บทที่ 212

บทที่ 214
และภายในนัยน์ตามีความเศร้าหมองผสมปนเปอยู่ด้วย

ในสายตาเขาเจี้ยนเฟิงเป็นศพที่เดินเหินได้

เจี้ยนเฟิงรู้ว่าเมื่อสะบัดดาบแล้วก็ไม่มีทางได้เก็บเข้าฝักอีก

ทว่าหยาเฟิงให้โอกาสเขาใช้ดาบแค่นี้เขาก็รู้สึกพอใจแล้ว!

หยางเฟิงกำหมัดแน่นขนัดใบหน้าเผยความจริงจังขึงขัง

เมื่อเจี้ยนเฟิงอยากตายเช่นนั้นก็ควรเคารพในการเลือกของเขา

ชู่ว์!

หยางเฟิงพุ่งเข้าไปแล้วปล่อยหมัดแบบไม่ยั้ง

“ดีมาก”

ดวงตาเจี้ยนเฟิงสว่างไสวจากนั้นก็ตะโกนสุดเสียง

ดาบยาวในมือแผ่กระจายด้วยกลิ่นอายเย็นยะเยือก

นาทีนี้เขารวบรวมกำลังทั้งหมดไว้ที่ดาบเล่มนี้

เมื่อเสียงคลื่นดาบแหวกว่ายอยู่กลางอากาศแม้จะเป็นภูเขาหรือก้อนหินแข็งก็ล้วนแหลกเป็นจุณทั้งสิ้น

นำไอสังหารอันน่าหวาดผวาเข้าหาหยางเฟิง!

เมื่อเทียบกับท่าทางชวนให้คนอื่นหวาดกลัวของเจี้ยนเฟิงแล้ว

หมัดของหยางเฟิงกลายเป็นสิ่งเรียบเฉยไร้ความอัศจรรย์

ไม่มีท่าทีโดดเด่นเป็นเพียงหมัดธรรมดาเท่านั้น

ทว่าเมื่อหมัดหล่นอยู่บนดวงตาเจี้ยนเฟิงดวงตากลับหดลงอย่างร้ายกาจ

คนที่เป็นเชาว์ปัญญาจริงๆ

จะขจัดความซับซ้อน!

เพราะไม่ว่าจะเป็นกระบวนท่ายอดเยี่ยมปานใดทว่าเมื่อย้อนกลับมาพินิจพิจารณาจริงๆก็ล้วนง่ายดายทั้งสิ้น!

และหมัดของหยางเฟิงทำให้เจี้ยนเฟิงเข้าใจผิดเหมือนเขาจะเห็นศาสตร์การต่อสู้อันยิ่งใหญ่กลายเป็นเรียบง่าย

ใช่!

การชกครั้งนี้ของหยางเฟิงคล้ายกับยึดหลักกฎข้อนี้!

เป็นไปได้ยังไง?

ดูเหมือนหยางเฟิงพึ่งจะอายุสามสิบปีแต่ทำไมจึงไขกฎข้อนี้ได้?

หากเรื่องนี้ถูกลือออกไปคงต้องทำให้ผู้คนแตกตื่นแน่!

“อ๊าก”

เจี้ยนเฟิงตะโกนคล้ายกับคนบ้าบิ่นจากนั้นดวงตาทั้งสองพลันแดงก่ำแล้วมีเลือดไหลพรากตามจมูกและปาก

เขาแผดเผาเลือดภายในร่างกายตัวเองทันใดนั้นก็พัฒนาไปอยู่ในขั้นปรมาจารย์ระดับกลาง!

โครม!

ในที่สุดทั้งสองก็ชนกระแทกกัน

เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!

หลังจากกระแทกกัน

หยางเฟิงกับเจี้ยนเฟิงต่างเฉียดไหล่อีกฝ่าย

จากนั้นก็หยุดการเคลื่อนไหว!

หนึ่งวินาที!

สองวินาที!

สามวินาที!

……

หยางเฟิงกับเจี้ยนเฟิงต่างฝ่ายต่างไม่ขยับเขยื้อน

ผ่านไปเนิ่นนาน

ใบหน้าเจี้ยนเฟิงเผยความประหลาดใจ

ต่อด้วยมีเลือดสดไหลออกจากมุมปากเขา

เขาใช้พลังปรมาจารย์ระดับกลาง

เพื่อใช้ฟันดาบให้เลิศล้ำที่สุดทว่าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฟิง?

มันเหลือเชื่อมาก!

ในสายตาเจี้ยนเฟิงหยางเฟิงคือกลุ่มดาวและทะเลมันลึกล้ำเกินคาดคะเน!

“คุณเป็นใคร?”

เจี้ยนเฟิงเอ่ยปากด้วยความยากเย็น

หยางเฟิงตอบอย่างไม่ยินดียินร้าย“เทพมรณะ!”

“เทพมรณะ?”

เจี้ยนเฟิงพูดพึมพำกับตัวเองทันใดนั้นดวงตาพลันเผยความตกตะลึงพรึงเพริด

เขานึกไม่ถึงว่าหยางเฟิงจะเป็นเทพมรณะ

เทพมรณะผู้เกรียงไกรมีพลังแกร่งกล้าสามารถปลิดชีพร้อยล้านคนในทะเลทราย

ที่แท้คือแบบนี้นี่เอง……

แค๊ก!

เจี้ยนเฟิงพ่นเลือดสดออกจากปาก

หยางเฟิงเก็บหมัดกลับมาพลางจ้องเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย“นายไปเลย!”

เจี้ยนเฟิงถามด้วยความเหลือเชื่อ“คุณไม่ฆ่าผมเหรอ?”

“นายไม่มีค่าพอให้ฉันฆ่า?”

หยางเฟิงกล่าวด้วยดวงตาเย็นชา

ได้ยินดังนั้นเจี้ยนเฟิงก็หัวเราะเยาะตัวเอง

เขาไม่มีค่าพอที่จะตายในเงื้อมมือเทพมรณะ?

แม้คำนี้จะโหดร้ายทว่าก็เป็นความจริง!

แม่ทัพใหญ่ของศัตรูต่างชาติตายในมือหยางเฟิงมากมาย

ส่วนเขาเป็นเพียงคนสามัญชนทั่วไปแล้วจะคู่ควรให้กระทำได้อย่างไร!

เจี้ยนเฟิงหัวเราะอย่างน่าเวทนา“คุณไม่ฆ่าผมแต่ผมก็อยู่ต่อไปไม่ได้!”

“มันไม่จำเป็นเลย”

หยางเฟิงมองเจี้ยนเฟิงด้วยอารมณ์ซับซ้อน

เจี้ยนเฟิงถือดาบปาดใส่คอตัวเองจากนั้นก็ตะโกนก้องไปทั่วท้องฟ้า

“ท่านสามผมมาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว”

ดาบเล่มยาวค่อยๆเฉือนผ่าน

เลือดสดค่อยๆซึมออกจากคอเจี้ยนเฟิงทีละนิด

จากนั้นเลือดสดก็เจิ่งนองไปทั่วทิศ

ดาบยาวหล่นสู่พื้น

เคร้ง!

เกิดเสียงดังสายหนึ่ง

เจี้ยนเฟิงก็วูบลงพื้น

หยางเฟิงก้มหน้ามองศพเจี้ยนเฟิงจากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ

เขารู้ว่าไม่ว่าวันนี้เจี้ยนเฟิงจะชนะหรือแพ้แต่ที่แน่ๆอีกฝ่ายต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“ท่านแม่ทัพ”

เวลานี้เรือรบมากมายปรากฏบนผิวน้ำทะเล

เสือขาวนำทหารบุกเข้ามา