ตอนที่ 238

Black Tech Internet Cafe System

เกมนี้สามารถฆ่ากันหรือป้องกันตัวจากการถูกโจมตีได้ มันมีทั้งสกิลป้องกันตัวเองและช่วยเหลือเพื่อนในทีม สำหรับผู้เล่นที่มีทักษะและการควบคุมที่ไม่เชี่ยวชาญ พวกเขาหวังเพียงว่าการเล่นเกมนี้จะไม่สร้างปัญหาเดือดร้อนให้ตัวเองเท่านั้น

 

เมื่อหวังชานเริ่มเรียนรู้คาถาจิตวิญญาณสกิลแรกที่เขาได้เรียนรู้เรียกว่าลูกบอลไฟหรือลูกไฟ

 

“ข้าพลาด!” เมื่อโจมตีพลาดเขาจึงใช้มันอีก

 

ตู้ม! ตู้ม!

 

ลูกไฟลูกสองระเบิดด้านหลังของนักรบที่อยู่ในเกมคนนั้น เห็นได้ว่าเขาสะดุดล้มเสื้อผ้าข้างหลังของเขาถูกไฟลุกไหม้!

 

 

ณ เมืองจิวหัว

 

เกาซงเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเกมนี้มันสนุกกว่าเกมอื่นๆ ที่เขาเคยเล่นหรือไม่ แต่เขาเลือกที่จะจ่ายไปแล้สวดังนั้นเขาจึงต้องฝึกให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้คุ้มค่าและเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝน ท้ายที่สุดเขาเองไม่ใช่คนที่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำยังพอเอาดีได้อยู่บ้าง

 

ข้าหวังว่าจะมีสิ่งแปลกใหม่ในเกม ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้นเขาเห็นปีศาจแมวโผล่มาเขาจึงรีบโจมตีมันอย่างรวดเร็ว!

 

ก่อนที่จะจัดการเจ้าแมวจู่ๆ ลูกไฟสองลูกก็ระเบิดกลางหลังของเขา!

 

เมื่อเกาซงหันหลังกลับไปมองพบชายวัยกลางคนสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายดิบ ชายคนนี้ถือไม้เท้าไว้ในมือข้างหนึ่งและชายคนนั้นยังคงยิงลูกไฟอย่างต่อเื่องและมันกำลังพุ่งตรงมาที่เขา!

 

“ชิบ!” ด้วยความเจ็บปวดจากลูกไฟ เกาซงจึงเอียงร่างกายเพื่อหลบลูกที่กำลังพุ่งมาทางเขา

 

“เอ่อ!” หวังชานรู้สึกหัวร้อนที่นับรบระดับต่ำหลบลูกไฟของเขาระดับผู้ฝึกฝนได้! แม้ว่าในเกมเขาจะยังอ่อนแอแต่เขาก็ไม่กลัวเพราะคู่ต่อสู้ของเขาเป็นเพียงแต่นักรบตัวเล็กๆ เขาจึงวิ่งออกไปข้างหน้าและขว้างลูกไฟออกไป

 

 

ณ คาเฟ่ในประเทศเมืองครึ่ง

 

พวกเขายืนเฝ้ามองดูการเล่นเกมอยู่ข้างหลังหวังชาน ขณะที่หวังชานค้นพบเอกลักษณ์และความสนุกของเกม แต่คนที่กำลังจับตามองกับรู้สึกงงงวยกับสิ่งที่ได้เห็น

 

ชายคนนี้เล่นเกมเป็นคนอื่นหรือ? รวนหนิงรู้สึกไม่เข้าใจเธอมองไปรอบๆ ร้านแต่ก็ไม่พบผู้เล่นคนอื่นนอกจากเขา หมอนี่มากจากไหน?

 

ฟางฉีจ้องหน้าจอและรู้สึกตลกเล็กน้อยเมื่อเห็นมือใหม่สองคนกำลังต่อสู้กันด้วยดาบไม้

 

“นั่นคือผู้เล่นจากร้านค้าอื่น” ฟางฉีอธิบาย

 

“ร้านอื่น?” ชายวัยกลางคนผู้สวมชุดสีเทาถามย้ำด้วยความประหลาดใจ “ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีธุรกิจใหญ่!”

 

ขณะเดียวกันหลายคนก็กำลังพูดคุยกันว่าผู้เล่นเหล่านี้มาจากที่ใดในประเทศเมืองครึ่งหรือเปล่า ..

