หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง อาหารที่หรูหราแต่ละจานก็ถูกเสิร์ฟมาที่โต๊ะ ห้องอาหารแห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นที่หอมหวน ทำให้ผู้คนต่างก็น้ำลายไหลออกมา

เซี่ยปิงและคนอื่นๆก็เป็นเหมือนกับลมพายุที่กวาดเศษปุยเมฆจนสลายหายไป เป็นวิญญาณหิวโหยที่เกิดใหม่ก็ว่าได้ เหมือนกับว่าเป็นการกำจัดอาหารเหล่านี้ ภายในระยะเวลาอันสั้น พวกเขาก็อิ่มเอมกับอาหารและไวน์ ท้องของพวกเขาแต่ละคนต่างก็บวมพองออกมา

ทุกๆคนต่างก็แสดงให้เห็นถึงสีหน้าของความพึงพอใจ

มีเพียงแค่หวาห่าวเท่านั้นที่มีสีหน้าที่มืดมนอย่างมาก เขาคิดว่าการที่ได้ทานอาหารมื้อนี้นั้น เขาจะไม่มีเงินในประเป๋าไปอีกหนึ่งปี ความรู้สึกลึกๆกำลังมีเลือดหยดออกมา เหมือนกับขูดเลือดขูดเนื้อของตนเองให้เหยี่ยวกินก็ว่าได้

เจ้าพวกบัดซบที่ไม่มีความละอายใจ ไม่คาดคิดว่าจะต้องการเปิดขวดไวน์ราคาแพงมาหลายขวดเช่นกัน

โชคดีที่เขาจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าพวกใบหน้าด้านหนาเหล่านี้ล่วงรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าหยุดแค่หอมปากหอมคอ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องคลุ้มคลั่งออกมาอย่างแน่นอนและต่อสู้กับเจ้ากลุ่มคนที่ไร้ยางอายนี้จนตัวตาย

หลังจากที่ผ่านระยะเวลาไปครู่หนึ่ง ถงเสี่ยวชีและเพื่อนผู้หญิงของเธอก็ได้เดินไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน

ทว่าไม่นานหลังจากนั้น ก็มีเสียงกรีดร้องของถงเสี่ยวชีที่ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“อะไรกัน?!”

ได้ยินเสียงนี้ หวาห่าวก็สะดุ้งขึ้นมาทันที เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าสัญชาตญาณของเขาบอกให้ลุกขึ้นจากที่นั่งและไปดูทันที คนอื่นๆที่เห็นเช่นนั้นก็รีบตามไปเช่นกันซึ่งรวมถึงเซี่ยปิงด้วย

เมื่อมาถึง เห็นเพียงว่าถงเสี่ยวชีและเพื่อนที่เหลือของเธอกำลังถูกจ้องมองโดยชายหนุ่มที่มึนเมาหลายคนที่มีท่าทางโมโห พวกเธอนั้นถูกห้อมล้อมโดยผู้ชายหลายคน ถูกจับจ้องเหมือนกับหมาป่าหิวโหยที่กำลังจ้องมองแกะตัวเล็กก็ว่าได้

เซี่ยปิงก็ล่วงรู้ผ่านทางจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ว่าทันทีที่ถงเสี่ยวชีและคนอื่นๆได้ออกมาจากห้องน้ำนั้น ก็ถูกชายเหล่านี้ก่อกวน อีกทั้งยังต้องการที่จะลากพวกเธอมาร่วมดื่มที่โต๊ะเช่นกัน

ถงเสี่ยวชีและคนอื่นๆไม่ไป ดังนั้นท้ายที่สุดจึงถูกพวกเขาล้อมรอบเช่นนี้

“หญิงสาวตัวน้อย จะวางมาดเสแสร้งเช่นนี้ไปทำไมกัน ข้านั้นร่ำรวยอย่างมาก ตราบใดที่พวกเจ้าเต็มใจที่จะร่วมหลับนอนกับพวกเรา จากนี้ไปพวกเจ้าก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เพลิดเพลินกับความมั่งคั่งและตำแหน่งที่รุ่งโรจน์”

ชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อสีขาวได้ยิ้มออกมา เขาได้นำมือไปคว้าตัวถงเสี่ยวชีมาและโอบกอด

“ไสหัวไปซะ!”

ถงเสี่ยวชีตบใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้นในทันที

“นังแพศยา ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะกล้าตบข้าเช่นนี้ แม้แต่พ่อของข้าก็ไม่เคยทำร้ายข้ามาก่อน!” ชายหนุ่มที่สวมเสื้อขาวเดือดระอุขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าจะโมโหกับการกระทำของถงเสี่ยวชีอย่างแท้จริง

จากนั้นเขาก็หมดความอดทน คิดที่จะใช้ไม้แข็ง จับตัวถงเสี่ยวชีและเพื่อนสาวของเธอมา

“เจ้าพวกบัดซบ!”

