[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 460 : ประกาศศักดา (2)
ทหารญี่ปุ่นทั้งหกคนถูกหลิงหยุนเตะตกลงทะเลไปคนแล้วคนเล่า นอกจากน้ำในทะเลที่แตกซ่าน สีของน้ำทะเลก็เปลี่ยนเป็นสีแดงของเลือดจากศพเหล่านั้น!
หลิงหยุนกระโดดขึ้นลอยอยู่กลางอากาศอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เจ้าขาวปุยก็ใช้วิชาลวงตาขั้นสูงสุด และจู่ๆ ทั้งหลิงหยุนกับเจ้าขาวปุยก็หายวับไปต่อหน้าต่อตาทหารที่ญี่ปุ่นกว่ายี่สิบคน!
และความโกลาหลวุ่นวายก็เกิดขึ้น เสียงปืนดังสนั่น.. ปัง.. ปัง.. ปัง..
กระสุนปืนของทหารญี่ปุ่นถูกยิงออกไปอย่างไร้เป้าหมาย!
เรือลาดตระเวนของทหารญี่ปุ่นนั้นสูงราวเจ็ดหรือแปดเมตร แต่ตอนนี้ร่างของหลิงหยุนลอยอยู่เหนือน้ำทะเลราวสิบเมตร ขณะที่ลอยอยู่บนอากาศนั้น เขาก็ซัดเข็มเล่มใหญ่ลงมาจากกลางอากาศใส่ลูกเรือบนเรือลาดตระเวนของญี่ปุ่นอีกห้าคน!
ลูกเรือชาวญี่ปุ่นทั้งห้าคนไม่สามารถวิ่งหลบได้ทัน สองคนถูกเข็มซัดเข้าที่ดวงตา อีกสามคนถูกเข็มซัดเข้าใส่ที่ต้นแขนและต้นขา ทั้งห้าคนทิ้งปืนในมือลงทันที พร้อมกับล้มลงไปบนพื้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด!
และเลือดสีแดงก็ไหลท่วมเต็มดาดฟ้าเรือทันที!
“วันนี้ข้าจะให้พวกเจ้าได้รู้ว่า.. ไม่มีใครสามารถล่วงล้ำดินแดนของประเทศจีนได้ง่ายๆ! แล้วถ้าใครกล้า.. มันก็ต้องตาย!”
จากนั้น.. หลิงหยุนก็ร่อนลงบนเรืองลาดตระเวนของทหารญี่ปุ่นอีกลำ และมีลูกเรือชาวญี่ปุ่นอยู่หกคน!
“นี่มัน.. ผู้ชายคนนี้มีพลังวิเศษ!”
“ไม่ใช่.. นั่นเป็นวรยุทธของพวกคนจีนโบราณต่างหาก!”
“ยิงมันเร็วเข้า!”
ปัง.. ปัง.. ปัง..
เสียงปืนดังรัวๆขึ้นอีกหลายนัด ลูกเรือสามสี่คนบนเรือลาดตระเวนต่างก็พากันกระหน่ำยิงใส่หลิงหยุน แต่หลิงหยุนใช้มังกรพรางร่างวิ่งด้วยความเร็ว ท่ามกลางท้องทะเลที่มืดมิด ทหารญี่ปุ่นได้แต่งุนงงง เพราะไม่สามารถหาร่างที่แท้จริงของหลิงหยุนพบ ไม่มีใครแยกได้ว่าร่างใหนคือหลิงหยุนตัวจริง และร่างใหนคือภาพลวงตา!
หลิงหยุนโคจรดารกะดายันขั้นสูงสุด แสงจันทร์ส่องให้เห็นร่างที่สว่างไสว และน่าหวาดผวาของหลิงหยุน! กลิ่นอายสังหารกระจายออกมาอย่างชัดเจน
สำหรับทหารญี่ปุ่นพวกนี้ หลิงหยุนไม่ใช้เข็มซัด แต่ใช้เท้าข้างหนึ่งเตะร่างของพพวกมันจนลอยระลิ่วขึ้นไปบนฟ้าไม่ต่างจากลูกฟุตบอล และกลิ้งตกลงไปในทะเลทีละคนๆ
ครั้งนี้หลิงหยุนไม่ต่างจากเครื่องมือฆ่าคน เขาทั้งเหี้ยมโหด และไม่ปราณีต่อผู้ใดเลย! ทุกครั้งที่เขาลงมือก็คือการฆ่าให้ตาย สายตาของเขาในยามนี้คมกริบไม่ต่างจากใบมีด สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา และดูเย็นยะเยือก และไม่ว่าจะเคลื่อนกายไปที่ใด เท้าที่ก้าวออกไปหนึ่งก้าว ก็คือการสังหารทหารญี่ปุ่นหนึ่งชีวิต!
