ตอนที่ 1744 เพื่อนเก่าอยู่ที่นี่แล้ว (4) / ตอนที่ 1745 แต่งงาน (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1744 เพื่อนเก่าอยู่ที่นี่แล้ว (4)

“ข้าจะไปเตรียมอาหารเช้าให้ท่าน” อวิ๋นเซียวพูดอย่างอ่อนโยน สำหรับเขาแล้วการเตรียมอาหารเช้าให้ภรรยาเขาเป็นเรื่องที่เขามีความสุข

ดังนั้นในช่วงหลายวันที่ได้อยู่ข้างอวิ๋นลั่วเฟิง เขาใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้เพื่อเตรียมอาหารเช้าให้อวิ๋นลั่วเฟิงด้วยตัวเองและไม่มีทางยอมให้ใครเข้ามายุ่ง เรื่องนี้ทำให้อวิ๋นลั่วเฟิงไม่สามารถกินอาหารที่คนอื่นทำเวลาที่พวกเขาแยกกันได้ เพราะมันไม่อร่อยเท่าของอวิ๋นเซียว

โชคดีที่ด้วยระดับพลังฌานในตอนนี้ของอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็สามารถดูดซึมพลังฌานเข้าร่างได้ดังนั้นนางจึงไม่หิว

ข่าวที่ว่าอวิ๋นเซียวคือจักรพรรดิปีศาจแพร่ไปทั่วทุกตรอกซอกซอยของแคว้นเจ็ดเมืองภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน หลังจากที่รู้ว่าเขาเป็นหลานชายของผู้เฒ่าจวิน คนที่เคยสร้างปัญหาให้อวิ๋นเซียวก็กลัวแทบตายและเสียใจอย่างสุดซึ้ง

เทียบกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้านนอก ตระกูลกลับสงบสุขมาก ทุกคนยุ่งอยู่กับการเตรียมงานแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้าและก็ไม่มีใครให้ความสนใจกับเหตุการณ์วุ่นวาย

“คุณหนูใหญ่” เสียงที่สั่นอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ดังขึ้นทันทีจวินเฟิ่งหลิงสั่งให้ใครบางคนไปจัดการชุดแต่งงานของอวิ๋นลั่วเฟิง

นิ้วของจวินเฟิ่งหลิงหยุด นางมองบ่าวรับใช้ที่หุนหันคนหนึ่งแล้วถามว่า “มีอะไร”

“มีบุรุษคนหนึ่งชื่อเยี่ยซีมั่วบอกว่าเป็นบุตรชายบุตรธรรมของท่าน คุณหนู…”

เยี่ยซีมั่ว?

เมื่อจวินเฟิ่งหลิงได้ยินชื่อของเขา ดวงตาของนางก็เป็นประกายและหายใจเร็วขึ้น “เร็ว รีบพาข้าไปหามั่วเอ๋อร์

หลังจากที่จวินเฟิ่งหลิงและเยี่ยจิ่งเฉินออกจากจวนตระกูลเยี่ย เยี่ยซีมั่วก็ออกมาด้วยเหมือนกัน หลังจากนั้นเขาก็พาสตรีผู้หนึ่งกลับมาตระกูลเยี่ยเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็ออกไปอีกครั้งทันทีเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และก็ไม่มีข่าวของเขาอีกเลย

การที่เยี่ยซีมั่วมาหาพวกเขาที่จวนตระกูลจวินเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเลย

จวินเฟิ่งหลิงรีบวิ่งไปที่ห้องโถงด้านหน้าและก็เห็นบุรุษผู้หนึ่งยืนอยู่ที่สวน ดวงตาของนางก็เป็นประกายอย่างมีความสุข นางเรียกชื่อเขา “มั่วเอ๋อร์ ในที่สุดแม่ก็ได้เจอเจ้าอีกครั้ง”

“ท่านแม่บุญธรรม” เมื่อเยี่ยซีมั่วเห็นจวินเฟิ่งหลิงวิ่งเข้ามา เขาก็ยิ้ม “ลูกได้ยินเรื่องของท่านกับตระกูลจวินแล้ว ดังนั้นลูกจึงตั้งใจมาที่นี่โดยเฉพาะ ลูกควรมางานแต่งงานของน้องรองกับเฟิงเอ๋อร์ใช่หรือไม่”

“มั่วเอ๋อร์ เจ้ามาคนเดียวหรือ” จวินเฟิ่งหลิงแปลกใจ “แม่ได้ยินเสียเอ๋อร์กับจวินเอ๋อร์บอกว่าเมื่อครั้งที่แล้วลูกพาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกลับมาที่จวนตระกูลเยี่ย เหตุใดครั้งนี้นางถึงไม่ได้มากับลูกด้วย

เยี่ยซีมั่วกระแอมด้วยความเขินอาย “เอ่อ..นางไม่ได้ตามลูกมาที่นี่”

ความจริงแล้ว เยี่ยซีมั่วรู้ว่าเยี่ยฉีรู้สึกอย่างไรกับเขาแต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับนางมากไปกว่าน้องสาว ถึงแม้ว่าเขาจะบอกนางไปหลายครั้งแล้วแต่นางก็ยังทำเป็นไม่ได้ยิน

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงหาใครบางคนมาแสดงเป็นคนรักของเขาเพื่อที่เยี่ยฉีจะได้ยอมแพ้และเลือกบุรุษที่ดีมาเป็นสามี ทั้งยังป้องกันไม่ให้นางเสียโอกาสในการแต่งงานด้วย

ทันใดนั้นเสียงชราก็ดังมาจากนอกประตู คนที่ผู้เดาะลิ้นอย่างสงสัย “ข้าไม่คิดเลยว่าอาจารย์จะพัฒนามากขึ้นขนาดนี้ในเวลาเพียงสองสามปีหลังจากที่ออกจากแผ่นดินหลงเซี่ยว ตอนที่คนจากตระกูลวินมาตามหาข้า ข้าก็แอบไม่เชื่อ…”

มีผู้สูงอายุเพียงคนเดียวที่เรียกอวิ๋นลั่วเฟิงว่าอาจารย์ ซึ่งชายชราคนนั้นก็คือเทียนหยาที่นางคุ้นเคยที่แผ่นดินหลงเซี่ยว

แต่ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้เห็นหน้าเทียนหยามาตั้งแต่ที่นางออกจากแผ่นดินหลงเซี่ยว นางไม่คิดว่าตระกูลจวินจะช่วยนางตามหาเทียนหยาเพื่อให้เขามางานแต่งงานของนาง

เมื่อเห็นชายชราตัวเล็กเดินเข้ามาในจวน หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงก็ถูกโอบล้อมไปด้วยความสุข นางให้ความสำคัญกับสหายจากแผ่นดินหลงเซี่ยวอยู่มากทีเดียว

…………………………

ตอนที่ 1745 แต่งงาน (1)

“เทียนหยา เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่” คำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิงก็เป็นการทักทายธรรมดาที่หาอะไรธรรมดาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว แต่กลับทำให้ดวงตาของเทียนหยาเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย เขามองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสีหน้าเหมือนนางได้ทำสิ่งที่ทำให้เขาโกรธที่สุดในชีวิต

“อาจารย์ อย่างน้อยข้าก็เป็นศิษย์ของท่าน ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ยอมรับข้าแต่ในหัวใจของศิษย์ผู้นี้ อาจารย์เพียงหนึ่งวันก็เป็นบิดามารดาไปทั้งชีวิต ดังนั้นข้าจะไม่มาในงานแต่งงานของท่านได้อย่างไร”

เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้าของนางก็มืดครึ้มลงทันที นางไม่ยอมรับชายชราอย่างเทียนหยาเป็นศิษย์ แต่เขาก็ยังพูดว่าเป็นอาจารย์หนึ่งวันเท่ากับเป็นบิดามารดาไปทั้งชีวิตอีกงั้นหรือ

นางไม่เคยคลอดบุตรเป็นชายชราแบบนี้

“แต่ว่า…” เทียนหยาหัวเราะเบาๆ “ข้าไม่ได้มาคนเดียว ข้ายังพาภรรยามาด้วย”

หลังจากที่เทียนหยาพูดจบ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสีเขียวก็เดินเข้ามาในสวน

สตรีผู้นี้มีใบหน้าน่ารักไร้เดียงสาและใบหน้าของนางยังมีรอยยิ้มบางประดับอยู่ นางให้ความรู้สึกคล้ายกับดอกบัวสีเขียวบริสุทธิ์

“ฝูเซิง?”

