ในช่วงเวลานี้ ณ ศูนย์รักษาความปลอดภัยของรัฐบาลโลก สถานแห่งนี้มีหน้าที่รับผิดชอบตรวจสอบดูแลส่วนต่างๆของเกาะหยานหวง ขัดขวางไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น เมื่อใดที่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึงที่สถานที่เกิดเหตุในทันที

เพราะว่าการที่มีระบบการป้องกันเช่นนี้อยู่นั้น ดังนั้นจึงเกือบที่จะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครสร้างปัญหาขึ้นมาภายในเกาะหยานหวงได้ ต่อให้จะเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ ก็ยังคงสามารถที่จะจัดการได้อย่างรวดเร็ว จะไม่ทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา

ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ของศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งนี้ก็ได้มองไปที่หน้าจอซึ่งแสดงให้เห็นถึงลักษณะรูปลักษณ์ของเซี่ยปิง จากนั้นเขาก็ตาสว่างขึ้นมาทันที “ผู้จัดการ มีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น”

เขาตะโกนหาผู้จัดการทันที

“มีอะไรรึ? เผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลก่อปัญหาขึ้นมาหรือ?” ได้ยินเช่นนี้ ผู้จัดการก็รีบมาทันที วิตกกังวลอย่างมาก เพราะว่าในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาการอยู่ร่วมกันของทั้งสามเผ่าพันธุ์

การที่คิดจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลานานเพื่อที่ทำให้มันเกิดผล ดังนั้นในช่วงเวลานี้การที่จะเกิดความขัดแย้งเกิดขึ้นและทะเลาะวิวาทกันนั้น นี่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเช่นกัน

“ไม่ ไม่ใช่เรื่องนั้น ดูเร็ว นี่มันไม่ใช่คุณเซี่ยปิงหรือ?” เจ้าหน้าที่คนนั้นพูดออกมา

ผู้จัดการเอนหน้าเข้าไปใกล้ทันทีและมองที่หน้าจอ ม่านตาของเขาขยายขึ้นมาทันที “ใช่ เป็นคุณเซี่ยจริงๆ”

“ผู้อยู่เบื้องบนได้สั่งการไว้ว่าหากมีข่าวใดๆเกี่ยวกับคุณเซี่ยปิง ให้พวกเรารีบรายงานทันที ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร?” เจ้าหน้าที่คนนั้นมองไปที่ผู้จัดการ

“รีบรายงานตัวแทนทั้งเก้าทันที นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญอย่างมากสำหรับรัฐบาลโลก” ผู้จัดการไม่ได้พูดอะไรอื่นอีก เขารีบถ่ายทอดคำสั่งออกไปทันที ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลนั้น เขาก็ล่วงรู้ว่าควรทำสิ่งใด

เขานั้นล่วงรู้เป็นอย่างดี การที่เซี่ยปิงได้หายตัวไปเป็นระยะเวลาหนึ่งปีและตอนนี้ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน จะต้องมีเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน คาดการณ์ได้ว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้ทั่วทั้งโลกแห่งเมฆาสั่นสะเทือน

เพราะว่าถึงอย่างไรการที่ตอนนี้มนุษย์มีอำนาจมากขึ้นเช่นนี้นั้น ก็เป็นผลมาจากคุณงามความดีของเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้

“รับทราบ ผู้จัดการ”

เจ้าหน้าที่คนนั้นได้รับคำสั่งไปทันที

……………

ณ ท้องถนนภายในเกาะหยานหวง

ได้ยินเสียงนี้ เซี่ยปิงก็ได้หันไปมอง ทันใดนั้นก็เห็นเจ้าของเสียงนั้น นั่นก็คือหยางวุย เก๋าวันและหมีไทราน ทั้งสามคนนี้เคยเป็นนักเรียนอยู่ภายในโรงเรียนเดียวกันกับเซี่ยปิงในช่วงมัธยมปลาย

หลังจากที่จบการศึกษามาจากโรงเรียนมัธยมนั้น นักเรียนทุกๆคนก็ได้แยกย้ายกันออกไป ขาดการติดต่อ ซึ่งเขานั้นก็ได้เข้ามาในโลกแห่งเมฆา เดิมทีเขาคิดว่าคงจะไม่มีโอกาสได้พบเจอกับนักเรียนที่นั่นอีก

ไม่คาดคิดว่าในตอนนี้จะมีโอกาสได้พบเจอกับพวกเขาอีกครั้งในสถานที่แห่งนี้

ทว่าการที่พบเจอกันอีกครั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสถานะ ตำแหน่งหรือว่าพลังอำนาจของทั้งสองฝ่าย มันก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“เป็นพวกเจ้านี่เอง ช่างบังเอิญจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะมาพบกับพวกเจ้าที่นี่ได้”