หลิงหยุนรู้ว่าในเรือลาดตระเวนลำนี้ มีทหารญี่ปุ่นอยู่หลายคน แต่เขาไม่รีบร้อนนัก และต้องการจะจัดการกับลูกเรือที่อยู่บนดาดฟ้าก่อน แล้วค่อยไปจัดการกับคนที่อยู่ในห้องโดยสารต่อไป!
หลิงหยุนจัดการสังหารลูกเรือสามสี่คนที่อยู่บนดาดฟ้า ด้วยการเตะลงทะเลตายไปทีละคนๆ และเพียงไม่ถึงสองนาที เขาก็จัดการกับลูกเรือที่อยู่บนดาดฟ้าจนหมด!
ทหารญี่ปุ่นตกลงไปตายในทะเลศพแล้วศพเล่า จนตอนนี้ผืนน้ำในบริเวณนั้นก็กลายเป็นสีแดงไปหมด!
………….
ห่างจากเกาะเตียวหยูไปราวเก้าไมล์ทะเล เรือลาดตระเวนของจีนสามลำอยู่ห่างจากกันไปราวสามสิบเมตร ได้จอดอยู่เงียบและหันหัวเรือไปทางเกาะเตียวหยู
“หัวหน้าจาง.. ผมได้ยินเสียงปืน..”
ภายในเรืองลาดตระเวนลำใหญ่สุด ตำรวจน้ำที่ชื่อเสี่ยวลี่ได้พูดกับหัวหน้าจาง..
“ผมเองก็ได้ยินเหมือนกัน.. มันเป็นเสียงปืนแน่นอน แล้วก็ยิงกันหายนัดด้วย ดู ท่าหมอนั่นคงจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี..”
ตำรวจน้ำอีกคนพูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วหนาๆของตัวเอง และจ้องมองไปทางเกาะเตียวหยูที่อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้
หัวหน้าเรือตระเวนเองก็ถึงกับขมวดคิ้วจนย่น เขาไม่ได้หูหนวก อีกทั้งลมทะเลตะวันออกเฉียงใต้ก็พัดเสียงปืนพวกนั้นดังมาเข้าหูของเขาอย่างชัดเจน
“พวกเราคงจะมาถึงช้าไปซะแล้ว..!”
แววตาของหัวหน้าจางดูเหมือนจะมีร่องรอยของความเสียใจ และกระวนกระวายใจ เขายกมือขึ้นลูบศรีษะของตัวเองอย่างเสียไม่ได้!
เสี่ยวลี่เองก็กระวนกระวายใจไม่ต่างกัน เขาพูดออกมาอย่างเศร้าสร้อย “หัวหน้าจาง.. ไม่ว่าจะยังไงเขาก็เป็นเพื่อนร่วมชาติของพวกเรา แล้วก็มีใจรักชาติไม่ต่างจากพวกเรา เราจะปล่อยให้ศพของเขาจมลงไปใต้ทะเลเป็นอาหารของปลาแบบนี้เหรอ.. พวกเราทนดูได้จริงๆเหรอ?”
ตำรวจน้ำอีกนายหนึ่งก็สมทบขึ้นว่า “หัวหน้าจาง.. คุณดูเรือประมงนั่นสิ เขาค่อยๆขยับเข้าใกล้เกาะเตียวหยูทีละนิดแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากเกาะเตียวหยูไปไม่ถึงห้าไมล์ทะเล..”
หัวหน้าจางเกาหัวแกรกๆ และยังคงนั่งนิ่งคิดหาหนทางแก้ไข
ในขณะที่เสียงปืนยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นแววตาของเขาก็เป็นประกาย และส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า “ดูเหมืนจะไม่ถูกต้องนัก!”
ตำรวจน้ำเสี่ยวลี่ร้องถามอย่างแปลกใจ “ไม่ถูกต้องยังไงครับ?”
หัวหน้าจางลังเลเล็กน้อย ก่อนจะอธิบายให้ตำรวจน้ำคนอื่นๆฟังว่า “พวกคุณลองคิดดูสิ เรือลาดตระเวนของทหารญี่ปุ่นหกลำ ล้อมเรือเล็กๆลำเดียว แล้วทหารญี่ปุ่นก็มีตั้งหลายนาย ทหารตั้งหลายคนรุมคนคนเดียว มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องยิงเขา?!”
“ไม่เพียงเท่านั้น.. ต่อให้ทหารญี่ปุ่นยิงจริง ชายหนุ่มบนเรือนั่นก็น่าจะตายแล้ว แต่ทำไมยังมีเสียงยิงปืนดังขึ้นเรื่อยๆอีก?!”
ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด.. หัวหน้าจางรู้สึกเอะใจ!