 

เกาซงรู้สึกไม่ดีนักตอนนี้เขากำลังอยู่ในสถานะการณ์ที่ดูเสียเปรียบ แมวปีศาจที่เขาไล่ตามในตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เหมาะสมในเวลานี้ ..

 

ปัง! ไอเทมต่างๆ เช่นเนื้อกวางที่เขาตามล่าและดาบไม้ของเขาตกลงจากตัว .. เมื่อเขาตาย

 

“ฮ่าๆๆ เจ้ากล้าที่จะต่อกรกับพ่อของพ่อเจ้าหรอ!“ หวังชานฆ่าปีศาจแมวตาย เขาเหยียบบยศพเกาซงและพูดเย้ยหยันว่า “นักรบที่อ่อนแออย่างเจ้ากล้าแย่งแมวของข้างั้นหรอ!? เจ้ากำลังมองหาความตาย!”

 

จากนั้นเขาหยิบสัมภาระที่ตกบนพื้นขึ้นมา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าพวกมันเป็นเนื้ออะไรและสามารถนำไปทำอะไรได้ แต่เขาก็เก็บมาเพราะคิดว่ามันน่าจะสามารถนำไปขายเป็นเงินได้!

 

 

ณ เมืองจิวหัว

 

“บ้าเอ้ย!” เกาซงตะโกนและทุบโต๊ะ เขากำลังฆ่าสัตว์ประหลาดของเขาและเก็บค่าประสบการณ์ แต่ดันมีคนโจมตีเขาโดยการปาสกิลลูกไฟใส่และยืนบนร่างของเขาหลังจากเขาตาย

 

มันมากเกินจะทน!

 

ถัดไปจากเขาคือซีฉีที่ได้ยินเสียงสบถของเกาซง “ศิษย์พี่ซงเกิดอะไรขึ้นหรือ?”

 

“ข้าตายและของตกหมด” เกาซงตอบด้วยความโกรธ

 

“รีบกลับไปเก็บของสิ!” ผู้เล่นที่เล่น Diablo สามารถย้อนกลับมาเก็บของได้หลังจากถูกฆ่า

 

“ไม่! ข้าถูกฆ่า!” เกาซงพูดอย่างดุเดือด “ชายคนนั้นเก็บของข้าไปแล้ว เขากำลังเยาะเย้ยข้า!”

 

“ไม่! ข้าต้องกลับไปจัดการ!”

 

“นี่ ..” ซีฉีและคนอื่นๆ มองหน้าด้วยความงงงัน สงสัยว่าเขาจะถูกคนอื่นฆ่าได้อย่างไรในเมื่อเขาเล่นเกมอยู่คนเดียว

 

พวกเขาเริ่มสังเกตเกมของเกาซงอย่างระมัดระวัง

 

ในเกมเกาซงกำลังจะออกไปนอกเมืองเพื่อตามหาฆาตกรที่ทำร้ายเขา เขารู้ว่าเขาไม่มีอาวุธ เขาเลือกที่จะขายเนื้อไก่และกว้างในกล่องเก็บของและซื้อดาบไม้พร้อมยาสองขวดก่อนจะรีบออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

คาเฟ่ ณ ประเทศเมืองครึ่ง

 

“นั่น เขายังไม่ตายอีกหรือ!?” หวังชานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย หลังจากคิดไปเขาก็เข้าใจว่ามันเป็นคุณสมบัติของสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณ เขาพูดด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย “เจ้ากล้ากลับมา ข้าก็จะฆ่าเจ้า!”

 

คราวนี้เกาซงยืนสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีสัตว์ประหลาดให้เขาไล่ตาม การเคลื่อนไหวของเขามั่นคงและรวดเร็วเขาก้าวไปข้างหน้าหลบลูกไฟของฝ่ายตรงข้ามและไล่ตามหวังชาน!

 

หวังชานสร้างลูกไฟขึ้นมา .. ตู้ม!

 

ลูกไฟระเบิดบนไหล่ของเกาซง เขาถูกบังคับให้ต้องสตั้นลง หวังชานยังคงวิ่งต่อไปในพร้อมกับยิงลูกไฟออกไป หวังชานผู้มีประสบการณ์มากยังคงร่ายเวทย์อย่างไม่หยุด การโจมตีในระยะห่างของเขายอดเยี่ยม

 

เกาซงที่กำลังวิ่งตามมาอย่างกระชั้นชิดดื่มยาหนึ่งขวด .. แต่ไม่ทันเลือดของเขากลับไปเป็นศูนย์อีกครั้ง

 

ตู้ม!

 

เขาตายลงและของยังคงตกเช่นเดิม

 

หวังชานพูดด้วยความเหยียดยามพร้อมเลือดน้อยๆ ของเขาว่า “ขยะ! เจ้าฆ่าพ่อของพ่อเจ้าไม่ได้หรอก!”

 

คาเฟ่ ณ จิวหัว

 

ซีฉีและคนอื่นๆ ที่กำลังรับชมจากด้านหลังอ้าปากค้างที่เห็นผู้เล่นสามารถเล่นได้แบบนี้

 

“แม่ง!” เกาซงโกรธแค้นทันที

 

“เจ้าต้องการความช่วยเหลือมั้ย? ศิษย์พี่เกา ..”

 

“มา! พวกเจ้ามาช่วยกัน!” เกาชงระเบิดความโกรธ

 

“ไป! เปิดเกมกันเถอะ” ซีฉีและน้องสาวของเขาซีเซียวหยุนเปิดใช้งานเกมทันที

 

… หนึ่งชั่วโมงต่อมา

 

“ชิบ!” ร่างกายของหวังชานตอนนี้เต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดไหลซิบๆ พร้อมนักรบทั้งสามที่กำลังวิ่งไล่เขา

 

“เจ้าทั้งสองมาช่วยจ้าที!” เขาตะโกนเรียกผู้พิทักษ์ที่มากับเขา

 

ชายทั้งสองคนถูกล่อลวงเมื่อได้ยินว่าเกมสามารถเพิ่มจุดแข็งทางการฝึกฝนของเขาได้ หวังชานเรียกพวกเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ “มา พวกเจ้ามาช่วยข้าที!”

 

“อ่าาาาา” ไม่ทันที่พวกเขาจะเข้าสู่เกม หวังชานถูกฆ่าตายเสียก่อน ของที่เขาหามาได้ตกลงบนเพื่อนและลดลงอย่างเห็นได้ชัด

 

“ขยะ! ทีนี้เจ้ายังกล้าจะฆ่าคนอีกหรือไม่!” เกาซงหอบเขาเหยีบบนร่างของหวังชาน

 

“ช่างมัน!” หวังชานรู้สึกโกรธทันที “ข้าถูกเจ้าสามคนฆ่า!”

 

เขาวางชุดหูฟัง VR ลงบนโต๊ะและเกือบเอามือทุบโต๊ะด้วยความโมโห .. เขามองไปรอบๆ “ใครมันกล้าฆ่าข้า ออกมาสิ!” แต่เขาก็ไม่เห็นใครนอกจากคนที่ยืนมองเขาเล่น

 

“เจ้าฆ่าเขาก่อนและตอนนี้ก็มาโกรธคนที่ฆ่าเจ้า!?” รวนหนิงพึมพำ “ข้าได้ยินเจ้าของร้านบอกว่าที่นี่เป็นร้านใหม่และผู้เล่นอื่นอยู่ที่ร้านอื่นไกลจากที่นี่มาก”

 

หวังชานกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก “ผู้พิทักษ์ทั้งสอง! ข้าไม่เคยถูกหยามขนาดนี้มาก่อน! เขากล้าที่จะสบถใส่ข้าและเหยียบบนร่างของข้า พวกเจ้าต้องช่วยข้าฆ่าพวกเขา!”

 

ทั้งสองหัวเราะ “ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะช่วยเจ้าอย่างดีที่สุด!”

 

หลังจากเข้าเกมข้างกายของหวังชานในตอนนี้มีนักรบและนักเวทย์ทั้งสองคนอยู่ในระดับหนึ่ง พวกเขาสวมเสื้อแจ็คเก็ตสั้นทำจากผ้าฝ้ายดิบและพูดด้วยน้ำเสียงชวนปลุกใจ “ไปกันเถอะ! เจ้านั่นที่ต้องการให้เราฆ่าอยู่ที่ไหน!?”

 

หวังชานเกือบสติแตกเนื่องจากความโกรธ เขาลูบหน้าผากและพูดว่า “พวกเขา .. ต้องเก็บค่าประสบการณ์ก่อน!”

(ผู้แปล : เพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้นขออนุญาตเปลี่ยนจากคำว่าค่าประสบการณ์เป็นเลเวล ปล.ที่ใช้ค่าประสบการณ์เพราะคิดว่าน่าจะเข้ากับยุคนั้น)