ตอนที่ 328

The Divine Nine Dragon Cauldron

พลังธนูเงิน

“เจ้าควรพักอยู่ตรงนั้นแหละ เจ้าไม่ได้ขยับตัวมาครึ่งเดือนแล้ว ไม่แปลกที่ตัวเจ้าจะแข็งอย่างนั้น!”

 

ฮั่วฉีหลานพูด

 

พวกนางได้ฝึกจิตใจสำเร็จในสองถึงสามวัน มีแค่ซือหยูที่ใช้เวลาไปตลอดทั้งครึ่งเดือน

 

ยิ่งจิตใจซับซ้อนเท่าใด การเพิ่มพลังจิตใจก็จะยิ่งกินเวลายาวนาน

 

พวกนางไม่เข้าใจว่าความทรงจำหนักหนาแบบใดที่อยูในจิตใจของซือหยู

 

ครึ่งเดือนรึ? สองความทรงจำสั้นๆนั้นกินเวลาเขาไปครึ่งเดือนเชียวรึ?

 

ในตอนนี้ ความโศกเศร้าได้ฝังลึกในใจของซือหยู

 

เขาฟื้นฟูร่างกายโดยการปล่อยพลังวิญญาณให้ไหลเวียนทั่วร่าง เขาตกใจมากที่พบว่าฐานพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นหลายขั้น!

 

เขาได้กลายเป็นอำมฤตระดับสองขั้นกลางจากอำมฤตระดับหนึ่งขั้นสูง!

 

ผลของมันแทบจะเทียบไม่ได้กับโอสถชะตาวิญญาณ!

 

เขามองฮั่วฉีหลานที่ได้เป็นอำมฤตระดับสามขั้นกลางจากขั้นต้นและฉีหยุนเซี่ยงที่ได้เป็นมังกรระดับเจ็ดขั้นกลางจากระดับห้าขั้นกลาง นางได้เพิ่มพลังมาสองระดับ พลังของนางเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด!

 

แม้ซือหยูจะไม่เคยเจอแบบฉีหยุนเซี่ยง ในการที่ฐานพลังเพิ่มขึ้นมหาศาลอย่างนั้น

 

ทั้งสามได้รับประโยชน์อย่างมากจากจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้น

 

ในตอนนี้ ซือหยูพยายามจะค้นคว้าอรหันต์แปดอักษรและโอรสสวรรค์จ้องนภา เขาพบว่าส่วนที่ยากที่เข้าใจในอดีตได้เรียบง่ายและชัดเจนขึ้น

 

ม่านกั้นขวางที่บดบังเส้นทางของเขามานานที่สุดกำลังจะพังทลายลง

 

เขาจะสำเร็จพลังได้ด้วยเวลาอีกเล็กน้อย

 

ครืน—-

 

โฮก—-

 

แต่ในตอนนั้นเอง ทั้งชั้นใต้ดินสั่นไหวอย่างรุนแรง

 

ฮั่วฉีหลานใบหน้าเป็นกังวล

 

“บัดซบ มันมาที่นี่อีกแล้วรึ?”

 

ซือหยูสีหน้าหม่นหมอง

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

ฉีหยุนเซี่ยงหน้าซีด

 

“พวกสัตว์อสูรน่ะสิ! พวกมันมารวมตัวกันตั้งแต่ห้าวันแรกที่เราเข้ามา พวกนั้นพยายามจะพังประตูเหล็กเข้ามาที่นี่ พวกนั้นโจมตีเรามาตลอดสิบวันแล้ว”

 

“คลื่นสัตว์อสูรรึ?”

 

ซือหยูเบิกตากว้าง

 

เมื่อพวกเขามาที่นี่ เจ้าตำหนักหลิงบอกว่ากำลังจะเกิดคลื่นสัตว์อสูร

 

แต่คาดไม่ถึงว่ามันจะมาก่อนหน้าหนึ่งเดือน!

 

พวกเขาในตอนนี้อยู่ที่ชายแดนของป่าทมิฬ

 

ถ้าหากมีสัตว์อสูรที่นี่ นั่นก็หมายความว่าเมืองอันยี่ถูกสัตว์อสูรเข้าจู่โจมไปแล้ว!

 

“สัตว์อสูรที่จู่โจมพวกเราไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดา รองเจ้าตำหนักลำดับสามเคยพยายามโจมตีประตูเหล็กนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ประตูไม่ขยับแม้แต่น้อย แต่สัตว์อสูรตัวนี้ทำให้สั่นได้ทั้งชั้น!”

 

ฮั่วฉีหลานใบหน้าเคร่งเครียด

 

ซือหยูถามทันที

 

“รองเจ้าตำหนักลำดับสามรึ? ฐานพลังเขาเท่าใดกัน?”

