ตอนที่ 329

The Divine Nine Dragon Cauldron

เทียบกับไหมเทพน้ำแข็ง ซือหยูต้องยอมรับว่าหยุนย่าสีพูดถูก

 

แม้จะเป็นสมบัติเทพระดับต่ำร้อยดินก็มิอาจเทียบได้กับสมบัติเทพระดับกลาง!

 

ฮั่วฉีหลานหยุดนิ่งไปนาน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

“ข้าขอลองอีกทีนะ!”

 

ปั้ง ปั้ง—

 

ร่างของนางได้เปล่งประกายแสงในพริบตา ร่างแสงกระจ่างปรากฏขึ้นมาข้างๆ

 

เป็นกายาแสงของนาง!

 

พลังนั้นเทียบเท่ากับฐานพลังของร่างหลัก

 

กายาแสงจับมือของฮั่วฉีหลาน ทั้งสองปล่อยพลังวิญญาณออกมาดึงสายธนูพร้อมกัน

 

ตอนนี้มีอำมฤตระดับสามขั้นกลางสองคนกำลังดึงสายธนูพร้อมกัน

 

แกรก—

 

มุมเล็กๆที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าปรากฏขึ้นมาแล้ว

 

เทียบกับครั้งก่อน มุมนั้นเพิ่มมากกว่าเดิมสองเท่า

 

ฮั่วฉีหลานกับร่างเทียมปล่อยมือพร้อมกัน

 

ธนูวิญญาณปรากฏออกมาทันที

 

เมื่อสายธนูถูกปล่อยออกไป ลูกธนูวิญญาณพุ่งตรงไปยังกำแพงข้างหน้า!

 

ครืน—

 

ปั้ง—

 

เสียงระเบิดเกิดขึ้นพร้อมกับรูใหญ่บนกำแพง

 

ฉีหยุนเซี่ยงตกใจเป็นอย่างมาก

 

“พลังของอำมฤตระดับสามขั้นต้น!”

 

หลายขุมกำลังมากมายมิอาจบ่มเพาะยอดฝีมือระดับสามได้ แม้จะผ่านไปหลายร้อยปี

 

แต่ในตอนนี้ เพียงแค่ดึงสายธนูได้เล็กน้อยมันก็แสดงพลังอันยิ่งใหญ่เช่นนั้นออกมา!

 

สมกับเป็นสมบัติเทพจากตระกูลโบราณที่สืบทอดกันมา!

 

แต่ฮั่วฉีหลานกับซือหยูก็รู้สึกผิดหวัง

 

ฮั่วฉีหลานถอนหายใจและคืนธนู

 

“ไร้เหตุผลนักที่ต้องมาหวังกับสมบัติเทพนี่”

 

ครืน—-

 

ครืน—

 

ในตอนนี้ บางทีอาจจะเพราะสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวในห้องลับ สัตว์อสูรอำมฤตระดับสี่ที่กำลังพังประตูเหล็กเริ่มบ้าคลั่งขึ้น !

 

ทั้งห้องลับสั่นไม่หยุดหย่อน

 

หากเป็นอย่างนี้ต่อไป มันจะทนไม่ได้ถึงห้าวัน!

 

“ข้าต้องเดิมพันเท่านั้น!”

 

ซือหยูนั่งลงและหยิบขวดหยกที่มีของเหลวสีแดงออกมา

 

นั่นคือหยดหมื่นพลที่ถูกเจือจาง!

 

ตู่หมิงฮั่วพยายามอย่างมากที่จะแลกมันกับธนูเงิน แต่เขาก็ไม่คิดว่าท้ายสุดธนูจะตกไปอยู่ในมือซือหยู และหยดหมื่นพลเองก็ไม่ได้ถูกเอาคืนไป

 

ซือหยูแผ่จิตสังหารออกมาในพริบตา เขากัดนิ้วตัวเองและรีดหยดโลหิต จากนั้นเขาก็ผสมมันเข้ากับหยดหมื่นพล

 

จากนั้นเขาก็ปล่อยให้โลหิตกับหยดหมื่นพลที่ผสมกันหยดลงธนู

 

ภาพอันน่าอัศจรรย์ปรากฏขึ้น

 

หยดโลหิตผสมได้ซึมเข้าไปในธนูเงินโดยไร้สิ่งกั้นขวาง

 

ฮั่วฉีหลานประหลาดใจ

 

“เจ้ากำลังจะชำระธนูนี่รึ?”

 

หยดพื้นพลจะล้างโลหิตของเจ้าของเดิมได้ โลหิตของซือหยูจะเข้าไปหลอมรวมกับธนูและชำระล้างมัน

 

แต่เมื่อมองดูผลที่ได้ ซือหยูล้มเหลวอย่างหมดท่า!

 

โลหิตทั้งหมดของซือหยูถูกเค้นออกมา เขามิอาจชำระธนูได้

 

อย่างที่คิด ผลของหยดหมื่นพลที่เจือจางนั้นอ่อนแอเกินไป

 

แม้จะเป็นหยดแบบตั้งต้น เขาก็ต้องใช้ถึงสิบหยดในการชำระล้างผนึกทั้งหมด

 

“ไม่สิ!”

 

ซือหยูเคร่งเครียด เขาดมกลิ่นโลหิตที่ถูกเค้นออกมา

 

“เก้าในสิบส่วนเป็นโลหิตข้า ส่วนอีกส่วนเป็นของเจ้าของธนู!”

 

“โลหิตหนึ่งในร้อยส่วนของข้าเข้าไปในธนูแล้ว!”

 

ซือหยูจ้องธนูเงิน เขาจับธนูทันที

 

ซือหยูพยายามยกมันด้วยความคาดหวัง

 

ฟึ่บ–

 

ซือหยูไม่คิดเลยว่าธนูเงินที่เคยหนักเท่าเขาสูงแปดพันศอกจะเบาราวกับภูเขาลูกเล็กๆ!

 

ซือหยูใช้พลังทั้งหมดยกธนู เขาใช้แรงเยอะเกินไปจนตัวแทบจะพลิก!

 

“นี่คือ…ผลของการชำระงั้นรึ?”

 

ซือหยูดีใจอย่างมาก

 

ธนูเงินยังคงหนักอยู่อย่างเคย เพียงแค่น้ำหนักอย่างเดียวก็สังหารมนุษย์ได้หลายร้อยคน

 

แต่สำหรับซือหยูแล้วมันเบาลงมาก เขาเพียงแค่รู้สึกว่ามันหนักมาก เทียบกับเมื่อครู่ก่อนหน้าแล้ว…เขาแทบจะยกมันขึ้นมาไม่ได้!

 

ฮั่วฉีหลานตกตะลึง นางมองด้วยความริษยา

 

“เร็วเข้า ลองใช้มันเร็ว!”

 

ซือหยูพยักหน้าและจรดนิ้วลงบนสายธนู เขาปล่อยพลังวิญญาณทั้งหมดออกมาดึงธนูช้าๆ!

 

สายธนูขยับไปหนึ่งนิ้ว!

 

มันขยับมากกว่าที่ฮั่วฉีหลานกับร่างเทียมทำได้เป็นสองเท่า!

 

ธนูวิญญาณขนาดเท่าดัชนีปรากฏขึ้นที่สายธนู

 

เมื่อซือหยูปล่อยมือ เงาธนูก็พุ่งผ่านทะลวงกำแพงศิลา

 

ครืน—-

 

ครืน—-

 

ทั้งชั้นใต้ดินสั่นเล็กน้อย

 

รูที่ใหญ่ยิ่งกว่าเดิมปรากฏขึ้นบนกำแพงศิลา!

 

“พลังของอำมฤตระดับสามขั้นกลาง!”

 

ฉีหยุนเซี่ยงมิอาจข่มความตกใจไว้ได้

 

นางทึ่งในพลังของธนูและผลในการชำระธนูของซือหยู

 

พลังที่ซือหยูทำได้นั้นเหนือกว่าที่นางกับร่างเทียมร่วมมือกันทำได้เป็นสองเท่า!

 

เทียบกับครั้งก่อนที่สายธนูไม่แม้แต่ดึงได้ ซือหยูในตอนนี้แสดงพลังที่เหนือกว่าเดิมได้ยี่สิบเท่า!

 

แต่มันก็ยังห่างไกลเกินกว่าจะจัดการกับสัตว์อสูรอำมฤตระดับสี่!

 

ถึงจะชำระธนูมาได้เท่านี้…มันก็ยังไม่พออีกรึ?

 

ตอนที่ทุกคนใจหาย ธนูเงินก็เปล่งแสงสีเงินออกมาทันที!

 

ภาพลวงขนวิหคเงินปรากฏขึ้นบนนภา

 

ใต้แสงกระจ่างบริสุทธิ์นั้นมีรังสีพลังอันเกรี้ยวกราดที่ทำให้ทุกคนตัวสั่น!

 

ปลายธนูเปล่งประกายแสงอันเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง มันเย็นจนซึมลึกไปถึงกระดูก…ลึกไปถึงกระทั่งวิญญาณ!

 

ทั้งชั้นใต้ดินสั่นไหว กำแพงศิลาแตกร้าว ราวกับลูกธนูนั้นต้องการจะทำลายทุกสิ่งในโ,ก!

 

พลังอันไร้ขอบเขตเช่นนี้สังหารมนุษยชาติได้สิ้น พูดได้เลยว่าไร้เทียมทาน!

 

โฮก—-

 

ในตอนนี้ สัตว์อสูรดุร้ายที่ดื้อด้านทำลายประตูเหล็กมาครึ่งเดือนได้กรีดร้องและครางด้วยความกลัว

 

เสียงฝีเท้าดังขึ้น สัตว์อสูรตัวนั้นกำลังรีบหนี

 

ฟึ่บ–

 

ลูกธนูลวงหายไปในพริบตา มันกลับสู่ธนูเงินอีกครั้ง

 

ฮั่วฉีหลานกับฉีหยุนเซี่ยงยากจะเข้าใจในสิ่งที่ได้เห็น แต่ซือหยูนั้นใจสั่น

 

หยุนย่าสีเคยพูดว่าธนูเงินนี้เองเป็นเพียงเปลบือกนอกและยังมีความลับอื่นอยู่ในธนูนี้!

 

หรือว่าจะเป็นธนูลวงนั่น?

 

“ท่านอาจารย์ ความลับในธนูนี่คือสิ่งใดกัน?”

 

ซือหยูถาม

 

หยุนย่าสีในกล่องหยกหัวเราะ

 

“ฮ่าๆๆๆ เจ้านี่มันโชคดีจริงๆ เจ้าได้สมบัติของจริงมาแล้ว”

 

“ถ้าข้าเดาไม่ผิด ธนูมังกรฟ้าดินไม่ได้ไร้ลูกธนู แต่มันมีลูกธนูที่ผนึกเอาไว้ในธนูจากเจ้าของธนูคนก่อน! ธนูจะได้รับการปลดปล่อยเมื่อมันถูกชำระไปแล้วครึ่งส่วน!”

 

“แล้วลูกธนูเงินนั่นก็มีระดับสูงกว่าตัวธนูเองเสียอีก!”

 

หยุนย่าสีหัวเราะ

 

ซือหยูใจเต้นแรง

 

“มันระดับสูงกว่าเท่าใดกันรึ?”

 

หยุนย่าสียิ้มอย่างมีเลศนัย

 

“ในใจเจ้าคงคิดว่ามันระดับสูงกว่ามากสินะ อย่างน้อยก็ไม่ได้ระดับต่ำกว่าหอกพังทลายของเจ้าตำหนักหลิงหรอก”

 

อะไรนะ? ซือหยูตกใจมาก!

 

ระดับของลูกธนูนั้นเทียบได้กับสมบัติแห่งอาณาจักรเชียวรึ?

 

ในวันนั้น สมบัติเทพของเจ้าตำหนักหลิงได้แสดงพลังทำลายล้างมหาศาลออกมา ซือหยูไม่มีวันลืมพลังที่สังหารผู้ตรวจการไป่ฮีได้อย่างง่ายดายนั้นเลย

 

นี่มาถึงวันที่เขาได้ครอบครองอาวุธที่น่ากลัวเช่นนั้นแล้วรึ?

 

“ฮ่าๆๆ เจ้าคิดหาทางเอาหยดหมื่นพลออกมาให้ได้ ปลดปล่อยลูกธนูเงิน จากนั้นมันจะเป็นไพ่ตายของเจ้า! แม้แต่วิชาระดับตำนานของเจ้าก็เทียบมันไม่ได้”

 

ซือหยูตกใจมากและมิอาจใจเย็นลง แม้จะผ่านไปนานก็ตาม

 

สมบัติเทพที่เทียบเท่ากับสมบัติเทพของตำหนักถูกผนึกอยู่ในธนูคันนี้!

 

เขาจะต้องหาทางเอาหยดหมื่นพลสิบหยดมาให้ได้!

 

ส่วนลึกในแววตาของซือหยูเปล่งประกายอันเฉียบคม