บทที่ 56 บาดเจ็บจากการหกล้ม

รักหวานอมเปรี้ยว

หลังจากที่เปลี่ยนเป็นชุดยูกะตะแล้ว ทั้งสองคนก็เดินมาถึงทางเข้าที่แบ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนชายและบ่อน้ำพุร้อนหญิง

ลาเต้กรอกสายตาไปมา แล้วเอามือข้างหนึ่งโอบเอวอันอ่อนนุ่มของมายมิ้นท์เอาไว้ แล้วพูดว่า “มิ้นท์ เราไปแช่ที่บ่อแช่น้ำรวมเป็นอย่างไรบ้าง?”

มายมิ้นท์ยิ้มให้เขาสักพักหนึ่ง แล้วจึงขยับข้อศอกข้างหนึ่งไป

“โอ๊ย!” ลาเต้เอามือกุมท้องเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด “มิ้นท์เธอตีฉันทำไม?”

มายมิ้นท์เหล่สายตามองเขา “ไม่ควรตีหรือไง? บ่อแช่น้ำรวม นายก็คิดออกมาได้นะ”

“บ่อแช่น้ำร่วมทำไมเหรอ พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่นา” ลาเต้ยืดตัวตรงขึ้นมาโต้เถียงทันที

“ปลอมมาก” มายมิ้นท์ขี้เกียจไปสนใจเขา จึงเอาผ้าขนหนูไปพาดไว้บนบ่า เปิดม่านที่เขียนคำว่าบ่อแช่น้ำหญิงสองคำแล้วเดินเข้าไป

นายบ่อแช่น้ำหญิงไม่มีใครเลยสักคน จึงเงียบสงัดมาก

มายมิ้นท์ถอดเสื้อคลุมอาบน้ำที่อยู่บนตัวออก ห่อแค่ผ้าขนหนูสีขาวที่ยาวถึงโคนต้นขาผืนเดียวเท่านั้น แล้วก็ลงไปแช่ในบ่อน้ำคนเดียว

อุณหภูมิของน้ำสูงมาก จึงมีสีชมพูปรากฏขึ้นไปทั่วทั้งกายของเธอ และครวญครางขึ้นมาสองเสียงด้วยความสบายการสบายใจ

ในเวลานั้นเอง ประตูเลื่อนที่อยู่ตรงทางเข้าถูกคนเปิดออก และมีใครบางคนเดินเข้ามาแล้ว

มายมิ้นท์ เงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นใบหน้าของบุคคลที่เดินเข้ามานั้นได้อย่างชัดเจนผ่านหมอกสีขาว

มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว รีสอร์ทแห่งนี้ไม่ว่าตรงไหนก็ดีไปหมด ไม่ดีอย่างเดียวก็คือสถานที่ที่เล็กเกินไป กลอกสายตาไปแค่รอบเดียวก็จะสามารถพบเห็นคนที่ไม่ต้องการเห็นได้เลย

ส้มเปรี้ยวก็คิดไม่ถึงว่าจะมีวาสนาต่อกันขนาดนี้ หลังจากที่ตกตะลึงไปสักพัก ก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้นมา “คุณมายมิ้นท์ เราได้พบกันอีกแล้วนะคะ”

มายมิ้นท์ ไม่ค่อยอยากไปสนใจเธอสักเท่าไหร่ จึงพยักหน้าไปมา แล้วลุกขึ้นเตรียมจะออกไป

ทันทีที่เธอก้าวออกจากบ่อน้ำพุร้อน เสียงของส้มเปรี้ยวก็ดังขึ้นมาอีกครั้งว่า “คุณมายมิ้นท์ ฉันเพิ่งมาคุณก็จะไปแล้ว คุณไม่ชอบหน้าฉันขนาดนั้นเลยเหรอคะ? ยังไงซะเราก็เป็นเพื่อนร่วมห้องในมหาลัยเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นรูมเมทกันด้วยนะ”

มายมิ้นท์ จับผ้าเช็ดตัวที่อยู่บนหน้าอกเอาไว้ในขณะที่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อน แล้วพูดเยาะเย้ยออกไปเบาๆว่า “คำพูดนี้ของคุณส้มเปรี้ยวตลกจังเลยนะ แต่ไหนแต่ไรมาคนที่ไม่ชอบหน้าฉัน ไม่ใช่ว่าเป็นคุณส้มเปรี้ยวหรอกเหรอ? ที่มหาวิทยาลัยก็ใช่ และตอนนี้ก็ใช่”

ส้มเปรี้ยว นั่งพิมพ์อยู่ตรงขอบบ่อเดี่ยวอีกบ่อหนึ่ง แล้วมองมายมิ้นท์ด้วยรอยยิ้มที่ตื้นเขิน “แล้วคุณมายมิ้นท์อยากจะรู้เหตุผลไหมล่ะ?

“ลองพูดมาซิ ฉันยังอยากจะรู้ว่าฉันควรจะต้องขอโทษคุณตรงไหนกันแน่ ถึงทำให้คุณเกลียดฉันขนาดนี้!” มายมิ้นท์ก็ได้กลับไปนั่งให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเช่นกัน

ระหว่างทั้งสองคนยังคงถูกกั้นกลางด้วยบ่อแช่น้ำเดี่ยวบ่อหนึ่ง และกำลังหันหน้าเข้าหากัน

“คุณรู้ไหม ตั้งแต่วินาทีนั้นที่คุณเข้ามาอยู่ในหอพักมหาวิทยาลัย ฉันก็มีความรู้สึกว่าความรู้สึกว่าคุณเป็นภัยต่อฉันอย่างบอกไม่ถูก และฉันมักจะคิดว่าคุณจะต้องมาแย่งสิ่งที่สำคัญมากของฉันไป”

ส้มเปรี้ยวจิกเล็บเข้าไปในฝ่ามือของตัวเองอย่างแรง “คิดไม่ถึงเลยว่า คุณจะฉวยโอกาสในระหว่างที่ฉันอาการโคม่าจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แย่งเอาเปปเปอร์ไปแล้วจริงๆ คุณว่าฉันจะปล่อยคุณไปได้อย่างไรกันล่ะ!”

ในขณะที่กำลังฟังความเกลียดชังที่อยู่ในน้ำเสียงของเธอ สีหน้าของมายมิ้นท์ก็ไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงสงบนิ่งและเมินเฉยอยู่เหมือนเดิม “ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะแย่งเปปเปอร์ไปตอนที่คุณอาการโคม่า เป็นเพราะว่าคุณเองนั่นแหล่ะที่พูดตั้งแต่แรกว่า คุณกับเปปเปอร์เป็นแค่พี่น้องกัน”

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงสามารถพูดความปรารถนาที่อยากจะแต่งงานกับเปปเปอร์ออกมาได้

ไม่อย่างนั้นด้วยความเย่อหยิ่งในตัวเองแต่เดิมของเธอ แม้ว่าเธอจะชอบเปปเปอร์มากเพียงใด เธอก็ไม่อาจทำอย่างนั้นได้

“คุณไม่ต้องมาอธิบายเรื่องพวกนี้กับฉันแล้ว ไม่ว่าคุณจะอธิบายยังไงก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าคุณเคยมีเขามาตลอดหกปีได้หรอก” ส้มเปรี้ยวกัดริมฝีปากและมองเธอ

ริมฝีปากของมายมิ้นท์กระตุกไปมา ขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไร โทรศัพท์ที่อยู่บนขอบบ่อน้ำพุร้อนก็ดังขึ้นมา และสายที่โทรเข้ามานั้นคือลาเต้นั่นเอง

“ฮัลโหล?”

“มิ้นท์ แช่เสร็จแล้วหรือยัง?”

“ใกล้จะเสร็จแล้ว” มายมิ้นท์พยักหน้าเล็กน้อย

ลาเต้พูดเร่งรัดว่า “งั้นเธอก็รีบออกมาเลย ได้ข่าวว่าอีกสักพักจะมีงานดอกไม้ไฟ ฉันจะรอเธออยู่ที่จุดชมวิวทางนี้นะ”

มายมิ้นท์หยิบผ้าเช็ดตัวที่อยู่ด้านข้างด้วยมือเดียว แล้วเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาบนใบหน้า “โอเค ฉันจะรีบไปอาบน้ำแล้วก็ออกไปเดี๋ยวนี้”

หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ เธอก็ลุกขึ้นแล้วก้าวออกจากบ่อน้ำพุร้อน เมื่อเดินผ่านบ่อน้ำพุร้อนของส้มเปรี้ยว เธอก็หยุดชั่วคราว แล้วพูดว่า “คุณส้มเปรี้ยวหลังจากที่ได้พูดคุยเรื่องเหล่านั้นเมื่อกี้ ฉันรู้ว่าคุณจะยังคงลอบกัดฉันต่อไปเรื่อยๆ ไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าคุณจะมาหาเรื่องฉัน ฉันก็จะรับเอาไว้ทั้งหมด”

พูดจบ เธอก็สาวเท้าก้าวออกไป

ส้มเปรี้ยวหลับตาลง โดยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ผ่านไปสักพัก ศีรษะที่ร้อนรุ่มของเธอก็ค่อยๆเกิดอาการวิงเวียนเล็กน้อย จึงรู้ว่าไม่สามารถแช่น้ำได้อีกต่อไปแล้ว ก็เลยลุกขึ้นและเดินไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำ

มายมิ้นท์กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องเล็กๆห้องหนึ่งซึ่งอยู่ในห้องอาบน้ำ และในขณะที่ส้มเปรี้ยวกำลังหอบอุปกรณ์อาบน้ำเข้ามาก็ได้ยินเสียงฮัมเพลงของเธอ ซึ่งเสียงร้องของเธอนั้นไพเราะและนุ่มนวลละมุนละไม ประดุจดั่งเสียงของธรรมชาติ

เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงสองวันก่อนขึ้นมา เปปเปอร์พูดว่าก่อนหน้านี้เธอเคยเขียนและร้องเพลงในจดหมายได้ดีมาก ทำไมตอนนี้ถึงไม่ร้องแล้ว เธอไม่กล้าบอกกับเขาว่าตัวเองร้องเพลงไม่เป็นเลย ดังนั้นจึงทำได้แค่โกหกว่าคอไม่ดี เพื่อที่จะเลี่ยงเรื่องการร้องเพลงไป

แต่เธอรู้ดีว่า ตราบใดที่เจ้าของจดหมายยังคงอยู่ คำโกหกทั้งหมดที่เธอพูด อาจจะถูกเปิดเผยได้สักวันหนึ่ง เว้นแต่ว่าเจ้าของจดหมายที่แท้จริงนั้นจะหายไป!

ดวงตาของส้มเปรี้ยวเป็นประกาย เธอมองไปที่ประตูห้องของมายมิ้นท์ และมองครีมอาบน้ำที่อยู่ในอ่าง ทันใดนั้นความคิดที่น่ากลัวและกล้าหาญก็เกิดขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ เธอนั่งยองๆ แล้ววางอ่างลงบนพื้นเบาๆ หลังจากนั้นก็หยิบครีมอาบน้ำที่อยู่ในอ่างขึ้นมาเปิด แล้วเทครีมอาบน้ำใสๆลงบนพื้นบริเวณหน้าห้องของมายมิ้นท์

หลังจากเสร็จที่ทำสิ่งเหล่านี้ ริมฝีปากของส้มเปรี้ยวก็โค้งขึ้นมาเล็กน้อย แล้วเธอก็ลุกขึ้นมาและจากไปอย่างเงียบๆ

“สบายจริงๆ!” มายมิ้นท์อาบน้ำร้อนเสร็จแล้ว ในขณะที่กำลังถืออ่างออกมาจากห้องอาบน้ำ ก็คาดไม่ถึงว่าจะไปเหยียบอะไรบางอย่างเข้าแล้ว เท้าของเธอจึงลื่น และล้มลงกับพื้นไปทั้งตัว แล้วศีรษะของเธอก็กระแทกบนแท่นบันไดของห้องอาบน้ำพอดี จากนั้นเธอก็หมดสติไปตรงจุดนั้น

บนจุดชมวิว ลาเต้ยังคงรอให้เธอมา เขารอนานมากแล้ว งานฉลองดอกไม้ไฟเริ่มต้นขึ้นแล้วก็ไม่เห็นเงาของใครเลย เขาก็เลยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรออก

แต่ทว่าพอต่อสายได้แล้ว กลับไม่มีใครรับสายเลย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย

“คงไม่เกิดอะไรขึ้นกับมิ้นท์หรอกนะ?” ลาเต้เอาโทรศัพท์ไปใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วรีบก้าวออกไปจากจุดชมวิวอย่างรวดเร็ว เพื่อหลับไปหาคน

แต่แม้ว่าจะตามหาหลายที่แล้ว ก็ล้วนไม่เห็นเงาของมายมิ้นท์เลย เขาก็เลยยิ่งมั่นใจว่าอาจจะเกิดเรื่องกับมายมิ้นท์แล้ว

และในบริเวณรีสอร์ทแห่งนี้ คนที่จะสามารถทำร้ายมายมิ้นท์ได้ ก็มีแต่สองคนนั้น

พอลาเต้มาถึงหน้าประตูห้อง เขาก็เคาะประตูอย่างแรง แล้วพูดว่า “ส้มเปรี้ยวคุณออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”

ไม่นานมาก พอประตูเปิดออกมาแล้วเปปเปอร์ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง

“คุณมีธุระอะไร?”

