ผ่านไปสองวัน ข่าวที่ลู่ฝานของคณะหนึ่งเดียวได้เอาชนะคณะฟ้าร้องก็แพร่ไปทั้งสถาบันสอนวิชาบู๊

“ได้ข่าวหรือยัง ลู่ฝานแห่งคณะหนึ่งเดียวท้าสู้กับคณะฟ้าร้องคนเดียว หลัวตานเลือกผาเหลยถิงที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของตนเอง แต่ก็ยังแพ้อย่างราบคาบ”

“ตอนแรกฉันก็คิดไว้แล้ว ว่าคณะหนึ่งเดียวก็เป็นหนึ่งในเก้าคณะ ไม่อ่อนแอหรอก ที่แท้พวกเขาก็เก็บตัวฝึกวิชากันนี่เอง ไม่สร้างชื่อ แต่พอสร้างชื่อขึ้นมาก็ดังกระฉ่อน พอได้บินก็บินทะยานฟ้า”

“ฉันว่านะ ครั้งนี้คณะหนึ่งเดียวต้องได้ขึ้นอยู่3อันดับแรกแน่ๆ ทางคณะบังเหิน จางเยว่หานก็ถูกไล่ออกสถาบันสอนวิชาบู๊ไปแล้ว ใครจะต้านทานลู่ฝานได้อีก”

“เหอะๆ ต่อให้จางเยว่หานยังอยู่แล้วยังไง นายคงยังไม่เห็นเธอสู้กับลู่ฝานตัวต่อตัวในป่าสินะ ก็ยังแพ้ราบคาบเหมือนกัน สุดท้ายก็ถูกจัดการจนต้องออกคณะไป”

“ก็ถูก ตอนนี้คนที่สามารถต้านทานคณะหนึ่งเดียวได้ ก็มีแต่คณะกระบี่กับคณะหยินหยางแล้วล่ะ”

……

บนเขาวิพากษ์ รอบๆ ล้วนมีแต่เสียงคุยกันเรื่องนี้

เดินไปที่ไหน ก็มีแต่นักเรียนจำนวนไม่น้อยชื่นชมคณะหนึ่งเดียว ต่างพากันเสียดายที่ตอนแรกไม่ได้ไปลงสมัครที่คณะหนึ่งเดียว

“เหอะๆ คนพวกนี้ ตอนแรกดูถูกคณะหนึ่งเดียวของเรา ตอนนี้กลับคำเร็วเชียวนะ ศิษย์น้องลู่ฝาน นายเชื่อไหม ปีหน้ารับศิษย์ใหม่ คณะหนึ่งเดียวขอเราต้องดังแน่นอน พอถึงตอนนั้น คณะหนึ่งเดียวของพวกเราก็จะมีศิษย์น้องมากมาย ฮ่าๆ นายก็จะได้เป็นศิษย์พี่ห้าแล้วล่ะ ต้องช่วยดูแลศิษย์น้องมากๆ ถึงจะถูก เข้าใกล้คนเก่งก็จะได้ประโยชน์ก่อนใครไงล่ะ”

หานเฟิงกินข้าวไปด้วย พูดข้าวเต็มปากไปด้วย

ด้านข้าง ฉู่สิง ฉู่เทียนไม่อยากจะไปสนใจหานเฟิง เอาแต่เรียกอย่างเดียวว่า “ยกกับข้าวมาเลย ยกมา จานนี้ไม่เลว เอามาอีก3จาน”

ลู่ฝานก็มีใบหน้าเอือมระอา หลิงเหยาที่อยู่ข้างๆ ก็กอดแขนของลู่ฝานอยู่ พูดกับหานเฟิงอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ฉันมาเที่ยวกับลู่ฝานที่เขาวิพากษ์ พวกนายตามมาด้วยทำไม เหอะ จะไม่ให้พวกฉันมีเวลาส่วนตัวบ้างเลยหรือไง”

ลู่ฝานพยักหน้าหงึกหงัก

หานเฟิงก็ยังนิ่งสงบอยู่ได้ พูดด้วยสีหน้าไม่กลัวไม่อายอะไรทั้งสิ้น “อาจารย์ให้พวกเรามาจับตาดูพวกนาย ลู่ฝาน ตอนนี้นายเป็นคนสำคัญของคณะหนึ่งเดียวเรา ยังเหลือการประลองอีก3รอบ นายจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้ที่เขาวิพากษ์จะมีคนคอยดูแล แต่ถ้ามีคนมาลอบฆ่านายจะทำอย่างไร นายลืมแล้วหรือไง ครั้งก่อนพวกเราก็ต่อสู้บนเขาวิพากษ์อย่างดุเดือด เสี่ยวเอ้อร์ เอาสองจานนี้ไปใส่ห่อจะเอากลับ ศิษย์พี่ใหญ่ พวกอาจารย์ยังรอพวกเราเอาของอร่อยกลับไปกันอยู่”

ลู่ฝานก็ถอนหายใจอย่างเอือมระอา

หลิงเหยากลับเริ่มถกแขนเสื้อกินอาหาร ไม่สนใจภาพลักษณ์เลย

“เป็นเงินทั้งนั้น เหอะ ลู่ฝานมีเงินก็ไม่ให้พวกนายกินแบบนี้หรอก ลู่ฝาน นายก็กินสิ กินเยอะๆ หน่อย กินให้คุ้ม”

หลิงเหยาก็คีบอาหารให้ลู่ฝานไปด้วย พูดไปด้วย

ลู่ฝานหัวเราะไปกินไป จริงๆ แล้วความรู้สึกที่ทุกคนออกมากินข้าวด้วยกันมันก็ดีเหมือนกัน เขาชอบแบบนี้มาก

กำลังกินไป ก็มีหลายคนเดินเข้ามา
“หลิงเหยา ลู่ฝาน ไม่ชวนพวกเรากินอะไรหน่อยหรือ”

สาวสวยหุ่นดี กระโปรงยาวลากพื้น ไม่ใช่หมิงจูของศิษย์พี่ยาวิเศษแล้วจะเป็นใครได้ คนที่อยู่ข้างๆ ของหมิงจู ก็ยังมีหลินเสี่ยวอวิ๋นกับม่านเหยียน

ทันใดนั้น คนที่โต๊ะอื่นๆ ก็มองมาทางนี้ สาวสวยมารวมกันเยอะแบบนี้มีให้เห็นไม่บ่อย

ไม่นานก็มีคนจำลู่ฝานได้ แล้วก็มีนักเรียนส่งเสียงตื่นเต้นออกมา

“ลู่ฝานนี่เอง ลู่ฝานแห่งคณะหนึ่งเดียว เขาก็อยู่ที่นี่ด้วย”