บทที่ 617 เดาว่าผมเจออะไร / บทที่ 618 ให้โอกาสมามากแล้ว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 617 เดาว่าผมเจออะไร

เมื่อเยี่ยเส่าถิงและเหลียงหวั่นจวินได้รับโทรศัพท์ก็รีบมาทันที

“พ่อ แม่… ดึกป่านนี้แล้ว มีเรื่องอะไรเหรอครับ” เยี่ยเส่าถิงหยั่งเชิงถาม

พอเยี่ยหงเหวยเห็นเยี่ยเส่าถิงก็โมโหจัดขึ้นมาทันที “แกยังมีหน้ามาถามว่าเรื่องอะไรอีก! แกสั่งสอนลูกชายดีเหลือเกิน!”

“มู่ฝาน?” เยี่ยเส่าถิงได้ยินก็อึ้งไป

เหลียงหวั่นจวินรีบถามต่อ “มู่ฝานก่อเรื่องอะไรเหรอคะ”

เหลียงเหม่ยเซวียนที่อยู่ข้างๆ สวมชุดจีนโบราณราคาแพง บำรุงใบหน้าไม่มีแม้แต่รอยเหี่ยวย่น เหลือบมองเหลียงหวั่นจวินอดีตคนงามของเหมืองหลวงที่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าดูแก่ขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ พูดอย่างสบายอารมณ์ “พี่คะ ครั้งนี้เกรงว่ามู่ฝานจะไม่ได้แค่ก่อเรื่องธรรมดา พฤติกรรมของเขาคือผิดกฎหมาย”

“อะไรนะ ผิดกฎหมาย?” เหลียงหวั่นจวินรีบพูด “นิสัยมู่ฝานชอบแหกกฎจริง แต่ไม่มีทางทำเรื่องผิดกฎหมายแน่นอน!”

เหลียงเหม่ยเซวียนหัวเยาะเบาๆ “ฉันว่านะพี่สะใภ้ใหญ่ ตอนแรกพี่ยังบอกว่าพี่ชายคนโตไม่มีทางทำเรื่องหักหลังบริษัทได้เลย ปรากฏว่าเป็นยังไงล่ะ”

หวงหมิงคุนรีบพูดเสริม “มีประโยคหนึ่งพูดได้ดี คลอดลูกแล้วไม่เลี้ยงดูเป็นความผิดของพ่อแม่ คุณหนูอีอีได้รับการสั่งสอนจากคุณชายรองและคุณย่ารอง ทั้งสง่างามและกตัญญูรู้คุณ แต่คุณหนูหวันหวั่นและคุณชายใหญ่ คนหนึ่งไม่มีมารยาท คนหนึ่งไม่เรียนหนังสือ กระทั่งตอนนี้แม้แต่เรื่องที่ทำลายผลประโยชน์ของตระกูลก็ยังทำได้ เรื่องนี้ เกรงว่าท่านปู่และท่านย่าเห็นว่าเป็นความรับผิดชอบที่หนีไม่พ้น!”

เยี่ยเส่าถิงมองไปทางหวงหมิงคุนด้วยสายตาเย็นชา

ในอดีตตอนที่เขายังอยู่บ้านตระกูลเยี่ย พบว่าหวงหมิงคุนใช้อำนาจในหน้าที่หลายครั้งกลั่นแกล้งกระทั่งหยาบคายกับคนรับใช้หญิงในบ้าน จนกระทั่งพบว่าเขากับเหลียงเหม่ยเซวียนก็มีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ…

เห็นแก่ที่เขาทำงานกับตระกูลเยี่ยมาหลายปี เลยเห็นแก่หน้าเขา ไม่ได้ส่งเขาไปสถานีตำรวจ เพียงแค่ชกเขาหนักๆ ไปชุดหนึ่งจากนั้นก็ไล่เขาออกไป

ใครจะรู้ หลังเขาออกจากบ้านตระกูลเยี่ยไป หวงหมิงคุนก็ถูกเชิญกลับมาอีก

เยี่ยเส่าถิงพูดเสียงเย็นชา “ก่อนหน้านี้หวันหวั่นพูดไร้สาระจริง แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว ครั้งที่แล้วที่งานเลี้ยง พ่อก็เห็นกับตา ส่วนมู่ฝาน ที่พูดกันว่าเขาทำผลประโยชน์ของตระกูลเสียหาย ตกลงมีหลักฐานอะไรกันแน่”

เยี่ยเส่าอันเหลือบมองไปทางเยี่ยเส่าถิง อดไม่ได้แอบยิ้มเย็นชา ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ

เยี่ยเส่าอันแสร้งยิ้มแล้วพูดขึ้นมา “พี่ชายน่ากลัวจริงๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าหลังพี่รู้ความจริงแล้วจะยังมีความชอบธรรมแบบตอนนี้อยู่หรือเปล่า!

