[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 457 : ออกสู่ทะเล!

ในตอนเช้า.. หลิงหยุนขับรถกลับไปที่หมู่บ้านฝูฮัวหลังจากที่ไม่ได้กลับไปทั้งคืน แต่เขาได้โทรบอกหลินเมิ่งหานไว้แล้วว่าไม่ต้องรอ และเมื่อเขาฝึกเสร็จก็จะรีบกลับบ้านทันที

กำลังภายในของหลินเมิ่งหานในเวลานี้อยู่ในระดับเริ่มต้นของขั้นโฮ่วเทียน-9 และตอนนี้ทุกเช้าเธอก็จะต้องตื่นขึ้นมาเดินลมปราณจนถึงแปดโมงเช้า จึงทำให้เธอกลายเป็นคนที่ตื่นค่อนข้างเช้า

รถของหลิงหยุนยังไม่ทันเข้ามาในบ้าน หลินเมิ่งหานก็ไดยิน และรีบวิ่งลงไปรับเขาที่บันไดด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสสุข

“สามี.. กลับมาแล้วเหรอ?”

หลิงหยุนไม่ได้ขับรถเข้าไปในบ้าน แต่กลับจอดไว้หน้าประตูแล้วเดินเข้าบ้านแทน

“คุณดูสดใสมากทีเดียว ดูเหมือนว่าเมื่อคืนคงจะนอนหลับเต็มอิ่มสินะ?” หลิงหยุนเดินโอบเอวหลินเมิ่งหานเข้าไปพร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุขเช่นกัน

หลินเมิ่งหานมองหลิงหยุนอายๆพร้อมกับบิดไปบิดมาแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันคงจะเหนื่อยมากจนเผลอหลับไปถึงบ่ายสองโมง..”

หลิงหยุนช่างดุดัน แม้แต่หลินเมิ่งหานที่อยู่ในขั้นโฮ่วเทียน-9 ยังไม่สามารถต้านทานเขาได้

“ไป.. ขึ้นไปบนห้องกัน ผมอยากจะเช็คข้อมูลอะไรบางอย่าง!”

เมื่อทั้งสองคนเดินขึ้นไปบนห้องนอนชั้นสองแล้ว หลินเมิ่งหานก็จัดการเปิดโน๊ตบบุ๊คพร้อมกับถามหลิงหยุนว่า

“สามี.. นายจะหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไร?”

“พยากรณ์อากาศทางทะเลจีนด้านตะวันออกแถบเกาะเตียวหยู่ ช่วยผมหาหน่อยสิ!” หลิงหยุนตอบยิ้มๆ

จะออกไปตัดไปไม้ในป่าก็ต้องลับมีดให้คมฉันใด หลิงหยุนจะเข้าไปในเกาะเตียวหยูที่ยังคงมีกรณีพิพาทกันวุ่นวาย ก็ต้องศึกษาข้อมูลไปให้มากที่สุดเช่นกัน

หลินเมิ่งหานนั่งลงบนตักของหลิงหยุน และเปิดเวปไซต์ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเกาะเตียวหยูให้พร้อมกับหัวเราะคิกคัก

“สามี.. นี่นายเริ่มสนใจเหตุบ้านการเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ฝ่ามือใหญ่ของหลิงหยุนลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่เร่าร้อนของหลินเมิ่งหาน พร้อมกับยิ้มมุมปาก “ผมไม่ได้สนใจเรื่องของบ้านเมืองอะไรทั้งนั้นล่ะ แต่สามีของคุณจะไปที่เกาะนั่นต่างหาก!”

“ไปเกาะเตียวหยูนี่นะ?!” ใบหน้าสวยงามของหลินเมิ่งหานเปลี่ยนไปทันที เธอร้องถามออกมาเสียงดัง

“สามี.. นี่นายจะไปเกาะเตียวหยูจริงๆงั้นเหรอ?”

หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับคิดในใจว่า เกาะเตียวหยูทำให้หลินเมิ่งหานหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ? เธอเอื้อมมือไปโอบรอบคอหลิงหยุนไว้ และถามขึ้นว่า

“สามี.. ตอนนี้เกาะเตียวหยูมีแต่เรื่องวุ่นวายแล้วก็ไม่สงบ นายจะไปทำอะไรที่นั่น?”

หลิงหยุนยิ้มบางและตอบไปว่า “ผมจะไปฝึกวิชา ผมต้องไปที่นั่นเพื่อฝึกฝน ผมจำเป็นต้องไป..”

หลินเมิ่งหานทำหน้าตาสงสัย คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันพร้อมกับพูดขึ้นว่าอย่างสงสัย “วิชาอะไรกัน.. แล้วทำไมถึงต้องไปฝึกไกลขนาดนั้น? ฉันว่านายไปที่เกาะเตียวหยูด้วยเหตุผลอื่นใช่ไม๊?”

หลิงหยุนถึงกับปฏิเสธเสียงดัง “นี่ที่รัก..! บางวิชาก็ต้องไปฝึกในสถานที่เฉพาะเป็นพิเศษนะ! เหมือนอย่างวิชาพลังเย็นของคุณไงล่ะ ต่อไปในวันข้างหน้า.. หากคุณต้องการเข้าสู่ขั้นสูงสุดของวิชาพลังเย็น คุณก็ต้องไปฝึกในสถานที่ที่อากาศเย็นสุดๆ เพราะต่อให้คุณฝึกในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม ต่อให้ฝึกหนักแค่ใหนก็ยากที่จะก้าวหน้าถึงขั้นสูงสุดได้!”

“อะไรนะ? สถานที่ที่เย็นที่สุดงั้นเหรอ? งั้นก็..” หลินเมิ่งหานคิดถึงสถานที่สองแห่งขึ้นมาทันที

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับพยักหน้าทันที “ถูกต้อง..! ขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้..”

“ฉันไม่ไปหรอก.. คงจะหนาวจนแข็งตายแน่!” หลินเมิ่งหานได้ยินคำว่าขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ก็ถึงกับส่ายหัวปฏิเสธจนผมปลิวไสวไปมา

หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับอธิบายให้เธอฟัง “คุณอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธตอนนี้เลย.. ถึงเวลาจริงๆ ผมกลัวแต่ว่าต่อให้ผมห้ามปรามยังไงคุณก็คงจะไม่ยอมฟัง! อีกอย่าง.. เมื่อคุณฝึกวิชาพลังเย็นจนถึงจุดหนึ่งแล้ว อุณหภูมิเพียงแค่สองสามองศาก็ทำอะไรคุณไม่ได้”

“ยิ่งอยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำมากเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถฝึกฝนก้าวหน้าได้เร็วมากขึ้น และขั้วโลกเหนือกับบขั้วโลกใต้ก็เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการฝึกวิชาพลังเย็นมากที่สุด!”

หลินเมิ่งหานไม่โต้ตอบ เธอรู้ว่าหลิงหยุนพูดถูก และตอนนี้อุณหภูมิเฉลี่ยในเมืองจิงฉูก็อยู่ที่สามสิบองศาเซลเซียส แน่นอนว่าอุณหภูมิที่สูงขนาดนี้จึงรบกวนการฝึกวิชาพลังเย็นของเธออย่างมาก

“สามี.. ถึงตอนนั้นนายต้องไปกับฉันด้วยนะ..” หลินเมิ่งหานอ้อนพร้อมกับบหมุนนิ้ววนที่ต้นขาของหลิงหยุนเล่น

หลิงหยุนพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง.. เมื่อถึงเวลาผมจะไปเป็นเพื่อนคุณเอง”

ทั้งขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้นั้นค่อนข้างลึกลับ แม้ว่าหลินเมิ่งหานจะไม่ได้ฝึกวิชาพลังเย็นและจำเป็นต้องไปที่นั่น หลิงหยุนก็ต้องหาโอกาสไปเพราะเขารู้ดีว่าสถานที่แบบนั้นมักมีสมบัติล้ำค่าที่หายาก

“สามี.. สองวันนี้เกาะเตียวหยูมีพายุใหญ่ สภาพอากาศก็แย่มากๆ..”

หลินเมิ่งหานจัดการเช็คสภาพอากาศที่เกาะเตียวหยูให้หลิงหยุน และพบว่ามีคลื่นสูงถึงสี่เมตรเลยทีเดียว เธอจึงได้แต่ร้องเตือนหลิงหยุนด้วยความเป็นห่วง

“ดีที่ผมศึกษาข้อมูลไปก่อนล่วงหน้า” หลิงหยุนพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่นั้น หลิงหยุนสามารถยืนอยู่บนผืนน้ำในทะเล และโต้คลื่นที่สูงสองสามเมตรเล่นได้อย่างสนุกสนาน ไม่ต่างจากการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำเลยแม้แต่น้อย

หลังจากศึกษาข้อมูลต่างๆผ่านไปชั่วโมงกว่า หลิงหยุนก็เริ่มเข้าใจเกาะเตียวหยู่มากขึ้น หลินเมิ่งหานจัดการปิดโน๊ตบุ๊ค และทั้งคู่ก็แต่งตัวออกไปหาอาหารเช้ากินกัน

“สามี.. ฉันขอไปเกาะเตียวหยูกับนายได้ไม๊? ฉันเบื่อที่จะอยู่บ้านคนเดียว!” หลินเมิ่งหานถามขึ้นระหว่างรับประทานอาหาร

หลิงหยุนปฏิเสธเธอกลับไปตรงๆ แม้ว่าหลินเมิ่งหานจะอยู่ในขั้นโฮ่วเทียน-9 และกำลังฝึกวิชาพลังเย็นอยู่ก็จริง แต่เธอไม่เป็นวรยุทธเลย หากพาเธอไปด้วยก็เท่ากับไปเป็นภาระของเขา

หลังจากทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย หลิงหยุนก็ส่งหลินเมิ่งหานกลับไปที่บ้าน และได้ให้เบอร์ติดต่อของตี้เสี่ยวอู๋ ถังเมิ่ง และหนิงหลิงยู่แก่หลินเมิ่งหาน เพื่อที่ว่าหากเธอต้องการความช่วยเหลือ คนเหล่านี้จะสามารถช่วยเธอได้

ความจริงแล้วหากเป็นเรื่องทั่วไปเพียงแค่ตี้เสี่ยวอู๋กับถังเมิ่งก็เพียงพอที่จะช่วยจัดการได้แล้ว แต่การที่หลิงหยุนให้เบอร์ติดต่อหนิงหลิงยู่ไว้ด้วยนั้น เผื่อไว้ในกรณีที่หลินเมิ่งหานต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือ ฉินตงเฉี่วยจะได้ช่วยเหลือเธอได้

เฉิงเม่ยเฟิงถูกลักตัวไปที่สำนักจิ้งซิน เสี่ยวเม่ยเม่ยก็ยังคงไร้ร่องรอย เกาเฉินเฉินก็เงียบหายไป เพียงเท่านี้หลิงหยุนก็โกรธมากมายพอแล้ว เขาไม่ต้องการกลับมาแล้วพบว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลินเมิ่งหานอีกคน

“เอาล่ะ.. ผมต้องกลับไปบ้านแล้ว คุณก็ฝึกวิชาอยู่ที่บ้านระหว่างที่รอผมกลับมาก็แล้วกัน จำไว้ว่าการฝึกกำลังภายในอย่าได้รีบร้อน ไม่อย่างนั้นอาจกลายเป็นมารได้!”

จากนั้นหลิงหยุนก็ขับรถออกจากหมู่บ้านฝูฮัวกลับไปยังบ้านเลขที่-9 ในอ่าวจิงฉู

ทันทีที่ไปถึง.. หลิงหยุนก็บอกฉินตงเฉี่วยกับหนิงหลิงยู่ว่า เขาจะออกเดินทางจากจิงฉูไปที่เมืองเหวินโจวบ่ายนี้

“ข้าต้องไปที่เมืองเหวินโจวก่อน แล้วจึงขับสปีดโบ๊ทต่อไปที่เกาะเตียวหยู” หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับบอกสาวสวยทั้งสองคน

หนิงหลิงยู่มีท่าทางละล้าละลังไม่อยากให้ไป ดวงตาของเธอแดงก่ำ และกำลังจะร้องไห้ เธอย้ำนักย้ำหนาให้หลิงหยุนระวังความปลอดภัย

“หลิงยู่.. ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครทำอะไรพี่ได้แน่นอน!”

หลิงหยุนหยิบยันต์อัคนี ยันต์บำบัด ย้นต์เพชร ยันต์เกราะ และอีกมากมายออกมาให้ฉินตงเฉี่วยดู พร้อมกับอธิบายวิธีการใช้ และสาธิตให้ดู เมื่อหญิงสาวทั้งสองได้เห็นก็ถึงกับตกใจจนอ้าปากค้าง.. ทั้งคู่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง!

“เจ้าเด็กดื้อ.. เจ้าไปเอาของพวกนี้มาจากไหนกัน? นี่มัน..” ฉินตงเฉี่วยร้องออกมาอย่างตกใจสุดขีด..

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “น้าหญิง ยันต์พวกนี้ข้าปลุกเสกขึ้นเอง ยังมียันต์อื่นๆอีกนะ ไว้ข้ากลับมาจะทำให้ท่านด้วย!”

หลังจากร่ำลาฉินตงเฉี่วยและหนิงหลิงยู่ หลิงหยุนก็รีบกลับไปที่บ้านเลขที่-1 รอถังเมิ่ง และเริ่มโทรหาทุกคน

เหยาลู่ กงเสี่ยวลู่ ฉางหลิง.. หลิงหยุนบอกพวกเธอว่าเขาจะไม่อยู่จิงฉูสองวัน พวกเธอจะได้ไม่เต้องเป็นห่วง เพราะได้รับบทเรียนจากครั้งที่เขาลงไปก้นหลุมยักษ์โดยไม่บอกกล่าวใคร ครั้งนี้เขาจึงบอกให้ทุกคนรู้..

