“ลืมมันไปเถอะ อย่ากล่าวโทษพวกเขา ผู้คนที่อาศัยอยู่ในชนบทมักที่จะไม่เข้าใจธรรมเนียมและมารยาทที่ดี หลังจากที่ได้รับบทเรียนไปสองสามครั้งพวกเขาก็จะเข้าใจเอง” หวาห่าวชายหนุ่มหัวแบนเผยท่าทางที่ใจกว้างออกมา

“สมกับที่เป็นนายน้อยหวาจริงๆ ช่างใจกว้างยิ่งนัก หลักความคิดของเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเราแม้แต่น้อย” น้องเล็กที่พูดจาเลียแข้งเลียขาทันที พูดจาเชิดชูหวาห่าว ดูมีความสามารถในด้านนี้อย่างมาก

“เจ้าพวกชนชั้นต่ำ ยังไม่รีบขอบคุณความใจกว้างของนายน้อยหวาอีก หากเป็นคนอื่นล่ะก็ พวกเจ้าคงจะถูกอัดอย่างป่าเถื่อนไปแล้ว”

น้องเล็กอีกคนที่ตะโกนออกมา เผยท่าทางที่ยโสโอหังอย่างมาก

“บัดซบ!”

หมีไทราน เก๋าวันและหยางวุยทั้งสามคนต่างก็มีสีหน้าที่มืดมนอย่างมาก หากเป็นในช่วงเวลาปกติที่เผชิญกับความอัปยศอดสูเช่นนี้ พวกเขาก็สามารถที่จะยิ้มตอบและเพิกเฉยได้

ทว่าตอนนี้มีเซี่ยปิงอยู่เช่นกัน เป็นผู้ที่เรียนมาด้วยกันในช่วงมัธยมปลาย ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเคยเป็นศัตรูคู่อริกัน พวกเขาคิดว่าครั้งนี้จะเสียหน้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นความอัปยศอดสูจะเพิ่มขึ้นมาหลายเท่า

ทว่าพวกเขาก็อดทนอดกลั้นไว้ คิดว่าไม่สามารถที่จะทะเลาะวิวาทในสถานที่แห่งนี้ได้

“หวาห่าว เจ้ากำลังทำอะไร กำลังรังแกหยางวุยและคนอื่นๆอีกหรือ?”

ในตอนนี้ เสียงที่ชัดเจนดังขึ้นมา หญิงสาวที่สูงยาวเข่าดีได้เดินเข้ามาทันที มือทั้งสองข้างเท้าสะเอวและมองหวาห่าวด้วยสีหน้าที่เหมือนกับโมโหอย่างมาก

อีกทั้งข้างกายของหญิงสาวสูงยาวเข่าดีคนนี้ก็มีผู้หญิงอีกสามคนที่ติดตามมาเช่นกัน แต่ละคนนั้นสวมใส่เสื้อผ้าที่ทันสมัย มีออร่าของความเยาว์วัยที่แผ่ออกมา

“เสี่ยวชี?! เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

เห็นหญิงสาวที่ปรากฏตัวขึ้นมา หวาห่าวก็สะดุ้งตกใจ ทว่าทันใดนั้นก็รู้สึกดีใจขึ้นมา หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ก็คือถงเสี่ยวชีเพื่อนสมัยเด็กของเขาและเป็นผู้หญิงที่เขาแอบชอบเช่นกัน

“ข้าอยู่ที่นี่แล้วอย่างไรกัน ถนนเส้นนี้ตระกูลของเจ้าสร้างขึ้นมาหรือ? ข้าไม่ได้บอกเจ้าหรือว่าให้อยู่ร่วมกับนักศึกษาคนอื่นๆอย่างสงบสุข อย่าเอาแต่สร้างปัญหาขึ้นมาและรังแกนักศึกษาคนอื่นๆ”

ถงเสี่ยวชีแสดงท่าทางที่คาดหวังมากเกินไปออกมา

“ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว” หวาห่าวไม่สามารถที่จะโต้ตอบได้ เขาได้หันหน้าไปและมองหมีไทรานและอีกสองคนอย่างดุร้าย เป็นเพราะเจ้าพวกบัดซบเหล่านี้ที่ทำให้เขาถูกถงเสี่ยวชีตำหนิ

ในตอนนี้เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดกับหมีไทรานและอีกสองคนมากขึ้นไปอีก

หมีไทรานและอีกสองคนก็รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความยุติธรรม เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขา ไม่รู้ว่าทำอะไรให้เจ้าหวาห่าวนี่เกลียดชังพวกเขามากนัก ทว่าในความเป็นจริงสาเหตุที่หวาห่าวก่อกวนพวกเขาตลอดเวลานั้น เหตุผลส่วนใหญ่ก็เพราะว่าถงเสี่ยวชี

