บทที่ 621 พาฉันมาดูอะไรแบบนี้ / บทที่ 622 ดูที่ผลงานของคุณ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 621 พาฉันมาดูอะไรแบบนี้

หลังจากที่ลากเยี่ยมู่ฝานลงมาข้างล่างตลอดทาง เยี่ยหวันหวั่นออกแรงกดเขาลงไปที่นั่งข้างคนขับ จากนั้นล็อคประตูทั้งหมด

“เยี่ยหวันหวั่น แกอย่ามาเล่นตลกไร้สาระ! ปล่อยฉันลงไป!” เยี่ยมู่ฝานตะคอกด้วยความโมโห จากนั้นสังเกตเห็นว่ารถคันนี้ราคาแพงมาก “แกไปได้รถคันนี้มาจากไหน”

ด้วยเงินเดือนของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว จะมีปัญญาซื้อรถแพงขนาดนี้ได้ยังไง

เรื่องบ้านครั้งที่แล้วเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติแล้ว เพื่อนเธอที่ชื่อเยี่ยไป๋มาจากไหน ถึงให้เธอยืมเงินเยอะขนาดนี้เพื่อไถ่ถอนบ้านกลับมา

เสียงเยี่ยหวันหวั่นเยือกเย็นผิดปกติ “หุบปาก”

เยี่ยมู่ฝานกำลังจะถามต่อ กลับรู้สึกว่าบรรยากาศในรถหนาวเย็นขึ้นมาทันที เขาตัวสั่นโดยไม่รู้ตัวเลยเงียบไปโดยปริยาย…

รถขับมาจอดที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างเมือง C และเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว

เยี่ยหวันหวั่นคำนวณเวลา ด้วยความเร็วของรถเธอ พวกเขาน่าจะมาถึงก่อนเฉินเมิ่งฉี

เยี่ยหวันหวั่นหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความหาเกาเฟย ‘เฉินเมิ่งฉีกับเหอจวินเฉิงถึงห้องหรือยัง’

เกาเฟยตอบกลับอย่างรวดเร็ว ‘ยังไม่ถึงครับ พวกเขาอยู่ระหว่างทาง แต่ไม่นานก็จะถึงแล้ว’

เยี่ยหวันหวั่นตอบ ‘ได้ รู้แล้ว’

หลังตอบกลับเกาเฟย เยี่ยหวันหวั่นเก็บมือถือ เปิดประตูรถ ดึงมู่เยี่ยฝานเข้าไปในโรงแรมอย่างรวดเร็ว

“เยี่ยหวันหวั่น! แกบ้าไปแล้วเหรอ ทำลับๆ ล่อๆ ตกลงคิดจะทำอะไร”

ไม่ว่าเยี่ยมู่ฝานจะด่าด้วยความโมโหยังไง เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดอะไรเลยตลอดทาง ใช้สำเนาคีย์การ์ดของโรงแรมขึ้นลิฟท์ไป จากนั้นเข้าไปในห้องที่เฉินเมิ่งฉีและเหอจวินเฉินนัดกันอย่างง่ายดาย

“แกพาฉันมาที่นี่ทำอะไร”

เยี่ยหวันหวั่นกวาดตามองไปรอบๆ จนไปเจอระเบียงตรงข้ามห้องนอน รูดการ์ดแล้วผลักประตูกระจกบานใหญ่ถึงพื้นเปิดออก แล้วผลักเยี่ยมู่ฝานไปที่ระเบียง

ที่กระจกมีผ้าม่านโปร่งสีขาวแขวนอยู่ตรงช่องหน้าต่าง สามารถแอบดูสถานการณ์ในห้องนอนได้

“เยี่ยหวัน…”

เยี่ยมู่ฝานสุดจะทน กำลังจะตะคอก แต่ถูกเยี่ยหวันหวั่นปิดปากไว้ “เงียบ!”

