ตอนที่ 229 แจ้งความ

พ่อหยางจ้องลูกชายตัวเองที่ยังไม่โต้ตอบกลับมา “เสี่ยวหลาง! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!”

ความหวังของพ่อหยางอยู่ที่หยางหลางทั้งหมด แต่ในเวลานี้กลับต้องมาเจอลูกชายของตัวเองในสภาพแบบนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจจนสติแทบจะหลุดออกจากร่าง

แม่หยางยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแต่หลังจากที่เธอเริ่มได้สติแล้วเธอก็หันไปหานางพยาบาลข้างๆ “ลูกชายของฉันเป็นอะไรกันแน่คะ? หรือว่าเขาจะหัวใจวาย?”

นางพยาบาลเห็นหยางหลางนั่งเหม่อลอยแถมยังไม่มีการโต้ตอบกลับมาเธอเองก็แปลกใจเช่นเดียวกัน เพราะเธอจำได้ว่าเมื่อสักครู่หมอที่ดูอาการของเขาบอกว่าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร หรือคนไข้คนนี้จะเป็นโรคประสาท? แต่ดูจากพ่อแม่ของเขาแล้วดูเหมือนว่าน่าจะไม่ใช่ เธอจึงยื่นแก้วน้ำให้พ่อของหยางหลางก่อนที่จะพูด “ลองสาดน้ำดูสิคะ”

 

พ่อหยางรับน้ำมาก่อนที่จะลูบแก้วเพื่อดูอุณหภูมิของน้ำแต่หลังจากที่เห็นว่าน้ำในแก้วเย็นมาก เขาก็เกิดอาการลังเลขึ้นมาแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจสาดใส่ลูกชายของตัวเอง

หลังจากที่น้ำถูกสาดใส่หน้าของเขาจนเปียกชุ่มไปทั้งตัว หยางหลางก็สะดุ้งขึ้นมาในทันที

ทันทีที่เขาเห็นพ่อกับแม่ตัวเองเขาก็พูดขึ้นมา “พ่อ! แม่!”

เพี๊ยะ! ทันใดนั้นพ่อหยางก็ตบไปที่หน้าของลูกชายตัวเองอีกครั้ง “แกทำบ้าอะไรของแกห๊ะ! ทำไมแกถึงกลายเป็นสภาพแบบนี้!”

หยางหลางมองพ่อด้วยท่าทางตกตะลึงก่อนที่จะพูดด้วยสีหน้าหดหู่ “พ่อ! หลานเยว่ขโมยเงินของผมไปหมดเลย”

 

พ่อหยางช็อคไปในทันที เพราะเขารู้ดีว่าหยางหลางขายบ้านไปแล้วแถมเขายังมีเงินอยู่ในมือไม่น้อย ช่วงนี้เป็นเพราะพ่อหยางต้องการเงินจากหยางโป พ่อหยางจึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่ทันทีที่ได้ยินว่าเงินของลูกชายหายไปจนหมดเกลี้ยง เขาก็เกิดอาการช็อกขึ้นมาในทันที

“เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน? นั่นแฟนแกไม่ใช่เหรอ? เงินนั่นอาจจะเป็นเงินที่แกให้แฟนแกไปรึเปล่า?” พ่อหยางยังคงไม่เชื่อ

“พ่อ! นั่นมันเงินล้านหยวนเลยนะ เงินล้านหยวนที่ได้มาจากการขายบ้านนั่นโดนหลานเยว่ขโมยไปหมดแล้ว เธอใช้อินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งโอนเงินจากบัตรไปจนหมดเกลี้ยงเลย!”

 

พ่อหยางรู้สึกเลือดขึ้นหน้าในทันทีก่อนที่จะรู้สึกภาพตรงหน้าดับวูบไป เงินล้านหยวนนั้นเป็นเงินที่เขาอุตส่าห์บากหน้าไปขอหยางโป และถ้าไม่ใช่เพราะเงินล้านหยวนนี่เขากับหยางโปคงจะไม่เป็นแบบนี้

“พ่อ!” หยางโปเห็นพ่อของตัวเองเป็นลมไปที่พื้นเขาก็รีบลงจากเตียงไปประคองพ่อของเขาทันที

เป็นเพราะการช่วยเหลือของพยาบาลจึงทำให้พ่อหยางถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทันทีที่พ่อหยางตื่นขึ้นสิ่งแรกที่เขาทำคือรีบพูดขึ้นมาด้วยความโมโหว่า “จะยืนเซ่อทำบ้าอะไรของแก! รีบไปแจ้งความเซ่!”

“ครับๆ” หยางหลางตอบกลับมาก่อนที่จะรีบไปโทรแจ้งความทันที

 

เพียงไม่นานตำรวจก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาล หยางหลางเล่าเรื่องทุกอย่างตั้งแต่เจอกันครั้งแรกจนถึงวันที่เจอกันล่าสุดให้กับตำรวจฟังต่อหน้าพ่อแม่ของเขาด้วย

ทันทีที่พ่อหยางได้ยินสิ่งที่ลูกชายของตัวเองเล่าให้ตำรวจฟังเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่าหยางหลางจะเจอกับหลานเยว่ในสถานที่ที่ดีกว่านี้แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่าเขาสองคนจะไปเจอกันที่ร้านเหล้า! แถมที่สำคัญไปกว่านั้นคือตอนที่หยางหลางพาหลานเยว่กลับมาก็ประกาศว่าหลานเยว่คือแฟนของเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าลูกชายของเขาจะไม่ได้รู้จักอีกฝ่ายดีเท่าที่ควร!

ตำรวจถามเขา “ก่อนหน้านี้หลังจากที่คุณขายบ้านไปได้มีเหตุการณ์อื่นๆอีกไหมครับ อย่างเช่นเคยมีการเขียนหนังสือหรืออาจจะเป็นการสัญญาปากเปล่าว่าจะยกเงินให้กับอีกฝ่าย?”

 

พ่อหยางที่นั่งอยู่ข้างๆพูดขึ้นด้วยความโมโห “มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน! หยางหลางไม่ใช่คนโง่ซะหน่อย เขาจะทำแบบนั้นได้ยังไง!”

ตำรวจยังคงจ้องหยางหลางโดยไม่คิดที่จะสนใจคำพูดของพ่อหยาง

หยางหลางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหันมาพูดกับตำรวจว่า “ผมเคยให้เงินเธอไปห้าแสนครับ…”

พ่อหยางที่นั่งอยู่ข้างๆชะงักไปในทันที ก่อนหน้านี้เขาจำได้ดีว่าหยางหลางพูดว่าให้เอาเงินทั้งหมดที่มีไปไว้ที่เขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากขายบ้านไปแล้วหยางหลางจะเอาเงินครึ่งนึงไปให้กับผู้หญิงคนนั้น!

“นางมาร! นางจิ้งจอก! ต้องเป็นเพราะยัยผู้หญิงเจ้าเล่ห์นั่นที่หลอกลูกชายของฉัน หลอกให้เขาเชื่อใจแล้วก็ขโมยของทั้งหมดของพวกเราไปจนหมด คุณตำรวจต้องช่วยพวกเราให้ได้นะ!” พ่อหยางพูด

 

ตำรวจพยักหน้าพร้อมกับถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด อันที่จริงเขาเองก็เข้าใจเรื่องนี้ดี ถึงแม้ว่าหยางหลางจะถูกหลอกแต่เขาเองก็น่าจะต้องมีขีดจำกัดด้วย การที่เขาประมาทแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะถูกอีกฝ่ายหลอก

“โอเคครับ ผมลงบันทึกประจำวันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” ตำรวจพูดขึ้นพร้อมกับปิดสมุดลง

หยางหลางรีบลุกขึ้น “คุณตำรวจครับ เงินพวกนั้นจะได้คืนเมื่อไหร่ครับ? คุณดูสิครับตอนนี้พ่อของผมก็อยู่ที่โรงพยาบาล เงินค่ารักษาก็ไม่มี ถ้าปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นหนีไปได้ โรคที่พ่อป่วยจะรักษาต่อยังไงล่ะครับ?”

พ่อของหยางโปที่กำลังโมโหอยู่แต่ทันทีที่ได้ยินหยางหลางพูดแบบนั้นจู่ๆเขาก็ซาบซึ้งใจจนน้ำหูน้ำตาไหลออกมา “ฮือ ในที่สุดลูกชายของฉันก็โตสักที ในที่สุดก็เข้าใจความลำบากของครอบครัว”

 

ตำรวจหันไปมองพ่อหยางด้วยความแปลกใจก่อนที่จะหันมาหาหยางหลาง “แล้วก่อนหน้านี้คุณไปทำอะไรมา? การป้องกันไว้ดีกว่าแก้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด! ตอนที่คุณไปรู้จักกับเขาที่ร้านเหล้าทำไมคุณถึงไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้ ตอนที่คุณคุยกันคุณไม่มีสัญชาตญาณบอกคุณเลยเหรอ? “

พูดจบตำรวจก็ทิ้งท้ายไว้ว่า “รอไปก่อนเถอะครับ จากการตัดสินของผมผมคิดว่าคนๆนี้น่าจะเป็นสิบแปดมงกุฎที่ค่อนข้างชำนาญและมีโอกาสว่าหลังจากได้เงินไปเธอน่าจะเอาไปทำศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนใบหน้าใหม่และหลังจากนี้หากคุณเจอเธอไม่แน่คุณอาจจะจำเธอไม่ได้แล้วก็ได้”

หยางหลางชะงักไปในทันทีพร้อมกับมองหน้าตำรวจราวกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง? เธอไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก!”

 

ตำรวจหันมามองเขา “รูปคดีแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก มีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูกหลอกแต่ไม่เชื่อว่าตัวเองถูกหลอก คุณเองก็ไม่เคยเห็นแม้แต่บัตรประชาชนของอีกฝ่ายด้วยถูกต้องไหมครับ? พวกสิบแปดมงกุฎเหล่านี้ต่างก็ต้องผ่านการทำศัลยกรรมมาก่อนทั้งนั้น บางคนก็อาจจะปลอมแปลงตัวเองจากผู้ชายแล้วแต่งให้กลายเป็นหญิงก็มี มีคนที่ถูกหลอกส่วนหนึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่หลอกพวกเขาเป็นผู้ชาย!”

พูดจบตำรวจคนนั้นก็เดินออกไปทิ้งไว้ให้หยางหลางยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น เมื่อเขานึกถึงสัดส่วนรูปร่างที่เพรียวบางและใบหน้าที่สวยงามของเธอที่เกิดขึ้นมาเพราะการศัลยกรรมแต่แท้จริงซ่อนความอัปลักษณ์ของเธอเอาไว้ หยางหลางก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาในทันที

 

พ่อหยางหันมาหาหยางหลางด้วยสีหน้าแปลกๆ “เสี่ยวหลาง แกแน่ใจใช่ไหมว่าหลานเยว่เป็นผู้หญิง?”

“พ่อ เธอเป็นผู้หญิงจริงๆนะ” หยางหลางตอบกลับไปแต่ในใจของเขาก็ยังสงสัยแถมเขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาในเวลานี้ขนลุกไปหมด ตอนนี้เองที่เขาย้อนนึกกลับไปตอนที่นั่งอยู่บนเครื่องบินตอนที่กำลังไปปักกิ่ง หลานเยว่เองก็เหมือนว่าจะตอบคำถามคนตรวจและเคาเตอร์ที่ออกบัตรโดยสารด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนั้นหลานเยว่เอาแต่แอบบัตรประชาชนของเธอเอาไว้เขาจึงมองไม่เห็นรายละเอียดบนนั้น

ทันทีที่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาหยางหลางก็หน้าเจื่อนไปในทันที แม้แต่ความสุขที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็หายไปเช่นเดียวกัน และมันก็ไม่เหลือความทรงจำที่สวยงามในสมองของเขาอีกเลย

 

พ่อหยางมองลูกชายตัวเองด้วยความสงสัย และเขาเองก็หวังว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นให้กลายเป็นเรื่องดีได้ แต่ตอนนี้ถึงเขาจะเปลี่ยนไปแล้วแต่ครอบครัวของพวกเขาก็แทบไม่เหลืออะไรเลย

“ไป! โทรหาหยางโปซะ ให้หมอนั่นโอนเงินมาให้พวกเรา!” พ่อหยางพูด