บทที่ 627 ขอแค่พี่หน้าหนาพอ / บทที่ 628 หน้าไม่อายยิ่งกว่าใคร

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 627 ขอแค่พี่หน้าหนาพอ

สวี่อี้ที่อยู่ข้างๆ ชินชากับการหยอกเย้ากันที่รุนแรงเหมือนพายุฝนแบบนี้นานแล้ว มุมปากเขากระตุกพลางพูด “ว่าไปแล้ว คุณหนูหวันหวั่น ตกลงวิธีการของคุณคืออะไรครับ”

เยี่ยหวันหวั่นยิ้มบอก “ที่จริงแล้ววิธีนั้นง่ายมากเลย แค่ให้พี่ชายฉันเป็นตายยังไงก็ไม่ยอมรับต่อหน้าคุณปู่คุณย่า กล้องวงจรปิดถ่ายเห็นแค่ภาพพี่ชายฉันเข้าไปในห้องทำงาน ไม่ได้ถ่ายให้เห็นว่าหลังเข้าห้องทำงานไปแล้วเขาทำอะไร มีหลักฐานอะไรมาบอกว่าเขาเข้าไปแอบดูราคาประมูล

ฉันถามพี่แล้ว พี่โง่นั่นยังถือว่ามีสมองหน่อย สวมถุงมือไป เลยไม่ทิ้งรอยนิ้วมือไว้ตอนพลิกดูเอกสารการประมูล ยังไงเขาก็เป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลเยี่ย โดยเฉพาะย่าของฉัน รักพี่ชายฉันมาก ตอนแรกที่ไล่เขาออกจากบ้าน ก็แค่เห็นเขาไม่ก้าวหน้าเลยให้เขาออกไปหาประสบการณ์ข้างนอก ขอแค่พรุ่งนี้พี่ชายฉันทำตามที่ฉันบอก เล่นละคร พูดจาไร้เหตุผลหน่อย ทำตัวน่าสงสาร ยังไงก็เอาอยู่แน่นอน!”

ซือเยี่ยหานเงียบ

สวี่อี้พูดไม่ออก

แบบนี้ก็ได้เหรอ?

สวี่อี้ฟังแล้วทำหน้าพูดไม่ออก

เหอะๆ เป็นอย่างที่คิด…สมกับเป็นการแก้ปัญหาของคุณหนูหวันหวั่นจริงๆ…

“เหอะๆ คุณเก้าฉันฉลาดไหมคะ” เยี่ยหวันหวั่นทำสีหน้าว่าต้องการของรางวัล

ซือเยี่ยหานมองดวงตาฉลาดเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอกน้อยของหญิงสาว เวลาอมยิ้มเผยให้เห็นลักยิ้มรางๆ ไม่ว่าจะตอนไหนก็สดใสเหมือนดาวที่ระยิบระยับบนท้องฟ้า ดูมีพลังเต็มเปี่ยม สีหน้าดูไร้กังวล “อืม ฉลาด”

สวี่อี้ทอดถอนใจมองสองคนนี้คุยกันอย่างอบอุ่น

เมื่อก่อนเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ โกรธเกลียดเข้ากันไม่ได้ แต่ตอนนี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

ไม่เพียงแต่ช่วยตัวเธอเอง ยังช่วยคนรอบข้างอีกด้วย

……..

เช้าวันรุ่งขึ้น

ตึกใหญ่บริษัทตระกูลเยี่ยกรุ๊ป

ด้านนอกประตูกระจกบานใหญ่ เยี่ยมู่ฝานหยุดเดินไม่ก้าวไปข้างหน้า สีหน้าเห็นได้ชัดว่าเป็นกังวลมาก

ด้านข้าง เยี่ยหวันหวั่นมองเขาแวบหนึ่ง “เป็นอะไร”

เยี่ยมู่ฝานขมวดคิ้วแน่น “หวันหวั่น…วิธีของแก…จะได้ผลจริงเหรอ”

หลักฐานโจ่งแจ้งแบบนี้ยังดื้อไม่ยอมรับอีก? จะทำได้ยังไงกัน!

เยี่ยเส่าอันและเหลียงเหม่ยเซวียน คนพวกนั้นไม่ได้โง่…

เยี่ยหวันหวั่นมองเขาอย่างสบายๆ “ขอแค่พี่หน้าหนาพอ!”

เยี่ยมู่ฝานนิ่งเงียบไป

ในห้องประชุม

ผู้อาวุโสเยี่ยทั้งสอง เยี่ยเส่าอัน เหลียงเหม่ยเซวียน เยี่ยอีอี รวมทั้งเยี่ยเส่าถิงกับเหลียงหวั่นจวินต่างมากันครบแล้ว

ทนายหยิบหนังสือฟ้องร้องที่เตรียมไว้ขึ้นมา ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเย็นชา

ดูจากรูปการณ์แล้ว เห็นได้ชัดว่าคิดจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

เยี่ยเส่าถิงรีบพูด “พ่อครับ พ่อช่วยยกโทษให้มู่ฝานในครั้งนี้ด้วย ถ้าเขามีประวัติแบบนี้ ทั้งชีวิตเขาก็จบเห่แล้ว…”

เยี่ยหงเหวยหมดหวังขั้นสุดแล้ว เห็นชัดว่าไม่อยากคุยกับเขาให้มากความ “แกหุบปากไปเลย! ตอนนี้เพิ่งคิดจะมาร้อนรน จะมีประโยชน์อะไร”

“พ่อ…พ่อครับ…”

เห็นปู่ใจแข็ง เหลียงหวั่นจวินร้องไห้โผเข้าไปหาถานอี้หลาน “แม่คะ แม่รักมู่ฝานที่สุด ขอร้องล่ะแม่ยกโทษให้มู่ฝานสักครั้งเถอะค่ะ…”

สายตาถานอี้หลานมองไปทางเหลียงหวั่นจวินเหมือนมีดที่แหลมคม ในดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

เดิมทีตอนแรกเธอเตรียมจัดงานแต่งงานให้ลูกชายคนโตแล้ว ปรากฏว่าลูกชายกลับดื้อแพ่งจะแต่งงานกับเหลียงหวั่นจวิน เธอค้านลูกชายไม่ไหว จึงได้แต่ทำตามที่เขาต้องการ

ตอนแรกเธอก็ไม่ชอบลูกสะใภ้ที่สวยเกินไปคนนี้อยู่แล้ว อีกอย่างแต่งเข้ามาตั้งหลายปียังไม่มีลูกสักที

แล้วตอนนั้นเหลียงเหม่ยเซวียนที่อยู่นอกบ้านกตัญญูมาอยู่เป็นเพื่อนเธอบ่อยๆ

ต่อมาเหม่ยเซวียนท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอให้ลูกชายคนโตหย่า ปรากฏว่าลูกชายคนโตก็ไม่เชื่อฟังเธออีก ใจดำจนแม้กระทั่งเลือดเนื้อเชื้อไขตัวเองยังไม่ต้องการ สุดท้ายลูกชายคนรองออกหน้ายอมแต่งงานกับเหม่ยเซวียน ถึงได้ปกป้องอีอีไว้ได้

…………………………………………………………….

บทที่ 628 หน้าไม่อายยิ่งกว่าใคร

ตอนแรกถ้าเยี่ยเส่าถิงเชื่อฟังเธอ หย่าแล้วแต่งงานกับเหม่ยเซวียน จะเกิดเรื่องมากมายแบบนี้ที่ไหน ไม่แน่ตอนนี้อาจจะไม่ได้มีแค่อีอี อาจมีลูกชายหลายคนแล้วก็ได้!

ตอนนี้ผลเป็นเหมือนคำพูดเธอในตอนนั้นจริง ถึงแม้เหลียงหวั่นจวินจะคลอดลูกชาย แต่ทั้งสองคนก็ไม่เอาไหน ทำตระกูลเยี่ยวุ่นวายไปหมด

พอคิดมาถึงตรงนี้ ถานอี้หลานก็โกรธจัดจนคุมไม่อยู่ ใช้มือผลักเหลียงหวั่นจวินออกไปอย่างแรง “บอกแล้วว่าแต่งงานกับเมียสวยไปก็ไร้ประโยชน์ ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตฉัน ก็คือไม่ได้ห้ามเส่าถิงแต่งงานกับเธอตั้งแต่ตอนนั้น ถึงทำให้ลูกชายคนโตของฉัน หลานฉัน ต่างย่อยยับในกำมือเธอ!”

ได้ฟังคำตำหนิแบบนี้ หัวใจเหลียงหวั่นจวินรู้สึกปวดร้าว “แม่คะ…”

ถานอี้หลานโมโหมากจนหอบ “ไสหัวไป อย่ามาเรียกฉันว่าแม่!”

เหลียงเหม่ยเซวียนกับเยี่ยอีอีเข้าไปได้ทันท่วงที

เยี่ยอีอีตบหลังถานอี้หลานเบาๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “คุณย่าคะ อย่าโกรธเลยค่ะ!”

เหลียงเหม่ยเซวียนมองเหลียงหวั่นจวินที่โดนด่าจนไม่มีชิ้นดี ซ่อนความสะใจในแววตาไว้ “คุณแม่คะ อารมณ์เย็นหน่อยค่ะ อย่าให้ความโกรธทำร้ายสุขภาพตัวเอง!”

พอเห็นเหลียงเหม่ยเซวียนกับเยี่ยอีอี สีหน้าถานอี้หลานค่อยดีขึ้นมาหน่อย “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันมีแค่เหม่ยเซวียนเป็นลูกสะใภ้คนเดียว และมีอีอีเป็นหลานสาวคนเดียว!”

เหลียงหวั่นจวินทรุดลงไปที่พื้นทั้งน้ำตานองหน้า นิ้วของเยี่ยเส่าถิงจิกแน่นลงกลางฝ่ามือ เลือดซึมออกมา

เหลียงเหม่ยเซวียนก้มลงมองเหลียงหวั่นจวิน “พี่คะ พี่พูดให้น้อยลงหน่อยดีกว่า! ต้องให้แม่โกรธจนตายถึงจะพอใจหรือไง มู่ฝานเด็กคนนี้ฉันว่าสุดจะทนแล้ว ถ้าไม่สั่งสอนเขาบ้าง ไม่นานจะต้องก่อเรื่องใหญ่อีก!”

เยี่ยอีอีพูดเสียงอ่อนโยนว่า “คุณลุง คุณป้าคะ คุณลุงคุณป้าอย่าโทษที่คุณปู่คุณย่าใจร้ายเลยค่ะ ที่จริงคุณปู่คุณย่าก็ทำเพื่อมู่ฝาน”

เยี่ยเส่าอันเดินไปข้างหน้าเยี่ยเส่าถิง ตบๆ ไหล่เขา “พี่ ทำผิดแล้วก็ควรจะรับผิดชอบ นี่เป็นเรื่องกฎเกณฑ์ธรรมชาติ พี่จะอยู่อย่างสบายต่อเพราะพ่อแม่ใจอ่อนไม่ได้!

ตอนแรกพี่ก็เอาบริษัทตัวเองไปฟอกเงินขัดกับหลักการของพ่อ ติดหนี้พนันที่ลาสเวกัสก็ยักยอกเงินหลวง ตอนนี้ลูกชายยังมาขโมยความลับของบริษัทอีก!

พี่เห็นบริษัทเป็นอะไร ธนาคารส่วนตัวของพี่หรือไง นี่ทรัพย์สินทั้งชีวิตของพ่อเลยนะ! เฮ้อ…”

เมื่อเห็นว่าเรื่องราวไม่ทางที่จะดีขึ้นไปกว่านี้แล้ว เยี่ยเส่าถิงยืดหลังตรง “ลูกที่ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่ ความผิดของมู่ฝานทั้งหมด ผมยินดีรับผิดชอบเอง! ติดคุกก็ดี หรือจะชดใช้ก็ได้ ให้ผมที่เป็นพ่อเป็นคนรับผิดชอบเอง!”

ได้ยินคำพูดของเยี่ยเส่าถิง เยี่ยเส่าอันกับเหลียงเหม่ยเซวียนสบตากัน

ถ้าให้เยี่ยเส่าถิงติดคุกก็ไม่เลวดีเหมือนกัน

มีพ่อเป็นนักโทษ จุดด่างพร้อยตรงนี้ ชีวิตนี้เยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยหวันหวั่นก็ทำอะไรไม่ขึ้นแล้ว

ในเวลานี้เอง หน้าประตูมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา

เยี่ยหวันหวั่นและเยี่ยมู่ฝานผลักประตูเดินตามกันเข้ามาข้างใน

เมื่อได้ยินคำพูดไร้ยางอายของครอบครัวเยี่ยเส่าอัน แววตาเกียจคร้านของเยี่ยหวันหวั่นมีความเย็นชาเสี้ยวหนึ่งแวบผ่าน

หึ เห็นชัดๆ ว่าตอนแรกพวกเขาร่วมมือกันทำร้ายพ่อ ทั้งฟอกเงิน ยักยอกเงินบริษัทเอามาใช้หนี้ เรื่องทั้งหมดเขาเยี่ยเส่าอันเป็นคนก่อขึ้น แต่กลับมาให้ร้ายพ่อเธอแทน เวลานี้ยังกล้าพูดจาโอหังแบบนี้อีก นี่มันไร้ยางอายเกินขีดจำกัดไปแล้ว

เห็นเยี่ยมู่ฝานมาช้า เยี่ยเส่าอันก็พูดเหน็บแนมทันที “คุณชายใหญ่ของอา ในที่สุดหลานก็มาแล้ว!”

เยี่ยมู่ฝานสวมสูทสีฟ้าอ่อนทั้งตัวดูน่าดึงดูด มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า กวาดตามองทุกคนในห้องประชุมอย่างสบายๆ “โย่ ทำไมวันนี้คนเยอะจัง เรียกผมมาทำอะไร?”

………………………………………………………………