บทที่ 142 ความเด็ดเดี่ยวของลูเซียน

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

ห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างสวยงามนั้นอยู่ตรงหัวมุมห้องอาหาร ลูเซียนล็อคประตูไม้จากด้านใน ตรวจดูรอบๆ อย่างระมัดระวัง จากนั้นหยิบลูกแก้วแสงอรุณและมีดสั้นกริมสตีลออกมา

ลูเซียนใช้มีดปาดนิ้ว ปล่อยเลือดให้หยดกระจายในอ่างล้างหน้า

เขาใช้นิ้วชี้ขวาแตะเลือด แล้วเขียนในอากาศ เป็นสัญลักษณ์สีแดงซึ่งเป็นโครงสร้างเวทมนตร์รูปแบบง่ายๆ ลอยอยู่ตรงหน้าเขา โครงสร้างเวทมนตร์นี้จะช่วยบังคลื่นเวทมนตร์ที่เกิดจากลูกแก้ว

ลูกแก้วที่มีชื่อเรียกว่า แสงอรุณ ลอยขึ้นช้าๆ แล้วสัญลักษณ์แปลกๆ นั้นก็ห่อหุ้มมัน ลูเซียนยื่นมือไปใกล้ลูกแก้วแล้วร่ายมนตร์ ตรงกลางของลูกแก้วมืดขึ้น แล้วมีดวงดาวปรากฏเต็มไปหมด ราวกับว่าข้างในนั้นคือท้องฟ้าที่มีดาวพร่างพราย

หลังจากที่เจอลูกแก้ว ด้วยความรู้ด้านโหราศาสตร์ที่มีจากกการเป็นนักเวทฝึกหัดและความรู้เดิมเรื่องฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ลูเซียนก็ได้เรียนรู้เวททำนายโชคชะตาระดับพื้นฐาน นั่นทำให้ลูเซียนอยากรู้เกี่ยวกับชะตาในครั้งนี้

ลูเซียนจ้องมองดาวตกในลูกแก้วแล้วขมวดคิ้ว “ดาวแห่งโชคชะตาประจำตัวเรา… ริบหรี่ลง แปลว่าเรากำลังเจอเรื่องอันตรายสินะ แล้ว… แล้วภัยใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามา มันกำลังคุกคามดาวประจำตัวเรา”

เวททำนายชะตา เป็นหนึ่งในบรรดาเวทพิเศษของโหราศาสตร์

สิ่งที่ลูเซียนรู้จากลูกแก้วและเวททำนายโชคชะตาของเขามีเพียงเท่านั้น ถ้าต้องการข้อมูลชี้ชัดขึ้น ลูเซียนต้องมีความรู้ในระดับที่สูงกว่านี้ รวมถึงพลังที่จะใช้ร่ายเวทด้วย

แม้แต่เวททำนายโชคชะตาระดับที่สูงขึ้น ผลลัพธ์ก็ไม่ได้แน่นอนเสมอไปและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ

ลูเซียนเก็บลูกแก้ว แล้วหยิบสร้อยข้อมือเชือกอัคคีกับแหวนน้ำแข็งแห่งความแค้นมาสวม ซึ่งลูเซียนถอดเก็บไว้ก่อนมาเจอบารอน เผื่อบารอนจะดูออกว่าเขาเป็นใคร

ความรู้สึกถึงลางร้ายเข้มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแผดเผาท้องไส้ของลูเซียน

ถึงแม้ไม่แน่ใจว่าอันตรายนั้นจะมาจากบารอนจริงๆ เขาก็ตัดสินใจจะลงมือก่อนและต้องเด็ดเดี่ยว เขาไม่อาจเป็นฝ่ายรอ เพราะถ้าถึงตอนนั้น การลงมือใดๆ ก็นับว่าสายเกินไป

ลูเซียนเปิดประตูไม้แล้วเดินออกจากห้องน้ำเหมือนกับว่าทุกอย่างปกติ

เมื่อกลับมาที่โต๊ะอาหาร ทั้งฮาบีโรและเคลีนไม่อยู่แล้ว

“ท่านบารอนกับเคลีนไปไหนหรือ?” ลูเซียนพยายามถามด้วยน้ำเสียงปกติ

“ท่านบารอนรู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะ เคลีนเลยพาท่านไปกินยาที่ห้องนอน เดี๋ยวก็กลับมา” เบ็ตตี้ตอบ

“ข้าจะไปดูท่านบารอนหน่อย ให้แน่ใจว่าท่านไม่เป็นอะไร” ลูเซียนพยักหน้าและบอกนิ่งๆ

“แต่อีวานส์… เดี๋ยวท่านบารอนก็กลับมา” เบ็ตตี้และคนอื่นๆ แปลกใจเล็กน้อย

ลูเซียนไม่พูดอะไรต่อ เขาหันหลังแล้วเดินไปที่ประตูห้องรับประทานอาหาร

“อีวานส์… ท่านบารอนอยากให้เรารอที่นี่” โจแอนนาพูดตามหลังเขา

“ท่านควรรอที่นี่ อย่างที่คุณผู้หญิงคนนั้นบอก” ทหารยามข้างประตูสองคนไขว้หอกขวางหน้าลูเซียนแล้วพูดอย่างสุภาพทว่าเยือกเย็น

ลูเซียนพยักหน้าเบาๆ แล้วยิ้ม

แต่ชั่ววินาทีต่อมา ลูเซียนก็ผลักทหารยามคนหนึ่ง เขาดึงมีดสั้นออกมาแล้วแทงแขนทหารยามคนนั้น

“อีวานส์!” เบ็ตตี้ร้อง “เจ้าทำอะไรน่ะ!?”

