ตั้งแต่ที่อันหวนรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา เสี่ยวหลัวพยักหน้าเขาไม่ได้จะปกปิดอะไรเธอ: “แน่นอนว่าฉันจะจากไปในอีกไม่นาน อย่างไรก็ตามฉันไม่ได้มาที่หัวเย่ เพื่อมาเรียนจริงๆหนิ ”
“แต่ทุกคนคิดว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของสาขาของเรา ถ้าคุณจากไปทุกคนคงจะเศร้ามาก” ดวงตาของ อันหวน กลายเป็นสีแดงก่ำ เธอรู้สึกดีมากกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่เมื่อเธอได้ยินว่าเสี่ยวหลัว กำลังจะจากไปหัวใจของเธอก็เศร้ามาก
เสี่ยวหลัวส่ายหัวแล้วพูดว่า“พวกเราทุกคนมีเส้นทางของตัวเองที่จะต้องเดิน มันไม่ใช่ว่าเราจะไม่สามารถพบเจอกันได้อีกต่อไปซะหน่อย หากโชคชะตานำพาบางทีเส้นทางของเราก็อาจจะทำให้พวกเรามาพบกันอีกครั้งก็ได้ …”
“ไม่!” ทันใดนั้นเธอก็กระโดดขึ้นพุ่งเข้าหาเขาแล้วกอดเขาเอาไว้แน่น
เธอทำสิ่งนี้โดยฉับพลัน จนเขาไม่ทันที่จะได้ตอบสนองอะไร
เมื่อเผชิญหน้ากับอ้อมกอดที่ไม่คาดคิดของหญิงสาวเสี่ยวหลัวก็รู้สึกสับสนอยู่นิดหน่อย เขาอดไม่ได้ที่จะได้กลิ่นหอมอันละเอียดอ่อนที่ลอยอยู่ในอากาศ อันหวน เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“เทพหลัว ฉันไม่ต้องการให้คุณจากไป ฉันชอบคุณจริงๆนะ!”
อันหวนสะอื้นในขณะที่เธอพูด เธอไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของเธอเก็บไว้ได้อีกต่อไป มันไม่มีคำอธิบายที่ดีอะไร เธอชอบเสี่ยวหลัว มันไม่สำคัญว่าการกระทำของเธอจะเป็นแบบพวกเด็กๆ หรือพวกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตอนนี้เธอไม่อยากจากเสี่ยวหลัวไปจริงๆ
เสี่ยวหลัวพยายามฝืนยิ้ม เขาไม่ได้กอดเธอตอบ เขาเพียงตบไปที่หลังของเธอบาๆเพื่อปลอบเธอ
สาวสวยที่น่ารักแบบเธอ สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่แล้วถ้าผู้หญิงคนหนึ่งเริ่มที่จะกอดพวกเขาก่อน มันก็ยากที่จะจินตนาการว่าผู้ชายจะไม่สนใจเธอเช่นกัน อย่างไรก็ตามเสี่ยวหลัวนั้นไม่ได้มาที่หัวเย่ เพื่อตกหลุมรักกับสาวมหาวิทยาลัย แต่เขามาที่หัวเย่ เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ การทำนอกลู่นอกทางจากภารกิจ มันจะเป็นการละเมิดหลักการของเขาเอง
****
สามวันผ่านไปและมันก็ไม่มีตำรวจมาหาเขา เสี่ยวหลัวรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าชูเยว่จะรักษาคำพูดของเธอและไม่ได้ทรยศต่อเขา
ชู หยุนเชียง โทรมาหาเขาโดยเฉพาะเพื่อขอบคุณเขา และในขณะเดียวกันเขาก็จ่ายเงินหนึ่งล้าน หยวน ที่ยังค้างไว้ให้กับเขาอีกด้วย
ในระหว่างการพูดคุยของเขากับ ชู หยุนเชียง มันทำให้ เสี่ยวหลัว รู้ว่าทหารรับจ้างแมงป่องแดงถูกทำลายจนสิ้นซากไปจนหมดแล้ว เขารู้มาจาก ชู หยุนเชียง ว่า เจ้าหน้าที่ กู่ กุ้ยหลิน ได้นำเจ้าหน้าที่หน่วย SWAT และตำรวจนับพันคนทำงานกันอย่างหนักตลอดทั้งสองวันสองคืน สิ่งนี้ส่งผลให้สมาชิกทีมหน่วย SWAT ห้าคนเสียชีวิตและมียี่สิบหกคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และพวกเขาก็สามารถสังหารสมาชิกแมงป่องแดงที่เหลือหกคนได้ที่ สันเขาหมูป่า ในท้ายที่สุด ผู้นำของทหารรับจ้างแมงป่องแดง ก็ได้กระโดดลงจากหน้าผาเพื่อหลบหนี แต่โอกาสรอดของเขานั้นอยู่ในระดับที่ต่ำมาก
นอกจากนี้คู่แข่งทางธุรกิจของ ชู หยุนเชียง ก็ได้ประกาศล้มละลายและถูกส่งตัวเข้าคุกไปแล้ว นี่หมายความว่าตอนนี้ เสี่ยวหลัว สามารถลาออกจากหัวเย่ ได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้และภารกิจในการปกป้องชูเยว่ ก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์
มันจบแล้ว?
