บทที่ 98 บอกว่าจะกลับไป
โดย
Ink Stone_Romance
การกลับมาอย่างปลอดภัยของคุณหนูจวินทำให้ผู้คนของโรงหมอจิ่วหลิงผ่อนลมหายใจ
ได้ยินคนรถบอกว่าพวกพี่น้องของจูจั้นก็พาคนไปด้วย เฉินชีกับผู้ดูแลใหญ่หลิ่วล้วนโล่งอก
ถ้าอย่างนั้นในเมื่อคนเหล่านี้อยู่ ต้องมีวิธีเข้าไปในคุกหลวงแน่ คุณหนูจวินแค่ติดตามเข้าไปก็ได้แล้ว น่าจะไม่ต้องให้คุณหนูจวินออกหน้า หรือก็คือไม่ต้องถูกลู่อวิ๋นฉีทำให้ลำบาก
ก็ว่าแล้ว ตอนนี้เป็นเรื่องระหว่างเฉิงกั๋วกง มหาบัณฑิตหวงกับฮ่องเต้ นั่นล้วนเป็นบุคคลที่ค้ำฟ้า พวกเขาหมอของโรงหมอโรงยาแห่งหนึ่งมดปลวกยังเป็นไม่ได้
ยังไงก็สงบใจทำหน้าที่ไปดีๆ เถอะ
“สมุนไพรนี่ไม่มากแล้ว วันพรุ่งนี้ค่อยไปซื้อมาสักหน่อย” เฉินชีพลิกสมุดบัญชีดู สั่งเหล่าพนักงาน แล้วเงยหน้ามองคุณหนูจวินอีก “ฉวยโอกาสที่ไม่ยุ่งช่วงนี้ ข้าอยากกลับบ้านสักครั้ง รับมารดาข้ามา”
“เอาสิ” คุณหนูจวินยิ้มเอ่ย “พอดีพวกเราไปด้วยกัน”
เฉินชีหัวเราะฮ่ะฮ่ะพยักหน้า พลันรอยยิ้มก็หุบไป ประหลาดใจอยู่บ้างมองไปทางคุณหนูจวิน
“เจ้าว่าอะไรนะ ไปด้วยกัน?” เขาเอ่ยถาม “เจ้าจะไปไหน?”
ฟางจิ่นซิ่วกับผู้ดูแลใหญ่หลิ่วก็ท่าทางคาดไม่ถึงมองข้ามมา
“ข้าคิดจะออกจากเมืองหลวงกลับไป” คุณหนูจวินเอ่ย
ฟางจิ่นซิ่วลุกขึ้นยืน
“ทำไม?” นางเอ่ย เสียงเดือดดาลอยู่นิดๆ “เจ้าขี้ขลาดรึ?”
ผู้ดูแลใหญ่หลิ่วรีบโบกมือส่งสัญญาณว่านางอย่าเป็นเช่นนี้
“จะพูดแบบนี้ได้อย่างไรเล่า คุณหนูจวินแต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่คนแบบนั้น” เขาเอ่ย มองคุณหนูจวินสีหน้าเคร่งขรึม “มีธุระต้องกลับไปสินะ?”
พูดพลางยิ้ม
“เวลาที่จากมาก็ไม่น้อยแล้ว ควรกลับไปดูสักหน่อย นายน้อย นายหญิงผู้เฒ่าพวกเขาต้องดีใจมากแน่”
คุณหนูจวินยิ้ม
“ใช่” นางว่า
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่กลับไปแล้ว คุณหนูจวินตอนเจ้ากลับมาก็พาแม่ของข้าเดินทางมาด้วยแล้วกัน” เฉินชีบอก “โรงหมอจิ่วหลิงขาดคนไม่ได้”
“ข้าไม่ใช่คนรึ?” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ยขึ้น “เดิมทีก็ไม่มีคนมารักษาอยู่แล้ว ขายยาเท่านั้น ขาดใครไปไม่ได้ฮะ”
เฉินชีหัวเราะหึหึ คุณหนูจวินก็ยิ้มแล้ว
“ใช่ ต่อไปโรงหมอจิ่วหลิงจะขายยา จิ่นซิ่วเจ้าคนเดียวก็ไหว” นางเอ่ยแล้วมองไปทางเฉินชี “มารดาของเจ้ายังไงเจ้าไปรับด้วยตนเองสักเที่ยวเถอะ ข้ากลับไปคิดว่าคงไม่เข้าเมืองหลวงชั่วคราว
ตั้งใจเช่นนี้จริงๆ ด้วย
เฉินชีกับผู้ดูแลใหญ่หลิ่วเงียบงันไปครู่หนึ่ง
ไม่เช่นนั้นทำไมอยู่ดีๆ บอกว่าจะไปกะทันหัน?
แน่นอน ก็ไม่ใช่อยู่ดีๆ พักนี้เรื่องที่เกิดขึ้นมากมายจริงๆ แต่ตอนถูกลู่อวิ๋นฉีบีบคั้นกลั่นแกล้งก็ไม่ได้บอกว่าจะไป ทำไมตอนนี้การกลั่นแกล้งผ่านพ้นไปแล้ว สถานการณ์ลำบากคลี่คลายไปแล้ว เสียนอ๋องยังเป็นฝ่ายเชื้อเชิญให้ความสำคัญ วันเวลาที่ดีกำลังจะมาถึงตรงหน้าแล้ว ทำไมบอกว่าจะไป?