 

อังฟางที่เป็นลำดับสี่เป็นอำมฤตระดับสามขั้นต้น ถ้าเช่นนั้น ระดับสามก็…

 

“ระดับสามขั้นสูง!”

 

ฮั่วฉีหลานเน้นย้ำทุกุถ้อยคำ

 

ซือหยูตกตะลึง เขาอ้าปากค้าง

 

“นั่นไม่เท่ากับว่าสัตว์อสูรที่โจมตีเราอาจจะเป็นระดับสี่หรอกรึ?”

 

อำมฤตระดับสี่ ด้วยพลังมหาศาลเช่นนี้ ชะตาของพวกเขาคงไม่รอดพ้นไปจากความตาย

 

แม้ทั้งสามจะรวมพลังกัน พวกเขาก็ทำให้ขนสักเส้นของมันขาดไม่ได้!

 

ครืน—-

 

สัตว์อสูรตัวนั้นโจมตีอย่างต่อเนื่อง ชั้นใต้ดินสั่นทุกครั้งที่มันโจมตี

 

“เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ประตูเหล็กจะทนได้อีกแค่ห้าวันเท่านั้น! หลังจากนั้นก็จะไม่มีอะไรขวางระหว่างเรากับมัน!”

 

ฮั่วฉีหลานแววตาหมองหม่น

 

แม้ฮั่วฉีหลานกับฉีหยุนเซี่ยงจะไม่พูดอะไร ซือหยูก็เข้าใจดีว่าเขาเป็นคนทำให้พวกนางตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

 

ถ้าพวกนางออกไปเร็วกว่านี้ พวกนางจะถูกสัตว์อสูรมาขวางดังเช่นในตอนนี้รึ? นั่นก็เพราะว่าพวกนางรอซือหยูจนต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้

 

“ขอเวลาข้าสักหน่อย”

 

ซือหยูนั่งลง เขาเร่งใช้ความคิด

 

แผนเดียวในตอนนี้คือการเพิ่มพลังในการต่อสู้ นี่คือหนทางเดียวที่จะจัดการกับสัตว์อสูรขอบเขตอำมฤตระดับสี่ได้

 

ในด้านวิชาบ่มเพาะ ซือหยูไม่มั่นใจว่าจะบ่มเพาะอรหันต์แปดอักษรจนถึงขั้นต้นได้ในแค่ห้าวัน

 

แม้หากโอรสสวรรค์จ้องนภาจะทะลวงระดับหนึ่งขั้นสูง มันก็อาจจะยังไม่พอกับสัตว์อสูรระดับสี่เช่นนี้

 

ฎีกาสวรรค์ยิ่งยากนัก…เขาไม่รู้อะไรเลย

 

ทางเดียวเท่านั้นคือต้องเพิ่มพลังการต่อสู้!

 

ซือหยูครุ่นคิด แสงสว่างประกายในมือ ธนูเงินปลดปล่อยออกมาจนพื้นสั่น

 

ราวกับภูเขาลูกยักษ์ตกใส่ที่นี่

 

ฮั่วฉีหลานกับฉีหยุนเซี่ยงตกใจ พวกนางหันมามองด้วยความตกใจ

 

“ธนูมังกรฟ้าดินรึ? เจ้าไม่ได้เอามันไปไว้ที่อื่นหรอกรึ? มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน?”

 

ซือหยูไม่มีเวลาตอบคำถาม เขาคว้าธนูขึ้นมา

 

ฐานพลังของเขาในตอนนี้คืออำมฤตระดับสองขั้นกลาง แต่ก็ต้องลงแรงอย่างมากในการยกธนู

 

เขายกมันได้หลังจากที่รวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดออกมาเท่านั้น

 

“พวกเราต้องหวังพึ่งสิ่งนี้”

 

ซือหยูพูดอย่างเคร่งเครียด เขาปักปลายคันธนูไว้กับพื้นและใช้มือขวาดึงสายธนู

 

ธนูคันนี้ไม่ต้องใช้ลูกธนู ผู้ใช้เพียงแค่ต้องส่งพลังวิญญาณออกมาสร้างลูกธนู พลังของมันนั้นยังมิอาจทราบได้

 

เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นสมบัติเทพระดับกลางที่เหล่าขุมกำลังต้องการ พลังของมันจะต้องไม่อ่อนแอจนเกินไป

 

แต่เมื่อซือหยูดึงสายธนู สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

 

เขาใช้พลังวิญญาณทั้งหมดรวบรวมมาที่ฝ่ามือ แต่ก็ยังขยับสายธนูไม่ได้แม้แต่นิดเดียว!

 

ราวกับกำลังดึงภูเขาลูกยักษ์

 

ซือหยูที่ตกใจอย่างหนักยอมแพ้ เขายื่นธนูให้กับฮั่วฉีหลาน

 

“เจ้าลองดูหน่อย”

 

ฮั่วฉีหลานเป็นอำมฤตระดับสามขั้นกลาง อาจจะมีโอกาสที่จะทำได้ด้วยฐานพลังนั้น

 

ฮั่วฉีหลานตื่นเต้นอย่างออกหน้าออกตา นางพยักหน้า

 

“หึหึ ศิษย์น้องผู้น่าสงสารเอ๋ย เจ้าใช้สมบัติของตัวเองยังไม่ได้เลย ดูข้าเป็นตัวอย่างซะ!”

 

คงจะเป็นเรื่องโกหก ถ้านางพูดว่านางไม่สนใจในสมบัติเทพระดับกลาง

 

นางใช้พลังวิญญาณหนึ่งในสิบส่วนคว้าธนูมาไว้ในมือ แม้มันจะต้องลงแรงเล็กน้อย นางก็ไม่ได้ถือมันอย่างยากลำบากนัก

 

ความต่างมหาศาลของพลังวิญญาณระหว่างขอบเขตอำมฤตระดับสองกับระดับสามนั้นราวฟ้ากับเหว

 

แค่หนึ่งในสิบส่วนพลังวิญญาณนางก็เท่ากับพลังวิญญาณทั้งหมดของซือหยูแล้ว

 

ถ้าไม่ใช่เพราะซือหยูมีวิชาระดับตำนานเขาก็คงจะตายไปแล้ว ตอนที่เขาต่อสู้กับเหล่าอำมฤตระดับสาม

 

ฮั่วฉีหลานแตะสายธนูและออกแรงเล็กน้อย

 

นางเลิกคิ้ว…สายธนูไม่ขยับเขยื้อน

 

นางคิดหนักก่อนจะใช้พลังวิญญาณออกมาสามในสิบส่วน เทียบเท่ากับซือหยูสามคนดึงสายธนู

 

แต่สายธนูก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย

 

ฮั่วฉีหลานสีหน้าเคร่งเครียด

 

ตู้ม–

 

นางปล่อยพลังวิญญาณมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า นางใช้พลังวิญญาณหกในสิบส่วน!

 

แต่สายธนูก็กลับนิ่งไร้การไหวติงอย่างน่าตกใจ!

 

ใบหูของฮั่วฉีหลานแดงก่ำ นางกัดฟันและไม่คิดจะยอมแพ้ นางใช้พลังวิญญาณทั้งหมดที่มี

 

“ขยับสิ!”

 

พลังวิญญาณในตอนนี้เท่ากับซือหยูสิบคนที่กำลังดึงธนู!

 

เพี๊ยะ–

 

สายธนูส่งเสียงดังเบาๆ

 

มีคลื่นพลังออกมาจากสายธนู มันถูกดึงออกมาในระยะไม่ถึงหนึ่งนิ้ว!

 

หากไม่มองใกล้ๆก็ไม่รู้เลยว่าสายธนูถูกดึงรั้ง

 

นางดึงสายธนูได้สำเร็จแต่ก็ได้ระยะเพียงน้อยนิด!

 

ฮั่วฉีหลานประหลาดใจมาก

 

“สายธนูนี่มันอะไรกัน? ข้าดึงมันมาไม่ได้ด้วยซ้ำ!”

 

ด้วยพลังเต็มที่ของนาง นางทำได้แค่ดึงสายธนูเพียงเล็กน้อย ยากที่นางจะยอมรับได้

 

นางปล่อยนิ้วอย่างไม่เต็มใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

 

แต่ในตอนนั้นเอง สายธนูที่กลับมาอยู่ในที่เดิมก็ได้ปล่อยคลื่นพลังออกมา!

 

ครืน—

 

พลังที่ไม่ต่ำไปกว่าอำมฤตระดับสองขั้นกลางพุ่งตรงไปยังกำแพงที่อยู่ด้านตรงข้าม

 

เกิดรูกว้างบนกำแพงของชั้นใต้ดินที่ถูกยิงออกไป

 

ฉีหยุนเซี่ยงตกใจ

 

“พลังน่ากลัวนัก ดึงมาได้แค่นั้นก็มีพลังขนาดนี้เชียวรึ? ถ้าเกิดดึงมันมาได้ทั้งหมดล่ะก็….”

 

ซือหยูกับฮั่วฉีหลานจ้องมองกำแพงที่อยู่ตรงข้ามด้วยความตกตะลึง

 

นี่คือพลังของสมบัติเทพระดับกลางรึ?