เสี่ยวหลัว รู้สึกว่านี่มันใช่เรื่องจริง แต่เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกอยู่ดีเพราะเขาไม่ต้องเข้าคลาสเรียนที่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้ว
“เสี่ยวหลัวขอบคุณมาก ด้วยความช่วยเหลือจากคุณ มันทำให้เด็กหญิงตัวน้อยของฉันกลับมาหาฉันอย่างปลอดภัย” ชู หยุนเชียง กล่าวและแสดงความขอบคุณอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือจากเสี่ยวหลัวครั้งนี้ มันช่วยทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
“เสี่ยวหลัว คนขับรถของฉันจะไปรับคุณในวันพรุ่งนี้ พวกเราค่อยมาคุยกันอีกครั้ง”
“ผมเสียใจมากคุณชู พรุ่งนี้ผมมีเรื่องอื่นที่จะต้องทำ” เสี่ยวหลัว ปฏิเสธคำเชิญของ ชู หยุนเชียง การไปพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้มันจะต้องมีข้อตกลงอื่นเสนอให้กับเขาอย่างแน่นอน แต่เขาไม่อยากที่จะถูกควบคุมโดยใครอีกแล้ว นอกจากนี้เขาก็มีเงินทุนเริ่มต้นหนึ่งล้านหยวนแล้วด้วย เขาสามารถเริ่มทำสิ่งต่างๆได้เอง แม้ว่าเขาจะยังไม่มีแผนการอะไรในใจของเขาก็เถอะ
“เสี่ยวหลัวคุณทำให้ฉันนึกถึงตัวเองตอนที่ฉันยังหนุ่มๆ ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นแค่มาและลองฟังสิ่งที่ฉันจะพูด ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” ชู หยุนเชียง กล่าว
หลังจากฟังคำพูดของ ชู หยุนเชียง แล้ว เสี่ยวหลัว ก็ไม่ได้กล่าวปฏิเสธออกไปโดยตรง: “ฉันขอเวลา คิดดูก่อน!”
“คุณต้องมา เชื่อฉัน ฉันจะให้ความท้าทายแก่คุณ รวมถึงให้พื้นที่ ที่อิสระมากขึ้นสำหรับคุณ”ชู หยุนเชียง กล่าว
เสี่ยวหลัว กล่าวอำลาเล็กน้อยแล้ววางหูโทรศัพท์ไป
ความท้าทาย และ พื้นที่อิสระมากขึ้นงั้นเหรอ?
เห็นได้ชัดว่า ชู หยุนเชียง กำลังพูดถึงบางสิ่งบางอย่างที่เฉพาะเจาะจง แต่เสี่ยวหลัว ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ราวกับว่ามีกระดาษแผ่นบางๆที่ขวางกั้นเอาไว้อยู่
“เขารู้จริงๆงั้นเหรอ ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่” เสี่ยวหลัวพึมพำกับตัวเอง สิ่งที่เขาต้องการไม่มีอะไรมากไปกว่าอิสรภาพ เขาไม่ต้องการอยู่ภายใต้เขตอำนาจของคนอื่น
“ลืมไปเถอะ ค่อยดูว่าพรุ่งนี้มันคืออะไรกันแน่!”
หลังจากตัดสินใจแล้ว เขาก็เดินลงบันไดมายังชั้นล่าง เหล่านักศึกษาสขาวิชาภาษาอังกฤษ กำลังรอเขามาสอนร้องเพลงประสานเสียงอยู่ การแข่งขันจะเริ่มในวันพรุ่งนี้แล้ว
พวกเขาทั้งหมดรวมตัวกันอยู่บนสนามหญ้าที่ด้านหลังของมหาลัย
“เสี่ยวหลัวมาแล้ว ทุกคนไปเข้าแถว!”