เกาเฟยส่งข่าวได้แม่นยำมาก

ไม่นานก็มีเสียง ‘ตี๊ด’ ดังขึ้นมา ห้องถูกเปิดออก จากนั้นในห้องที่เงียบ

“อืม…”

ด้านนอกประตู จู่ๆ มีเสียงกรีดร้องเสียงแหลมของผู้หญิงดังขึ้นมา และเสียงชายหนุ่มหญิงสาวนั้นชัดเจนมากว่าเป็นเสียงที่กำลังทำอะไรกันอยู่

หลังรู้ว่าเสียงชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งด้านนอกทำอะไรกันอยู่นั้น แก้มของเยี่ยมู่ฝานก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ จ้องมองไปทางน้องสาวอย่างเหี้ยมโหด

ไม่ใช่ว่าเขาบริสุทธิ์แค่ไหน หน้าบางเท่าไร แต่ตอนนี้น้องสาวแท้ๆ เขาก็อยู่ตรงนี้ด้วย

เยี่ยหวันหวั่นปล่อยมือ เยี่ยมู่ฝานรีบพูดเสียงเบา “เยี่ยหวันหวั่น สมองแกมีปัญหาหรือไง! พาฉันมาแอบดูอะไรแบบนี้!”

ข้างหูเสียงยิ่งทียิ่งดังขึ้น ใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น “รีบทำไม”

“แก…” เยี่ยมู่ฝานกำลังจะพูด แต่สีหน้ากลับว่างเปล่าในทันใด

ทำไมเสียงผู้หญิงคนนี้ฟังแล้วรู้สึกคุ้นหู

“อา…จวินเฉิง…”

จวินเฉิง? เหอจวินเฉิง?

แล้วยังนี่…เสียงนี้ชัดเจนว่าเป็น…

เมิ่งฉี?

เหอจวินเฉิงกับ… เฉินเมิ่งฉี…

เป็น…เป็นไปได้ยังไง…

เขาต้องฟังผิดแน่ๆ…

“เมิ่งฉี คุณสวยเหลือเกิน…” เหอจวินเฉิงขย้ำไปบนร่างเฉินเมิ่งฉีอย่างหนักหน่วง จากนั้นอุ้มเธอเข้าเอวขึ้นมา

ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งสองคนเดินมาจากประตูมาถึงห้องนอน…

………………………………………………………………

บทที่ 622 ดูที่ผลงานของคุณ

เยี่ยมู่ฝานมองผ่านช่องผ้าม่าน จ้องเขม็งไปทางประตูห้องนอน วินาทีต่อมา ร่างของผู้ชายและผู้หญิงที่ซ้อนกันโผล่เข้ามาในสายตาโดนไม่ทันตั้งตัว

แล้วสองคนนั้น… คือเฉินเมิ่งฉีและเหอจวินเฉิงชัดเจน…

เยี่ยมู่ฝานเห็นเฉินเมิ่งฉีในความทรงจำที่แสนบริสุทธิ์อยู่ข้างใต้เหอจวินเฉิง สีหน้าว่างเปล่า ในสมองมีเสียงหึ่งๆ ดังระเบิดขึ้นมา ไม่สามารถตอบสนองได้ว่าตัวเองเห็นอะไร

ไม่… เป็นไปไม่ได้…

นี่เป็นไปได้ยังไง…

เยี่ยมู่ฝานไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็น

ข้างๆ เยี่ยหวันหวั่นสีหน้าไร้ความรู้สึก พูดด้วยสายตาเย็นชา “เยี่ยมู่ฝาน ดูให้ชัดๆ… นี่คือรักแท้ของพี่… นี่คือสาวสวยบริสุทธิ์คนนั้นที่พี่พูดถึง…”

บนเตียง เหอจวินเฉิงขยับตัวพร้อมพูด “เมิ่งฉี เป็นยังไง ผมทำให้คุณมีความสุขได้มากกว่าไอ้เศษสวะเยี่ยมู่ฝานใช่ไหม”

“ทุเรศ ฉันไม่เคยให้เยี่ยมู่ฝานแตะต้องฉันแม้แต่ปลายเล็บเลย!”

“หึ ไอ้งั่งนั่น ไม่มีคุณสมบัติที่จะแตะต้องตัวคุณอยู่แล้ว! ผมยังกลัวว่าคุณจะแสดงให้สมจริงเสียอีก คนเขาอุตส่าห์ทำเพื่อคุณ ถึงกับไม่เสียดายที่ไปขโมยความลับทางธุรกิจของตระกูลตัวเองเลยนะ! พูดขึ้นมา ตอนนั้นที่เยี่ยเส่าถิงล้มละลายโดนไล่ออกจากบ้าน คุณยังไม่ทอดทิ้งเขาเลย!”

