็นึกว่าเขามาจับตัวผมกลับไปเสียอีก ตกใจหมดเลย”

มายมิ้นท์ไม่สนใจเขา แต่เดินตรงเข้าไปจับมือกับครูฝึก “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นพี่สาวของปีโป้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีที่บริษัทมีเรื่องนิดหน่อย เลยเพิ่งมาเอาซะตอนนี้”

“ไม่เป็นไรครับ มาก็ดีแล้ว”

จับมือทักทายกันเสร็จ ครูฝึกก็ส่งสัญญาไปให้มายมิ้นท์ “ปีโป้เป็นต้นกล้าที่ดี ถ้าเขาได้ฝึกจะต้องผ่านแน่ๆ! คุณวางใจฝากเขาไว้กับผมได้เลย ผมจะดูแลเขาให้ดี”

มายมิ้นท์ยิ้มออกมา “คุณพูดมาอย่างนี้ ฉันต้องสบายใจอยู่แล้วค่ะ”

เธอเปิดสัญญาเตรียมเซ็นชื่อ ผู้ปกครองที่อยู่ด้านหลังก็ส่งเสียงขึ้นมาทีละคน “เมื่อกี้ตอนที่พวกเขาเล่นบาสกัน ฉันดูแล้ว ปีโป้ไม่เห็นจะเล่นเก่งตรงไหน เก่งไม่เท่าลูกชายของฉันด้วย แล้วทำไมได้เข้าทีมฝึก?”

“ใช่ ฉันก็ว่าเขาไม่เห็นจะเก่งตรงไหนเลย!”

ครูฝึกอธิบายกับผู้ปกครองเหล่านั้นอย่างใจเย็นว่า “ผมเป็นครูฝึก ผมรู้ดีกว่าพวกคุณแล้วกันว่านักเรียนคนไหนเล่นเป็นยังไง และปีโป้ก็เล่นได้ดีจริงๆ……”

“ครูฝึก พี่ชายของเขาเคยมาหาคุณไม่ใช่เหรอ?” มีผู้ปกครองคนหนึ่งลองหยั่งเชิงถาม ด้วยความหมายที่สื่อบางอย่างชัดเจน

“……”

“หุบปากไปเลยนะ!” ปีโป้หลุดคำหยาบออกมา โกรธจนฟันกระทบกัน “ผมเล่นบาสเก่ง มันเกี่ยวอะไรกับพี่ชายผม? คุณอย่ามากล่าวหาคนอื่นนะ!”

“ปีโป้ พวกฉันเองก็คิดว่านายเล่นได้งั้นๆนะ!” เด็กผู้ชายที่เซ็นสัญญาไปแล้วหลายคนเอ่ยพูดเป็นเสียงเดียวกัน

“เฮ้อ นี่พวกนาย….” ครูฝึกกลัวว่าถ้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ คงเกิดสงครามขนาดหย่อมขึ้นแน่ๆ

เมื่อเห็นท่าทางจนปัญญาและลำบากใจของครูฝึก ดวงตาของมายมิ้นท์ก็หรี่ลง เธอวางปากกาลง แล้วหันไปทางปีโป้ “ปีโป้ ในเมื่อเพื่อนของนายต่างก็คิดว่านายไม่ได้เล่นดีขนาดนั้น งั้นพวกนายก็ลองแข่งกันดูสักตาสิ”

เธอหันไปถามเด็กผู้ชายพวกนั้น “กติกาคือชนะสองในสามเกม เป็นไง?”

“ก็เอาสิ!” พวกเขาต่างถูกคัดเลือกโดยครูฝึกทีมชาติ ความสามารถไม่ได้แย่ แน่นอนว่าไม่กลัวถ้าต้องแข่งกับปีโป้

“โอเค” มายมิ้นท์มองไปทางครูฝึกเชิงขอโทษ “ครูฝึก คงต้องรบกวนเวลาคุณอีกสักครู่แล้วล่ะ”

เมื่อครูฝึกเห็นมายมิ้นท์มาไกล่เกลี่ยสถานการณ์ ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็อยากสังเกตดูอีกรอบ ว่าใครถนัดตำแหน่งไหน”

ครูฝึกแบ่งทีมออกเป็นสองทีม พร้อมกับตำแหน่งของใครของมัน

มายมิ้นท์หยิบผ้าขนหนูมาให้ปีโป้เช็ดมือ “เล่นดีๆล่ะ ถ้านายชนะฉันจะช่วยเซ็นสัญญาให้ แต่ถ้าแพ้ เราก็จะขายหน้า พอกลับบ้านนายอาจจะถูกฝ่ามือตบเข้าให้”

“ผมไม่มีทางทำให้พี่ชายผมขายหน้าแน่” ปีโป้มีแววตาแน่วแน่ เต็มเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น “ผมจะชนะให้ได้!”

เป็นแค่การแข่งขันระหว่างเพื่อนร่วมชั้น แต่มายมิ้นท์กลับเห็นความร้อนแรงในแววตาของเด็กหนุ่มทั้งหลาย

เปปเปอร์ที่เธอรู้จักสามารถควบคุมอารมณ์ได้ตลอด สามารถจัดการเรื่องราวใดๆได้อย่างเป็นระเบียบ แต่วัยรุ่นตรงหน้ากลับเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนแรง

วัยรุ่นพวกนี้ราวกับเป็นขั้วตรงข้ามของเปปเปอร์

มายมิ้นท์กดข่มอารมณ์ข้างในใจเอาไว้ เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “ไปเถอะ หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันมาเสียเที่ยวนะ”

ปีโป้พยักหน้า เดินลงสนามไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ทามทอยเดินตามมายมิ้นท์เข้ามา ก็ยืนฟังเงียบๆอยู่ข้างๆตลอด คิดไม่ถึงเลยว่ามายมิ้นท์จะกล้าขนาดนี้

กล้าปิดบังเปปเปอร์ มาเซ็นสัญญาให้ปีโป้เข้าฝึกกับทีมชาติในฐานะผู้ปกครอง

เขายังแอบอัดวิดีโอช่วงที่มายมิ้นท์กับปีโป้ กำลังพูดคุยกันเอาไว้ด้วย

ในตอนนี้เองการแข่งขันก็เริ่มขึ้น หลังจากที่ปีโป้เดินลงไปในสนาม มายมิ้นท์ก็กระโดดพร้อมกับตะโกนเชียร์ปีโป้เสียงดังอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์ ทามทอยอดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “ในอนาคตปีโป้ต้องเข้าไปช่วยเหลือบริษัทตระกูลนวบดินทร์ คุณช่วยเขาเซ็นสัญญาเข้าทีมบาสแบบนี้ ไม่กลัวพี่เปอร์เอาเรื่องคุณเหรอ?”

“เขาอยากหาเรื่อง ก็ให้เขามาสิ” สายตาของมายมิ้นท์มองตามปีโป้ที่อยู่ในสนาม พ่นลมหายใจออกมาพร้อมพูดว่า “ไหนๆในสายตาของเขาก็มองว่าฉันไม่ได้ดีอยู่แล้ว อีกอย่างเขาจะได้พิจารณาตัวเองด้วย”

“หืม?” ทามทอยเลิกคิ้ว “พิจารณาอะไร?”

มายมิ้นท์นิ่งเงียบ ด้านปีโป้ก็ชู๊ตลงห่วงพอดี เธอจึงพูดขึ้นมาว่า “พิจารณาว่าตัวเองเป็นพี่ชายยังไง หัดดูบ้างว่าปีโป้ต้องการชีวิตแบบไหน ไม่ใช่รอให้เกิดเรื่องก่อนแล้วค่อยมาเสียใจทีหลัง”

“ประธานมายมิ้นท์คุณพูดถูก ผมเห็นด้วย” ทามทอยกล่าวสนับสนุน

หลังจากที่เขาอัดวิดีโอเสร็จ จึงกดเปิดวีแชท และส่งวิดีโอที่ถ่ายไว้ไปให้เปปเปอร์

ด้านเปปเปอร์กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน เมื่อได้รับข้อความเขาก็เปิดดู แววตาทอแววลุ่มลึกเล็กน้อย