เดิมทีตระกูลเยี่ยต้องการชนะงานประมูลโครงการหัวกวงนี้ให้ได้ ปรากฏว่าสุดท้ายแล้วโครงการนี้กลับโดนตระกูลเฉินได้ไปครองด้วยราคาที่สูงกว่าพวกเราแค่หนึ่งแสน ชัดเจนมากว่าราคาประมูลของพวกเราถูกเปิดเผย

เอกสารการประมูลผ่านมือแค่เส่าอันและอีอีเท่านั้น อีกทั้งยังอยู่ในห้องทำงานของบ้านใหญ่ ถามหน่อย ราคาประมูลของพวกเราใครจะเป็นคนเปิดเผยนะ

ผมให้อีอีไปเชคกล้องวงจรปิดในบ้าน ปรากฏว่า… พี่ชาย พี่เดาสิว่าผมเจออะไร”

เยี่ยเส่าอันพูดไปก็เหลือบมองไปทางหวงหมิงคุน

หวงหมิงคุนเข้าใจ รีบเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุคข้างๆ ขึ้นมา เปิดภาพจากกล้องวงจรต่อหน้าทุกคน “คุณชายใหญ่ คุณดูเอาเองแล้วกัน!”

เห็นภาพในกล้องวงจรปิด เยี่ยมู่ฝานแอบปีนข้ามกำแพงเข้าไปในสนาม แล้วแอบเข้าไปในห้องทำงาน ผ่านไปนานกว่าจะออกมา

หลังจากเห็นภาพกล้องวงจรปิด เยี่ยเส่าถิงและเหลียงหวั่นจวินสบตากัน สีหน้าทั้งสองคนเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ยังไงก็ไม่อยากเชื่อว่าลูกชายตัวเองจะทำเรื่องแบบนี้…

………………………………………………………………

บทที่ 618 ให้โอกาสมามากแล้ว

เหลียงเหม่ยเซวียนถอนหายใจเบาๆ “เดิมทีฉันก็ไม่เชื่อว่ามู่ฝานจะทำเรื่องแบบนี้ แต่เสียดายหลักฐานคือเรื่องจริง คนที่ขโมยความลับบริษัทก็คือเขา ตอนนี้ พี่ยังมีอะไรจะพูดอีกไหม”

เหลียงหวั่นจวินสีหน้าเปลี่ยน “นี่… นี่เป็นไปไม่ได้! มู่ฝานเขาจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!”

แต่ว่ากล้องวงจรปิดที่ระเบียงเห็นชัดเจน ผู้ชายที่เปิดประตูห้องทำงานคือเยี่ยมู่ฝานไม่มีผิด

สีหน้าเยี่ยเส่าถิงก็ซีดขาวเช่นเดียวกัน “มู่ฝาน.. ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้…”

เยี่ยหงเหวยโมโหจนหยิบถ้วยชาข้างๆ เขวี้ยงไปที่หน้าผากของเยี่ยเส่าถิง “สารเลว! เดิมทีฉันยังคิดจะให้เยี่ยมู่ฝานกลับมาที่บริษัท ตอนนี้ดูแล้วไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เขาถูกแกสั่งสอนจนไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้แล้ว! พวกเราตระกูลเยี่ยถือว่าไม่มีหลานชาย ไม่สามาถให้คนพรรค์นี้มาสืบทอดได้! อย่างมากก็ให้อีอีกับเยว่เจ๋อมีลูกให้!”