ทันทีมีดปักแขนทหารยามคนนั้น ของเหลวเน่าเหม็นก็พุ่งออกมาแทนที่จะเป็นเลือด ส่งกลิ่นเหม็นร้ายกาจไปทั่วห้อง

ลูเซียนเคลื่อนไหวเร็วมาก เขาดึงมีดออก ปาดคอทหารยามแล้วม้วนตัวไปข้างหน้าเพื่อหลบหอก

อีวานส์… อีวานส์ฆ่าทหารยามของบารอน

ทุกคนตกใจ

แต่แล้วพวกเขาก็เห็นว่าตัวของลูเซียนถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาว หลังจากลูเซียนสังหารทหารยามทั้งสองคน ร่างของพวกเขาก็เริ่มเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็วราวกับว่าตายมานานแล้ว

“นี่มัน…” ไซม่อนพึมพำโดยไม่รู้ตัว

ลูเซียนหยิบดาบระวังภัยกลับคืนมาแล้วตอบอย่างใจเย็นว่า “นี่คือหุ่นเชิดศพ”

จากนั้นก็หันไปหามาร์ส “มาร์ส ท่านรู้ไหมว่าห้องนอนของท่านบารอนอยู่ตรงไหน?”

มาร์สตัวสั่นเพราะภาพที่เห็น เขาพูดแทบไม่ออกจนกระทั่งโจแอนนาตบหลังเบาๆ

ทันที่ที่มาร์สบอกตำแหน่งห้องนอนของบารอน ลูเซียนก็รีบจัดแจงทันที “ไซม่อน เจ้าไปจัดการพวกทหารยามตั้งแต่ชั้นบนลงมา ดูแลไวส์กับมาร์สให้ดีล่ะ เบ็ตตี้กับโจแอนนา เจ้าไปเฝ้าบันไดอีกฝั่ง” หลังจากที่เห็นพวกเขาพยักหน้าแบบมึนๆ ลูเซียนก็วิ่งออกประตูแล้วหายไปในความมืด

“อีวานส์… เขามีพลังอัศวินหรอกหรือ?” เบ็ตตี้พูดเสียงดัง

“เบ็ตตี้ ไปหยิบคันธนูของเจ้าแล้วมานี่!” ไซม่อนสั่ง

….

ลูเซียนวิ่งสุดฝีเท้าไปตามทางเดินมืดมิด หลังจากฆ่าหุ่นเชิดศพไปหลายตัว เขาก็หยุดยืนห่างจากห้องนอนของบารอนไปสองสามก้าว

ลูเซียนจ้องประตู เขากระตุ้นเหรียญมงกุฎสุริยะแล้วปล่อยคลื่นเวทมนตร์ซึ่งเป็นอันตรายต่อพวกผีดิบ หุ่นเชิดศพสี่ตัวที่เฝ้าประตูห้องนอนถูกชำระล้างแล้วล้มลง

ในขณะเดียวกัน ลูเซียนก็ใช้แรงทั้งหมดกระแทกประตูให้เปิด มือกำดาบระวังภัยและมีดสั้นแน่น

วงเวทมนตร์ดำสองวงปรากฏหน้าประตูแต่ทันใดนั้นก็แตกเป็นชิ้นๆ ส่องประกาย

เมื่อประตูเปิดออก ลูเซียนก็หยุดอยู่กับที่เพื่อไม่ให้ไปเจอะอะไรเข้า และในขณะเดียวกันเขากระตุ้นโครงสร้างเวทมนตร์ขึ้นในดวงจิตแล้วเรียกกระสุนระเบิดเวท

ในห้องนอน บารอนฮาบีโร ผู้ซึ่งใบหน้ายับย่น นั่งอยู่ตรงกลางสามเหลี่ยมเวทมนตร์สีดำ รูปลักษณ์ที่ปรากฏบ่งบอกว่าสภาพของเขากำลังแย่ลงเรื่อยๆ และตายได้ทุกเมื่อ

ตรงแต่ละมุมของสามเหลี่ยม มีคนสามคนถูกมัดด้วยหนวดจางๆ สีดำ มีเด็กทารก เด็กอายุราวเจ็ดหรือแปดขวบ และวัยรุ่นอายุราวสิบสามหรือสิบสี่ปี

มีแสงสีขาวเปล่งออกมาจากร่างของพวกเขา ราวกับว่าหนวดกำลังสูบพลังชีวิต แสงนั้นถูกดูดเข้าไปในลูกตาสีขาวลูกหนึ่งซึ่งไม่มีรูม่านตา เคลีนยืนอยู่ข้างๆ บารอน กำลังร่ายคาถาแปลกประหลาด คาถานั้นทำให้มีน้ำตาเลือดสองสายไหลออกมาจากลูกตาลงไปในถ้วยสีเงินในมือฮาบีโร

ทว่าบารอนตกใจมากเมื่อกระสุนระเบิดเวทสองลูกพุ่งตรงใส่ถ้วยสีเงินของเขา

……………………………………….