บทที่ 286 สะกดรอยตาม

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

บทที่ 286 สะกดรอยตาม

 

ทักษะยุทธ์ชั้น 9 ในประเทศเทียนหวู แม้แต่ราชวงศ์ตระกูลฝานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ยังไม่มี แม้แต่กองกำลังใหญ่โดยรอบอีกสามกองกำลัง ไม่ว่าจะเป็นตำหนักจื่อ สำนักเสวียนหยาง หรือสำนักฉางเหอ วิชายุทธ์ชั้น 9 ก็ถือเป็นมรดกใจกลาง แล้วจะนำออกมาประมูลที่เมืองร้างเช่นนี้ได้อย่างไร ?

ในเมืองร้าง คนจากกองกำลังต่าง ๆ จากทั่วทุกสารทิศของประเทศเทียนหวู ซึ่งในนั้นย่อมมีตัวแทนของสิบตระกูลใหญ่ซึ่งมีราชวงศ์ตระกูลฝานเป็นผู้นำมาร่วมการประมูลด้วย

หลัวซิวสังเกตเห็นแล้วว่า ผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ของสิบตระกูลใหญ่เหล่านั้น ต่างมีดวงตาที่แดงก่ำ และเพื่อทักษะยุทธ์ชั้น 9 วิชานี้ หลังจากนี้คงจะต้องเกิดการต่อสู้แย่งชิงกันขึ้นอย่างแน่นอน

“ทักษะยุทธ์ชั้น 9 วิชาหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้องมีราคาห้าแสนหินพลังจิตชั้นกลางขึ้นไป ข้าไม่สามารถจ่ายได้ไหว” หลัวซิวส่ายหัว และรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

เมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์จำนวนไม่น้อย ถือว่าเขานั้นมั่งคั่ง แต่หากเทียบกับกองกำลังใหญ่ที่สืบทอดกันมานับพันปี เขาก็เป็นเพียงแค่ยาจกเท่านั้น

ไม่ง่ายเลยที่จะปรากฏทักษะยุทธ์ชั้น 9 ที่เหมาะสำหรับการฝึกตนของตนเอง แต่ตนเองกลับซื้อไม่ไหว จึงทำได้เพียงนั่งมองตาละห้อย ช่างทรมานจิตใจเสียจริง ๆ

ราคาเปิดประมูลของวิชาภูตผีเซินหลัว ตั้งเอาไว้ที่สองแสนหินพลังจิตชั้นกลาง เพิ่งจะเริ่มต้น ราคาก็พุ่งสูงถึงสามแสนแล้ว !

ทักษะยุทธ์ชั้น 9 เช่นนี้ ถ้าหากฝึกได้สำเร็จ แม้แต่ในการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ ถึงแม้จะมีความสามารถที่สูสีกัน ก็ย่อมไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน

ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงนิ่งเงียบ แต่ดวงตากลับร้อนผ่าว เสียงประมูลที่ดังก้องอยู่ในห้องโถงใหญ่ล้วนมาจากผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์จากสิบตระกูลใหญ่ทั้งสิ้น ราคาของทักษะยุทธ์ชั้น 9 วิชานี้ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ยังไม่ทันจะถึงครึ่งชั่วโมง ราคาของวิชาภูตผีเซินหลัว ก็สูงถึงหกแสนเจ็ดหมื่นหินพลังจิตชั้นกลางแล้ว ราคานี้ สมแล้วกับความมั่งคั่งที่ราชวงศ์ตระกูลในสะสมมาตลอดหลายปี

อีกทั้งราคายังคงพุ่งสูงขึ้น หลังจากไต่ขึ้นไปจนถึงราคาหนึ่งล้านหินพลังจิตชั้นกลางแล้ว ในบรรดาสิบตระกูลใหญ่ ก็มีหกตระกูลเลือกที่จะยอมแพ้ เพราะหากราคายังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนทรัพย์สินในคลังของตระกูลคงจะต้องถูกขนออกมาใช้จนหมด

ในที่สุด หลังจากที่ราชายุทธ์ของราชวงศ์ตระกูลฝานผู้หนึ่ง เสนอราคาที่หนึ่งล้านสองแสน บรรยากาศภายในงานประมูลก็เงียบสงัดลงทันที

หากเปลี่ยนเป็นหินพลังจิตชั้นล่าง จะมีราคาที่สูงถึงระดับร้อยล้าน !

ความเงียบและบรรยากาศอึมครึมกินเวลายาวนานกว่าสิบนาที แทบจะทุกคนที่ตกใจจนตัวสั่นเมื่อได้ยินราคาระดับร้อยล้านนี้ และรู้สึกเลือดพลุ่งพล่าน ทรัพย์สินมูลค่าเช่นนี้ กองกำลังใหญ่จะต้องใช้เวลาในการสะสมกี่ปีถึงจะมีได้ขนาดนี้ ?

แต่ราชวงศ์ตระกูลฝานกลับสามารถควักเงินจำนวนนี้ออกมาจ่ายได้ในคราวเดียว สมแล้วที่เป็นตระกูลที่คอยควบคุมอาณาเขตของประเทศเทียนหวู มีภูมิหลังที่หยั่งรากลึก และยิ่งใหญ่จนอีกเก้าตระกูลไม่อาจเทียบได้

“มีข่าวลือว่า ในสิบตระกูลใหญ่ แม้แต่นำทั้งเก้าตระกูลที่เหลือมารวมกัน อย่างมากก็พอจะตีเสมอกับราชวงศ์ตระกูลฝานได้เท่านั้น ราชวงศ์ตระกูลฝานนี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ” หลัวซิวแอบพูดอยู่ในใจ

“แต่ดูเหมือนว่าราชวงศ์ตระกูลฝานกับข้า จะมีความแค้นต่อกันนะ……”

หลัวซิวเอานิ้วลูบที่คาง สายตาจับจ้องไปที่ราชายุทธ์ผู้ซึ่งประมูลวิชาภูตเซินหลัวด้วยหนึ่งล้านสองแสนหินพลังจิตชั้นกลางผู้นั้น

อีกฝ่ายมีปราณที่แข็งแกร่ง มีพลังจิตแท้ที่ยิ่งใหญ่ ลายเส้นชีวิตของเขาเปล่งประกาย ในทุก ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์

หลัวซิวเองก็เคยเห็นราชายุทธ์มาไม่น้อย จึงพอจะตัดสินได้ว่า ผลการฝึกตนของราชายุทธ์ตระกูลฝานผู้นี้ น่าจะอยู่ในแดนราชายุทธ์ขั้น 3 ไม่ถือว่าแข็งแกร่งมากนัก

ต่อให้เป็นตระกูลฝานเอง ผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ก็มีอยู่ไม่เกิน 15 คน และในนั้นผู้ที่จะฝึกตนถึงระดับราชายุทธ์ช่วงกลาง น่าจะมีอยู่น้อยมาก

งานประมูลกำลังจะสิ้นสุดลง หลัวซิวลุกยืนขึ้น และเดินออกจากห้องโถงใหญ่งานประมูลอย่างเงียบ ๆ

เพราะขั้นตอนการประมูลที่เกิดขึ้นทั้งหมด มีการถ่ายทอดสดไปยังค่ายกลฉายภาพที่อยู่ด้านนอก ดังนั้นตอนนี้เรื่องเกี่ยวกับทักษะยุทธ์ชั้น 9 วิชาภูตผีเซินหลัว ได้แพร่สะพัดไปจนทั่วทั้งเมืองร้างแล้ว

ราชายุทธ์ของตระกูลฝานที่อยู่ในเมืองร้าง แน่นอนว่าคงจะไม่พกหินพลังจิตนับร้อยล้าน ติดตัวมาด้วย ภายในระยะเวลาอันสั้น การค้าขายในครั้งนี้คงจะไม่เสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว ราชวงศ์ฝานต้องส่งคนไปนำทรัพย์สินในการซื้อทักษะยุทธ์ชั้น 9 วิชานี้มา โดยส่งมาจากเมืองหลวงของประเทศเทียนหวู

ส่วนผู้ที่อยู่เบื้องหลังของงานประมูลเมืองร้าง ได้ยินมาว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ ถึงแม้ข่าวลือเรื่องทักษะยุทธ์ชั้น 9 จะแพร่สะพัดออกไป ก็ไม่กลัวว่าจะมีคนเข้ามาแย่งชิง

ข่าวลือเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่หลัวซิวได้ยินหลังจากออกมาจากงานประมูลแล้ว

ก่อนหน้านี้ ตอนที่เพิ่งเข้าไปในงานประมูล เขาก็แอบสัมผัสได้ถึงออร่าชีวิตของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ผู้หนึ่ง คิด ๆ ดูแล้วก็น่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งลึกลับที่อยู่เบื้องหลังงานประมูลเมืองร้าง

ถ้าหากไม่มีพลังอำนาจที่มากพอ เมื่อมีสมบัติล้ำค่าที่มีมูลค่ามหาศาลปรากฏขึ้น ก็เป็นการยากที่งานประมูลจะสามารถรับรองความปลอดภัยของสิ่งของได้ และจะทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือ

หลัวซิวยังไม่รีบเดินทางออกจากเมืองร้าง แต่เขาได้เช่าห้องฝึกตนลับที่อยู่ในโรงเตี๊ยมขนาดเล็กในเมืองหนึ่งห้อง

ในขณะเดียวกันนี้ ผ่านการเรียกของวิชาสยบวิญญาณ หลงหมิงที่อยู่ในพื้นที่รกร้างด้านนอกเมืองร้าง ก็บินตรงเข้ามายังเมืองร้าง

มังกรไร้ร่างมีพรสวรรค์ในการรวมตัวเข้ากับอากาศได้ เพียงแค่ปกปิดลมหายใจอย่างระมัดระวัง แม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือตนเองไปอีกสองแดนใหญ่ ก็ยากที่จะพบร่องรอยของพวกมันได้

แต่อย่างไรก็ตาม ประการแรกคือต้องมีระยะห่างที่ไม่ใกล้กันมากนัก เพราะผู้แข็งแกร่งที่มีผลการฝึกตนยิ่งสูง ก็จะยิ่งมีพลังกระแสสัมผัสที่แข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งที่มีผลการฝึกตนอยู่ในแดนราชายุทธ์ขึ้นไป จะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังลึกลับในอากาศได้ และมีพลังในการควบคุมฟ้าดิน หากมีระยะห่างที่ใกล้เกินไป ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะค้นพบมังกรไร้ร่างที่รวมตัวอยู่กับอากาศได้

ดังนั้นทุกครั้งที่หลัวซิวต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ ก็จะให้หลงหมิงอยู่ห่างออกไปให้ไกลขึ้น เพื่อไม่ให้ถูกค้นพบ

ในเมืองร้าง มีผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์อาศัยอยู่ราว ๆ เจ็ดถึงแปดคน และยังมีจักรพรรดิยุทธ์ที่อยู่ในงานประมูลอีกคนหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้ เมื่อหลงหมิงเข้ามาในเมือง จึงต้องหลบซ่อนตัวอย่างระมัดระวัง และพยายามรักษาระยะห่างให้มากกว่าหนึ่งร้อยเมตร

ในขณะเดียวกันนี้ หลัวซิวได้สอบถามเกี่ยวกับราชายุทธ์ของราชวงศ์ตระกูลฝานที่อยู่ในเมืองร้างผู้นั้น เขามีชื่อว่าฝานหลิงหยุน และเป็นลูกชายของฝานเฟยหยาง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของหลัวซิว

ด้วยฐานะของฝานหลิงหยุน จึงไม่จำเป็นต้องปกปิดที่อยู่ของตนเอง ดังนั้นหลงหมิงจึงปฏิบัติตามคำขอของหลัวซิว โดยในช่วงนี้ให้คอยติดตามการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย

ส่วนโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ ที่หลัวซิวเลือก ก็ห่างจากที่อยู่ของฝานหลิงหยุนไม่ไกลนัก

หลังจากผ่านไปเจ็ดวัน ในที่สุดหินพลังจิตที่ราชวงศ์ตระกูลฝานนรวบรวมมาได้ก็ถูกส่งมาถึง โดยฝานหลิงหยุนทำการซื้อขายกับงานประมูลเมืองร้างด้วยตนเอง และได้รับทักษะยุทธ์ชั้น 9 มา เป็นม้วนหยกวิชาภูตผีเซินหลัว

ทันทีที่ได้รับม้วนหยก กลุ่มคนที่นำโดยฝานหลิงหยุนก็รีบออกเดินทางจากเมืองร้างโดยทันที เพื่อที่จะคุ้มกันม้วนหยกทักษะยุทธ์ชั้น 9 นี้ ไปส่งให้ถึงพระราชวังประเทศเทียนหวูอย่างปลอดภัย

ทั้งหมดนี้ ฝานหลิงหยุนคิดว่าเขาดำเนินการอย่างลับ ๆ และเมื่อออกจากเมืองเขาก็ปลอมตัวทันที แต่การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ กลับถูกหลงหมิงจับตามองไว้อย่างชัดเจน

ด้วยเหตุนี้ หลังจากพวกของฝานหลิงหยุนเดินทางออกจากเมือง หลัวซิวก็สะกดรอยตามไปอย่างเงียบ ๆ และปิดบังลมหายใจ