กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 519
กู้ชูหน่วนก้มหน้า จ้องเขาอย่างกังวลใจ “อย่างเช่นเขตหวงห้ามไง”

“เขตหวงห้าม?”

“ใช่ ข้าได้ยินว่าหุบเขาอวิ๋นฉีมีเขตหวงห้าม เป็นศูนย์กลางของเผ่าปีศาจในสมัยก่อน ข้าอยากเข้าไปดู เจ้าพาข้าไปดูได้หรือไม่?”

ปกติจอมมารจะตามใจนางทุกอย่าง ทว่ายามนี้ไม่คิดใคร่ครวญก็ปฏิเสธทันควัน “ที่นี่นอกจากมีโครงกระดูกก็คือโครงกระดูก มีอะไรน่าดู ข้าไปท่านไปเที่ยวที่อื่นแล้วกัน”

กู้ชูหน่วนชักสีหน้าทันที

“ปากบอกว่าใส่ใจข้า หลอกลวงทั้งเพ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องไม่พาข้าไปแน่ เสียแรงที่ข้าอุตส่าห์พนันกับคนอื่น”

“พนันกับคนอื่น?”

“ก็ใช่หน่ะสิ ข้าบอกอีกฝ่ายว่า เจ้าดีกับข้ามาก ขอแค่ข้าอยากไป เจ้าต้องพาข้าไปแน่ พวกเขาไม่เชื่อ ดังนั้นเลยพนันกัน บัดนี้ข้าแพ้แล้ว ไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหน ไม่สู้ให้ข้าเจ็บจนตายเสียจะดีกว่า”

“นอกจากที่นั่น ท่านอยากไปไหนก็ได้ทั้งนั้น”

“นอกจากเขตหวงห้าม ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น”

กู้ชูหน่วนทนความเจ็บปวดร้าวระทม ดึงผ้าห่มขึ้นเพื่อบดบังศีรษะของตน

“ตั้งแต่เล็กจนโต ข้าไม่เคยแพ้อนาถเข่นนี้มาก่อน ข้าไม่มีหน้าไปพบหน้าผู้คนแล้ว ข้าอยากตาย”

ดวงตาดอกท้อของจอมมารขมวดคิ้วมุ่น เขาดึงผ้าห่มของกู้ชูหน่วนลงอย่างอ่อนโยน ด้วยเกรงว่าจะหายใจไม่สะดวก

ทว่ากู้ชูหน่วนกลับจับแน่น จอมมารกลัวว่าหากตัวเองใช้แรงจะทำให้นางบาดเจ็บอีก

ได้แต่เกลี้ยกล่อมเสียงนุ่มนวล “เขตหวงห้ามอันตรายมาก ที่นั่นคือสุสานฝังศพของจอมมารทุกยุคทุกสมัย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่เหมือนฝันร้ายของจอมมารทุกสมัย ไม่มีจอมมารแห่งเผ่าปีศาจคนใดอยากไปที่นั่นหรอก”

เขาอยากบอกนางว่า

ที่นั่นอันตรายมาก

แม้นเขาจะเป็นจอมมาร ไม่แน่ก็อาจจะต้องจบชีวิตที่นั่น

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวรยุทธระดับสามอย่างนางเลย

“หากข้าไม่ได้ไป ข้าก็ขายหน้าแย่สิ”

“ท่านพนันกับใคร ข้าจะไปกำจัด ผู้ใดกล้าหัวเราะเยาะท่าน ข้าจะทำลายให้สิ้น”

“แล้วข้าดูแคลนตัวเอง เช่นนั้นเจ้าก็จะกำจัดข้าหรือ?”