เห็นสถานการณ์เช่นนี้ มีที่ไหนที่หวาห่าวจะอดทนอดกลั้นได้ เขาได้กระโดดเตะออกไปทันที ตึบ ชายหนุ่มเสื้อขาวกระเด็นออกไปอย่างกะทันหันและกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรง ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพชเหมือนกับหมูที่ถูกเชือด

“นายน้อยหลิว!”

พวกพ้องของชายหนุ่มเสื้อขาวอีก2-3คนก็สะดุ้งตกใจ พวกเขาต่างก็ตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่ละคนต่างก็วิ่งเข้าไปและรีบยกร่างของชายหนุ่มเสื้อขาวที่ถูกเตะกระเด็นขึ้นมา

เหตุการณ์เช่นนี้ก็ได้ทำให้ลูกค้าคนอื่นๆตกใจอย่างกะทันหันเช่นกัน พวกเขาแต่ละคนต่างก็กวาดสายตามองมา

ในเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่ของร้านสวรรค์บนดินแต่ละคนก็เดินเข้ามา ทว่ากลับถูกพวกพ้องของชายเสื้อขาวกีดกันไว้ เหมือนกับว่าพวกเขาต้องการที่จะจัดการกับปัญหานี้เอง ไม่ต้องการให้ผู้อื่นของร้านสวรรค์บนดินเกี่ยวข้อง

“เสี่ยวชี เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”

หวาห่าววิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วและถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่ได้เป็นอะไร” ถงเสี่ยวชีส่ายหัว สีหน้านั้นซีดเซียว ทว่าก็ยังคงสั่นเทาอยู่เล็กน้อยเช่นกัน

ในตอนนี้ ชายหนุ่มเสื้อขาวดิ้นรนลุกขึ้นมา สีหน้าของเขานั้นดุร้ายและจ้องมองหวาห่าวและคนอื่นๆด้วยท่าทางที่เหมือนกับสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ “ไอ้ลูกหมา ไม่คาดคิดว่าจะกล้าทำร้ายข้า นี่เจ้าคิดรนหาที่ตายหรือ การที่ท้าทายข้าหลิวจี๋ วันนี้พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตาย ทุกคนมาที่นี่ทันที มาจับตัวเจ้าพวกลูกหมาพวกนี้ อย่าให้มีใครเล็ดรอดไปได้”

เขาคำรามออกมา เหมือนกับว่าจะกดที่นาฬิกาอัจฉริยะบนตัวของเขาเพื่อส่งสัญญาณออกไป

“หลิวจี๋?! หรือว่านี่คือหลิวจี๋ผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลจักรพรรดิหลิว?” ถงเสี่ยวชีและคนอื่นๆมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป พวกเธอก็นึกขึ้นได้ถึงชื่อนี้อย่างกะทันหัน

ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นนักศึกษาในมหาลัยเดียวกันกับพวกเขา มีชื่อเสียงที่โด่งดังอย่างมาก ทว่าเป็นชื่อเสียงในทางลบมากกว่า

ว่ากันว่าหลิวจี๋ใช้การที่ตนเองมีต้นกำเนิดมาจากตระกูลหลิว อาละวาดภายในมหาลัยอย่างที่ไม่สนใจใคร ไม่รู้ว่ามีหญิงสาวที่ใสซื่อบริสุทธิ์มากแค่ไหนที่เสียหาย ล้วนแต่ถูกบีบบังคับ ไม่มีใครกล้าที่จะต่อต้านเขา เป็นเผด็จการของมหาลัยอย่างแท้จริง

ทว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นหลิวจี๋นี่ภายในร้านสวรรค์บนดิน

ตระกูลหลิว?!

หวาห่าวก็สั่นเทา ตื่นตระหนกอย่างมาก ถึงแม้ว่าภูมิหลังของตระกูลเขาจะดีมาก ทว่าอย่างมากก็เป็นเพียงแค่ตระกูลที่ร่ำรวยเท่านั้น หากเทียบกับตระกูลหลิวซึ่งเป็นตระกูลจักรพรรดินั้น มีความแตกต่างราวกับฟ้ากับเหว

การที่ท้าทายมหาอำนาจเช่นนี้ บางทีไม่ใช่แค่ตนเองเท่านั้นที่จะต้องเดือดร้อน พ่อแม่ของตนเองก็อาจจะเดือดร้อนเช่นกัน

หลังจากนั้นไม่นาน ภาพเงาก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากทุกทิศทาง เข้ามาจากข้างนอก สวมใส่ชุดฝึกซ้อมสีขาว เดินเหมือนมังกรก้าวเหมือนเสือ แต่ละคนต่างก็มีอายุ40-50ขึ้นไป พลังฉีกำลังเอ่อล้นออกมา พวกเขานั้นก็คือผู้บ่มเพาะในระดับผู้ใช้พลังฉีปรมาจารย์นั่นเอง

พวกเขามาถึงข้างกายของหลิวจี๋อย่างกะทันหัน

ผู้ใช้พลังฉีปรมาจารย์?!

เห็นท่าทางของชายวัยกลางคนเหล่านี้ หวาห่าวและคนอื่นก็หวาดกลัวจนฉี่ราด แข้งขาสั่น อย่างมากพวกเขาก็เป็นเพียงแค่นักศึกษาเท่านั้น มีที่ไหนที่จะเคยเห็นผู้ใช้พลังฉีปรมาจารย์ปรากฏตัวขึ้นมามากเช่นนี้

เรียกได้ว่าคนกลุ่มนี้สามารที่จะปลิดชีวิตสุนัขของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย!

จบสิ้นกัน ตอนนี้จบสิ้นอย่างแท้จริง ต่อให้จะไม่ตาย ก็จะต้องมีจุดจบที่น่าสมเพชอย่างมาก

หวาห่าวและลูกน้องอีกหลายคนรวมถึงถงเสี่ยงชีและเพื่อนสาวของเธออีกหลายคนนั้นต่างก็หวาดกลัวจนเกือบที่จะทรุดลงไปกับพื้น เพราะว่าผู้ใช้พลังฉีปรมาจารย์เหล่านี้เป็นภัยคุกคามที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก หากฝ่ายตรงข้ามลงมือล่ะก็ พวกเขาจะต้องตายโดยที่ไร้หลุมฝังศพ ไม่สามารถต้านทานได้

หมีไทรานและอีกสองคนถึงแม้ว่าจะรู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน คิดว่านี่เป็นการเผชิญกับเคราะห์ร้ายที่คาดไม่ถึง ทว่าการที่เห็นเซี่ยปิงอยู่ข้างกายนั้น พวกเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมามาก ไม่ว่าอย่างไร ชายคนนี้ก็คือราชัน เพียงแค่ผู้ใช้พลังฉีปรมาจารย์นั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง ไม่คู่ควรแก่การกล่าวถึง

“นายน้อยหลิว เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

ชายวัยกลางคนตาเดียวถามขึ้นมา พวกเขานั้นเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลหลิว มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหลิวจี๋

“เมื่อครู่นี้เจ้าอันธพาลเหล่านี้ได้ทำร้ายข้า รีบจับตัวพวกเขาไปที่ตระกูลหลิวทันที จะต้องทำการสอบปากคำอย่างถี่ถ้วน!” หลิวจี๋แสยะออกมา ดวงตาทั้งสองเผยให้เห็นถึงแสงที่หนาวเหน็บ

เห็นได้ชัดว่าเขาก็ล่วงรู้ว่าที่นี่เป็นสถานที่สาธารณะ ไม่สามารถที่จะทำให้เรื่องบานปลายออกไปได้

ทว่ารอให้เขาได้จับตัวหวาห่าวและคนอื่นๆไปที่ตระกูลหลิว บางทีเมื่อถึงเวลานั้นหวาห่าวและคนอื่นๆอาจจะไม่สามารถเลือกความเป็นความตายของตนเองได้

โดยเฉพาะหวาห่าวที่เตะตนเองจนกระเด็นและเจ้าผู้หญิงถงเสี่ยวชีที่ตบใบหน้าของเขานั้น เขาจะไม่มีทางปล่อยทั้งสองคนนี้ไปอย่างแน่นอน

ตาย ครั้งนี้จะต้องตายจริงๆ!

ตอนนี้ หวาห่าวรู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด ปรารถนาที่จะตบใบหน้าของตนเอง ผู้ที่ตนเองได้เตะไปนั้น ไม่คาดคิดว่าจะมีภูมิหลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ มีต้นกำเนิดเป็นตระกูลจักรพรรดิ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะกล้าท้าทายบุคคลเช่นนี้

หากเขาล่วงรู้ถึงเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ล่ะก็ ให้ตายเขาก็จะไม่มารับประทานอาหารที่นี่

“รับทราบ นายน้อยหลิว”

ชายวัยกลางคนตาเดียวและคนอื่นๆพยักหน้า พวกเขานั้นต่างก็ถูกจ้างวานโดยตระกูลหลิว แน่นอนว่าจะต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ยิ่งไปกว่านั้นการที่จะจับตัวนักศึกษาเพียงไม่กี่คนนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก

“ช้าก่อน”

ทว่าเดินออกไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ชายวัยกลางคนตาเดียวก็โบกมือทันที ขัดขวางพวกพ้องของตนเอง เขาได้สังเกตเห็นเซี่ยปิงที่อยู่ข้างหวาห่าวและคนอื่นๆอย่างกะทันหัน

ม่านตาของเขาขยายขึ้นมาทันที แสดงให้เห็นถึงอาการตกใจในขณะที่ร่างกายสั่นเทา “เซี่ย..คุณคือคุณเซี่ยปิงใช่หรือไม่?”

เห็นได้ชัดว่าเขาจดจำได้ถึงเซี่ยปิงบุคคลที่น่าสะพรึงกลัว อดใจที่จะสั่นเทาไม่ได้