เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 363
ยิ้มไปเบาๆ ลู่ฝานก็เงยหน้าครั้งสุดท้ายมองดูวิชาสายฟ้าฟาดห้าธาตุบนผนัง

สิ่งพวกนี้ ลู่ฝานไม่ต้องไปจำให้ละเอียดแล้ว ได้สิ่งที่สำคัญที่สุดมาแล้ว เคล็ดวิชาและวิธีการฝึกบนผนังนี้ ล้วนเป็นเศษเสี้ยวของเศษเสี้ยวอีกที

กวาดมองไปทีเดียว พอจำได้พอสมควรแล้ว ลู่ฝานก็หันหลังเดินออกไปด้านนอก

เดินออกมาจากเรือนเก็บหนังสือของคณะฟ้าร้อง ลู่ฝานมองดวงอาทิตย์ รอยยิ้มก็เป็นประกาย

และบนหลังคาที่ไม่ไกลจากเขา อาจารย์ฮั่วซานก็ดูลู่ฝานเดินออกมาอย่างนิ่งๆ

“ไม่ถึงสามชั่วยาม เขาก็ออกมาแล้ว รู้แล้วหรือว่าต้องฝึกอย่างไร หรือว่าถอดใจแล้ว”

อาจารย์ฮั่วซานบ่นพึมพำ ตอนนี้เขาก็มองไม่ออกว่าลู่ฝานเรียนได้หรือยัง

“ไม่สนใจแล้ว จะเรียนได้หรือไม่ได้ ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคณะฟ้าร้องมากนัก คณะหนึ่งเดียวโชคดีไป พวกเขาได้สร้างชื่อเสียงเพิ่ม ดูเหมือนว่า เราคงจะต้องไปเตือนเสวียนเจินเสียหน่อยแล้ว ว่าอย่าประมาทเกินไป เฮ้อ ไปดูหลัวตานก่อนดีกว่า หวังว่าหลัวตานจะอดทนได้ ไม่ทำให้เราผิดหวัง”

อาจารย์ฮั่วซานพูดจบ ร่างก็หายไปจากหลังคา

ในขณะเดียวกัน ที่คณะฟ้าร้อง หลัวตานก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง

ห้องของเขาหรูหรา กว้างมาก ของเครื่องใช้ การตกแต่ง ไม้ที่ใช้ ล้วนเป็นของดีทั้งนั้น

แค่หนังที่ปูพื้นก็ยังเป็นหนังสัตว์ ราคาเป็นพันเป็นหมื่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกภาพวาดภาพเขียนต่างๆ และขวดหยกขวดยาอีก

แต่ในตอนนี้ ห้องของเขาเละเทะไปหมด

ของในห้องกว่าแปดส่วนถูกเขาขว้างทำลายหมด หลัวตานนั่งลงอย่างตกต่ำ สายตาเหม่อลอย

ความโอ้อวดของเขา ความมั่นใจของเขา ถูกทำลายเป็นผุยผงที่ผาเหลยถิงหมดแล้ว

เขาคิดมาตลอดว่าตนเองเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของสถาบันสอนวิชาบู๊ ไม่มีใครเทียบเขาได้ ต่อให้แพ้ให้กับจางเยว่หาน หลัวตานก็ยังคิดว่าถ้าจางเยว่หานไม่ลอบโจมตีเขา ชัยชนะก็ต้องตกเป็นของเขา เขายังเตรียมที่จะไปประลองกับเอี๋ยนชิงและเสวียนเฟิงอีกด้วย

แต่ลู่ฝานใช้พลังของตนบอกกับเขาว่า เขาไม่ใช่อัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่มีทางใช่

ลู่ฝานเอาชนะเขาได้ ในถิ่นของเขาเองอย่างผาเหลยถิงที่เขามั่นใจที่สุด

พอนึกถึง ตอนที่เขาโอหังยอมอ่อนให้กับลู่ฝานสามกระบวนท่าก่อนประลอง หลัวตานก็อยากจะตบบ้องหูตนเองเสียจริงๆ

อวดดีอะไรกัน อวดดีจนเป็นเรื่องเลยไหมล่ะ!

ประตูถูกเปิดออก ร่างของอาจารย์ฮั่วซานก็มาปรากฏตรงหน้าของหลัวตาน

อาจารย์ฮั่วซานมองหน้าหลัวตานที่เศร้าสร้อย แล้วพูดเสียงเย็นว่า “หลัวตาน นายยังเป็นนักบู๊อยู่ไหม”

หลัวตานเงยหน้าขึ้นอย่างเศร้าสร้อย “อาจารย์ครับ ผมแพ้แล้ว ขอโทษครับ ที่ทำให้คณะฟ้าร้องขายหน้า ผ่านวันนี้ไป ข่าวที่ผมแพ้ให้กับลู่ฝานบนผาเหลยถิงก็จะแพร่ไปทั่วทั้งสถาบันสอนวิชาบู๊ ผมพาอาจารย์ขายหน้าไปด้วย”

ฮั่วซานยิ้มพูดว่า “ขายหน้างั้นหรือ สมัยหนุ่มฉันทำเรื่องขายหน้าไว้ตั้งมากมาย หลัวตาน บอกฉันมา แพ้หนึ่งศึก นายยังเป็นนักบู๊อยู่อีกหรือไม่”

หลัวตานกัดฟันพูดว่า “แน่นอนครับ”

ฮั่วซานถามต่ออีกว่า “งั้นก็ดี แล้วตอนนี้นักบู๊ควรทำอย่างไร”

หลัวตานหายใจเข้า แล้วลุกขึ้นพูดว่า “อดทนต่อการดูถูก และฝึกวิชาเพิ่ม”

ฮั่วซานพยักหน้า “เอาเถอะ ฉันถามหมดแล้ว นายฝึกต่อไป วันพรุ่งนี้ ฉันต้องการเห็นนายในคนใหม่ แต่ไม่ใช่นายในตอนนี้”

พูดจบ ฮั่วซานก็ปิดประตู

หลัวตานก็มองมือตนเอง แล้วก็ค่อยๆ หลับตาลง