ได้ยินคำพูดนี้ เหลียงเหม่ยเซวียนสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที เยี่ยอีอีแววตาเป็นประกาย

ขอแค่ไม่มีเยี่ยมู่ฝาน เธอก็จะเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลเยี่ย อนาคตของตระกูลเยี่ยทั้งหมดจะเป็นของเธอและเยว่เจ๋อ

คุณหญิงย่าถานอี้หลานที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้น เวลานี้ถอนหายใจยาว “โชคร้ายของตระกูล! โชคร้ายของตระกูล…”

ตระกูลเยี่ยมีหลานสาวสองคน หลายชายหนึ่งคน เยี่ยอีอีแหละเยี่ยหวันหวั่นหลานสาวสองคนนี้ยังไงก็ไม่เหมือนคนตระกูลเยี่ย มีแค่เยี่ยมู่ฝานที่เป็นหลานชาย ที่เหมือนเธอและหงเหวยที่สุด แล้วยังสืบทอดพรสววรค์ด้านแฟชั่นของเธออีกด้วย

ดังนั้น เดิมทีเธอลำเอียงรักมู่เยี่ยฝานหลานชายคนนี้มากที่สุด ไล่เขาออกไป คิดแค่อยากจะให้เขาอยู่คนเดียวข้างนอกฝึกประสบการณ์ จะได้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ตอนนี้ เขากลับทำให้เธอผิดหวังมาก

ผู้สืบทอดเป็นคนกำหนดชะตาของตระกูล ถ้ามอบตระกูลเยี่ยให้อยู่ในมือของผู้สืบทอดแบบนี้ เกรงว่าวันสิ้นสุดของตระกูลจะใกล้เข้ามา

ยังดีที่มีเส่าอันและอีอี…

เยี่ยเส่าถิงตระหนักดีว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก สีหน้าวิงวอนขอร้อง “พ่อ ขอร้องครั้งนี้พ่อให้อภัยมู่ฝานด้วยครับ เขา… เขาก็แค่หน้ามืดตามัวไปเท่านั้นเอง…ขอร้องพ่อให้โอกาสเขาได้แก้ตัวสักครั้ง…”

“หน้ามืดตามัว? หน้ามืดตามัวจนสามารถทำเรื่องหักหลังตระกูลเพื่อผู้หญิงคนเดียวแบบนี้ก็ได้ วันนี้กล้าขโมยความลับบริษัท วันข้างหน้าจะเอาบริษัทไปขายหรือเปล่า” เหลียงเหม่ยเซวียนพูดไป ก็มองไปทางเยี่ยเส่าอันอย่างรู้กัน

เยี่ยหงเหวยนึกถึงเรื่องที่ลูกชายคนโตยักยอกเงินบริษัทไปอย่างผิดกฎหมาย ก็ยิ่งโมโหขึ้นมา “เส่าถิง ฉันให้โอกาสแกมากเหลือเกิน แต่แกก็ยังทำให้ฉันผิดหวัง ครั้งนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว เรื่องนี้ฉันจะส่งเรื่องให้ทนาย ควรจะจัดการยังไงก็จัดการอย่างนั้น!”

ความหมายนี้ของท่านปู่คือจะส่งมู่ฝานเข้าคุกแล้ว…

ถ้ามู่ฝานติดคุกเพราะเรื่องนี้จริง แบบนั้นชีวิตเขาทั้งชีวิตนี้ก็จบสิ้นแล้ว

ในขณะเดียวกัน ที่จวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์

บนโต๊ะเยี่ยมู่ฝานเต็มไปด้วยอัลบั้มภาพและเอกสารต่างๆ

เวลานี้ เขากำลังทำงานนอกเวลาออกแบบเครื่องแต่งกายให้นักแสดงหนังเรื่องใหม่ที่จวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์เพิ่งลงทุน

หนังย้อนยุคเรื่องนี้ใช้เครื่องแต่งกายโบราณหลากหลายแบบเป็นจุดเด่น มีแนวโน้มว่าจะได้รางวัลเมคอัพ อาร์ติสยอดเยี่ยมและสไตล์ลิสยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติครั้งหน้า

ระหว่างทำงาน มือถือเขาเปิดโหมดปิดเสียง

จนตอนที่ทำงานไปช่วงหนึ่งกำลังจะหยุดพักค่อยหยิบมือถือขึ้นมาดู

ปรากฏว่าพอมองไปก็เห็นสายที่ไม่ได้รับและข้อความหลายสิบสาย

…………………………………………………………….