อวิ๋นลั่วเฟิงไม่มีทางไม่คุ้นเคยกับสตรีที่อยู่ตรงหน้านาง

ก่อนหน้านี้ ฝูเซิงทิ้งเทียนหยาไปเพราะเข้าใจผิดและไปอาศัยอยู่ในไพรลับแล นางไม่เคยก้าวเท้าออกจากป่าอีกเลยจนทำให้เทียนหยาหานางไม่เจออยู่หลายปี

“แม่นางอวิ๋น ไม่ได้เจอกันนาน” ฝูเซิงยิ้ม ท้องของนางนูนขึ้นมาเล็กน้อยและนางก็สวมชุดกระโปรงพร้อมยิ้มหวาน

“ยินดีด้วย” อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองท้องที่นูนขึ้นมาของนางและแสดงความยินดีอย่างจริงใจ “แต่ว่า ข้าอยากรู้ว่าเทียนหยาเอาชนะใจเจ้าได้อย่างไร”

เสียงสดใสก็ดังแทรกขึ้นมาทันทีที่อวิ๋นลั่วเฟิงพูดจบ “นายหญิง ข้าทราบเรื่องนี้ขอรับ ตั้งแต่ที่สามีของนายหญิงรู้ว่านายหญิงของข้าน้อยเป็นราชันสัตว์อสูรในไพรลับแล เขาก็มาอาศัยอยู่ด้วยอย่างหน้าไม่อายและไม่ยอมจากไปไหนแม้ว่านายหญิงของข้าจะเตะเขาออกไป เขาโชคดีมากและบังเอิญเจอกับใครบางคนที่ต้องการจะจับนายหญิงไป เขาได้ช่วยนายหญิงโดยไม่สนใจชีวิตของตัวเอง ดังนั้นนายหญิงจึงหวั่นไหวและยอมรับเขาอีกครั้งขอรับ”

บุรุษที่เดินเข้ามาหาพวกเขาคือหลงเฟย มือสังหารที่คอยไปสร้างปัญหาให้ตระกูลเทียนเพื่อแก้แค้นให้นายหญิงของเขาแต่สุดท้ายก็ถูกอวิ๋นลั่วเฟิงช่วยชีวิตไว้

“ดูเหมือนว่าข้าจะมาสาย…”

ทันทีที่อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังจะพูดบางอย่าง จู่ๆ น้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นจากท้องฟ้าแล้วดึงดูดความสนใจของทุกคน

อาจจะเป็นเพราะว่างานแต่งงานของอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันทำให้สำนักที่มาร่วมงานเปิดตัวก่อนหน้านี้ยังไม่จากไปไหนและเลือกอาศัยอยู่ในจวนตระกูลจวินแทน

เมื่อรวมกับการที่ตระกูลมีชื่อเสียงดังนั้นหลายๆ คนจึงฉวยโอกาสนี้ปีนขึ้นสู่สังคมชั้นสูง ผลก็คือทำให้มีสำนักมากมายมายืนอยู่ที่หน้าจวนตระกูลจวินรวมถึงเด็กผู้หญิงเยาว์วัยที่ยังไม่ออกเรือน

เมื่อทุกคนได้ยินเสียงไพเราะยากจะลืมเลือน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามอง

กลางอากาศมีร่างงดงามเหมือนน้ำหมึกและภาพวาดสีน้ำขณะที่ชุดคลุมสีขาวของเขาปลิวไปตามสายลม ชายหนุ่มหล่อเหลาเหมือนเทพเซียน ทั้งเย็นชาและอยู่เหนือโลกีย์ ดูบริสุทธิ์เสียจนเหมือนเขาไม่ถูกโลกมนุษย์ทำให้มัวหมอง

เด็กสาวบางคนถึงกลับกัดริมฝีปากด้วยความตะลึง มีบุรุษที่เหมือนเทพเซียนอย่างนี้อยู่บนโลกด้วยหรือ เขาดูบริสุทธิ์จนทำให้ผู้คนไม่กล้าทำให้เขามีมลทิน

“เฉินอวี้ชิง ไม่ได้เจอกันนานนะ” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มทันทีที่เห็นชายหนุ่ม จะว่าไปตั้งแต่ที่นางกลายเป็นคนรู้จักกับเฉินอวี้ชิง บุรุษพูดนี้ก็ช่วยเหลือมากมาย นางสามารถเข้ามาในแคว้นเจ็ดเมืองได้ก็เพราะได้เขาช่วย