เพราะว่าถงเสี่ยวชีนั้นห่วงใยพวกเขา ส่งผลให้หวาห่าวอิจฉาและต้องการที่จะกำจัดคู่แข่งเหล่านี้ออกไป

“ขอโทษด้วย หวาห่าวนั้นเป็นคนที่โง่เขลาจริงๆ ไม่ได้สนใจคำพูดที่ตนเองพูดออกมา ข้าขอโทษพวกเจ้าด้วย” ถงเสี่ยวชีกล่าวขอโทษหมีไทรานและอีกสองคนอย่างอ่อนโยน

“ไม่เป็นไร”

หมีไทรานและอีกสองคนกวักมืออย่างต่อเนื่อง

“ใช่สิ คนๆนี้ก็เป็นนักศึกษาในมหาลัยของพวกเราหรือ? ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยเหมือนกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?” ถงเสี่ยวชีก็ได้สังเกตเห็นเซี่ยปิงที่อยู่ข้างหมีไทรมานและอีกสองคนเช่นกัน เธอคิดว่าตนเองนั้นเคยเห็นเซี่ยปิงมาจากที่ไหนสักแห่ง

“พวกเราเป็นสหายร่วมบ้านเกิด”

เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย

สหายร่วมบ้านเกิด? เจ้านี่ก็เป็นเด็กบ้านนอกจากดาวหยานหวงเช่นกัน

หวาห่าวแอบเหยียดหยามเซี่ยปิงในใจทันที ทว่าภายนอกนั้นยังคงดูสงบนิ่งและไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นเขาก็ได้พูดออกมา “เป็นอย่างนี้นี่เอง เป็นสหายร่วมบ้านเกิด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มายังโลกแห่งเมฆาหรือ? ที่นี่มีสถานที่มากมายที่ดาวหยานหวงไม่มี การที่เจ้าอยู่ในสถานที่เล็กๆอย่างดาวหยานหวงนั้นก็คงจะไม่เคยเห็น เจ้าควรที่จะออกมาจากดาวหยานหวงเพื่อมาเรียนรู้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งเมฆา”

เขาแสดงท่าทางที่ล้าสมัยออกมาทันที

ได้ยินเช่นนี้ หมีไทราน เก๋าวันและหยางวุยทั้งสามคนก็กัดมุมปาก เจ้าหวาห่าวนี่เสียสติไปแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะกล้าพูดคำเหล่านี้กับเซี่ยปิง เหมือนกับบอกว่าคนอื่นๆไม่มีความรู้ ช่างยโสโอหังอย่างที่ไม่สนใจใคร

หากชายคนนี้ล่วงรู้ว่าเซี่ยปิงนั้นเป็นราชันมนุษย์ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์นั้น เป็นไปได้ว่าจะหวาดกลัวจนฉี่ราดทันที

ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องย้ำเตือนเจ้าบัดซบที่มักจะรังแกพวกเขาตลอดเวลา ในทางตรงข้ามพวกเขาก็คิดว่ากำลังจะมีเรื่องที่สนุกสนานให้พวกเขารับชม

“หุบปาก เจ้าพูดอะไรออกมา”

ถงเสี่ยวชีตีหวาห่าวหนึ่งครั้งและหันไปพูดกับเซี่ยปิง “ขอโทษด้วย หวาห่าวมักที่จะไม่รู้ว่าตนเองพูดอะไรออกมา ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าถือโทษโกรธเคืองเขาเลย”

“ไม่เป็นไร ต่อหน้าหญิงสาวที่งดงามอย่างเจ้า ไม่ว่าชายใดก็ย่อมที่จะหายโกรธทันที”

เซี่ยปิงตอบกลับไป

“บ้า ใครกันที่งดงาม เจ้า…เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร? มีที่ไหนที่ข้าจะงดงาม” ถงเสี่ยวชีมีใบหน้าที่แดงขึ้นมา ทันใดนั้นก็พูดตะกุกตะกัก มีน้อยมากที่จะมีผู้ชายเอ่ยชมเธอซึ่งๆหน้าเช่นนี้

บัดซบ ชายชู้! เจ้าบัดซบนี่เป็นชายชู้ อ๊าก!

เห็นท่าทางของถงเสี่ยวชีที่เขินอายนั้น หวาห่าวก็โมโหอย่างมาก อวัยวะภายในของเขาร้อนระอุขึ้นมา เขาคิดว่าเพื่อนสมัยเด็กของตนเองกำลังจะถูกเจ้าบัดซบนี่แย่งชิงไป เจ้าเด็กบ้านนอกนี่ต้องการที่จะแย่งชิงผู้หญิงของตนเอง

นี่เป็นการจีบผู้หญิงของเขาซึ่งๆหน้า!

