บทที่288 ศึกชิงรักหักสวาท
“สิบเอ็ดล้านตำลึง” กู้ชูหยุนพูด

กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นอย่างขี้เกียจ แล้วพูดพึมพำว่า “ม้วนหนังแกะที่ดูไม่ออกเลย กลับมีคนยอมจ่ายถึงสิบเอ็ดล้านตำลึง จิ๊ๆๆ ถ้าเจ้าชอบขนาดนี้ งั้นข้ายอมให้เจ้าก็ได้”

“……”

กู้ชูหยุนขมวดคิ้ว

ถึงแม้ภายนอกกู้ชูหน่วนจะดูสบายๆ ไม่มีอารมณ์ทางสีหน้าใดๆเลย แต่ทั้งที่นางรู้สึกได้ว่า กู้ชูหน่วนอยากได้แผนที่นั้นมาก หรือว่านางเดาผิดงั้นเหรอ?

พอสิบเอ็ดล้านตำลึงประกาศออกไปแล้ว ทั้งงานเงียบกันหมด ไม่มีใครเพิ่มราคาอีก

ขนาดซ่างกวนฉู่ยังไม่เพิ่มเลย

เสี่ยวลู่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แขกหมายเลขสิบหกช่างกล้าหาญจริงๆ กลับยอมจ่ายถึงสิบเอ็ดล้านตำลึง แผนที่หนังแกะโบราณนี้นับว่าได้พบเจ้านายที่ชื่นชอบมันเสียที”

กู้เฉิงเซี่ยงแทบจะหมดสติอยู่แล้ว

เขาเงื้อมือขึ้นตบลงไปบนใบหน้าของกู้ชูหยุนอย่างแรง

“นังลูกไม่รักดี สิบเอ็ดล้านตำลึงนี่ เจ้าหาทางจ่ายเองนะ ข้าจะไม่ให้เจ้าเลยสักแดงเดียว”

กู้เฉิงเซี่ยงเสียงดังเกินไป

ดึงดูดความสนใจของคนทั้งงานประมูลไป บางคนที่ตาแหลมก็ตะโกนออกมาทันที

“หื้ม นั่นเป็นกู้เฉิงเซี่ยงแคว้นเย่ของเราไม่ใช่เหรอ? เมื่อกี้คนที่ประมูลแผนที่จะเป็นลูกสาวรองกู้ชูหยุนของเขา?”

“น่าจะนะ กู้เฉิงเซี่ยงมีลูกสาวสี่คน คุณหนูรองกู้ชูหยุน คุณหนูสามกู้ชูหน่วน คุณหนูห้ากู้ชูหลัน คุณหนูเจ็ดกู้ชูฉิง คุณหนูเจ็ดยังเด็กมาก คุณหนูห้าก็ถูกขับไล่ไปยังจวนเก่า คุณหนูสามแต่งงานกับอ๋องหาน พวกนางไม่มีทางปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ หญิงสาวคนนั้นต้องเป็นคุณหนูรองกู้ชูหยุนแน่นอน”

“กู้ชูหยุนทั้งสวยทั้งมีความสามารถ ก่อนหน้านี้ยังได้ฉายาเป็นสตรีที่งามที่สุดในแคว้นเย่ ถึงแม้ตอนนี้นางจะใส่ผ้าปิดหน้าไว้ แต่มองจากรูปร่างที่อ่อนช้อยของนางแล้ว หน้าตาต้องสวยมากแน่ๆ ลูกสาวคนที่สามของเขากู้ชูหน่วนนับว่าเป็นตำนานเลยล่ะ ก่อนหน้านี้ลือไปทั่วพระนครเลย”

“ก็คือกู้ชูหน่วนที่ลือกันว่าเป็นไก่อ่อนและหน้าตาขี้เหร่หรือเปล่า? ข้าก็เคยได้ยินมาบ้าง นางทำให้คนทั้งงานชุมนุมแข่งขันบุ๋นตะลึงกันหมด ความสามารถที่แสดงออกมานั้นขนาดเซียนกวีกับเทพหมากกระดานยังต้องชื่นชมเลย อีกอย่างในวันแต่งงาน ตอนที่นางเปิดผ้าปิดหน้าออก จิ๊ๆๆ นั่นเป็นสาวงามล่มเมืองได้เลยล่ะ สวยกว่ากู้ชูหยุนไม่รู้กี่เท่า”

“คนที่มีความสามารถขนาดนี้ อ๋องเจ๋อกลับยกเลิกการแต่งงานเพราะนางขี้เหร่ไม่มีความสามารถ ไม่รู้ว่าพออ๋องเจ๋อได้รู้ความจริงแล้ว จะเสียดายแค่ไหนกันนะ”

อ๋องเจ๋อกำหมัดแน่นเสียงดังกร๊อบ ไฟในใจปะทุขึ้นจนควบคุมไว้ไม่อยู่

“ยังมีกู้เฉิงเซี่ยงอีก เขาดูถูกลูกสาวคนที่สามมาตลอด รังแกนางมาตั้งแต่เด็ก แถมยังตัดขาดสัมพันธ์พ่อลูกกับนางด้วย ตอนนี้รู้ว่าลูกสาวทั้งหมดของตัวเอง มีแค่ลูกสาวคนที่สามที่ดีที่สุด ไม่รู้ว่าจะเสียดายไหมนะ?”

สีหน้าของกู้เฉิงเซี่ยงทั้งเขียวทั้งดำ

เขายอมให้กู้ชูหน่วนเป็นไก่อ่อนและหญิงขี้เหร่ตลอดไป เพราะนางมีทั้งความสามารถทั้งความงาม เขาเลยโดนประชดประชันทั้งต่อหน้าและลับหลังมาหลายครั้งแล้ว

“ก่อนหน้านี้คิดมาตลอดว่าลูกสาวคนรองของกู้เฉิงเซี่ยงเป็นคนที่มีความรู้ ฉลาดเฉลียว ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องเท็จ ข้าว่านางก็เป็นแค่คนโง่ ยอมจ่ายเงินสิบเอ็ดล้านตำลึงเพื่อซื้อแผนที่ที่ดูไม่ออกด้วยซ้ำ ช่างโง่เสียจริง”

“นั่นสิ ก่อนหน้านี้ ข้ายังไปขอนางแต่งงานที่บ้านอยู่เลย ยังดีที่ข้าไม่เข้าตากู้เฉิงเซี่ยง ปฏิเสธข้าไป ไม่งั้นข้าคงขอคนโง่แต่งงานแล้วล่ะ”

“ตอนแรกข้ายังเสียดายแทนกู้ชูหยุน เพราะยังไงแต่งงานกับเซียวอวี่เซวียนหนุ่มเจ้าชู้นั่น ก็เหมือนเป็นดอกไม้ปักอยู่บนขี้วัว ตอนนี้ดูแล้ว คนโง่กับคนเจ้าชู้ เป็นคู่สร้างคู่สมดีๆนี่เอง ฮ่าๆๆ……”

สีหน้าของกู้ชูหยุนแย่ลงกว่าเดิม

ตั้งแต่เล็กจนโต นางถูกชื่นชมมาตลอด ไม่เคยโดนดูถูกแบบนี้มาก่อน

เรื่องทุกอย่างเป็นเพราะกู้ชูหน่วนคนเดียว

กู้เฉิงเซี่ยงโกรธจนสะบัดแขนเสื้อเดินออกไป

เขาคิดมาตลอดว่าลูกสาวคนรองกู้ชูหยุนเป็นความภาคภูมิใจของเขา และตอนนี้กลับกลายเป็นความอัปยศของเขา จะให้เขายอมรับได้ยังไง

“สิบเอ็ดล้านตำลึงครั้งที่หนึ่ง สิบเอ็ดล้านตำลึงครั้งที่สอง สิบเอ็ดล้านตำลึงครั้งที่สาม……”

กู้ชูหน่วนกะพริบตาใสแจ๋วมองไปยังห้องส่วนตัวหมายเลขเจ็ดชั้นบน

อี้เฉินเฟยที่อยู่ห้องส่วนตัวหมายเลขเจ็ดชั้นบนก็เข้าใจทันที จึงพูดขึ้นว่า “สิบสองล้านตำลึง”

กู้ชูหยุนโล่งอกเล็กน้อย

ไม่นาน หัวใจนางก็เต้นแรงอีกครั้ง รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติไป

กู้เฉิงเซี่ยงชะงักฝีเท้า ทันใดนั้นก็ย้อนกลับมา แย่งป้ายในมือของนางไป แล้วกระซิบด่าเสียงเบาว่า “เจ้ามันทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่าง แล้วยังจะมาก่อเรื่องอีก ข้ามีลูกสาวอย่างเจ้าได้ยังไงกันนะ”

“ท่านพ่อ แขกห้องหมายเลขเจ็ด น่าจะเป็นคนที่ช่วยน้องสามจ่ายเงิน ถ้าพวกเราเพิ่มราคาต่อไป พวกเขาต้องเพิ่มราคาตามแน่นอน”

“อย่าว่าแต่แขกหมายเลขเจ็ดจะเป็นคนที่ช่วยกู้ชูหน่วนจ่ายเงินจริงหรือเปล่า ถึงจะใช้ แล้วเกี่ยวกับพวกเขายังไง? ก็แค่แผนที่กระจอกๆ ทำไมพวกเราต้องจ่ายเงินมากมายเพื่อแย่งมาด้วย?”

“น้องสาวชอบทำให้ท่านโกรธ ลูกแค่อยากจะแก้แค้นแทนท่านพ่อ ไม่เคยคิดที่จะทำให้ท่านพ่อไม่พอใจเลย”

กู้ชูหยุนน้ำตารื้นเต็มขอบตา ทำตัวน่าสงสารให้มากที่สุด บวกกับที่นางเป็นสาวสวยที่อ่อนแอ กู้เฉิงเซี่ยงก็ใจอ่อนลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น

“พ่อรู้ว่าเจ้าโกรธที่นางเอาแต่แย่งประมูลของที่พ่อชอบ แต่ราคาที่พวกเขาเพิ่มนั้น ไม่ได้เป็นแค่ตัวเลข แต่เป็นเงินสดที่จ่ายออกไป จวนเฉิงเซี่ยงของเราก็ไม่ได้มีเงินมากมายเท่าไหร่นัก จะใช้สุรุ่ยสุร่ายไม่ได้”

“ลูกรู้ตัวว่าทำผิดแล้วเจ้าค่ะ”

“ช่างเถอะ อย่าทำแบบนี้อีกนะ”

“เจ้าค่ะ ท่านพ่อเจ้าคะ น้องสามแค้นที่ท่านพ่อไม่เคยรักนางเลยตั้งแต่เด็กจนโต ดังนั้นจึงตั้งใจหาเรื่องท่านพ่อ ลูกทนไม่ได้จริงๆเจ้าค่ะ”

ไม่ใช่แค่นางที่ทนไม่ได้ เขาก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

แต่ตอนนี้นางเป็นพระชายาหาน พระชายาของเทพสงคราม แถมยังมีชื่อเสียงโด่งดังอีก เขาจะทำอะไรได้ล่ะ?

“มีคนประมูลสิบสองล้านตำลึง ยังมีคนอยากเพิ่มราคาอีกไหม ถ้าไม่มีแล้ว แผนที่นี้จะเป็นของแขกห้องหมายเลขเจ็ดแล้ว”

กู้ชูหน่วนรู้สึกว่า มีพี่ชายคอยเอ็นดูนี่มันดีจริงๆเลย

โดยเฉพาะพี่ชายคนนี้ ไม่เพียงแต่หน้าตาดีมีความสามารถแถมยังมีเงินด้วย

เย่จิ่งหานหรี่ตาลง ชูป้ายในมือขึ้น “ห้าสิบล้านตำลึง”

ครั้งนี้เย่จิ่งหานไม่ได้ชูป้ายหมายเลขยี่สิบแปด แต่เป็นป้ายหมายเลขยี่สิบเก้า เห็นได้ชัดว่าตั้งใจแยกกับกู้ชูหน่วน

รอยยิ้มของกู้ชูหน่วนชะงักค้างทันที

นางกัดฟันกรอด “เจ้าดูแผนที่ไม่ออกสักหน่อย จะจ่ายเงินมากมายแย่งมาทำไม”

“ประมูลมาแล้ว ข้าจะดูเองช้าๆ สักวันอาจจะดูออกก็ได้”

อี้เฉินเฟยหัวเราะเหอะๆ แล้วเพิ่มราคาต่อไป “หกสิบล้านตำลึง”

“เจ็ดสิบล้านตำลึง”

“แปดสิบล้านตำลึง”

กู้ชูหน่วนรีบดึงมือของเย่จิ่งหานไว้ แล้วมองเขาอย่างน้อยใจ “สามีเจ้าคะ แผนที่นั่นไม่คุ้มค่ากับเงินมากมายขนาดนี้หรอก พวกเราค่อยประมูลสินค้าชิ้นต่อไปกันนะ รอของชิ้นต่อไปเหมาะสม พวกเราค่อยประมูลกันนะ”

ถ้าเพิ่มราคาต่อไป นางคงได้ล้มละลายแน่

ตอนแรกว่าจะซื้อแผนที่ฉบับนี้ในราคาถูกๆ แต่ไม่คิดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นสูงขนาดนี้

เย่จิ่งหานเป็นบ้าอะไรกันนะ

เย่จิ่งหานชักมือตัวเองออกมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เก้าสิบล้านตำลึง”

เฮือก……

ทุกคนในงานนอกจากจะอ้าปากค้างแล้ว ก็ยังอ้าปากค้างอยู่ดี

แต่ละคนต่างคิดว่าตัวเองมีปัญหาด้านการได้ยินหรือเปล่า

แผนที่นี้มีความลึกลับแอบซ่อนอยู่งั้นเหรอ?

ไม่งั้นทำไมสองคนนี้ถึงแย่งกันล่ะ?