ตอนที่ 236 กับดักกระดานกรวยหนาม

ทุกคนหันไปมองโหยวเสียวอู่เป็นตาเดียว

“เป็นยังไงบ้าง?” ฉินโถวถามทันทีที่เห็นเขา

“เครื่องเกาะนี่เจาะเข้าไปถึงแค่ช่วงกลางเท่านั้นครับ ด้านในมันมีการหลอมรวมของเหล็กซึ่งมันไม่สามารถที่จะเอาอิฐออกมาได้” โหยวเสียวอู่พูด

หยางโปหันไปมอง ตอนที่เขาได้ยินอีกฝ่ายพูดว่าเป็นชั้นอิฐเหล็กเขาก็เผลอเข้าใจว่ามันเป็นภาษาของพวกผู้เชี่ยวชาญพูดคุยกัน แต่หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองฝ่าย หยางโปก็เกิดอาการตกตะลึงตาค้างขึ้นมาในทันที เพราะชั้นอิฐเหล็กเป็นการเทเหล็กหลอมเหลวที่ร้อนมากลงไป! จากที่เขารู้มาหลุมศพของอู่เจ๋อเทียนเป็นการนำเหล็กหลอมเหลวเทลงไปตรงกลางของก้อนหิน จึงทำให้เป็นเรื่องยากที่จะสามารถเข้าไปที่หลุมฝังศพได้ อีกอย่างร่างของเจ้าชายหลีผู่เองก็ต้องถูกเหล็กหลอมเหลวนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก

 

ในช่วงสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงจากสงครามในตอนนั้น เหล็กเป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญมาก

ตอนที่ฉินโถวพูดว่ารูปแบบของที่นี่เป็นแบบมังกรจำศีลและมันมีความสอดคล้องเป็นอย่างมากกับเจ้าของหลุมศพอีกทั้งยังสามารถเห็นสภาพของเจ้าชายหลีผู่ได้ด้วย เป็นมังกรจำศีลที่ไม่มีการออกมาข้างนอกอีกทั้งยังเป็นการอยู่ตลอดกาล! การที่ฐานะของเจ้าชายได้รับการดูแลเป็นอย่างดีราวกับจักรพรรดินั้นยิ่งทำให้หยางโปมั่นใจแล้วว่าสุสานแห่งนี้จะต้องมีสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน!

ฉินโถวเกิดอาการลังเลเล็กน้อย “ที่ราบสูงดินเหลืองที่นี่มีดินทรายร่วน”

ฉินโถวหันไปมองโหยวเสียวอู่โดยไม่ได้พูดอะไร

 

โหยวเสียวอู่รีบพูด “คุณไม่ต้องห่วงครับ ถ้าหากใช้การระเบิดคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหา”

ฉินโถวพยักหน้า “ระวังตัวด้วย”

โหยวเสียวอู่ยิ้มก่อนที่จะเดินไปหยิบพลั่วพร้อมกับสายพายกระเป๋าเป้ไว้บนหลัง

เจี่ยงเอ้อตบบ่าโหยวเสียวอู่พร้อมกับพูด “ระวังตัวด้วยนะ”

โหยวเสียวอู่พยักหน้าก่อนที่จะเดินหายเข้าไปด้านในอีกครั้ง

 

หยางโปเกิดอาการตกตะลึงขึ้นมาในทันที การระเบิดดินถือว่าเป็นอุปกรณ์กองทัพที่ทันสมัยที่สุดในกลุ่มกองทัพต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บปวดจากการขุดสนามเพราะในช่วงสงคราม ตอนที่เกิดสงครามนั้นถ้าหากทิ้งระเบิดไปด้านหน้าเพียงไม่กี่เมตรก็จะสามารถขุดเจาะจนกลายเป็นหลุมลึกหลายเมตรได้ง่ายๆและดินที่อยู่ด้านในนั้นก็จะกระจายขึ้นมาด้านบน และด้วยแรงระเบิดที่เกิดขึ้นจะทำให้พื้นที่รอบๆถูกกดลงไปจนทรุดตัว และหลังจากที่มีการระเบิดแล้วภายในหลุมนั้นก็จะไม่พบดินที่อยู่ในนั้นแม้แต่นิดเดียว

ฉินโถวคนที่หยางโปไม่เคยรู้จักมาก่อนคนนี้ได้ทำการเตรียมอาวุธระดับสงครามมาในครั้งนี้ด้วย แต่เมื่อนึกถึงตอนที่พวกเขาใช้พลั่วขุดมาโดยตลอดเขาก็รู้ทันทีว่าคนพวกนี้ไม่ได้มีระเบิดเยอะมากมายเท่าไหร่นัก

 

“ถอยออกไปก่อน” ฉิวโถวพูด

ทุกคนรีบเดินตามฉินโถวเพื่อเดินออกจากจุดนี้ ในขณะที่ทุกคนต่างจ้องมองไปด้วยสายตาที่รอคอย

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งหยางโปก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมา แต่เมื่อเห็นฉินโถวและคนอื่นๆยังไม่ได้มีปฏิกริยาอะไรออกมาเขาจึงทำได้เพียงแค่รออย่างใจเย็นเท่านั้น

หลังจากผ่านไปได้อีกครู่หนึ่งจู่ๆภายในหลุมถ้ำนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจนพื้นสั่นสะเทือนแถมสายตาของทุกคนก็ยังจ้องไปที่ปากทางเข้าของถ้ำแห่งนั้น

ผ่านไปครู่หนึ่งถ้ำนั้นยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และคนที่อยู่ด้านนอกก็ไม่มีใครขยับเขยื้อนไปไหนด้วย

 

ผ่านไปอีกหลายนาทีในที่สุดก็มีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง รอบนี้หยางโปรู้สึกได้ว่าพื้นที่ที่เขายืนอยู่เกิดการสั่นสะเทือน ก่อนที่เสียงนั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว

เพียงไม่นานโหยวเสียวอู่ที่สวมใส่หน้ากากป้องกันพิษก็ปีนขึ้นมาด้านบน

เจี่ยงเอ้อรีบวิ่งเข้าไปช่วยดึงเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“โชคดีที่ภารกิจไม่ล้มเหลวนะครับ” โหยวเสียวอู่ถอดหน้ากากออกมาพร้อมกับพูด

“เยี่ยม!” ฉินโถวแสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมา “ทำได้ดีมาก!”

“เอ้อหนิวนายอยู่นี่ดูแลเสียวอู่ด้วยนะจะได้มีอากาศหายใจ ส่วนคนอื่นๆตามฉันลงไปด้านล่าง” ฉินโถวพูด

 

ทุกคนพยักหน้าก่อนที่จะรับหน้ากากป้องกันพิษจากเอ้อหนิว หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งทุกคนก็เริ่มทยอยเดินลงไปด้านล่าง

หลังจากเดินลงมาถึงด้านล่างแล้วหยางโปก็รู้สึกได้ถึงความลื่นที่พื้นจนทำให้เขาต้องใช้ขาของตัวเองในการทรงตัวเพื่อไม่ให้ตัวเองก้นจ้ำเบ้าไปนั่งกองอยู่ที่พื้น

ภายในถ้ำสุสานแห่งนี้มืดมากจึงต้องพึ่งพาแสงไฟที่อยู่บนหมวกของตัวเองพร้อมกับเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง นี่เป็นครั้งแรกที่หยางโปได้มาทำอะไรแบบนี้ เป็นเพราะเขาเดินตามคนอื่นๆอยู่ด้านหลัง เขาจึงมองไม่เห็นว่าด้านหน้าเป็นยังไง แต่เขารู้เพียงแค่เจี่ยงเอ้อเป็นคนเดินนำทางส่วนฉินโถวเป็นคนที่ตามมาเป็นคนที่สอง

 

ฉินโถวถือเป็นแกนหลักของกลุ่มและเขาก็เป็นผู้ออกคำสั่งด้วย ทุกคนจึงต้องฟังคำสั่งจากเขาเพียงผู้เดียว

ในเวลาอันรวดเร็วหยางโปก็ปีนมาถึงจุดที่เป็นทางโค้ง ซึ่งตรงนั้นมีหลุมที่สามารถซ่อนคนได้หนึ่งคน หลังจากที่หยางโปคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าตอนที่เสียวอู่ทำการระเบิดที่แห่งนี้เขาจะต้องวิ่งมาหลบอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน

จู่ๆคนที่อยู่ด้านหน้าก็หยุดเดินพร้อมกับเสียงร้องที่ดังขึ้นมาจากด้านใน เขารู้สึกตกใจขึ้นมาในทันที เพราะเขามั่นใจว่าเสียงร้องเมื่อกี้เป็นเสียงของเจี่ยงเอ้อชายร่างกำยำคนนั้น!

“หนิวต้ามานี่เร็วเข้า!”

 

หลังจากนั้นหยางโปก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นเวลาเดียวกันกับตอนที่เขารู้สึกได้ว่ามีโคลนตกลงมาบนเสื้อของเขา

“คนที่เหลือรีบออกไปตอนนี้เลยแล้วเรียกให้หนิวเอ้อลงมา” ฉินโถวพูด

ด้านหน้าของหยางโปคือเจ้าอ้วนหลิว เป็นเพราะเจ้าอ้วนหลิวไม่สามารถหมุนตัวได้เขาจึงเลือกที่จะเดินถอยหลังแทน ส่วนหยางโปทันทีที่ได้ยินเสียงของฉินโถวเขาก็รีบปีนออกไปด้านนอกทันทีโดยมีเจ้าอ้วนหลิว ลัวย่าวหัวและหลูตงซิ่งที่ตามออกมาติดๆ

หยางโปออกมาก็รีบหันไปพูดกับหนิวเอ้อ “หนิวเอ้อด้านล่างเกิดเรื่องแล้ว อาจารย์บอกให้นายลงไปตอนนี้เลย!”

 

หนิวเอ้อตกตะลึง “เกิดอะไรขึ้น?”

“ผมอยู่ด้านหลังสุดมองไม่เห็นเหมือนกัน!” หยางโปตอบ

เสียวอู่ที่เอนตัวอยู่ที่พื้นก็รีบลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับมองมาที่หยางโปด้วยท่าทางระมัดระวัง

หยางโปไม่ได้พูดอะไรและเขาก็ไม่ได้เข้าไปใกล้คนพวกนั้นมากเท่าไหร่นัก หลังจากที่หลูตงซิ่งออกมาเขาก็หันไปถามหลูตงซิ่งว่า “เถ้าแก่หลูเกิดอะไรขึ้นครับ?”

“มีกับดักกระดานกรวยหนามอยู่ด้านล่างตรงที่ทางที่พวกเราลงไปตรงปากทางเข้าพอดี” หลูตงซิ่งพูด

 

หลิวเอ้อไม่ได้เร่งรีบลงไปด้านล่างทันทีแต่หันไปหยิบกระเป๋าที่อยู่ด้านข้างก่อนที่จะปีนลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว

หยางโปได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไป เขานึกถึงก่อนหน้านี้ตอนที่หงซิ่วฉวนเจอกับดักที่อยู่ด้านในสุสานตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่หลังจากที่กลับไปหาข้อมูลแล้วเขาถึงได้เข้าใจว่ามันยังมีกับดักที่ร้ายแรงที่เรียกว่ากับดักกระดานกรวยหนามที่อยู่ด้านล่างอีก

กับดักกระดานกรวยหนามเป็นกับดักที่มักจะพบเจอได้บ่อยภายในสุสาน ซึ่งมันมีรูปร่างเหมือนกับกรวยที่มีความยาวราวๆ 10 เซนซึ่งมีการวางกระจัดกระจายอยู่ภายในนั้นโดยจะถูกปกคลุมด้วยแผ่นไม้อีกหนึ่งชั้น โดยจะมีเพลาวางอยู่ตรงจุดกลางและมีกรวยขนาดเล็กที่อยู่ด้านข้างเพื่อสร้างความสมดุลให้กับแผ่นไม้ และถ้าหากมีคนลงไปด้านล่างแผ่นไม้ที่สร้างความสมดุลนั้นก็จะไม่สามารถวางให้ตรงได้อีกต่อไปแต่มันจะทำให้แผ่นไม้เอนไปข้างใดข้างหนึ่งก่อนที่จะส่งร่างของคนผู้นั้นให้ไหลลงไปบนกรวยมีด!

 

หลังจากที่คนตกไปแล้วแผ่นไม้ที่เกิดเป็นทางราดนั้นก็จะกลับมาสู่สภาพเดิมอีกครั้งและเมื่อเป็นแบบนี้มันก็จะกลายเป็นเครื่องมือเก็บเกี่ยวแห่งความตายไปในทันที!

“กับดักกระดานกรวยหนาม!” เสียวอู่หน้าถอดสีในทันที เป็นเพราะเขาต้องอยู่บนเส้นทางที่ต้องเจอกับความเป็นความตายมาหลายปีจึงทำให้เขาเข้าใจดีว่ากับดักกระดานกรวยหนามน่ากลัวขนาดไหน

“คนที่เดินอยู่หน้าสุดคือใคร?” เสียวอู่ถาม

“เจี่ยงเอ้อ” หลูตงซิ่งตอบ

คนที่อยู่ด้านนอกเริ่มลุกขึ้นยืนและตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าด้านในตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง

 

ลัวย่าวหัวหันมาปลอบใจ “ใบมีดของราชวงศ์ถางน่าจะเสื่อมสภาพแล้ว คิดว่าคงไม่เป็นอะไรหรอก”

เจ้าอ้วนหลิวที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบเดินไปเดินมาด้วยความกระวนกระวายใจ เขาเป็นคนกลางโดยปกติแล้วเขาก็มักจะคิดถึงเรื่องการกดราคาเกี่ยวกับของในสุสานอยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยต้องมาเจอเรื่องที่อันตรายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต

หยางโปเองก็เริ่มเดินไปเดินมาเช่นเดียวกัน หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งด้านในก็เกิดเสียงขึ้น

หยางโปและคนอื่นรีบเดินไปดูก็พบว่าหลิวเอ้อกำลังใช้เชือกดึงอยู่ตลอดเวลา ในเวลาเดียวกันหยางโปและคนอื่นๆก็รีบเข้าไปช่วยดึงเชือกนั้นกันอย่างสุดแรง จนในที่สุดก็สามารถลากกระดานไม้ขึ้นมาได้สำเร็จ

แต่ทันทีที่เห็นร่างของเจี่ยงเอ้อ หยางโปก็สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจทันที เพราะบนร่างของเขาในเวลานี้เต็มไปด้วยเลือดสดๆที่กำลังไหลอาบไปทั่วทั้งตัว!!!