“เสียนอ๋องว่าอะไรหรือ? หรือลู่อวิ๋นฉีว่าอะไร? หรือว่าบุตรชายเฉิงกั๋วกง?” ผู้ดูแลใหญ่หลิ่วเอ่ยถาม ท่าทางจริงจังอยู่บ้าง
วันนี้คุณหนูจวินพบแค่สามคนนี้เท่านั้น นอกจากนี้คนที่ส่งผลกับนางได้ก็มีเพียงสามคนนี้
คุณหนูจวินส่ายศีรษะ
“ไม่มี ใครก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากนี้เสียนอ๋องดียิ่ง ต่อไปที่เมืองหลวงเขาจะดูแลโรงหมอจิ่วหลิง” นางเอ่ย “ข้าเพียงรู้สึกว่าเรื่องที่ทำวันนี้ไปไม่ถึงเป้าหมายที่ข้าคิดไว้”
เป้าหมายที่คิดไว้?
“แม้ถูกขัดขวางหลายครั้ง แต่วันนี้โรงหมอจิ่วหลิงก็นับว่าชื่อเสียงทั่วใต้หล้า” ผู้ดูแลใหญ่หลิ่วเอ่ย “ข้าคิดว่าคุณหนูจวินไม่ผิดต่อความคาดหวังของท่านปู่ท่าน”
คุณหนูจวินยิ้ม
ใช่แล้ว โรงหมอจิ่วหลิงนับว่าชื่อเสียงทั่วใต้หล้า แต่ผลลัพธ์เป็นอย่างไรเล่า
“หมอชื่อดังชื่อเสียงเลื่องลือ ได้ใจประชาชน แต่พวกเขามากมายล้วนตายในมือขุนนางผู้มีอำนาจ เหวินจื้อ[1]ถูกฉีหมิ่นอ๋องต้มตาย เปี่ยนเชวี่ย[2]ตายเพราะหมอหลวงแคว้นฉินใส่ร้ายสังหาร ฮัวโต๋[3]ยิ่งประสบหายนะทั้งที่ไม่คาดฝัน” นางเอ่ย
เฉินชี ฟางจิ่นซิ่ว ผู้ดูแลใหญ่หลิ่วเงียบงันไปครู่หนึ่งอีกครั้ง
ความหมายก็คือจะบอกว่าหมอก็เป็นแค่หมอ แม้มีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่เมื่อเจอกับผู้มีอำนาจเหล่านี้สิ่งใดก็ไม่ใช่ทั้งสิ้น ถูกข่มเหงทอดทิ้งได้ตามใจ
“ดังนั้นได้รับผลกระทบแล้วใช่หรือไม่?” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ย “กลัวแล้วใช่หรือไม่”
คุณหนูจวินยิ้มส่ายศีรษะ
แน่นอนไม่ใช่กลัว แต่ไม่พอ
มีวิชาหมอเทวดารักษาโรคช่วยคนได้ ช่วยจิ่วหรงได้ แต่ไม่พออยู่ไกลโพ้น บารมีและฐานะนี่ไม่พออยู่ไกลโพ้น
นอกจากนี้ลู่อวิ๋นฉีบ้าคลั่งเกินไปแล้ว หากยังอยู่ในเมืองหลวง อยู่ต่อหน้าเขา ไม่รู้จะหาเรื่องให้อีกเท่าไร
“ไม่ใช่กลัว โรงหมอจิ่วหลิงวันนี้มีชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว หากเวลานี้รั้งอยู่ที่เมืองหลวง ลู่อวิ๋นฉีคงต้องตอแยอีกแน่ แม้ข้าไม่กลัว และมีคนมากมายจะปกป้องข้า แต่สู้กับคนบ้าก็จะกลายเป็นบ้าเหมือนกัน” นางเอ่ย “โรงหมอจิ่วหลิงไม่ออกตรวจยังขายยาได้ ยาหลายอย่างข้าก็สอนพวกเจ้าแล้วว่าทำอย่างไร เช่นนี้คนเมืองหลวงหรือหมอคนอื่นในเมืองหลวงก็มาเอายาที่นี่ได้ ลู่อวิ๋นฉีอยากสร้างความลำบากก็สร้างไม่ง่าย นี่นับว่าถอยเพื่อรุก”
สามคนด้านในโถงเงียบงัน
ผู้ดูแลใหญ่หลิ่วอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ท้ายที่สุดก็ยิ้ม
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราจะจัดการเรื่องเดินทางกลับ” เขาเอ่ย
นายน้อยฟางพูดไว้ นางว่าอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น พวกเขาเพียงต้องทำตามไม่จำเป็นต้องถามเหตุผล
มาก็เช่นนี้ ไปก็ย่อมเป็นเช่นนี้เหมือนกัน
นางว่าอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเตรียมตัวเดินทางสักหน่อย” เฉินชีก็เอ่ยตามด้วย คำพูดเอ่ยกับคุณหนูจวิน กลับมองฟางจิ่นซิ่วทีหนึ่ง
ฟางจิ่นซิ่วที่เงียบมาตลอดไม่รอคุณหนูจวินเอ่ยปากก็เอ่ยปากก่อนแล้ว
“เจ้าคิดถึงวันนี้อยู่ก่อนแล้วสินะ?” นางเอ่ย “เชิญพวกเรามาเมืองหลวงบอกว่าช่วยเจ้า เป็นเสมียนบัญชีเป็นผู้ดูแลใหญ่ ที่จริงไม่ใช่ให้พวกเราเป็นเสมียนบัญชีเป็นผู้ดูแลใหญ่ตอนนี้ แต่เป็นรอหลังเจ้าจากไปแล้ว ถึงเป็นผู้ดูแลใหญ่กับเสมียนบัญชีของโรงหมอจิ่วหลิงอย่างแท้จริง”
คุณหนูจวินเงียบ ยิ้ม
“ใช่” นางเอ่ย “ข้าทำสิ่งใดจะคิดมากสักน่อย”
ตอนแรกเพื่อทดลองอยู่ที่เมืองหลวง ในเมื่อทดลองดูก็ย่อมคิดว่าหลังไม่อยู่ที่เมืองหลวงจะจัดการอย่างไรด้วย
ชื่อเสียงของโรงหมอจิ่วหลิง นางสร้างขึ้นมาได้ก่อนเวลาแล้ว
แต่เพราะไม่แน่ใจว่าจะอยู่ที่เมืองหลวงตลอดไปหรือไม่ ดังนั้นตั้งแต่เริ่มนางจึงออกตรวจน้อยมาก ก็เพื่อให้บรรดาชาวบ้านคุ้นชินกับการที่นางไม่อยู่
ภายหลังนางยังให้พวกฟางจิ่นซิ่วทำยา ต่างคนแบ่งสรรงาน ก็เพื่อหลังตนเองจากไป โรงหมอจิ่วหลิงจะขับเคลื่อนได้ตามปกติได้
ในเมื่อสร้างชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว กุมหัวใจประชาชนได้แล้ว นางย่อมไม่อาจทิ้ง ต้องให้โรงหมอจิ่วหลิงคงอยู่ เช่นนี้ประชาชนทั้งหลายถึงจดจำโรงหมอจิ่วหลิงอยู่เสมอ จำเรื่องเหล่านี้ที่นางเคยทำ
บวกกับตอนนี้มีหน่อฝีอีก
ต่อให้นางจากไป โรงหมอจิ่วหลิงก็จะไม่หายไปจากเมืองหลวง
แน่นอนทุกสิ่งนี้ล้วนต้องพึ่งฟางจิ่นซิ่วกับเฉินชีแล้ว
คุณหนูจวินมองฟางจิ่วซิ่ว
“ตอนนี้เจ้ายังคิดดูอีกทีได้ว่าจะเป็นเสมียนบัญชีของโรงหมอจิ่วหลิงหรือไม่” นางเอ่ย
——————————————————————-
[1] เหวินจื้อ(文挚) หมอผู้มีชื่อเสียงแห่งแคว้นซ่ง สมัยจั้นกั๋ว ถูกฉีหมิ่นอ๋อง (齐闵王) เชิญไปรักษาอาการป่วย เหวินจื้อเดิมไม่อยากรับรักษาเพราะหากรับรักษาเขาต้องตายแน่นอน เนื่องจากอาการป่วยของฉีหมิ่นอ๋องต้องทำให้โกรธถึงหายได้ เมื่อทำให้ท่านอ๋องโกรธย่อมรักษาหัวไว้ไม่ได้ แต่รัชทายาทขอร้องเหวินจื้อจึงรับปาก เหวินจื้อจงใจผิดนัดกับท่านอ๋องสามครั้งสามหน สุดท้ายเมื่อมาตรวจก็ทำกิริยาหยาบคาย ใส่รองเท้าเหยียบขึ้นเตียง ย่ำบนอาภรณ์ของฉีหมิ่นอ๋อง ทั้งยังเอ่ยวาจาร้ายกาจจนฉีหมิ่นอ๋องโกรธเกรี้ยวคำรามออกมา อาการป่วยจึงหายสนิท แต่เหวินจื้อก็ถูกสั่งจับไปต้มทั้งเป็นจนตาย
[2] เปี่ยนเชวี่ย (扁鹊) หมอชื่อดังสมัยชุนชิวจั้นกั๋ว วิชาแพทย์สูงส่ง ผู้คนนับถือดุจเทพเซียน แต่สุดท้ายถูกหมอหลวงแคว้นฉินผู้ริษยาใส่ร้ายสังหาร
[3] ฮัวโต๋ (华佗) หมอชื่อดังสมัยปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เชี่ยวชาญวิชาแพทย์หลายแขนงโดยเฉพาะการรักษาอาการบาดเจ็บภายนอกและผ่าตัด บั้นปลายชีวิตถูกโจโฉคลางแคลงจึงถูกจับขังคุกสอบสวนจนตาย