หลังจากที่ตำรวจหลายนายได้ฟัง ทุกคนต่างก็เห็นตรงกันว่าคำพูดของหัวหน้าจางมีเหตุมีผลอย่างมาก เสี่ยวลี่ถึงกับพึมพำออกมาทันที
“หัวหน้าจาง.. นี่คุณหมายความว่า..?”
หัวหน้าจางพูดขึ้นอย่างน่าสนใจ “ผมก็หมายความว่า คนญี่ปุ่นพวกนั้นกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่อยู่น่ะสิ! ไม่เพียงแค่พวกมันทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่ากลับจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ด้วยสิ!”
“คุณคิดว่าทะเลที่มีพายุรุนแรงขนาดนี้ คนธรรมดาที่ใหนจะกล้าขับเรือฝ่าพายุมาด้วยความเร็วขนาดนั้นเพียงเพื่อจะไปที่เกาะเตียวหยู?!”
เมื่อได้ฟังการวิเคราะห์ของหัวหน้าจาง ตำรวจน้ำหลายนายก็ถึงกับตื่นเต้นอย่างมาก เสี่ยวลี่ถามขึ้นอย่างไม่ลังเล
“หัวหน้าจาง.. แล้วพวกเราควรทำยังไง?”
“มุ่งหน้าไปที่เกาะเตียวหยูด้วยความเร็วสูงสุด คนญี่ปุ่นเป็นฝ่ายยิงก่อน พวกเราจำเป็นต้องไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!”
“ครับผม!”
………
ในเวลานั้น เรือลาดตระเวนของญี่ปุ่นลำหนึ่งก็ราวกับกำลังตกอยู่ในขุมนรก หลิงหยุนจัดการจับทุกคนโยนลงไปในทะเลเป็นอาหารปลาจนหมด เว้นเพียงผู้หญิงญี่ปุ่นสองคนเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นคนญี่ปุ่น แต่เธอก็เป็นผู้หญิง!
ในเวลานั้น หลิงหยุนนั่งอยู่ในห้องโดยสารของเรือลาดตระเวน-472 และกำลังพูดคุยอยู่กับทหารหญิงสองคนที่มีสีหน้าหวาดผวา..
“พวกคุณมีใครพูดภาษาจีนได้บ้าง?”
ทหารหญิงชาวญี่ปุ่นสองคนไม่เข้าใจในสิ่งที่หลิงหยุนพูด และส่ายหน้าไปมาพร้อมกัน!
หลิงหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามใหม่อีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษ “พวกคุณสองคนใครพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง?”
ไม่น่าเชื่อที่ทหารหญิงทั้งสองคนต่างก็พยักหน้าพร้อมกัน หนึ่งในนั้นถามเขาเป็นภาษาอังกฤษด้วยท่าทางหวาดกลัว
“คุณต้องการอะไร?”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “ผมจะไม่ทำอะไรพวกคุณ..”
เขายกมือขึ้นและชี้ไปทางด้านซ้าย “ถ้าคุณสอนผมบังคับเรือลาดตระเวนลำนี้?”
เรือลาดตระเวนของทหารญี่ปุ่นลำนี้ค่อนข้างใหญ่มาก มันมีความยาวมากกว่าหกสิบเมตร กว้างมากกว่าสิบเมตร และน้ำหนักของมันก็มากกว่าหนึ่งพันตัน
จากนั้นหลิงหยุนก็ชี้ไปที่ลูกเรือคนอื่นๆ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “คุณไปถามหัวหน้าใหญ่สุดของหน่วยลาดตระเวนชุดนี้ – ถามเขาว่าต้องการจะเล่นกับผมต่อ หรือจะยอมแพ้ แล้วหันหัวเรือกลับไป!”
หลังจากนั้น หลิงหยุนก็พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “และบอกเขาด้วยว่า.. ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พื้นที่นี้เป็นของผม คุณเข้าใจใช่ไม๊?”
หลิงหยุนได้แต่นึกขอบคุณกงเสี่ยวลู่และหลงหวู่อยู่ในใจ ที่ได้สอนภาษาอังกฤษให้กับเขา และดูเหมือนว่ากลับไปคราวนี้ เขาคงต้องไปเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเป็นการด่วน
แต่สิ่งที่หลิงหยุนคาดไม่ถึงก็คือ ทหารหญิงชาวญี่ปุ่นตากลมโตกลับส่ายหน้า และบอกกับเขาว่าเธอไม่สามารถสอนหลิงหยุนบังคับเรือลาดตระเวนได้
หลิงหยุนรู้สึกตกใจ และได้แต่คิดในใจว่าผู้หญิงญี่ปุ่นช่างจองหองนัก แม้เขาจะผิดหวังแต่ก็อดที่จะชื่นชมเธอทั้งสองไม่ได้
เหตุใดเลือดรักชาติของพวกเธอจึงได้เข้มข้นเช่นนี้? เมื่อใดก็ตามที่คนในชาติรักใคร่กลมเกลียวและสามัคคีกัน ประเทศชาติก็จะเข้มแข็งไปด้วย!
