ตอนที่ 84 สองโลกที่แตกต่าง

ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน

จูเสี่ยวเฟย และ เติ้งไค สังเกตเห็นว่าเสี่ยวหลัว มุ่งตรงไปที่เตียงทันทีหลังจากที่เขากลับมา ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาสงสัยว่ามันคงจะมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างการซื้อขาย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดที่จะถาม พวกเขาลดระดับเสียงของเกมและเพลงลง เพื่อไม่ให้ไปรบกวน เสี่ยวหลัว

เสี่ยวหลัว นอนหลับจนถึง 2 ทุ่ม จูเสี่ยวเฟยและเติ้งไค พยายามปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาเพื่อทานอาหารค่ำ แต่พอเสี่ยวหลัวตื่นขึ้นมาอาหารมันก็เย็นชืดไปจนหมดแล้ว

“พี่หลัว เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” จูเสี่ยวเฟย ถามเมื่อเห็นว่า เสี่ยวหลัวตื่นแล้ว

“ฉันแค่เหนื่อยอยู่นิดหน่อย” เสี่ยวหลัวเหยียดหลังตรงพร้อมกับพูดว่า“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว หลังจากที่ได้นอนหลับสนิท”

เติ้งไค มองไปที่เสี่ยวหลัว ด้วยความสงสัย ตอนที่เสี่ยวหลัวกลับมา พวกเขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่ชั่วร้ายที่มันเปล่งออกมาจากร่างกายของเขา และนั่นมันก็เป็นสาเหตุที่พวกเขาไม่ได้ถามตอนที่เสี่ยวหลัวกลับมา

เสี่ยวหลัวโบกมือแล้วพูดว่า“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ฉันต้องยืนรอที่นั่นตลอดทั้งบ่าย แต่มันกลับไม่มีใครมาเลยสักคน!”

นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดงั้นเหรอ!

จูเสี่ยวเฟยและเติ้งไค ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไม เสี่ยวหลัว จึงดูโกรธเมื่อเขากลับมา มันเป็นเพราะว่าเขายืนรอตลอดทั้งบ่ายนี่เอง

“พวกนายรู้ไหม ว่ามีร้านอาหารอะไรที่อร่อยๆบ้าง ที่มันอยู่ใกล้ๆกับมหาลัยของเรา” เสี่ยวหลัว ถามตอนนี้เขาหิวมาก

“ร้านบะหมี่ ตรงประตูมหาลัยอร่อยมากๆ” จูเสี่ยวเฟย ตอบกลับไปในแทบจะทันที

เติ้งไค จ้องเขม็งไปที่ จูเสี่ยวเฟย“พี่หลัว พี่อย่าไปฟังเสี่ยวเฟยเลย มันชอบลูกสาวของเจ้าของร้านอาหาร นั่นเป็นเหตุผลที่มันคิดว่าร้านอาหารนั่นรสชาติอร่อยมาก”

ลูกสาวของเจ้าของร้าน? เสี่ยวหลัวพูดซ้ำ พร้อมยกคิ้วขึ้น

“เธอเป็นโลลิต้า อายุสิบห้าหรือสิบหกปีนี้แหละ เธอมาช่วยที่ร้านอยู่บ่อยๆ เธอมีรูปร่างที่ดูอ่อนหวานและอ่อนโยน และเสี่ยวจูยังตั้งชื่อให้เธออีกด้วยว่าสาวหมี่เกี้ยว” เติ้งไค กล่าว

“หุบปากไปเลยเติ้งไค! แกคิดเหรอว่าจริงๆแล้ว ฉันไปซื้อบะหมี่ผัดเพียงเพราะผู้หญิงที่ขายบะหมี่ผัดสวย แกคิดว่าฉันเป็นคนประเภทนั้นจริงๆงั้นเหรอ?” จูเสี่ยวเฟย พูดเสียงดัง

“แกไม่ใช่คนแบบนั้นเหรอ?”

“แล้วแกคิดว่าฉันเป็นคนยังไง”

“แกคือ….”

“หยุดหยุดหยุด! ทำไมแกมักจะพูดถึงฉันไม่ดีต่อหน้าพี่หลัว อยู่ตลอดเลย แกกำลังทำลายภาพลักษณ์วีรบุรุษของฉันอยู่ใช่ไหม!”

“แกมันคือไอโง่!”

“อ๊ากก! ฉันทนไม่ไหวแล้ว!!”