เฉินเมิ่งฉีและเหอจวินเฉิงมีแค่ความสัมพันธ์กันบนเตียง อยู่ต่อหน้าเขาเธอเลยไม่ปิดบัง หัวเราะเบาๆ ก่อนพูดว่า “หึๆ แสดงให้สมจริง? ฉันเห็นท่าทางไอ้คนไร้ประโยชน์นั่นก็จะอ้วกแล้ว จะแสดงให้สมจริงได้ยังไงกัน! ไม่มีตระกูลเยี่ย เขาก็ไม่มีอะไรทั้งนั้น ก็แค่หมาที่ไม่มีที่ซุกหัวนอน!

ตอนนั้นเพื่อที่จะเข้าใกล้เขา ฉันต้องทนก้มหัวต่อหน้านังแพศยาเยี่ยหวันหวั่นนั่นตั้งเท่าไร คิดไม่ถึงว่าแม้แต่เยี่ยเส่าอันก็ไม่เล่นด้วย เสียแรงไปฟรีๆ! เป็นเศษสวะกันทั้งตระกูลจริงๆ!”

ได้ยินแต่ละประโยคของเฉินเมิ่งฉี หน้าอกเยี่ยมู่ฝานกระเพื่อมรุนแรง ในสมองมีเสียงระเบิดหึ่งๆ รูม่านตาหดตัวกะทันหัน

เป็นไปไม่ได้…

เป็นไปไม่ได้…

ทั้งหมดนี่คือเรื่องหลอกลวง…

เป็นเรื่องหลอกลวง!!!

ได้ยินเสียงเหอจวินเฉิงจู่ๆ หัวเราะดังขึ้นมา “ฮาๆ แต่ก็คุ้มอยู่ ยังดีที่ไอ้เศษสวะนั่นพอมีค่าให้หลอกใช้ รู้อย่างนี้น่าจะลงเงินประมูล 78 ล้าน 10 สตางค์ แบบนี้จะได้ประหยัดเงินไปตั้งหนึ่งแสนแหน่ะ! หนึ่งแสน! กลัวว่าขายไอ้ขยะนั่นไปยังได้ไม่ถึงแสนเลย!”

“อืม… อืม… คุณอย่าเยาะเย้ยไปเลย… ถ้าตระกูลเยี่ยจะให้เขาเข้าคุกขึ้นมา… ฉันจะดูว่าคุณจะทำยังไง… ผลงานพวกนั้นของคุณ เขาเป็นคนทำทั้งหมดนะ…”

เหอจวินเฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “บ้าเอ๊ย ผมลืมผลงานนี้ไปเลย! ถ้าเขาติดคุก ใครจะมาทำให้ผม!”

เหอจวินเฉิงพูดไป ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ปีศาจน้อย คุณต้องมีวิธีแน่นอนใช่ไหม”

เฉินเมิ่งฉียิ้ม “ไม่บอกคุณหรอก…”

“หึหึ ไม่บอกผมเหรอ” เหอจวินเฉิงออกแรงมากขึ้นในทันใด “บอกไม่บอก? บอกไม่บอก!”

“อา… พี่ชาย… ฉันบอก… ฉันบอกก็ได้…” เฉินเมิ่งฉีหน้าแดงฉาน พูดด้วยสีหน้าภูมิใจ “ง่ายนิดเดียว! ถึงตอนนั้นฉันแค่ให้เยี่ยมู่ฝานกลับบ้านไปเกลี้ยกล่อมพ่อเขาเยี่ยเส่าถิงให้รับผิดแทนเขาก็ได้แล้ว ยังไงฉันพูดอะไรเขาก็ฟังหมด!”

“ไอเดียดี! แบบนี้ก็วินวินทั้งสองฝ่าย! จำไว้นะคุณต้องจับตามองความคืบหน้างานออกแบบใหม่ของเขา ผมต้องได้รางวัลหนังเรื่องนี้นะ!”

เฉินเมิ่งฉีซบอกวาดนิ้วบนหน้าอกชายหนุ่ม “งั้นก็อยู่ที่ความสามารถของคุณแล้ว…”

………………………………………………………………