“ตอนนี้ถ้าเจ้าพร้อมที่จะเข้าร่วมการสอบของวิหารแก่นมังกรแล้ว ให้ก้าวออกไปด้านหน้า และเดินเข้าไปที่ประตู!”

หลังจากที่เขาพูดจบชายวัยกลางคนก็กระโดดลงมาจากประตูก่อนที่จะเดินเข้าไปในประตูเพื่อเป็นการสาธิต และเขาก็หายเข้าไปในประตูทางเข้า

หลังจากนั้นผู้คนที่นั่นก็เริ่มวิ่งไปที่ประตู ในขณะเดียวกันมีคนมากกว่าสองสามคนที่นั่นที่ตัดสินใจที่จะยืนนิ่งๆและไม่เข้าไปใกล้ประตู เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังลังเลว่าจะไปต่อดีไหม

ส่วนหยวนเขาก็เดินตามฝูงชนเข้าไปที่ประตูทันที

เสี้ยววินาทีหลังจากที่ก้าวเข้าประตูไปพร้อมกับทุกคนที่เข้ามา หยวนก็ถูกส่งตัวไปยังทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และว่างเปล่าที่ทอดยาวไปสุดขอบฟ้า นอกจากนี้ยังมีประตูอีกบานหนึ่งที่คล้ายกับประตูที่พวกเขาเพิ่งเข้ามาอยู่ห่างออกไปไม่กี่ไมล์จากจุดที่เขายืนอยู่

“ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน”

ผู้คนที่นั่นต่างงงงวยว่าทำไมพวกเขาถึงถูกพามาที่ทุ่งหญ้าว่างเปล่าแห่งนี้ ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะต้องทำอะไรบ้างในสถานที่แห่งนี้ สถานที่แห่งนี้เกี่ยวกับการสอบยังไง?

หลังจากรอให้ทุกคนมารวมตัวกันในอีกไม่กี่นาที ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมหลากสีก็เริ่มพูดอีกครั้ง

“นี่จะเป็นการสอบครั้งแรกของพวกเจ้า ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่ทอดยาวกว่า 10,000 ไมล์นี้มีใบหยกซ่อนอยู่ 1,000 ใบและเฉพาะผู้ที่มีใบหยกเท่านั้นที่จะสามารถเข้าสู่ขั้นถัดไปของการสอบได้ เจ้ามีเวลาสองวันในการเข้าสู่การทดสอบครั้งต่อไป โดยการไปให้ถึงประตูนั้นและเข้าประตูไปก่อนที่เจ้าจะถูกตัดสิทธิ์โดยอัตโนมัติและถูกไล่ออกจากสถานที่แห่งนี้”

“ใครมีคำถามบ้างไหม”

ผู้เข้าสอบคนหนึ่งที่นั่นยกมือขึ้นทันที

“นี่คือการสอบแบบไหนกัน ข้าไม่เห็นว่าการหาเข็มในกองหญ้าจะเกี่ยวข้องกับการเป็นศิษย์ของวิหารแก่นมังกรได้อย่างไร!”

ชายวัยกลางคนหันไปหาคนที่เพิ่งพูดเมื่อสักครู่และตอบกลับมาว่า

“นี่คือการสอบโดยอาศัยโชคของเจ้า เราแค่ทดสอบโชคชะตาของเจ้า ว่าเจ้าจะมีชะตากรรมที่จะกลายเป็นศิษย์ของเราหรือไม่ แม้ว่าเจ้าอาจจะไม่เข้าใจแต่โชคของคนๆหนึ่ง และโชคชะตามีบทบาทอย่างมากในโลกแห่งการฝึกฝน และหากไม่มีสิ่งเหล่านี้เจ้าจะไม่มีทางบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในโลกแห่งการฝึกฝน และวิหารแก่นมังกรของเราก็ไม่มีประโยชน์สำหรับคนแบบนั้น “

“ผู้อาวุโสที่ท่านบอกว่า ‘ซ่อน’ ท่านหมายถึงอะไรกันแน่ พวกมันถูกฝังอยู่ใต้ดินหรือถูกวางไว้รอบๆทุ่งหญ้านี้?” ผู้เข้าร่วมคนอื่นถามในอีกสักครู่ต่อมา

ชายวัยกลางคนยิ้มให้กับคำถามของผู้เข้าร่วมและกล่าวว่า

“มีใบหยก 997 ใบวางอยู่เหนือพื้นดินโดยมีใบหยกพิเศษสามใบฝังอยู่ในพื้นดินหากพวกเจ้าสามารถหาใบหยกที่ฝังอยู่ในพื้นได้ จะได้รับรางวัลพิเศษเมื่อสิ้นสุดการสอบ”

หลังจากตอบคำถามอีกสองสามข้อชายวัยกลางคนก็กล่าวว่า

“การสอบครั้งแรกเริ่มต้นขึ้น!”

ทันทีที่ชายวัยกลางคนพูดจบประโยคผู้คนนับพันที่มารวมตัวกันที่นั่นก็เริ่มกระจายไปทุกทิศทางและวิ่งไปรอบๆพร้อมกับมองไปทางซ้ายและขวาโดยไม่หยุด

ในขณะเดียวกันหยวนยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าสงบ

‘นี่ไม่ต่างจากตอนที่ฉันต้องหาหญ้าวิญญาณกับหยูรู่มากนัก ฉันควรจะพบมันด้วยสัมผัสแห่งสวรรค์ของฉัน’ หยวนคิดกับตัวเอง

‘หืม? ทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ถึงยังยืนอยู่ที่นั่น?’ ชายวัยกลางคนหันไปมองหยวนหลังจากสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆของเขา แต่เมื่อเขาเห็นออร่าที่ทรงพลังเปล่งออกมาจากร่างของหยวน เขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ

‘นักรบวิญญาณระดับห้า?! ทำไมคนแบบนั้นถึงมีส่วนร่วมในการสอบเป็นศิษย์ของเรา! เขามีคุณสมบัติที่จะเป็นศิษย์ภายในได้ทันทีหากเขาพูดกับผู้อาวุโสของนิกาย! ‘

ไม่ใช่แค่ชายวัยกลางคนเท่านั้นที่สังเกตเห็นการปรากฏตัวที่ทรงพลังของหยวน ผู้เข้าร่วมบางคนก็สังเกตเห็นเขาเช่นกัน นอกจากนี้ผู้อาวุโสของนิกายที่เฝ้าดูการสอบของศิษย์จากที่ไหนสักแห่งในวิหารแก่นมังกร ต่างก็ครุ่นคิดกับตัวเอง ว่าทำไมคนในระดับของเขาถึงต้องผ่านการสอบเพื่อเข้าร่วมการสอบสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ไม่มีภูมิหลังด้วยละ

ในความเป็นจริงยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่คิดว่าหยวนอาจเป็นสายลับที่ส่งมาจากที่อื่น

หลังจากหายใจเข้าลึกๆ หยวนก็หลับตาและเริ่มใช้สัมผัสแห่งสวรรค์ของเขาเพื่อค้นหาใบหยก

‘สัมผัสแห่งสวรรค์งั้นหรอ?! เป็นไปไม่ได้! เขาเป็นเพียงนักรบวิญญาณเท่านั้น! เขาจะใช้สัมผัสแห่งสวรรค์ได้อย่างไร! แต่ออร่าขนาดนั้น! ความรู้สึกนี้! เขาใช้สัมผัสแห่งสวรรค์อย่างแน่นอน! ‘

ชายวัยกลางคนรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นหลังจากที่รู้ว่าหยวนกำลังทำอะไรอยู่เขาเกือบจะล้มลงจากความตกใจ

ในขณะเดียวกันที่ไหนสักแห่งในวิหารแก่นมังกรที่ผู้อาวุโสของนิกายรวมตัวกันอยู่ และกำลังเฝ้าดูสถานการณ์จากถังน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถดูสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องสอบได้

“ห่ะ! อะไรกัน! คนๆนี้เป็นใคร?! เขาสามารถใช้สัมผัสแห่งสวรรค์ได้ด้วยในระดับที่เป็นแค่นักรบวิญญาณงั้นหรอ!”

“ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ภูมิหลังของเขาต้องมีพลังมหาศาลแน่นอน นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงต้องซ่อนตัวตนของเขา!”

“เราจะทำยังไงดี? ควรให้เขามีส่วนร่วมในการสอบหรือไม่?”

“มาดูกันต่อเถอะ ดูว่าเขามีจุดประสงค์อะไรในการเข้าสอบครั้งนี้”

ในขณะที่สายตาหลายคู่จับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของหยวน หยวนเองก็ได้พบใบหยกหกชิ้นจากสัมผัสแห่งสวรรค์ของเขาแล้ว

‘มันง่ายเกินไปถ้าฉันมองหาแค่ใบหยกธรรมดา มาลองค้นหาสิ่งที่ถูกฝังอยู่ในพื้นดินเพื่อรับรางวัลพิเศษนั้นกันดีกว่า ฉันยังมีเวลาอีกตั้งสองวัน’

ด้วยเหตุนี้ หยวนจึงเดินไปรอบๆทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่พร้อมกับเปิดใช้งานสัมผัสแห่งสวรรค์

หลังจากเดินไปรอบๆสามชั่วโมง โดยใช้สัมผัสแห่งสวรรค์ของเขามองไปรอบๆอยู่ตลอดเวลาหยวนก็หยุดเคลื่อนไหว

“ยังงั้นหรอ?”

หยวนดึงกริชห้วงดวงดาวของเขามา และใช้มันเพื่อขุดหลุมบนพื้นดิน

ไม่กี่อึดใจเขาก็คว้าใบหยกสีแดงขึ้นมาจากพื้น

ในขณะเดียวกันผู้คนที่เฝ้าดูเขาต่างก็พูดไม่ออก เพราะพวกเขาไม่ได้คาดหวังให้คนที่มีสัมผัสแห่งสวรรค์เข้าร่วมในการเข้ารับการสอบเป็นศิษย์ในครั้งนี้

‘โชคดีและโชคชะตางั้นหรอ…’ ชายวัยกลางคนถอนหายใจหลังจากเห็นใบหยกสีแดงอยู่ในมือของหยวน