แดนนิรมิตเทพ บทที่ 416
สีหน้าของว่านฉางหรูมีความงุนงง ตามรายงานจากคนที่เขาส่งไปสอดแนมอยู่ข้างกายหลี่ซู่เฟินแล้ว หลายวันมานี้เหม่ยหวากรุ๊ปขาดทุนมากถึงร้อยล้านแล้ว
อีกอย่างเฉินโม่ก็มาถึงเมืองฮ่านหยางแล้ว และเคยไปพบเจอกับหลี่ซู่เฟินมาแล้วด้วย
ตามนิสัยที่เฉินโม่เคยแสดงออกมาให้เห็น หากว่าเฉินโม่ได้รู้ว่าเหม่ยหว่ากรุ๊ปเจอปัญหา จะต้องออกโรงจัดการปัญหาให้แน่นอน แม้กระทั่งว่าหากเฉินโม่บุกมาที่ห้องทำงานของเขา ว่านฉางหรูก็ไม่รู้สึกว่าน่าแปลกใจ
แต่ว่าตอนนี้เหม่ยหวากรุ๊ปกลับยังอยู่เงียบๆ เฉินโม่เองก็ไม่ได้ออกมาจัดการปัญหาให้กับเหม่ยหวากรุ๊ป ทำเอาว่านฉางหรูตามความคิดไม่ทัน
“คุณหนานกงครับ อย่าได้ใจร้อนไปครับ แม้ว่าเฉินโม่จะอายุไม่มาก แต่มีนิสัยเจ้าเล่ห์มาก ผมมั่นใจแล้วครับว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เหม่ยหวากรุ๊ป ส่วนเรื่องที่ทำไมยังไม่ออกมาแก้ปัญหา….”
ว่านฉางหรูเงียบไปสักพัก แล้วพูดต่อว่า “อาจจะเป็นไปได้ว่ากำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่ครับ!”
หนานกงหลงหัวเราะ “วางแผนการ? หึๆ มีนักกลั่นยาอย่างน้องเจิ้งเฟิงอยู่ด้วย ฉันก็จะคอยดูสิว่ามันจะพลิกผันปัญหายังไงได้บ้าง!”
มู่เจิ้งเฟิงได้ยินเช่นนั้นแล้วก็ยิ้มเล็กน้อย บนใบหน้ามีความภาคภูมิใจ “คุณว่านคิดว่าเขาจะมีแผนการอะไรครับ? หรือว่าเขาจะยังหานักกลั่นยามาได้ด้วยเช่นกัน?”
“หึ แม้ว่าเขาจะหาเชิญนักกลั่นยามาได้ แล้วยังไงครับ? ยังไม่พูดถึงว่าฝีมือวิชากลั่นยาตระกูลมู่ของผมดีเด่นมากสุดในโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ย เพียงแค่ชื่อเสียงที่พวกเราโฆษณาออกไป แม้เขาจะยอมเสียสละเพิ่มสิบเท่าก็ทำไม่ได้เท่าเราหรอกครับ!”
“มันจะเอาอะไรมาสู้กับผม!” มู่เจิ้งเฟิงมั่นใจต่อฝีมือการกลั่นยาของตัวเองอย่างมาก อีกอย่างวิชากลั่นยาของตระกูลมู่ ก็เก่งมากที่สุดในโลกฝึกบู๊จริงๆ
มู่เจิ้งเฟิงมีความสามารถมากพอที่จะหยิ่งผยอง!
ว่านฉางหรูพยักหน้าอย่างเคารพ “มู่ไต้ซือพูดได้มีเหตุผลครับ เหม่ยหวากรุ๊ปต้องแบกรับการขาดทุนจำนวนมหาศาลทุกวัน ในเมื่อพวกเขาทนรับไหว แล้วพวกเราจะใจร้อนไปทำไมกันละครับ?”
“รอดูเงียบๆก็พอ อีกไม่นาน เจ้าเฉินโม่คนนั้นก็คงจะทนต่อไปไม่ไหวแล้วละครับ”
สามวันต่อมา ลูกค้าที่ไปทานอาหารหอว่านเค่อไหลเป็นกลุ่มแรกๆ เริ่มรู้สึกว่าอาการเดิมๆของโรคที่ป่วยเริ่มกลับมามีอาการอีกครั้ง
เสี่ยวหวางเป็นพนักงานธรรมดาของธนาคาร ตื่นเช้านอนดึกทุกวัน แล้วต้องนั่งทำงานทั้งวัน แม้ว่าจะเพิ่งอายุเพียงสามสิบห้าปี แต่คอและเอวเริ่มมีอาการเสื่อมแล้ว
หลายวันก่อนหอว่านเค่อไหลเพิ่งโฆษณาขายอาหารสมุนไพรจีนบำรุงสุขภาพ เสี่ยวหวางจึงไปด้วยความคิดที่อยากทดลองเท่านั้น แล้วไปดื่มน้ำซุปที่มีสรรพคุณช่วยรักษาคอและเอวที่เสื่อมสภาพ
เดิมทีเสี่ยวหวางไม่ได้มีความคาดหวังอะไร แต่หลังจากที่ดื่มน้ำซุปไปได้ไม่นาน ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น
ช่วงกระดูกคอและเอวของเสี่ยวหวางรู้สึกผ่อนคลายสบายมาก เหมือนกับว่ากลับสู่สภาวะร่างกายช่วงอายุสิบแปดปี นั่งเก้าอี้ติดต่อกันเป็นเวลานานเจ็ดแปดชั่วโมงก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร
หลังจากนั้น เสี่ยวหวางก็ได้กลายเป็นแฟนคลับพันธุ์แท้ของหอว่านเค่อไหล แล้วยังแนะนำเพื่อร่วมงานไปที่หอว่านเค่อไหลจนหมด
แต่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ จู่ๆเสี่ยวหวางก็รู้สึกว่า อาการเดิมๆของกระดูกคอและเอวเกิดขึ้นอีกแล้ว รู้สึกปวดกระดูกคออย่างมาก และช่วงเอวก็รู้สึกปวดจนนั่งไม่ได้
เสี่ยวหวางคิดว่าเป็นเพราะสองสามวันนี้ไม่ได้ไปดื่มน้ำซุปที่หอว่านเค่อไหล เวลาเที่ยงจึงรีบร้อนไปหอว่านเค่อไหลเพื่อดื่มน้ำซุป
แต่ว่า ครั้งนี้กลับไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น กระดูกคอและเอวของเสี่ยวหวางก็ยังเจ็บปวดมากเหมือนเดิม
เสี่ยวหวางคิดว่าคงเป็นเพราะเพิ่งดื่มหมด ยายังไม่ออกฤทธิ์ จึงเอาแต่ปลอบใจตัวเอง ว่าอีกเดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว อีกไม่นานก็ดีขึ้น
แต่ว่า จนกระทั่งวันนี้ อาการปวดของเสี่ยวหวางก็ยังไม่หาย
เสี่ยวหวางรู้สึกว่า อาจจะเป็นเพราะหลังจากที่หอว่านเค่อไหลมีชื่อเสียงแล้ว จึงทำการลดทุนวัตถุดิบสมุนไพรในน้ำซุป ดังนั้นจึงไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าเมื่อก่อน
เสี่ยวหวางรู้สึกผิดหวังมาก เอาแต่บ่นด่าทอให้กับเพื่อนร่วมงานฟังทั้งวัน
วันนี้หลังจากเลิกงาน เสี่ยวหวางเตรียมจะไปถ่ายเอกซเรย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพ แต่เมื่อเดินไปถึงสี่แยก ก็ได้ถูกคุณป้าที่แจกใบปลิวใส่ใบปลิวให้ที่รถมอเตอร์ไซต์
“หอเซียงหม่านโฆษณาขายแพ็กเกจอาหารบำรุงสุขภาพ ทดลองชิมฟรี ไม่เห็นผลไม่ต้องจ่ายเงิน….”