ตอนที่ 813 ยารักษาโรค

Elixir Supplier

“เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” แพทย์ที่เข้าร่วมการรักษาอดถามขึ้นมาไม่ได้“แค่นี้เหรอครับ?”

“ชีวิตของเขารักษาไว้ได้แล้ว ต่อจากนี้ก็เป็นขั้นตอนของการฟื้นฟูครับ” หวังเย้าพูด

“มันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?” แพทย์คนหนึ่งถาม

หวังเย้ายิ้มบางมันเรียบง่ายจริงๆ ยาทั้งสี่ชนิดของเขารักษาได้เป็นอย่างดี

“พรุ่งนี้ ผมจะกลับมาใหม่นะครับ” หวังเย้าพูด

“ได้ ที่พักของคุณถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้แล้ว” มู่เฉิงโจวพูด “ตามผมมาเลย”

มู่เฉิงโจวและคนอื่นๆพาหวังเข้าออกไปจากโรงพยาบาล

“หัวหน้า ผู้ชายคนนั้นเป็นใครเหรอครับ?” แพทย์คนหนึ่งถาม

“ผมไม่รู้” หัวหน้าพูด “เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่พวกเขาเชิญมา”

“ฉันคิดว่า ฉันรู้ว่าเขาเป็นใคร” แพทย์ชราพูด

“หา?” คนอื่นต่างประหลาดใจ

“ฉันได้ยินมาว่า มีทหารสองสามนายกลับมาจากชายแดนด้วยอาการสาหัสแล้วถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในปักกิ่งทันที” แพทย์ชราพูด “ในตอนนั้นโรงพยาบาลในปักกิ่งก็ช่วยพวกเขาไม่ได้พวกเขาเลยเชิญหมอคนหนึ่งมารักษาพวกเขา เขาสามารถดึงพวกเขากลับมาจากความตายได้หมอคนนั้นอายุยังน้อยมากและก็อาจจะเป็นคนเดียวกับที่พวกเราเจอวันนี้”

“คุณได้ยินมาจากเพื่อนของคุณเหรอ?” หัวหน้าถาม

“ใช่” แพทย์ชราพตอบ

“เย็นนี้ ใครก็ตามที่อยู่เวร ให้คอยสังเกตอาการของทหารทั้งสามนายอย่างละเอียด”หัวหน้าพูด “ดูจากสีหน้าของเขาแล้ว เขาดูมั่นใจมาก!”

หลังออกมาจากโรงพยาบาล ซูจือฉิงก็ถามว่า “น้องเขย เรายังไม่ได้กินข้าวเย็นกันเลยเราไปหาอะไรกินกันดีไหม?”

“มันดึกมากแล้ว ไม่ต้องก็ได้ครับ” หวังเย้าพูด

มันเป็นเวลาเกือบตี 1 แล้ว กินอาหารดึกเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้

“ก็ได้ ฉันเตรียมที่พักไว้ให้นายแล้ว” ซูจือจึงพูด

สถานที่ที่ถูกเตรียมไว้สําหรับหวังเย้าเป็นโรงแรมของกองทัพที่ตั้งอยู่ในเมือง มันถูกใช้งานสําหรับหน่วยงานภายในเท่านั้นโรงแรมตั้งอยู่ไม่ไกลและมีการบริการที่ดี

“คืนนี้ เราจะพักที่นี่ด้วยกัน” ซูจือฉิงพูด “พรุ่งนี้ เราค่อยไปหาพวกเขาสามคน

“ครับ” หวังเย้าพูด

หลังจากเดินทางไกลหลายพันไมล์ในวันเดียว หวังเย้ากลับไม่ได้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยต่างจากแพทย์ในโรงพยาบาลอย่างสิ้นเชิงเพื่อรักษาชีวิตของทหารทั้งสามนายเอาไว้พวกเขาต่างเต็มไปด้วยความกังวลและทั้งใช้ความพยายามและเวลาไปกับคนทั้งสามเพราะสภาพเมื่อมาถึงของทั้งสามนั้นย่าแย่มาก

หลังจากหวังเย้าให้การรักษาแบบพิเศษกับพวกเขา เจ้าหน้าที่การแพทย์ของโรงพยาบาลทหารก็ยังคงกังขาและไม่ไว้วางใจพวกเขาหมั่นตรวจดูอาการและจดบันทึกข้อมูลอย่างสม่ำเสมอเห็นได้ชัดว่าอาการของพวกเขาต่างก็ค่อยๆดีขึ้น

แพทย์ที่อยู่เวรมองดูบันทึกในมือและถามว่า “มันได้ผลจริงๆเหรอ?”

“ใช่ค่ะ มันได้ผล” หัวหน้านางพยาบาลที่อยู่เวรพูด

เธอกังวลและไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องการรักษา เธอจึงเข้าไปตรวจดูบันทึกของคนไข้ทั้งสาม

“ยอดไปเลย!”

ค่ําคืนยาวนานและผ่านไปอย่างเชื่องช้า ในตอนเช้า พระอาทิตย์ส่องแสงให้ความอบอุ่น ทหารทั้งสามนายก็ได้สติ

“พวกเขาได้ฟื้นแล้ว!” เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบต่างรีบทําการตรวจสภาพร่างกายของทั้งสาม

ผลตรวจที่ออกมาทําให้พวกเขาต้องประหลาดใจ เมื่อเทียบกับผลที่ได้วันก่อน มันต่างกันอย่างใหญ่หลวงห่างไกลกันราวท้องฟ้ากับพื้นดิน หนึ่งในสามคนนั้นอยู่ในขั้นวิกฤต พูดได้ว่าชีวิตของเขากําลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายคนต้องคอยตามดูอาการของเขาอย่างใกล้ชิดมีการวางแผนขั้นตอนการรักษาสําหรับเขาโดยเฉพาะหลังจากเสียหยาดเหงื่อแรงกายไปมากพวกเขาก็สามารถยื้อชีวิตของคนทั้งสามเอาไว้ได้แต่พวกเขาก็ยังไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดคมดาบยังคงแขวนอยู่เหนือศีรษะของพวกเขารอเวลาที่จะร่วงหล่นลงมา

หลังจากชายหนุ่มเดินทางมาถึงและรักษาพวกเขาทีละคน อาการของพวกเขาก็เปลี่ยนจากขั้นวิกฤตเกินกว่าจะรักษาได้เป็นพ้นขีดอันตรายภายในคืนเดียว

“มันเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ?” แพทย์คนหนึ่งถาม

“ไม่มีทาง” หัวหน้าพูด “ถ้ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ พวกเขาสามคนจะพ้นขีดอันตรายพร้อมกันได้ยังไง?”

“มันจะไม่เป็นเรื่องมหัศจรรย์เกินไปเหรอครับ?” แพทย์คนหนึ่งถาม

“คนแบบนี้โผล่มาจากไหนกัน?” แพทย์คนหนึ่งพูด “ทําไมเราถึงไม่เคยได้ยินเรื่องของเขามาก่อน?”

“บางทีเขาอาจจะเป็นอัจฉะริยะจากตระกูลแพทย์สักตระกูลก็ได้” หัวหน้าพูด

หวังเฝ้าตื่นแต่เช้า อาหารเช้าของโรงแรมนี้มีหลายอย่างและเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการรวมไปถึงรสชาติที่ถูกปากด้วย ภายในโรงแรมยังสะอาดสะอ้านและปลอดภัยกว่าโรงแรมทั่วไป

“นายคิดว่าที่นี่เป็นยังไง?” ซูจือจึงยิ้มถาม ในขณะที่เขากําลังทานโจ๊กอยู่ “มันสู้โรงแรมใหญ่ๆพวกนั้นได้เลยใช่ไหม?”

“ใช่ มันดีมาก” หวังเข้าตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” ซูจองพูด “ยังไงนายก็ถือเป็นแขกของฉัน”

หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็ไปที่โรงพยาบาล ทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสามนายก็ได้สติกันแล้ว

ครั้งนี้ เหล่าเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างต้อนรับการมาถึงของพวกเขาอย่างกระตือรือร้น

“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” ซูจือจึงถาม

“การรักษาของน้องเขยคุณประสบความสําเร็จและเห็นผลมากเลยครับ”หัวหน้าแพทย์พูด

“พวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง?” ซูจือจึงถาม

“ดีมากครับ” หัวหน้าแพทย์พูด “พวกเขาพ้นขีดอันตรายแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” ซูจองพูด

“ผมจะไปดูพวกเขาอีกรอบ” หวังเย้าพูด

หลังจากตรวจอาการทหารทั้งสามนายเสร็จแล้ว เขาก็พูดว่า “ดีมากครับพวกเขาถือว่าพ้นขีดอันตรายแล้วต่อไปก็เป็นการฟื้นฟูเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว”

หวังเย้าหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า “ช่วยออกไปสักครู่นะครับ”

หลังจากได้ยินคําขอของเขา เจ้าหน้าที่ต่างก็ตกใจพวกเขามีสีหน้าอึดอัดใจเล็กน้อยพวกเขาต้องการอยู่เพื่อเฝ้าดูวิธีการที่หวังเย้าใช้รักษาคนไข้แต่พวกเขาก็จําต้องยอมทําตามคําขอ

“เราไม่ควรรบกวนการรักษาของคุณ” หัวหน้าแพทย์พูด

มีเพียงหวังเย้าและคนไข้ที่อยู่ภายในห้อง คนไข้คนแรกได้รับพิษจากการถูกฟันด้วยมีดมันรักษาได้ไม่ยากตัวยาแก้พิษทําหน้าที่ถึงสองอย่างทหารนายนี้ยังได้รับการเสริมพลังกายจากการดื่มซุปเป่ยหยวนไปหนึ่งถ้วยเล็กด้วย

“ขอบคุณนะครับ” ทหารพูดอย่างอ่อนแรง

“นอนลงก่อนครับ” หวังเย้าพูด “หน้าที่ของคุณตอนนี้ก็คือพักผ่อนให้มาก”

“ครับ” เขาพยักหน้าเบาๆ

“ถ้าเจ็บตรงไหนบอกผมนะครับ” หวังเย้าเริ่มต้นที่เส้นทางการไหลเวียนโลหิตมันเป็นวิธีการพิเศษในการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

“หืม?” เขาขมวดคิ้ว

“คุณรู้สึกเจ็บตรงไหนครับ?” หวังเย้าถาม

“ผมเจ็บที่ท้องนิดหน่อยครับ” เขาพูด

“ทนอีกสักพักนะครับ” หวังเย้าพูด

ทหารนายนี้ได้รับบาดเจ็บที่หน้าท้อง มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะรู้สึกเจ็บถึงเขาจะได้รับการ ล้างพิษออกไปแล้วแต่เส้นเลือด, กล้ามเนื้อ,และอวัยวะในช่วงท้องของเขาก็ได้รับความเสียหายไปแล้วทั้งหมดนี้จําเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว

“ผมจะใส่ยาให้คุณนะครับ” หวังเย้าพูด

หวังเย้าแกะผ้าพันแผลที่หน้าท้องของทหารออก เขาทาขี้ผึ้งตัวนชื่อลงไปบนแผลไม่นานตัวยาก็ซึมเข้าสู่ร่างกายของเขาและเริ่มออกฤทธิ์

“เรียบร้อย ตอนนี้ก็พักได้แล้วครับ” หวังเย้าพูด “ผมจะไปดูเพื่อนอีกสองคนของคุณต่อ”

“ครับ ขอบคุณมาก” ทหารพูด

ทหารคนที่สองได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน อาการของเขาย่าแย่ยิ่งกว่าคนแรกเพราะแผลจากกระสุนปืนทําให้เขาเสียเลือดไปจํานวนมากร่างกายของเขาอ่อนแออย่างมากเขาได้เข้ารับการผ่าตัดซ่อมแซมบาดแผลไปแล้วถึงเมื่อคืนหวังเย้าจะเอาซุปเป่ยหยวนให้เขากินไปเล็กน้อยแล้วแต่ฤทธิ์ของมันก็มีอยู่จํากัด

“ไม่ต้องพูดอะไรครับ” หวังเย้าพูด “แค่นอนนิ่งๆก็พอ”

เมื่อเห็นว่าหวังเย้าเข้ามาคนเดียวและไม่ได้สวมเสื้อกาวน์หมอ ทหารก็มีสีหน้าประหลาดใจและสงสัย

“เมื่อคืนผมเป็นคนที่มารักษาคุณที่นี่” หวังเย้าพูด

ทหารนายนี้เพิ่งจะได้สติ เจ้าหน้าที่จึงยังไม่ได้บอกเขาว่าหวังเย้าเป็นคนรักษาเขา เขาจึงกดกริ่งและพูดว่า“รอเดี๋ยว

“เราเข้าไปได้รึเปล่าครับ?” แพทย์คนหนึ่งถามหลังจากได้ยินเสียงกดกริ่ง

หวังเย้าเดินออกมาจากห้องและบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเขา “ช่วยเข้ามาอธิบายให้เขาเข้าใจที่ครับ”

เมื่อได้ยินว่า ทหารนายนี้ไม่ไว้ใจหวังเย้า แพทย์ที่มีหน้าที่รับผิดชอบจึงตามเขาเข้าไปในห้องและอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้ทหารคนนี้ฟังมู่เฉิงโจวกับซูจือฉิงก็ตามเข้าไปด้วยเช่นกัน

ทหารนายนี้รีบเอ่ยขอโทษหวังเย้า “ผมต้องขอโทษด้วยครับ”

“ปฏิกิริยาของคุณเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ ไม่จําเป็นต้องขอโทษหรอก” หวังเย้าพูด

เขาทางขี้ผึ้งลงไปอีกครั้งและให้เขาดื่มซุปเปุ๋ยหยวนไปถ้วยหนึ่ง “เรียบร้อย พักผ่อนให้มากนะครับ”

คนไข้รายที่สามค่อนข้างดีกว่าสองคนก่อนหน้า ถึงพิษจากแมลงจะรักษาได้ยากแต่เขาก็ได้มาเจอกับหวังเย้าผู้ที่มีสมุนไพรในมือที่สามารถจัดการกับแมลงพิษได้ทุกชนิดยิ่งไปกว่านั้นทหารนายนี้ยังไม่เสียเลือดและไม่มีบาดแผลที่เห็นได้ชัดหลังจากขับพิษออกจากร่างกายของเขาสําเร็จการฟื้นตัวของเขาจึงรวดเร็วที่สุดในคนเจ็บทั้งสาม

หลังจากรักษาคนไข้เสร็จ หวังเย้าก็เดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่

“ตอนนี้ พวกเขาปลอดภัยดีแล้วใช่ไหมครับ?” แพทย์คนหนึ่งถาม

“ถูกต้องแล้วครับ พวกเขาแค่ต้องพักผ่อนและคุณก็ด้วย” หวังเย้าพูด

“ขอบคุณมากครับ” แพทย์พูด “พวกเขาต้องรอนานแค่ไหนถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้ครับ?

“สองคนแรกอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 20 วัน ส่วนคนที่สามหลังจากนี้หนึ่งอาทิตย์ก็กลับได้แล้วครับ” หวังเย้าพูด