“พี่หญิง……”

จอมมารจนปัญญา ลองหลายครั้งก็ยังดึงผ้าห่มที่คลุมหน้านางลงมาไม่ได้

ทันใดนั้น กู้ชูหน่วนดึงผ้าห่มลง จ้องจอมมารด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ พลางกล่าวเสียงออดอ้อนว่า “อาม่อ ข้ารู้ว่าเจ้าดีกับข้าที่สุด คงไม่อยากให้ข้าเสียใจใช่ไหม”

“วรยุทธเจ้าสูงส่ง ไร้คนเทียบเทียม ในใต้หล้านี้หากเจ้าอยากไป ข้าเชื่อว่าไม่มีผู้ใดขัดขวางเจ้าได้ เจ้าพาข้าไปเถอะ ข้ารับรองว่าจะติดตามข้างกายเจ้าอย่างเชื่อฟัง ไม่เถลไถลแน่นอน”

จอมมารชอบนางทำท่าออดอ้อนออเซาะมาก และชอบท่าทางนางเลื่อมใสศรัทธาตัวเขามากด้วย

ทว่าเขาไม่อยากเข้าไปในเขตหวงห้ามจริง ๆ

“บุรุษในดวงใจข้าต้องเป็นยอดฝีมือผู้เกรียงไกร หากเจ้าปกป้องข้าในเขตหวงห้ามไม่ได้ งั้นไม่สู้ให้ข้ากลับไปอยู่กับเยี่ยจิ่งหานเสียเลย อย่างน้อยเยี่ยจิ่งหานก็ปกป้องข้าได้”

“เยี่ยจิ่งหายสูญเสียกำลังภายใน ยามนี้ แม้แต่ข้าก็ยังสู้ไม่ไหว แล้วจะปกป้องท่านได้เช่นไร?”

“ถึงแม้เยี่ยจิ่งหานจะสูญเสียกำลังภายใน พิษเหมันต์กำเริบ แต่ก็ไม่เหมือนเจ้าที่พะว้าพะวัง เจ้าเป็นถึงจอมมาร แต่ไม่กล้าพาข้าเข้าไปในเขตหวงห้ามกระจอก ๆ เจ้ามีอะไรให้โอ้อวดกัน”

ประโยคนี้ทำร้ายจิตใจจอมมารอย่างไม่ต้องสงสัย

และท้าทายเขาด้วย

“ก็แค่เขตหวงห้าม ท่านอยากไป ข้าก็จะพาไป”

สิ้นเสียง จอมมารก็รู้สึกเสียใจในคำพูดตัวเอง กู้ชูหน่วนรีบพูดก่อนว่า

“เจ้าพูดเองนะ ห้ามกลับคำล่ะ มิฉะนั้นเจ้าก็คือคนขี้ขลาด”

ช่างเถอะ ถึงแม้จะเป็นกับดัก เขาก็ยอมหลงกล

ใครใช้ให้เขาชอบนางเล่า

“เขตหวงห้ามอันตรายมาก ท่านรักษาตัวก่อนแล้วข้าจะพาไป”

“แผลแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้พวกเราก็เข้าไปเลย”

“พรุ่งนี้?”

นางมีบาดแผลเต็มกาย และหลาย ๆ จุดยังเน่าเปื่อยด้วย ท่านหมอกล่าวว่าต้องนอนติดเตียงอย่างน้อยหนึ่งเดือน

ช่วงเวลาสั้นนิดเดียวเช่นนี้ นางจะลุกขึ้นมาได้เยี่ยงใด

กู้ชูหน่วนกล่าว “ใช่ พรุ่งนี้แผลของข้าก็จะหายดีแล้ว ข้าเป็นหมอ วางใจเถอะ ข้าแยกแยะได้”

หากไม่ใช่เจ็บปวดรุนแรง หากนางลงจากเตียงได้ นางก็จะไม่ชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว อยากไปเขตหวงห้ามเสียตอนนี้เลย

“รอสักพักหนึ่งก่อน เขตหวงห้ามไม่หนีไปไหนหรอก รอให้ท่านหายดีก่อน แล้วท่านอยากไปตอนไหน ข้าก็จะไปเป็นเพื่อนเมื่อนั้น”

เขตหวงห้ามไม่หนีไปไหน

ทว่าปวงชนเผ่าหยกรอไม่ได้

“เจ้าเป็นบุรุษอกสามศอก ไยจึงพูดมากเหมือนสตรีไปได้ คนเจ็บคือข้า ข้ายังไม่ร้องเลย เจ้าพูดมากทำไม”

จอมมาร “……”

นางไปที่เขตหวงห้าม เพียงเพราะพนันกับผู้อื่นจริง ๆ หรือ?

แค่การพนันจำเป็นต้องอนาทรร้อนใจเช่นนี้หรือ?

จอมมารพาสตรีคนหนึ่งกลับมา ทั้งยังทำแผลให้กับมือ และข่าวการต้มข้าวต้มรังนกลือกระฉ่อนไปทั่วหุบเขาอวิ๋นฉี ผู้คนในหุบเขาอวิ๋นฉีต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์และคาดเดาถึงสถานะของกู้ชูหน่วนไม่หยุดปาก

กู้ชูหน่วนใช้โอสถที่ดีที่สุดจากวงแหวนอวกาศ ทว่าก็ได้แต่บรรเทาอาการเจ็บปวดของตัวเองให้ลดลงเท่านั้น

นางฝืนสังขารที่เจ็บปวดลงเตียง ทว่าพึ่งก้าวไปได้ไม่ถึงไหนก็ล้มลง

ให้ตายสิ

ไยร่างกายจึงบาดเจ็บสาหัสปานนี้?

เช่นนี้จะเข้าเขตหวงห้ามได้เยี่ยงไร?

กู้ชูหน่วนเปิดประตูห้อง พลางสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด

นางกวาดสายตามองรอบทิศ พบว่าที่นี่คือยอดเขา ด้านข้างมีตำหนักรายล้อมเก้าแห่ง ซึ่งโอ่อ่าหรูหราและตั้งตระหง่านขึ้นสู่หมู่เมฆ

เพราะนางอยู่ในตำแหน่งที่สุดที่สุดของหุบเขา ดังนั้นเมื่อปรายตามองพลันเห็นภูเขาเรียงรายจำนวนมากมีเมฆหมอกรายล้อม

ไม่รู้เพราะเหตุใด นางรู้สึกว่าชัยภูมิหุบเขาลูกนี้มีแผนแบบ ระยะห่างของภูเขาเกือบเท่ากันหมด

ตำหนักทั้งเก้าหลังมีตำหนักที่นางอยู่เป็นจุดศูนย์กลาง คล้ายกับมีเพียงเพื่อปกปักรักษาตำหนักแห่งนี้

สิ่งที่ติดกับที่นี่คือหุบเขาลูกใหญ่ ซึ่งรับมือศัตรูง่าย ทว่าบุกโจมตียาก

ทว่ายอดหุบเขาลูกนี้ไม่มีตำหนัก

หรือว่าที่นั่นคือเขตหวงห้าม?

กู้ชูหน่วนสั่งให้ข้ารับใช้ถอยไป ส่วนตัวเองก็เดินไปยังยอดเขาของพระตำหนักแห่งนี้

ทิวทัศน์ที่นี่งดงามยิ่ง อากาศสดใส ช่างเป็นสถานที่ที่ดีจริง ๆ

ทว่าสูงกว่าน้ำทะเลเยอะมาก อากาศจึงหนาวเหน็บจนนางตัวสั่นเทา

เมื่อรอบกายไร้ผู้คน กู้ชูหน่วนผลักประตูเข้าไปเพื่อจะเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน

ทว่ายังไม่ทันผลัก เสียงด้านในก็ดังลอยออกมา มือของนางจึงค้างอยู่กลางอากาศ

“จอมมารขอรับ สตรีผู้นี้คือภรรยาของเยี่ยจิ่งหาน นางมาหุบเขาอวิ๋นฉีต้องมีแผนการแน่ จอมารโปรดสังหารนางเถอะ หรือโยนนางออกไปก็ได้ขอรับ”

“ใช่ขอรับจอมมาร ได้ยินว่าสตรีผู้นี้ยังให้ท่านพาเข้าไปในเขตหวงห้าม ทว่ามีแต่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งจอมมารเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้ กระทั่งภรรยาของจอมมารก็ไม่มีสิทธิ์ย่างกรายเข้าไป จอมมารโปรดไตร่ตรองด้วย อย่าพานางเข้าไปเลยขอรับ”

แม่ง……

คนพวกนี้กล้าชักจูงจิตใจซือม่อเฟยไม่ให้พานางเข้าไปในเขตหวงห้าม

กู้ชูหน่วนรู้สึกไม่เป็นมิตรกับคนเผ่าปีศาจเลย กระทั่งซือม่อเฟย นางก็รู้สึกมีปมในใจด้วย

เพราะทุกการกระทำของผู้นำกองธงกล้วยไม้ ล้วนทำให้เคียดแค้น