“ผมไม่ได้มาหาคุณ ผมมาหาเธอ!” ลาเต้มองไปยังส้มเปรี้ยวที่อยู่ข้างๆเขา

ส้มเปรี้ยวยิ้มอย่างสุภาพอ่อนโยน แล้วพูดว่า “คุณลาเต้ มาหาฉันมีธุระอะไรเหรอคะ?”

“มิ้นท์หายไปแล้ว!”

รูม่านตาของเปปเปอร์หดตัวลงอย่างกะทันหัน

มายมิ้นท์หายไปแล้ว?

ปฏิกิริยาตอบสนองของเปปเปอร์ถูกส้มเปรี้ยวพบเห็นแล้ว

เธอจึงบีบฝ่ามืออย่างแรงสักพักหนึ่ง

คิดไม่ถึงเลยว่า ความคิดที่จะกำจัดมายมิ้นท์นั้นเป็นความคิดที่ถูกต้องจริงๆ

มายมิ้นท์มีชีวิตอยู่ ก็มีแต่จะยิ่งส่งผลกระทบต่อเธอมากขึ้นเท่านั้น แม้กระทั่งไม่อยู่แล้วก็ทำให้เขามีปฏิกิริยาตอบสนองมาขนาดนี้เลย

ส้มเปรี้ยวระงับความคิดที่อยู่ภายในใจเอาไว้ แล้วกะพริบตาไปมาด้วยความสงสัย “คุณลาเต้ คุณมายมิ้นท์หายไปแล้ว คุณจะมาหาฉันทำไมคะ?”

“มาหาคุณทำไมงั้นเหรอ?” ลาเต้หัวเราะออกมาด้วยความโกรธ “คุณพูดว่ามาหาคุณทำไม แน่นอนว่าคุณต้องซ่อนมิ้นท์เอาไว้แน่ๆ ตอนกลางวันคุณก็ผลักมิ้นท์ของเราออกนอกเส้นทาง แล้วคุณยังมีอะไรที่ทำไม่ได้อีก ผมขอเตือนว่าคุณรีบนำตัวเธอออกมาซะ ไม่อย่างนั้นแม้แต่เปปเปอร์ก็จะไม่สามารถปกป้องคุณได้!”

“ฉันจะซ่อนคุณมายมิ้นท์เอาไว้ได้ยังไงกันคะ? หลังจากที่ทานข้าวเสร็จฉันก็ไม่เคยเจอเธอเลย ฉันไม่รู้เลยค่ะว่าคุณมายมิ้นท์อยู่ที่ไหน คุณจะให้ฉันนำตัวเธอออกมาได้ยังไงคะ?” ส้มเปรี้ยวเบ้าตาแดง และทำท่าทางน้อยใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นอย่างมาก

ลาเต้ไม่เชื่อไม่นี้ของเธอ จึงพูดขึ้นมาว่า “ตกลงแม่งจะบอกหรือไม่บอกวะ!”

“พอได้แล้ว” เปปเปอร์ก้าวไปข้างหน้า และเอาส้มเปรี้ยวไปซ่อนไว้ข้างหลัง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “มายมิ้นท์หายตัวไป ก็ไปดูกล้องวงจรปิดสิ มารบกวนส้มเปรี้ยวแบบนี้จะหามายมิ้นท์เจอไหม?”

ในขณะที่ได้ยินคำว่ากล้องวงจรปิด ภายในใจของส้มเปรี้ยวก็ตื่นตระหนกขึ้นมาครู่หนึ่ง แต่ไม่นานเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วจึงสงบนิ่งลง

ทันใดนั้นลาเต้ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาเช่นเดียวกัน ตัวเองรีบร้อนตามหามายมิ้นท์จนหัวหมุน จึงลืมไปแล้วว่าต้องไปดูต้องวงจรปิด เขาเลยตบหน้าผากไปหนึ่งที แล้วพูดว่า “งั้นผมจะไปดูที่ห้องควบคุม แต่หวังว่าการหายตัวไปของมิ้นท์ของเราจะไม่เกี่ยวข้องกับคุณ มิฉะนั้นผมจะไม่ปล่อยคุณไปอย่างเด็ดขาด”

เขาชี้ไปที่จมูกของส้มเปรี้ยว แล้วหันหลังเดินจากไป

“เราก็ไปกันเถอะ” เปปเปอร์ถอดเสื้อคลุมออกมาสวมเอาไว้บนร่างกายของส้มเปรี้ยว แล้วก็โอบเธอไปที่ห้องควบคุมเช่นเดียวกัน