เซี่ยปิงยิ้มออกมาไปและกล่าวทักทายพวกเขา

“ใช่ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป”

หยางวุย เก๋ววันและหมีไทรานทั้งสามคนต่างก็ยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาด ทันทีที่พวกเขาเห็นเซี่ยปิงพวกเขาก็ช็อกเหมือนกัน ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอเซี่ยปิงอีกครั้งในสถานที่แห่งนี้ได้

หลังจากที่จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมนั้น พวกเขาก็ไม่ได้มีโอกาสได้พบเจอเซี่ยปิงอีกเลย

ทว่าถึงแม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้พบเจอ ชื่อเสียงของเซี่ยปิงนั้นก็โด่งดังมากเกินไป เกือบที่จะดังก้องไปทั่วทั้งโลก อยู่ในจุดที่ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก ไม่มีใครที่จะไม่เคยได้ยิน

ไม่ต้องพูดถึงความสำเร็จในอดีตของเขา เพียงแค่การเป็นราชันมนุษย์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์นั้น นี่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนจำนวนตกใจจนหัวใจวายได้

หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ หยางวุยและอีกสองคนก็ได้กัดมุมปากอย่างขมขื่นและโศกเศร้า เดิมทีในช่วงเวลาที่เรียนมัธยมปลายด้วยกันนั้น ระดับแกนพลังฉีของแต่ละคนนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก แม้แต่เซี่ยปิงเองก็อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา

ทว่าหลังจากที่จบการศึกษาไปจากชั้นมัธยมปลาย ความแตกต่างระหว่างพวกเขาและเซี่ยปิงก็มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งวันเวลาผ่านไปมากแค่ไหน ความแตกต่างของทั้งสองฝ่ายก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็จดจำได้ว่าในช่วงเวลามัธยมปลายนั้น พวกเขาทุกคนเคยมีความบาดหมางกับเซี่ยปิงมาก่อน อีกทั้งยังเป็นการทะเลาะเบาะแว้งที่รุนแรง ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีนัก พวกเขาคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้น่าอึดอัดอย่างมาก

หากเซี่ยปิงต้องการที่จะแก้แค้นพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะโต้ตอบได้เลย

“เซี่ยปิง ขอโทษด้วย ช่วงเวลาในมัธยมปลาย….” หมีไทรานและคนอื่นๆคิดที่จะกล่าวขอโทษออกมา ฟื้นฟูความสัมพันธ์ของพวกเขาและเซี่ยปิง

ทว่าไม่ทันรอให้พวกเขาได้พูดจบ เซี่ยปิงก็กวักมือ “ไม่เป็นไร นี่มันเป็นเรื่องในอดีต เป็นการทะเลาะกันของเด็ก ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง ลืมมันไปเถอะ”

ตอนนี้เซี่ยปิงได้ลืมเรื่องการทะเลาะเล็กน้อยนั้นไปหมดแล้ว ในช่วงเวลาชีวิตที่ยืนยาวนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาของมัธยมนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะต้องจดจำ

บางคนนั้นจะชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่สามารถทิ้งเรื่องในอดีตที่ผ่านมาได้ ทว่าบางครั้งนี่ก็ไม่ได้เป็นการแสดงว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นคนใจกว้าง แต่มันเป็นเพราะว่าเขานั้นยืนอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างจากผู้คนปกติธรรมดาอย่างสิ้นเชิง

บางสิ่งที่ทำให้คนปกติธรรมดาโมโหนั้น ในสายตาของบุคคลที่ยิ่งใหญ่นั้น มันไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงด้วยซ้ำ

“ขอบคุณมาก”

ได้ยินเช่นนี้ หมีไทรานและอีกสองคนก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันที ตราบใดที่เซี่ยปิงไม่ได้โกรธแค้นพวกเขา พวกเขาก็รู้สึกสบายใจ ไม่จำเป็นที่จะต้องระหวาดระแวง เกรงกลัวการแก้แค้นของเซี่ยปิง

“ใช่สิ ไม่ใช่ว่าพวกเจ้ากำลังศึกษาอยู่ในมหาลัยภายในดาวหยานหวงหรือ? ทำไมถึงได้มาอยู่ที่โลกแห่งเมฆาแห่งนี้ได้?” เซี่ยปิงถามขึ้นมาอย่างสงสัย เขานึกขึ้นได้ว่านับตั้งแต่ที่ตนเองจบการศึกษาจากชั้นมัธยมนั้น นี่ก็ผ่านมามากกว่าสองปีแล้ว

ตามข้อกำหนดทั่วไปนั้น นักศึกษาในวัยเดียวกับเขาคงจะต้องศึกษาอยู่ในชั้นปีที่สามของมหาลัย

“นี่เป็นการศึกษาต่อต่างแดน”

หยางวุยเริ่มพูดออกมา “พวกเราผ่านการทดสอบของมหาลัย จากนั้นก็ได้รับทุนเพื่อศึกษาต่อในมหาลัยของโลกแห่งเมฆา ดังนั้นตอนนี้พวกเราจึงอยู่ที่โลกแห่งเมฆาเป็นการชั่วคราวเพื่อศึกษาในมหาลัย”

เก๋าวันและหมีไทรานทั้งสองก็พยักหน้า พวกเขานั้นก็อยู่ที่โลกแห่งเมฆาแห่งนี้ด้วยเหตุผลเดียวกัน

เพราะสุดท้ายแล้วหากศึกษาต่อในดาวหยานหวงนั้น บางทีอาจจะไม่สามารถเลื่อนขั้นในระดับผู้ใช้พลังฉีปรมาจารย์ได้ตลอดชีวิต มีเพียงแค่การเดินทางมาที่โลกแห่งเมฆาซึ่งเป็นโลกที่กว้างใหญ่เท่านั้นจึงจะมีโอกาสในการพัฒนาตนเอง

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”

เซี่ยปิงแสดงความเข้าใจ ทว่าเขานั้นอยู่ในระดับที่เหนือกว่านักเรียนมากแล้วในตอนนี้ อยู่ในอีกระดับหนึ่ง ไม่จำเป็นที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนอยู่ในมหาลัยเหมือนกับพวกเขา

“โอ้ นี่มันไม่ใช่พี่น้องเด็กบ้านนอกสามคนที่มาจากดาวหยานหวงหรือ? วันนี้ไม่คาดคิดว่าจะมีเวลาว่าง ออกมาเดินช็อปปิ้งอยู่ที่นี่ พวกเจ้ามีเงินมากนักหรือ? ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกโยนออกไปโดยเจ้าของร้านและทำให้มหาลัยของพวกเราเสียหน้าหรือ?!”

ในตอนนี้ เสียงที่ยโสโอหังได้ดังขึ้นมา

เซี่ยปิงขมวดคิ้วและมองออกไป เห็นว่ามีกลุ่มเด็กหนุ่มที่สวมใส่เครื่องแบบนักศึกษาเดินเข้ามา ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของเสียงนี้เป็นชายหนุ่มหัวแบนที่เดินนำหน้าอยู่

“หวาห่าว!”

ได้ยินเสียงนี้ หมีไทรานและอีกสองคนต่างก็มีสีหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างมาก รู้สึกอับอาย โดยเฉพาะการที่อยู่ต่อหน้าเซี่ยปิงเช่นนี้ มันดูเหมือนกับเป็นการเสียหน้าต่อหน้าสหายเก่าก็ว่าได้

ในตอนนี้ชายหนุ่มหัวแบนและพวกเขานั้นกำลังศึกษาอยู่ในมหาลัยเดียวกัน ทว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นผู้ที่มีต้นกำเนิดมาจากโลกแห่งเมฆา ยิ่งไปกว่านั้นยังกำเนิดขึ้นมาในตระกูลใหญ่ซึ่งเป็นตระกูลที่ร่ำรวยพอสมควร

เจ้าหวาห่าวนี้เป็นคนที่ดูถูกและเหยียดหยามผู้คนที่มีต้นกำเนิดมาจากดาวหยานหวงอย่างมาก ยั่วยุและโจมตีพวกเขาในมหาลัยทุกครั้งที่เจอกัน ทำเหมือนกับว่าพวกเขานั้นเป็นเหยื่อที่สามารถรังแกได้ทุกเมื่อ

ทว่าหมีไทรานและอีกสองคนที่มาจากดาวหยานหวงนั้น ไม่ได้มีภูมิหลังอยู่ในโลกแห่งเมฆา ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะท้าทายเผด็จการท้องถิ่นคนนี้

“หวาห่าวเป็นชื่อที่สามพี่น้องเด็กบ้านนอกอย่างพวกเจ้าจะสามารถเรียกได้หรือ? ล่วงรู้หรือว่าไม่ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่ามารยาท ต้องเรียกว่านายน้อยหวา เข้าใจหรือไม่? ผู้คนที่มาจากบ้านนอกช่างไม่เข้าใจธรรมเนียมและมารยาทของที่นี่จริงๆ”

น้องเล็กคนหนึ่งพูดขึ้นมาทันที ตำหนิหมีไทรานและอีกสองคน

เซี่ยปิงก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาด เขาไม่คาดคิดว่าหมีไทรานและอีกสองคนที่เดิมทีเป็นเผด็จการอยู่ในโรงเรียนมัธยมและรังแกผู้อื่นนั้น ตอนนี้จะโดนรังแกเสียเอง กลายเป็นเหยื่อที่ถูกผู้อื่นรังแกอย่างง่ายดาย ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย มีชะตากรรมที่น่าสมเพช