แต่ในการไปครั้งนี้.. หลิงหยุนค่อนข้างสบายใจและไม่เป็นห่วงอะไร เพราะในเมืองจิงฉูมีทั้งยอดฝีมืออย่างฉินตงเฉีวย ท่านหมอเสี่ยว และตู้กู่โม่ อีกทั้งยังมีหลี่ยี่เฟิงและถังเทียนห่าว ใหนจะยังมีแก๊งมังกรเขียวอีกด้วย หากใครคิดที่จะจัดการกับเขาในช่วงเวลานี้ ก็คงต้องผ่านอุปสรรค์หลายด่านหน่อย

ถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋มาถึงแล้ว แต่หลิงหยุนคิดไม่ถึงว่าหลงหวู่ก็มาด้วยเช่นกัน..

“นี่คุณมาได้ยังไง?” หลิงหยุนถามอย่างประหลาดใจเพราะเขาเองก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับหลงหวู่

“ฉันได้ยินมาว่านายจะออกทะเล ก็เลยอยากมาส่ง..” หลงหวู่ตอบหลิงหยุนเสียงเบา

หลิงหยุนเหลือบมองตึ้เสี่ยวอู๋ ก็เห็นเขากำลังทำท่าหวาดกลัว และเอามือปาดคอตัวเองแทนคำตอบ..

“พี่หยุน.. อาหารกับน้ำดื่มที่สั่งไว้ ฉันจัดการให้เรียบร้อยแล้วนะ?” เสียงถังเมิ่งถามแทรกขึ้นมาทันที

“ดีมาก.. ถ้างั้นก็ออกเดินทางเลย!” หลิงหยุนพร้อมอยู่แล้ว เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกไปกับเจ้าขาวปุย

ถังเมิ่งขับรถฮัมเมอร์ ตี้เสี่ยวอู่นั่งข้างคนขับ หลิงหยุนนั่งด้านหลังกับเจ้าขาวปุย ส่วนหลงหวู่ที่ต้องการไปส่งหลิงหยุนที่เหวินโจวก็นั่งอยู่ข้างๆติดกับเขา

รถฮัมเมอร์เคลื่อนออกจากเมืองจิงฉู และมุ่งหน้าไปทางทิศใต้สู่เมืองเหวินโจว..

“นายจะไปทะเลทำไมกัน?” หลงหวู่ถามหลิงหยุนราวกับแม่บ้านถามกำลังถามสามี

“ไปฆ่าคน!” หลิงหยุนตอบเสียงเบา

หลงหวู่มองหลิงหยุนด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน เธอขมวดคิ้วและถามขึ้นทันที “นอกจากฆ่าคน.. นายทำเรื่องอื่นไม่เป็นหรือยังไง?!”

หลิงหยุนหัวเราะ “อ่อ.. ผมยังต้องท่องศัพท์ใน Oxford Engllish Dictionary ด้วย!”

หลิงหยุนพูดหน้าตายพร้อมกับเรียกดิกชันนารีออกเปิดท่องทีละหน้าอย่างไม่สนใจใคร หลงหวู่เองก็ถึงกับมึนไปเช่นกัน..

ผ่านไปสามชั่วโมง คณะของหลิงหยุนก็มาถึงเขตหลงวั่นในเมืองเหวินโจว ถังเมิ่งไปพบเพื่อนของเขาที่ท่าเรืองน้ำลึก หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายแนะนำตัวกันเพียงสั้นๆ ต่างคนต่างก็แยกย้าย

ถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋ช่วยกันขนของในรถไปไว้ที่สปีดโบ๊ท และของที่มีมากที่สุดดูเหมือนจะเป็นอาหารและน้ำดื่ม แล้วก็เสื้อผ้าอีกบางส่วน

“พี่หยุน. สปีดโบ๊ทลำนี้มีกำลังขับเคลื่อนได้ถึง 750 ไมล์ทะเล จากนี้ไปที่เกาะเตียวหยูไปกลับก็ราว 400 ไมล์ทะเลเท่านั้น เรือลำนี้รับได้สบายๆ!” หลังจากขนของเสร็จเรียบร้อยถังเมิ่งก็บอกกับเรื่องนี้กับหลิงหยุน

หลิงหยุนพยักหน้าให้เจ้าขาวปุยขึ้นไปบนเรือ ทะเลสีครามอยู่ตรงหน้า หลิงหยุนแทบอดใจรอคอยไม่ได้

“หลิงหยุน.. ระวังเนื้อระวังตัวให้ดีล่ะ! ฉันจะรอนายอยู่ที่เหวินโจว!” หลงหวู่มองหลิงหยุนขับเรือออกไป และได้แต่ยกมือที่ถือโทรศัพท์โบกไปมาให้เขา

“ผมจะปิดมือถือ.. ไว้ค่อยโทรหาตอนที่ผมกลับมานะ!”