“ไม่สอนก็อย่าสอน.. ผมก็ถามเล่นๆไปแบบนั้นเอง” หลิงหยุนไม่สนใจ พร้อมกับโบกมือไปมา
…………
ภายในห้องโดยสารของเรือสั่งการ-478 โนซากิถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้น เขาเห็นทุกอย่างด้วยสองตาของตัวเอง ปากของเขาก็พล่ามแต่คำว่า..
“ปีศาจ.. มันเป็นปีศาจ..”
นี่เป็นความเจ็บปวดที่สุดและสยดสยองที่สุดในชีวิตของโนซากิ เขาโกรธจนแทบเป็นบ้า!
ผู้ใต้บังคับบัญชาสองคนวิ่งหน้าซีดเข้ามา และถามโนซากิว่า “ท่านโนซากิ คนจีนที่อยู่ในเรือลาดตระเวน-472 สั่งให้พวกเรายอมแพ้เดี๋ยวนี้ พวกเราจะทำยังไงดี?”
โนซากิได้แต่พึมพำ “จะทำยังไงน่ะเหรอ? กองทัพเรือที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น ตอนนี้กลับถูกหมอนั่นฆ่าตาย.. พวกเราต้องแก้แค้นให้กับทหารที่ตายไป!”
“คุณทานากะ เรื่องนี้ใหญ่โตเกินมาก! คุณรายงานเรื่องนี้ไปที่กองกำลังป้องกันทางทะเล และขอให้เขาส่งกำลังมาเสริมด่วน!”
จากนั้น.. โนซากิก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับตะโกนสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
“เรือลาดตระเวน-478 และ 477 ของเรามีทั้งตอร์ปิโดและมิซไซล์ จัดการยิงมิซไซล์จากเรือลาดตระเวน-478 ไปที่เรือลาดตระเวน-472 ให้จมลงทะเลเดี๋ยวนี้!”
ทานากะถึงกับตกใจ “แต่หัวหน้าโนซากิ ในเรือลำนั้นมีทหารหญิงอยู่ราวเจ็ดแปดคน? พวกเธอจะได้รับอันตรายไปด้วย?”
แต่โนซากิตอบกลับมาอย่างโหดร้ายและคลุ้มคลั่ง “พวกเธอล้วนเป็นทหารขององค์จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ และมีความจงรักภักดิ์ดีต่อองค์จักรพรรดิ เพื่อจัดการฆ่าปีศาจตนนั้น พวกเธอต้องยอมสละชีวิตของตัวเอง!”
แต่ทานากะกลับไม่คิดเช่นนั้น เขากระซิบตอบไปว่า “แต่เรือลาดตระเวนของเราเพิ่งจะยิงใส่เรือลำนั้น เรือลาดตระเวนของจีนองก็ต้องได้ยิน ถ้าเรายังจะใช้ตอร์ปิโดกับมิซไซล์ยิงใส่อีก นี่ไม่เท่ากับเป็นการยั่วยุให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศงั้นหรือ?”
การกระทำของหลิงหยุนนั้น ทำให้โนซากิรู้สึกราวกับถูกตบหน้า และถูกเหยียดหยาม เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ญี่ปุ่นเราไม่ใช่ประเทศเล็กๆ พวกมันไม่กล้าใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดหรอก! คงทำได้แค่กล่าวโทษ แล้วก็ประท้วง คุณไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้!”
ทานกะฟังแล้วก็ได้แน่นิ่งเงียบ เขายืนนิ่งอยู่นานก่อนจะตอบไปว่า “ครับผม!”
โนซากิประกาศคำสั่งของเขาออกทางเครื่องขยายเสียง และกระโดดออกจากห้องโดยสารไปด้วยใบหน้าที่คลุ้มคลั่ง และดวงตาแดงก่ำ
และเขาก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะออกคำสั่งให้ยิงระเบิดมิดไซล์ไปที่เรือลาดตระเวน-472!
นี่เป็นขีปนาวุธที่บรรจุระเบิด และเพียงแค่หนึ่งลูกก็เพียงพอที่จะระเบิดเรือลาดตระเวน-472 จนป่นปี้ทั้งลำแล้ว!
โนซากิต้องการฆ่าหลิงหหยุนให้ตาย เขาจึงสั่งยิ่งมิซไซล์ใส่เรือลาดตระเวน-472 ถึงสองลูกด้วยกัน!
หลิงหยุนที่กำลังนั่งรอคำตอบ และทีท่าของซากิอยู่ในห้องบังคับเรือลาดตระเวน-472 แต่จู่ๆเขาก็พุ่งออกจากห้องเพื่อหนีอันตรายครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว!