เพื่อเข้าร่วมสมาคมคนรักถังหนิงต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆ นี้ไม่ได้มีสมาชิกใหม่ ดังนั้นการสืบโดยละเอียดจึงสันนิษฐานว่าจริงๆ แล้วข้อมูลคงหลุดออกมาผ่านแฟนคลับ
หลงเจี่ยติดต่อหัวหน้าสมาคมเพื่อสอบถามเป็นการส่วนตัว
เธอได้คำตอบบางส่วนมาจากหัวหน้าแฟนคลับ
“หลงเจี่ยฉันเป็นหัวหน้าสมาคมมานาน ทุกครั้งที่มีการขอให้รักษาเป็นความลับ คนในกลุ่มก็เก็บความลับได้ตลอด ฉันเลยไม่คิดว่าจะมีอะไรหลุดไปจากเราหรอก ยังไงสมาคมนี้ก็เกิดจากแฟนๆ ที่เหนียวแน่นมานานหลายปี พวกเขาแยกแยะถูกผิดได้อยู่แล้วล่ะค่ะ…
…ดังนั้นถ้าจะมีบางอย่างหลุดไปจากทางเราจริงๆ ต้องมีใครบางคนแฝงตัวเข้ามาในหมู่พวกเราแน่ค่ะ”
“เราจะสืบเรื่องนี้อย่างรีบร้อนไม่ได้ ยังไงก็เฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของสมาชิกเอาไว้แล้วดูว่ามีอะไรผิดปกติบ้างไหม เราสืบด้วยวิธีแบบนั้นได้ค่ะ” หลงเจี่ยเอ่ยกับหัวหน้าสมาคม
“ผิดปกติแบบไหนล่ะคะ”
“อย่างเช่นอยู่ดีๆ ก็ทำตัวไม่เหมือนเดิม หรือบางทีถ้าพวกเขาออนไลน์ในช่วงเวลาที่ปกติไม่ทำ หรือเงียบผิดปกติทั้งที่แต่ก่อนพูดมากน่ะค่ะ ถ้าคุณเจอคนอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งทำให้อะไรบุ่มบ่ามไปนะคะ เราแค่ต้องระวังเอาไว้เท่านั้น” หลงเจี่ยเอ่ยแจง
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ หลงเจี่ย ถ้ามีคนอยากทำร้ายหนิงของฉันและใช้สมาคมเป็นเครื่องมือ ฉันจะไม่ปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ เด็ดขาด! จะชั่วช้าเกินไปแล้ว!”
“ขอโทษที่ต้องรบกวนคุณด้วยนะคะ” หลงเจี่ยอกจากระบบไปหลังจากคุยกับหัวหน้าสมาคมเสร็จ เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอให้คนร้ายเปิดเผยตัวเองออกมา
“ถึงครั้งนี้หันซิวเช่อจะช่วยคุณไว้ แต่เราก็ยังเลี่ยงการลอบกัดของเขาไม่ได้นะคะ!”
หลังจากได้ยินดังนั้น ถังหนิงหลุดหัวเราะออกมา “เธอคิดว่าเราต้องเป็นห่วงเรื่องหันซิวเช่ออย่างเดียวเหรอ ทำไมเธอไม่ไปลองดูว่ามีหนังต่างชาติเรื่องไหนที่กำลังจะปล่อยออกมาในปีนี้บ้าง พอถึงเวลาน่าจะมีการแสดงเด็ดๆ อีกนั่นแหละ”
ภาพยนตร์ไซไฟเรื่องอื่นๆ ขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์ภายนอกกับแฟนๆ ใครจะจริงจังได้เท่าถังหนิงอีกเล่า
ภาพยนตร์ในตลาดในประเทศสนใจแค่เพียงยอดผู้เข้าชมเท่านั้น เมื่อพูดถึงเรื่องเทคนิคพิเศษและกระบวนการหลังการถ่ายทำ พวกเขาเพียงแค่ทำไปผ่านๆ เพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุด ทว่าการเข้ามาของถังหนิงได้กลายเป็นความเปลี่ยนแปลงสำหรับพวกเขา สำหรับผู้สร้างที่มักจะเลือกใช้เส้นทางที่ง่าย นี่ถือเป็นสัญญาณเตือนที่เหมาะสมแก่เวลาแล้ว
หากแต่การยืนขวางเส้นทางการทำเงินของใครบางคนนั้นแย่พอๆ กับการฆ่าคนที่พวกเขารัก!
“โอเค ถ้าเราต้องเจอกับสถานการณ์อย่างนั้น เราจะทำอะไรได้ล่ะ เราไม่มีทางเลือกนอกจากหลีกเลี่ยงนี่นา! อีกอย่างฉันก็เชื่อใจคุณนะคะ” หลงเจี่ยเอ่ยขณะที่ไหวไหล่
เพราะว่าตัวอย่างภาพยนตร์ตัวแรกถูกปล่อยไป จึงเป็นอีกครั้งที่ภาพยนตร์ของถังหนิงก้าวขึ้นไปอยู่ในรายการภาพยนตร์ที่น่าจับตามอง
ในระหว่างที่ทุกคนชื่นชมการตัดต่อและเทคนิคพิเศษ พวกเขายังสนใจเรื่องที่โม่ถิงเป็นนักแสดงนำชายอีกด้วย
แน่นอนว่าตอนนี้เธอได้ประกาศฉายภาพยนตร์ของเธอแล้ว ถึงเวลาที่ถังหนิงต้องยุติสถานะด้อยค่าของเธอ ได้เวลาที่เธอจะปรากฏตัวในวงการบันเทิงอีกครั้งด้วยตัวตนใหม่ ถึงอย่างไรเธอเองก็รับปากว่าเธอจะกลับมา
ดังนั้นเธอจึงจะเข้าไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ครั้งล่าสุด
นี่เป็นการตัดสินใจของโม่ถิงเช่นกัน มดราชินี กำลังดำเนินการตามแผนการตลาดอย่างที่ควรจะเป็น ถัง
หนิงจึงให้ตอบรับและไปปรากฏตัวในทุกงานที่เชิญให้เธอเข้าร่วม
‘ถังหนิงเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ปักกิ่ง!’
‘การกลับมาอย่างฮือฮาของถังหนิงกับมดราชินี’
‘ถังหนิงกลับมาหลังจากหนึ่งปี ครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอีกหรือไม่’
ถังหนิงปรากฏตัวที่ส่วนรับรองของไห่รุ่ยหลังจากหายหน้าไปกว่าหนึ่งปี เป็นครั้งแรกที่เธอมาให้พนักงานของไห่รุ่ยเห็นนับตั้งแต่ประกาศถอนตัวจากวงการบันเทิงและลาออกจากไห่รุ่ย ทว่าคนที่ไห่รุ่ยยังคงนับถือเธอเช่นเคย เพราะในใจพวกเขานั้นนึกเคารพเธอมากพอๆ กับที่ชื่นชมในตัวโม่ถิง
“สวัสดีค่ะ พี่หนิง!”
“อรุณสวัสดิ์นะครับ พี่หนิง!”
“มาประชุมที่นี่เหรอคะ พี่หนิง”
ถูกของพวกเขา ถังหนิงมาที่ไห่รุ่ยเพื่อประชุมเรื่องการทดลองฉาย มดราชินี ต่อให้เธอจะไม่ได้เป็นศิลปินสังกัดไห่รุ่ยอีกต่อไปแล้ว การตลาดของ มดราชินี ก็ยังคงถูกจัดการโดยไห่รุ่ย เธอจึงมาที่นี่ในฐานะผู้ประสานงาน
ฟังอวี้ไม่ได้เจอถังหนิงมานานเช่นกัน ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขณะที่เอ่ยกับเธอ “ครั้งนี้คณะกรรมการบริหารเป็นฝ่ายที่ขอจะร่วมงานกับคุณเองเลยนะ เห็นชัดว่าทุกคนดูออกว่า มดราชินี ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย ผมว่าต่อไปนี้ประธานโม่คงทำอะไรตามใจเขาได้แล้ว พวกเขาคงไม่ทักท้วงอะไรแล้วล่ะ
“ผมเลยคิดว่าคำที่บอกกันว่า คนที่ชนะใจคนได้ย่อมครองโลกได้ เหมาะกับคุณที่สุดแล้วครับ”
“จิงจิงเป็นยังไงบ้างล่ะคะ” ถังหนิงตอบรับพร้อมเสียงหัวเราะ “เราไม่ได้เจอกันมานานแล้วนะ”
“เดี๋ยวผมจะพาเธอไปที่งานทดลองฉายของ มดราชินี นะครับ” ฟังอวี้รับปากขณะที่พยักหน้าให้ “ทันทีที่เธอรู้ว่าหนังของคุณกำลังจะปล่อยออกมา เธอเซ้าซี้ข้างหูผมไม่หยุดเลยนะครับ”
ถังหนิงอยากจะคุยให้นานกว่านี้ แต่โม่ถิงกับลู่เช่อเดินตรงเข้าไปในห้องประชุมแล้ว ตอนนั้นเองโม่ถิงได้สลัดตัวตนในฐานะสามีของถังหนิง กลายเป็นผู้มีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจของไห่รุ่ย
“ประธานโม่เข้มงวดมาก…ดูท่าทางจริงจังของเขาสิครับ!”
“ปกติเขาเป็นอย่างนี้กับพวกคุณเหรอคะ” ถังหนิงเย้าแหย่
“ทำไมเขาต้องทำให้เรากลัวขนาดนี้ด้วยล่ะเนี่ย”
“แต่ฉันว่าเขาเป็นอย่างนี้ก็มีเสน่ห์ดีออกนะคะ! ฉันล่ะชอบจังเลย!”
ดูท่าแล้วความหลงใหลในตัวโม่ถิงของถังหนิงจะยังไม่ลดลงไปแม้แต่น้อย ความจริงแล้วเธอเองก็ไม่ค่อยได้เห็นด้านที่จริงจังของเขาได้บ่อยนัก หลังจากคุ้นเคยกับด้านที่อ่อนโยนตอนที่เขาอยู่บ้าน หัวใจของเธอจึงเริ่มเต้นระรัว
การตกหลุมรักช่างไร้เหตุผลจริงๆ!
“ผลตอบรับจากตัวอย่างหนังมดราชินีออกมาอย่างที่คาดหวังไว้ เราน่าจะปล่อยตัวอย่างหนังตัวที่สองออกมาในเร็วๆ นี้ แต่แน่นอนว่าจะไม่ปล่อยตรงๆ เราจะร่วมมือกับบริษัทโฆษณาทำข้อตกลงว่าจะทำยังไงกัน
“หลังจากงานเทศกาลหนังปักกิ่งเราจะทำการทดลองฉาย มดราชินี กันครับ ฟังอวี้จะเตรียมการทุกอย่างและยืนยันรายชื่อแขกที่ถูกรับเชิญ
“ส่วนถังหนิง…ทีมงานฝ่ายผลิตของคุณต้องได้มาตรฐาน อีกอย่างตอนนี้เฉียวเซินก็จากไปแล้ว คุณต้องคิดถึงขั้นต่อไป คุณได้เตรียมตัวสำหรับมดราชินีสองหรือยังครับ”
ถังหนิงกับโม่ถิงสบตากัน ดูจากแววตาของโม่ถิงแล้ว ถังหนิงบอกได้เลยว่าเขาจริงจัง
เขากำลังถามถึงอย่างจริงจัง!
เพราะครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยให้เธอต้องเจอเรื่องเลวร้าย และถอนตัวจากวงการแล้วกลับมาอีกแล้ว เขาต้องการให้ถังหนิงอยู่ในจุดสูงสุดตลอดไป
“คุณไม่ได้เข้าวงการในฐานะนักแสดงอีกต่อไปแล้ว ต่อไปคุณจะต้องเจอกับปัญหาที่มากขึ้นเยอะ ถ้าคุณอยากเป็นผู้สร้างที่ดี คุณเองก็ต้องมองการณ์ไกลเข้าไว้นะครับ โอเคไหม”
“โอเคค่ะ”
ทันทีที่ทุกคนได้ยินคำถามที่ลึกซึ้งและอ่อนโยนก็ต่างอึ้งไป นี่คู่รักกำลังพยายามแสดงความหวานแหววกันอยู่หรือนี่