“สำนักจิ่วเซียว นายเป็นคนของสำนักจิ่วเซียว สวรรค์เมตตา ที่แท้สำนักจิ่วเซียวก็ยังไม่สิ้นผู้สืบทอด”

ชายแก่ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ถึงแม้เขาจะเป็นแค่ดวงไฟดวงหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับตื่นเต้นและพยายามสั่นๆ

ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ เหมือนว่าเคยได้ยินคำว่าจิ่วเซียวที่ไหนมาก่อน

ทันใดนั้นเอง ลู่ฝานก็นึกออก แหวนที่อาจารย์หวูเฉินให้ไว้กับเขา ก็มีชื่อว่า จิ่วเซียว และตอนนั้นก็เหมือนจะพูดว่า เขาก็คือผู้สืบทอดสำนักจิ่วเซียว

ทั้งสำนักที่มีแค่2คน ลู่ฝานก็ไม่ได้สนใจอะไร แทบจะลืมชื่อไปแล้วด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้ ดูเหมือนจะแปลกๆ ทำไมผู้แข็งแกร่งที่ทิ้งวิชาสายฟ้าฟาดห้าธาตุไว้ถึงได้ตื่นเต้นกับคำว่า จิ่วเซียว ขนาดนี้

ชายแก่ยังคงอยู่ในความตื่นเต้น เดิมทีเขาจะกลับแสงสายฟ้าที่ปล่อยออกมากลับไปแล้ว

ถึงแม้ชายแก่จะเป็นดวงไฟ แต่ก็ยังพูดกับลู่ฝานอย่างนอบน้อมว่า “ฉันมีชื่อว่าเหลยเจิ้นเทียน สวัสดีผู้สืบทอดของสำนักจิ่วเซียว”

ลู่ฝานอ้าปาก ไม่เข้าใจว่านี่มันอะไรกันแน่

แต่ว่าดูจากท่าทางของชายแก่ เขาน่าจะไม่ถูกสายฟ้าฟาดใส่อีกแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะมีโอกาสเรียนแก่นแท้ของวิชาสายฟ้าฟาดห้าธาตุได้สำเร็จ

ลู่ฝานถามเบาๆ ว่า “ผู้อาวุโสไม่ต้องมากพิธีไปหรอกครับ ขอถามหน่อยว่า สำนักจิ่วเซียวคืออะไรกันแน่ เกี่ยวข้องอะไรกับสาขาสายฟ้าไหม”

ชายแก่ยิ้ม “เกี่ยวข้องกันมากเลยล่ะ มากจริงๆ แต่ขอถามหน่อยได้ไหม ตราจิ่วเซียวบนตัวของนายได้มาจากไหน ใครเป็นคนถ่ายทอดให้”

ลู่ฝานคิดๆ แล้วก็ตอบไปว่า “อาจารย์ของผมเป็นคนถ่ายทอดให้”

ชายแก่ถามอีกว่า “แล้วอาจารย์มีชื่อแซ่ว่าอะไร”

ลู่ฝานคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ขออภัยผู้อาวุโสด้วย อาจารย์ของผมบอกไว้ว่า ไม่ให้บอกชื่อแซ่กับใคร”

ชายแก่หัวเราะ “ไม่เป็นไรๆ ในเมื่อนายไม่ยอมพูด ก็เป็นปกติ สำนักจิ่วเซียวสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องระมัดระวังเป็นธรรมดา พ่อหนุ่มน้อย ดูเหมือนว่านายจะยังไม่ค่อยรู้จักสำนักจิ่วเซียวดีเลยนะ รอที่วันไหนนายมาที่สาขาสายฟ้า ฉันจะพาไปเจอกับผู้อาวุโสทั้งหลาย พอถึงตอนนั้น นายก็จะรู้เอง ว่าที่นายเป็นผู้สืบทอดของสำนักจิ่วเซียวนั้น เป็นความโชคดีขนาดไหน เอาเถอะๆ วิชาสายฟ้าฟาดห้าธาตุเล็กๆของฉัน เดิมทีก็ไม่คู่ควรที่จะถ่ายทอดให้กับศิษย์ของสำนักจิ่วเซียวหรอก แต่ในเมื่อนายมาเพื่อสิ่งนี้ ฉันก็ไม่อาจให้นายกลับไปมือเปล่า”

พูดไป ก็มีแสงส่องออกมาจากตัวของชายแก่ แล้วเข้าไปยังจิตในร่างของลุ่ฝาน

ทันใดนั้น ลู่ฝานก็สามารถรู้สึกได้ถึงพลังเต๋าที่สัมผัสได้ เข้ามายังร่างกายของเขา

ชายแก่ยิ้มพูดว่า “วิชาสายฟ้าฟาดห้าธาตุของฉัน บังเอิญได้มาจากเพ่งมองพลังสายฟ้า ถึงแม้จะไม่ได้แข็งแกร่งรุนแรงมาก แต่ก็ยังพอมีอานุภาพ ความล้ำลึกในทักษะวิชาบู๊ วันนี้ฉันจะถ่ายทอดให้นายเอง การสั่งสอนดีเช่นนี้ ศิษย์สาขาสายฟ้าของฉัน ล้วนไม่เคยได้รับ นายค่อยๆ ทำความเข้าใจให้ละเอียด รีบทำความเข้าใจก่อนที่จะถึงระดับแดนปราณฟ้า”

ลู่ฝานยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ขยับอะไรไม่ได้เลย

ในสมองของเขา เต็มไปด้วยทุกสีของสายฟ้าที่ส่องสว่าง

ในขณะเดียวกันเต๋าที่แข็งแกร่งรุนแรงที่สุด ก็วนอยู่ในร่างกายเขา แม้แต่กระบี่หนักไร้คมก็ยังขยับตามไปด้วย มีแสงส่องออกมา

สติของลู่ฝานกลับเข้าไปในกาย ร่างของชายแก่ก็หายไป ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ พลังปราณในกายถูกค่ายกลควบคุมไว้อีกครั้ง เคลื่อนพลังไม่ได้

แต่ลู่ฝานก็ยังหลับตายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

ความเข้าใจในวิชาที่ได้รับเมื่อสักครู่นี้ มีความสำคัญต่อการบรรลุความเข้าใจในเต๋าอย่างมาก

ยืนไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ แล้วลู่ฝานก็ลืมตาขึ้นมา

“วิชาสายฟ้าฟาดห้าธาตุ ที่แท้ก็เป็นแค่เศษเสี้ยวของวิถีบู๊สายฟ้า เฮ้อ แค่เศษเสี้ยวเท่านั้นเอง ฉันไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาทำความเข้าใจนานเท่าไร ถึงจะเข้าใจได้ทั้งหมด”