จกานั้นพวกเขาก็ลงเอยด้วยการต่อสู้กัน พวกเขาต่างโจมตีไปที่ลูกไข่ทั้งสองลูกของกันและกัน ผู้ที่ถูกโจมตีต่างทำเสียงแปลกๆออกมา เหมือนกับว่าเขาเต็มไปด้วยความฟินอย่างไรอย่างนั้น

เสี่ยวหลัวรู้สึกขนลุก เขาถอนหายใจออกมาและเดินออกจากห้องไป

เสี่ยวหลัวได้รับอิทธิพลมาจาก จูเสี่ยวเฟย มันทำให้เสี่ยวหลัว มุ่งหน้าไปที่ร้านบะหมี่ผัด มันเป็นอย่างที่จูเสี่ยวเฟยพูดจริงๆ มันมีสาวสวยกำลังช่วยงานที่ร้านอยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะน่ารัก แต่เธอยังเด็กมาก และเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรผู้หญิงในวัยนี้

เสี่ยวหลัวเดินไปสั่งข้าวผัดเนื้อ และหาที่นั่งลง

ในเจียงเฉิง มันมีร้านอาหารมากมายที่เป็นเช่นนี้ แม้ว่าพวกมันจะดูไม่ฉูดฉาด แต่มันก็สามารถสร้างรายได้หลายพันหยวนต่อเดือน นอกจากนี้อาหารอร่อยๆมากมาย ก็มักจะมาจากร้านอาหารเช่นนี้

“เทพหลัว!”

ทันใดนั้นเสี่ยวหลัว ก็ได้ยินเสียงอันไพเราะเรียกชื่อของเขา

เสี่ยวหลัวได้กลิ่นน้ำหอมลอยในอากาศ หลังจากนั้นไม่นาน อันหวน ก็นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขา

ผิวของเธอขาวราวกับหยก มาพร้อมกับใบหน้าที่สวยงามและผมสีดำที่นุ่มสลวย เธอมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเธอ มันทำให้เธอดูน่ารักมาก ที่หูของเธอมีต่างหูสีขาวประดับอยู่

“เทพหลัว ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คุณจะมาทานอาหารอยู่ที่นี่!” อันหวน พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

ทำไมฉันถึงจะมากินที่นี่ไม่ได้? เสี่ยวหลัวคิดอยู่ในใจ

เสี่ยวหลัวพูดว่า:“อันหวน เธอมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“จริงๆแล้วมันก็มีอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่าเทพหลัวลืมไปแล้วหรือยัง? จำได้ไหมว่าคุณเคยสัญญาบางอย่างกับฉันเอาไว้” อันหวน พยักหน้าตอบ

“ฉันเนี้ยนะ? ฉันไปสัญญาอะไรกับคุณตอนไหน?” เสี่ยวหลัว ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

อันหวน มุ่ยริมฝีปากของเธอด้วยความผิดหวังและตอบว่า“ไม่ใช่ว่า คุณสัญญาว่าจะสอนกังฟูให้กับฉัน เมื่อตอนที่เราอยู่ที่ภูเขาหลังมหาลัย งั้นเหรอ?”

โอ้ เรื่องนั้นเองงั้นเหรอ ที่เธอพูดถึง!

เสี่ยวหลัว จำได้อย่างคลุมเครือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนั้นเขาพูดออกไปเรื่อยเปื่อย ถ้าเธอไม่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเขาก็คงจะลืมมันไปแล้ว

เสี่ยวหลัวยิ้มอย่างอึดอัดใจพร้อมกับพูดว่า“ฉันขอโทษนะ เมื่อเร็วๆนี้ฉันยุ่งมาก มีหลายสิ่งที่ฉันลืมมันไป”

“ไม่เป็นไร แค่ เทพหลัว เต็มใจที่จะสอนฉัน ฉันก็โอเค”

อันหวน ยิ้มหวานออกมา “เทพหลัว คุณไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม ทำไมคุณถึงไม่สอนฉันในตอนนี้ซะเลยหละ?”

เสี่ยวหลัวขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า“ฉันยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย ฉันค่อยสอนเธอหลังจากที่กินข้าวเสร็จดีไหม”

“คุณสามารถเอาอาหารใส่กล่องไปกิน ตอนที่สอนฉันได้! ฮิฮิ…”

อันหวนพูดกับเจ้าของร้าน ให้ใส่ข้าวผัดของเสี่ยวหลัวลงในกล่องซื้อกลับบ้านสีขาว ก่อนที่เธอจะจ่ายค่าอาหารให้ไป

เสี่ยวหลัว ไม่สามารถปฏิเสธเธอได้ เขาลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของเขา จากนั้นอันหวนก็จับมือของเขา และก็พาเขาไปที่สนามยางของมหาลัย

“ฮะแฮม อันหวน…”

“มีอะไรเหรอ?”