“ใช่สิ เจ้ามีชื่อว่าอะไรหรือ?” ถงเสี่ยวชีถามขึ้นมา

เซี่ยปิงคิดครู่หนึ่ง เขาไม่ต้องการที่จะเปิดเผยชื่อที่แท้จริงของตนเองออกไป ดังนั้นจึงตอบออกไปอย่างสิ้นคิด “ข้ามีชื่อว่าหวังเก๋อปี้”

หมีไทรานและอีกสองคนก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาด ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้เปิดเผยคำโกหกของเซี่ยปิง หากฝ่ายตรงข้ามต้องการที่จะปกปิดชื่อของตนเองนั้น คาดการณ์ได้ว่าก็คงจะมีเหตุผลบางอย่างอยู่ พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยความจริงออกมา

คนเราเป็นดั่งชื่อตัว อ๊าก!

ในความรู้สึกของหวาห่าวกำลังคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง เจ้าบัดซบนี่จากชื่อนั้น คาดการณ์ได้ว่าคงจะไม่ใช่คนดี ไม่มีศีลธรรม วันๆทำแต่เรื่องเลวทราม!

“เข้าใจแล้ว เมื่อถึงเวลาอาหารเที่ยง ต้องการที่จะทานอาหารด้วยกันกับพวกเราหรือไม่?” ถงเสี่ยวชีได้ชักชวนเซี่ยปิงไปทานอาหารด้วยกัน เธอคิดว่าการที่ได้พูดคุยกับผู้ชายคนนี้คงจะเป็นเรื่องที่สนุก

ได้ยินเช่นนี้ หวาห่าวก็รู้สึกกังวลทันที บัดซบ ต้องการที่จะทานอาหารเที่ยงกับผู้หญิงของคนอื่นด้วยหรือ?!

มองดูท่าทางของเจ้าบัดซบนี่แล้ว ก็ล่วงรู้ได้ว่าจะต้องเป็นมืออาชีพในด้านการล่อลวงผู้หญิง หากเพื่อนสมัยเด็กของตนเองตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเจ้ามืออาชีพนี้ล่ะก็ คืนนี้มันอาจจะเกิดเรื่องที่สายเกินแก้ก็เป็นได้

ท่าไม่ดีแล้ว จะต้องขัดขวางไม่ให้เกิดเรื่องที่อันตรายเช่นนี้ อย่างน้อยก็ไม่สามารถปล่อยให้เจ้าบัดซบนี่และเพื่อนสมัยเด็กของตนเองอยู่ด้วยกันตามลำพังอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องกลายเป็นผู้ชายที่ภรรยามีชู้อย่างแน่นอน

“ใช่ พวกเราควรไปด้วยกัน ข้าบังเอิญรู้จักร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่แห่งหนึ่ง มีชื่อว่าสวรรค์บนดิน ว่ากันว่าอาหารของร้านนี้เอร็ดอร่อยอย่างมาก” หวาห่าวตัดสินใจที่จะเข้าไปแทรกแซงถงเสี่ยวชีและคนอื่นๆ ไม่สามารถปล่อยให้เจ้ามืออาชีพนี้อยู่ลำพังกับถงเสี่ยวชีอย่างแน่นอน

“เจ้าต้องการที่จะไปด้วยหรือ?”

ถงเสี่ยวชีมองหวาห่าวด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด

“แน่นอนว่าไปด้วยกัน สหายร่วมบ้านเกิดของหมีไทรานและคนอื่นๆก็คือสหายร่วมบ้านเกิดของข้าเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นการที่ได้พบเจอกันโดยบังเอิญเช่นนี้มันก็เป็นเหมือนกับโชคชะตาฟ้าลิขิต การที่ทุกๆคนจะไปรับประทานอาหารด้วยกันจะเป็นเรื่องที่แปลกอย่างไรกัน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นพวกเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวลไป ข้าจะจัดการเอง”

หวาห่าวตบหน้าอกของตนเอง อ้างเหตุผลต่างๆนาๆเพื่อให้ได้ไปด้วยกัน

“เจ้าจะจ่ายเองจริงหรือ? พูดตามตรง ข้านั้นเป็นคนที่กินเยอะมาก”

เซี่ยปิงมองหวาห่าวด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด เขาพูดเตือนออกมาด้วยเจตนาที่ดี “ไม่อย่างนั้นก็ลืมไปเถอะ ข้าคิดว่าเจ้าควรจะมีเรื่องอื่นให้ต้องทำอีกมากมาย”

มีเรื่องอื่นตูดข้าสิ!

ต่อให้จะมีเรื่องอื่น มันก็ไม่สำคัญเท่ากับเรื่องนี้

หวาห่าวกัดฟันอย่างแน่น เจ้าชายชู้นี่คิดที่จะกีดกันตัวเขาออกไป จะได้ทำให้เรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้กับถงเสี่ยวชี เขาไม่อนุญาตให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน