บทที่ 619 เรื่องทั้งหมดผมจัดการเอง / บทที่ 620 โง่ตั้งแต่ต้นจนจบ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 619 เรื่องทั้งหมดผมจัดการเอง

สามสายมาจากบ้านใหญ่ ส่วนที่เหลือคือพ่อแม่โทรมา

เยี่ยมู่ฝานสีหน้าเปลี่ยน ลากเก้าอี้มานั่ง

เวลานี้ บ้านใหญ่และพ่อแม่รีบร้อนโทรหาเขาแบบนี้…

เยี่ยมู่ฝานรู้ทันทีว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้น

เรื่องที่ขโมยราคาประมูล… โดนจับได้แล้ว…

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เห็นอยู่ว่าเขาหลบกล้องวงจรปิดได้…

เกรงว่าเขาไม่ได้เข้าไปบ้านใหญ่นานแล้ว ตำแหน่งกล้องวงจรปิดเปลี่ยนไปและมีมากขึ้น…

เยี่ยมู่ฝานนั่งหลังตรงแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น สีหน้ามืดมน

เขาจ้องมือถือนิ่ง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เขากดปุ่มโทรสายด่วน โทรหาเฉินเมิ่งฉี

เวลานั้น เฉินเมิ่งฉีกำลังแต่งหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ เห็นเยี่ยมู่ฝานโทรมา สีหน้าหงุดหงิดรำคาญทันที

คิดว่าเขายังมีประโยชน์อยู่ สุดท้ายเลยอดทนฝืนรับสาย “ฮัลโหล พี่มู่ฝาน?”

“เมิ่งฉี…” เสียงเยี่ยมู่ฝานแหบแห้งเล็กน้อย

“พี่มู่ฝาน มีอะไรเหรอ เพิ่งแยกกันเองก็คิดถึงฉันแล้ว?”

ได้ยินเสียงอ่อนหวานของหญิงสาว ในใจที่หนักอึ้งของเยี่ยมู่ฝานค่อยเบาขึ้นมาหน่อย จากนั้นพูดต่อ “เมิ่งฉี เมื่อกี้ที่บ้านใหญ่โทรหาผม เรื่องที่ผมเปิดเผยราคาประมูลน่าจะถูกจับได้แล้ว…”

เฉินเมิ่งฉีต้องการจะประหยัดเงิน เลยตั้งใจลงเงินประมูลให้ห่างกันน้อยขนาดนี้ แน่นอนเดาได้อยู่แล้วว่าไม่นานเยี่ยมู่ฝานต้องถูกสงสัย เวลานี้กลับแกล้งทำตกใจ ทำน้ำเสียงไม่รู้เรื่อง “อะไรนะ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ! แล้วจะทำยังไงดี พี่มู่ฝาน พี่จะไม่เป็นไรใช่ไหม”

“ไม่ต้องห่วง พวกเขาทำอะไรผมไม่ได้หรอก ผมแค่มาเตือนคุณ ถ้าตระกูลเยี่ยตามหาคุณถามอะไรคุณ คุณก็แค่บอกว่าคุณไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น อย่าไปโง่บอกว่าคุณขอร้องให้ผมช่วย ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่อง!” เยี่ยมู่ฝานรีบบอก

เหลวไหล เธอต้องสลัดให้ตัวเองบริสุทธิ์อยู่แล้ว เขาคิดว่าเธอจะโง่เหมือนเขาหรือไง

เฉินเมิ่งฉีรับปากอย่างว่าง่าย “ได้ค่ะ… แต่ว่า พี่มู่ฝาน พี่จะไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม”

“ไม่เป็นไร คุณไปปาร์ตี้ให้สบายใจเถอะ เรื่องทั้งหมดผมจัดการเอง”

“งั้น… ก็ได้ค่ะ ถ้ามีเรื่องอะไร พี่มู่ฝานพี่ต้องบอกฉันนะ ฉันไม่อยากให้พี่ลำบากเพราะฉัน!”

เฉินเมิ่งฉีพูดจากังวลเป็นห่วงเป็นใยอยู่นาน แล้วค่อยวางสายไป

โยนมือถือไปข้างเตียง ระหว่างที่ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ก็เปลี่ยนใส่ชุดชั้นในสุดเซ็กซี่และชุดสูทตัดเย็บราคาสูง เตรียมไปออกเดท

ที่บ้านใหญ่ตระกูลเยี่ย

ห่างออกไปไม่ไกล มีรถแลนด์โรเวอร์สีดำคันหนึ่งจอดข้างๆ อย่างเงียบๆ

เยี่ยหวันหวั่นรูปร่างผอมเพรียวนั่งอยู่ตรงที่คนขับ รออยู่อย่างเงียบๆ

สักพักมือถือดังขึ้น เป็นสายของเกาเฟย

เยี่ยหวันหวั่นรับสาย “ฮัลโหล นี่ผู้อำนวยการเยี่ย เป็นยังไงบ้าง”

เกาเฟยตอบ “เฉินเมิ่งฉีออกจากบ้านแล้ว!”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “OK โทรมาได้ตลอด”

เกาเฟยตอบ “ไม่มีปัญหาครับ”

เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งวางสายไป ก็เห็นเยี่ยมู่ฝานรีบเข้าไปในประตูบ้านใหญ่ตระกูลเยี่ย

เยี่ยหวันหวั่นเห็นสถานการณ์ ก็รีบลงจากรถตามไป

ในห้องทำงานที่บ้านใหญ่

เยี่ยเส่าอันประคองเยี่ยหงเหวยและถานอี้หลานที่โกรธจัดออกไป ในห้องทำงานเหลือแค่เยี่ยเส่าถิง เหลียงหวั่นจวิน เหลียงเหม่ยเซวียน และเยี่ยอีอี

เยี่ยอีอีสีหน้าขอโทษ “คุณลุงใหญ่ ขอโทษนะคะ ช่วยมู่ฝานไม่ได้ เรื่องมู่ฝานครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ…”

นัยน์ตาเหลียงเหม่ยเซวียนเต็มไปด้วยความรังเกียจ “อีอี คิดว่าคนเขาไม่สนใจน้ำใจของลูกหรอก ตอนแรกเยี่ยเส่าถิงใจร้ายทิ้งลูกเพื่อไปหาลูกเมียเขานะ!”

………………………………………………………………

บทที่ 620 โง่ตั้งแต่ต้นจนจบ

เวลานี้ ที่หน้าประตูมีเสียงฝีเท้าวิ่งอย่างเร่งรีบดังขึ้นมา เยี่ยมู่ฝานมาช้าไป

เยี่ยมู่ฝานเพิ่งผ่านประตูเข้ามา ก็เห็นใบหน้าแม่เต็มไปด้วยคราบน้ำตานั่งไม่ขยับอยู่ที่พื้น สีหน้าพ่อซีดขาว หน้าผากบวมแดงเลือดไหล…

ตอนที่ได้รับสายจากบ้านใหญ่ เยี่ยมู่ฝานก็เตรียมคิดถึงภาพที่แย่ที่สุดแล้ว แต่หลังจากเห็นด้วยตาตัวเอง ก็ยังรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“พ่อ! แม่! เป็นยังไงบ้างครับ” เยี่ยมู่ฝานก้าวพุ่งตรงเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

พอเยี่ยเส่าถิงเห็นลูกชาย สีหน้าทั้งโกรธทั้งเจ็บปวดขึ้นมาทันที “ไอ้สารเลว! แกทำไม… ทำไมถึงได้เลอะเลือนแบบนี้! ธรรมดาฉันสอนแกยังไง!”

เหลียงหวั่นจวินปิดตาลงอย่างสิ้นหวัง “มู่ฝาน… ครั้งนี้ลูกทำผิดอุกอาจเกินไปจริงๆ… รู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย”

เห็นสายตาพ่อแม่ผิดหวังขั้นสุด ในใจเยี่ยมู่ฝานเหมือนดั่งมีกรงเล็บมาฉีกทึ้ง กุมหน้าที่ปวดแสบปวดร้อน “พ่อ แม่ ผมทำอะไรผิด ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย! ทำไมถึงต้องทำแบบนี้กับผม!”

เหลียงเหม่ยเซวียนทำเสียงจิ๊ ส่ายหน้า “มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังปากแข็งอยู่อีก ดีที่คุณปู่กับคุณย่าไปแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าได้ยินคำนี้ กลัวว่าจะโมโหจนตาย!”

เยี่ยเส่าถิงโมโห “แก… จนถึงตอนนี้แกยังปากแข็งอยู่อีก!”

เยี่ยมู่ฝานเชิดหน้าขึ้น “ผมก็แค่ทำเพื่อปกป้องผู้หญิงที่ผมรัก ผมไม่ได้ทำผิด!”

เยี่ยเส่าถิงโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เวียนศีรษะขึ้นมา หัวใจเจ็บปวดรุนแรง “แก…แก…”

“พ่อ…” เยี่ยหวันหวั่นที่ตามติดเข้ามาก้าวไปข้างหน้า เข้าไปประคองร่างเยี่ยเส่าถิงที่ล้มเซ แล้วรีบป้อนยาบรรเทาอาการหัวใจอย่างเร่งด่วน จากนั้นหยิบกระดาษฆ่าเชื้อโรคจากกระเป๋าออกมาทำความสะอาดแผลให้เยี่ยเส่าถิง

“หวันหวั่น ลูกมาแล้ว…” หลังเห็นลูกสาว สีหน้าเยี่ยเส่าถิงค่อยดีขึ้นหน่อย

เยี่ยหวันหวั่นมองดูแผลของพ่อ แล้วมองมู่เยี่ยฝานที่มาถึงขั้นนี้แล้วยังไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย เงื้องมือมาตบหน้าเยี่ยมู่ฝานดัง ‘เพี๊ยะ’ ตรงนั้นเลย “เยี่ยมู่ฝาน พี่นี่มันโง่ตั้งแต่ต้นจนจบ!”

เดิมทีเธอยังมีความหวังอยู่เล็กน้อย คิดว่าเขาเห็นพ่อแม่ลำบากเพราะเขาจะรู้สึกผิดบ้าง ใครจะรู้…

“แก…” เยี่ยมู่ฝานกุมหน้าที่ร้อนผ่าวอย่างคาดไม่ถึง โมโหขึ้นมาทันที “เยี่ยหวันหวั่น แกกล้าตบฉัน! แกมีคุณสมบัติอะไรมาเยาะเย้ยถากถางฉัน! แกไม่รู้จักเมิ่งฉีเลย! ฉันไม่เสียใจกับการกระทำทุกอย่างของฉันเลยสักนิด! โทษทั้งหมดฉันจะรับผิดชอบเอง!”

เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเย็นชาติดต่อกัน “หึ พี่รับผิดชอบ? พี่คิดว่าพี่ติดคุกหมดอนาคตทั้งชีวิตนี่เป็นแค่เรื่องของพี่คนเดียว? พี่จะให้พ่อทำยังไง! ให้แม่ทำยังไง”

เหลียงเหม่ยเซวียนที่กำลังดูอยู่ด้วยท่าทางสบายอารมณ์หัวเราะกับหายนะนี้ พูดว่า “เฮ้อ พวกคุณมีเวลาทะเลาะกัน ไม่สู้รีบหาเงินมาจ้างทนายดีกว่า โทษจะได้ลดลงอีกหลายปี!”

สายตาเยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเหลียงเหม่ยเซวียนด้วยความเย็นชา กดความโกรธไว้ในแววตา

ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจะมาคิดเล็กคิดน้อยกับเหลียงเหม่ยเซวียน

“พ่อคะ แม่คะ พ่อแม่กลับบ้านไปก่อนเถอะ มีเรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน!” เยี่ยหวันหวั่นกำชับพ่อแม่ จากนั้นกำข้อมือเยี่ยมู่ฝาน “พี่มากับฉัน! ตอนนี้ฉันจะให้พี่ดู ว่าผู้หญิงที่พี่ไม่เสียใจกับการกระทำ รักจนตายไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ความจริงแล้วเป็นคนหรือเป็นผี!”

“เยี่ยหวันหวั่น แกทำอะไร ปล่อยมือ!”

เยี่ยมู่ฝานจะสะบัดมือออกจากเยี่ยหวันหวั่น แต่คิดไม่ถึงว่าแรงของเยี่ยหวันหวั่นจะเยอะมากจนน่าตกใจ ฝ่ามือเล็กบางราวกับกรงเล็บลากเขาออกไป

…………………………………………………………