“คุณช่วยปล่อยมือของฉันได้ไหม” เสี่ยวหลัว รู้สึกไม่คุ้นเลย ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งมาจับมือเขาแบบนี้

อันหวน หัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานแล้วพูดว่า“เทพหลัว คุณนี่ช่างขี้อายจริงๆ! การจับมือมันไม่ได้ทำให้ฉันท้องหรอก”

เสี่ยวหลัว พูดอะไรไม่ออกเลยในตอนนี้

เมื่อพวกเขามาถึงสนามยาง อันหวน ก็พูดอย่างตื่นเต้นและถามว่า“เทพหลัว ฉันควรจะทำอย่างไรต่อไป”

“วิ่งรอบสนามก่อนสองรอบ แล้วเราค่อยมาเริ่มฝึกกัน”

เสี่ยวหลัวหาที่นั่ง พร้อมกับเปิดข้าวกล่องของเขา

“ห่ะ? วิ่งสองรอบ? รอบสนามเลยงั้นเหรอ?” ใบหน้าของ อันหวน ขาวซีด

“ใช่แล้ว คุณไม่สามารถเชี่ยวชาญกังฟูได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งวัน ก่อนอื่น คุณต้องสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย ก่อนที่จะเริ่มเรียนรู้ หากคุณเคยดูการฝึกฝนของกองกำลังพิเศษในทีวี คุณก็น่าจะรู้นะ ว่าการฝึกฝนมันนรกแตกแค่ไหน”เสี่ยวหลัว พูดตอบพร้อมกับกินข้าวผัดของเขาไปด้วย

ดวงตาคล้ายไข่มุกดำของเธอเปร่งประกายและถามว่า“เทพหลัว คุณมีศิลปะการต่อสู้แบบที่ฝึกฝนคู่กัน บ้างหรือเปล่า?

หลังจากที่พูดจบ ใบหน้าของเธอขึ้นสีแดงราวกับแอปเปิ้ล

การฝึกฝนแบบคู่?

“แค๊ก! แค๊ก เธอนี่มัน…”

เสี่ยวหลัว เขาถึงกับสำลักอาหารเลยทีเดียว เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะอ่านแต่พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องราวอะไรมาก แต่ จาง ชูซาน ก็ให้ความรู้มากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้ชายและผู้หญิงกับเขา และเขาก็รู้ว่า ‘การฝึกฝนแบบคู่’ มันหมายถึงอะไร มันไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์เท่านั้น แต่เป็นการรวมกันของหยินและหยางเพื่อให้เกิดความกลมกลืนที่สมบูรณ์แบบ และการฝึกฝนแบบนี้ก็เพื่อที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายและก้าวหน้าไปพร้อมกัน

“เทพหลัว คุณเป็นอะไรมากไหม”

เมื่อเห็นว่าเสี่ยวหลัวไออย่างหนัก อันหวนจึงตบไปที่หลังของเขาอย่างรวดเร็ว

เสี่ยวหลัวยกมือขึ้นเพื่อหยุดเธอ “อันหวน คุณกำลังพยายามที่จะทำอะไรกันแน่ คุณดูละครศิลปะการต่อสู้มากเกินไปหรือเปล่า?”

“ฉันก็แค่อยากให้ เทพหลัว เป็นแฟนของฉัน” อันหวน ตอบอย่างบริสุทธิ์ใจ

“ฉันเคยพูดไปแล้วนะว่า พวกเราไม่เหมาะกัน” เสี่ยวหลัว วางอาหารลง พร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“ทำไม? มันเป็นเพราะว่าฉันเคยคบ กับ ซ่ง เจียหนาน มาก่อนงั้นเหรอ?”

“หยุดความคิดและจินตนาการของเธอไปเลย สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยการออกเดทมันเป็นเรื่องปกติ และมันก็เกือบที่จะเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรของการใช้ชีวิต ฉันไม่ได้จะดูถูกคุณเลยนะ” เสี่ยวหลัว พูดขัดจังหวะ “คุณกับฉัน พวกเรานั้นมาจากสองโลกที่แตกต่างกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะข้ามโลกมาหากัน และฉันก็จะเดินออกไปจากโลกของคุณในเร็วๆนี้แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่ต้องการให้คุณเห็นฉันเป็นเหมือนกับผู้ชายคนอื่นๆ คุณยังมีเส้นทางอีกยาวที่จะต้องเดิน”

“อะไรนะ เทพหลัว…คุณกำลังจะจากไป” อันหวนถาม รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเธอเริ่มจางหายไปและกลายเป็นตกตะลึง