ฮวาง รั่วหราน เป็นคนแรกที่เห็น เสี่ยวหลัว เธอตะโกนเรียกพวกผู้หญิงทุกคนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่บนสนามหญ้า ให้ลุกขึ้นยืนทันที
พวกผู้หญิงเข้าสู่ตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและต้อนรับ เสี่ยวหลัว ด้วยรอยยิ้ม
ในครั้งแรก เมื่อ ตอนที่ เสี่ยวหลัว ได้กล่าวว่าพวกเธอจะเอาชนะ สาขาการวัดและควบคุม พวกเธอรู้สึกสงสัยเขาอย่างแท้จริง แต่อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาภายใต้การแนะนำของ เสี่ยวหลัว มาตรฐานการร้องเพลงของพวกเธอก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก เมื่อวานนี้เมื่อ ชิวเหลียง จากสาขาการวัดและควบคุม ได้ยินพวกเธอร้องเพลง ‘แม่น้ำเหลือง’ เพียงครั้งเดียว เขาก็ตกตะลึง พวกเธอนั้นเปลี่ยนเทคนิคการร้องเพลงจากตอนนั้นไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
หลังจากที่ได้ยินพวกเธอร้องเพลง ชิวเหลียง ก็ได้ไปขอ จ้าว ซินเจีย หัวหน้าทีมจากสาขาการวัดและควบคุม ให้เขาช่วยขอยกเลิกการเดิมพันที่พวกเขาวางไว้ แค่ได้ยินเรื่องนี้ มันก็ทำให้พวกเธอมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว
ในตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าเสี่ยวหลัว นั้นได้รับความเคารพเกือบที่จะเท่ากับ ฮวาง รั่วหราน ที่เป็นผู้ดูแลแล้ว
“พี่หลัว พี่ชายสุดที่รักของผม ทำไมพี่มาถึงช้าขนาดนี้เนี้ย? ทุกคนรอพี่มาเกือบจะครึ่งวันแล้วนะ” จูเสี่ยวเฟย บ่น
เมื่อพวกเธอได้ยินสิ่งที่จูเสี่ยวเฟยพูด พวกเธอก็วิ่งเข้าไปทุบตีเขาอย่างรวดเร็วในทันที
“เทพหลัว จะมาถึงตอนไหนก็ได้ถ้าเขาพอใจ! มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนายเลยไอหมูโง่!”
“ไอหมูโง่นี่ นายพูดกับเทพลัวแบบนี้ได้ยังไง!….”
“เจ้าหมูโง่ตัวนี้ ช่างหยาบคายเหลือเกิน หยาบคายมาก”
…
การแสดงออกบนใบหน้าของ จูเสี่ยวเฟย นั้นน่าเกลียดมากเหมือนกับเขาเพิ่งกินอึเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น สิ่งที่เขาทำก็แค่บ่น เพียงเท่านั้นเอง เขาไปทำให้พวกพวกผู้หญิงพวกนี้โกรธตอนไหน
เติ้งไค จ้องมองไปที่ จูเสี่ยวเฟย แล้วพูดว่า“อย่ามามองฉัน! ใครจะรู้ว่าในหัวของแกมันกำลังคิดอะไรโง่ๆอยู่บ้าง ทุกคนที่นี่เข้าข้างพี่หลัว แต่แกกลับมาบ่น พี่หลัว แกไม่สามารถตำหนิใครได้สำหรับความโง่เง่าของแกเอง”
“เติ้งไค แกไม่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมบ้างเลยงั้นเหรอ? ท้ายที่สุดแล้วพวกเราทั้งสามคน ก็ถือว่าเป็นสมบัติประจำชาติของสาขานี้ แต่ทำไมมันจึงมีความแตกต่างกันมากมายขนาดนี้ ทำไมพวกเราถึงได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันมากขนาดนี้ด้วย?” จูเสี่ยวเฟย พูดออกมาอย่างเศร้าสร้อย
เติ้งไคหัวเราะอย่างมีชัย “ฮ่าฮ่าฮ่า! ต้องขอบคุณพี่หลัว ที่ทำให้ฉันติดอยู่ในรายการค้นหายอดนิยมของฟอรั่มหัวเย่ เมื่อไม่นานมานี้ มันทำให้ฉันเอาชนะใจสาวที่ฉันกำลังคบอยู่ได้ พวกเรามันแตกต่างกัน ฮ่าฮ่าฮ่า”
อะไร?!
จูเสี่ยวเฟย เบิกตากว้าง บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาและเติ้งไค ต่างก็เป็นคนอ้วนและผอม พวกเขามันจะถูกเรียกว่า “คู่หูจอมน่าเกลียด” เป็นที่ทราบกันว่าทั้งสองไม่สามารถหาแฟนได้ แต่ … เติ้งไค ตอนนี้กลับมีแฟนไปแล้ว แต่เขายังไม่มีเลย เรื่องนี้มันทำให้เขาเจ็บปวดมาก
มันเป็นความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานจริงๆ!