บทที่ 258 ไม่มีใครรู้ว่า คนที่ซ่อนอยู่ในศัตรู ที่จริงก็คือเขา!

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 258 ไม่มีใครรู้ว่า คนที่ซ่อนอยู่ในศัตรู ที่จริงก็คือเขา!
แป้งร่ำเงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดัง:“เส้นหมี่ เธอเล่นตลกอยู่หรือไง?นี่หรือวิธีการฆ่าของเธอ?”

เส้นหมี่:“แน่นอนว่าไม่”

แป้งร่ำตะลึง:“อะไร?”

อย่างไรก็ตาม ไม่ทันเสียแล้ว เพราะว่าตอนนี้ ตรงหน้าผู้หญิงคนนี้ ได้พุ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็วเหมือนลมแรง!

เธอยังไม่ทันตอบสนองคืนมาว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เจ็บหน้าอก กรีดร้องโหยหวน ตอนที่ก้มหน้ามองลงไป มีดปอกผลไม้ที่คมเฉียบ ได้แทงไปที่หน้าอกเธอแล้ว

“แก——”

“ฉันบอกแล้วไง เธอไม่พูดดีๆ เอง วันนี้ฉันจะจัดการเธอตรงนี้ เป็นไง?รู้สึกอย่างไรบ้าง?”

เส้นหมี่ปล่อยมือที่กุมด้ามมีดไว้ ฉากที่เลือดท่วมแบบนี้ เธอกลับดูไม่เปลี่ยนไปสักนิด ถึงแม้เลือดที่กระเด็นออกมาจากหน้าอกแป้งร่ำ จะไปโดนที่หน้าเธอเล็กน้อย

เธอยังหัวเราะอยู่

นี่มันปีศาจ!

บ้า!!

ในที่สุดแป้งร่ำก็ได้สติคืนมา เธอกุมหน้าอกของตัวเองแล้วเซถอยหลัง ด้วยความกลัวมหาศาลนั้น เธอก็เริ่มร้องหาคน

แต่ตอนนี้เอง เส้นหมี่ก็เก็บเข็มนั้นขึ้นมาจากพื้นอีกครั้ง

“อยากตะโกนนักใช่ไหม?ไม่มีทางหรอก เธอลืมแล้วว่าฉันคือใครหรือ?ฉันคือสวยใสหมอแผนจีนที่มีชื่อเสียงจากเมืองเคลียร์ เธอดูสิ เข็มนี้ของฉัน ฉันอยากให้เธอเป็นอย่างไรก็ทำได้ทั้งนั้นจริงๆ นะ”

จากนั้น เธอก็ค่อยๆ เอาเข็มจิ้มไปในคอของเธอ

ทันใดนั้น แป้งร่ำที่หน้าอกถูกแทงด้วยมีด ได้แต่รู้สึกว่าในคอเจ็บปวดอีกครั้ง เธออยากจะพูดอีก ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

ได้แต่ล้มไปตรงนั้น คำรามออกมาเหมือนสัตว์เดรัจฉาน

“ฮือ……ฮือฮือ……”

ในที่สุดเธอก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัวมากแค่ไหน

นี่มันผีร้ายจริงๆ ปีศาจที่โผล่ออกมาจากขุมนรก แป้งร่ำเทียบกับเธอแล้ว ยังอยู่ห่างอีกไกลจริงๆ

“เธอวางใจเถอะ ฉันยังไม่ให้เธอตายหรอก แค่เธอพูดออกมา อ้อ ไม่สิ ตอนนี้น่าจะพูดว่าเขียน แค่เธอเขียนออกมา ฉันก็จะปล่อยเธอไป เป็นไง?”

เส้นหมี่ให้โอกาสเธออีกครั้งอย่างอารมณ์ดี

จากนั้น เธอก็หากระดาษสีขาวจากในห้องนี้ โยนไปตรงหน้าผู้หญิงคนนี้แล้ว ก็คว้านิ้วมือของเธอ จิ้มเลือดบนตัวเธอ

เตรียมตัวรอเธอเขียนออกมา

จดหมายเลือดอะไรนั่น ผลลัพธ์มุมมองดีที่สุด

แป้งร่ำหดเกร็งอย่างรุนแรงบนพื้น เธอเจ็บปวดมากจนเหมือนหนังและกระดูกฉีกออก ผิวหนังและกระดูก แต่กระนั้น เพราะตอนที่เส้นหมี่แทงเธอ หลีกเลี่ยงหลอดเลือดใหญ่ของเธออย่างช่ำชอง

ดังนั้น ถึงจะเจ็บแบบนี้ เธอก็ไม่ได้เลือดไหลมากนัก

จึงถูกทรมานอย่างเจ็บปวดขนาดนี้อยู่เสมอ

“หนึ่ง สอง สาม……”

“ฮือฮือ……”

แป้งร่ำที่ขยับตัวบนพื้นไปมาเหมือนสุนัข ในที่สุดก็ยันด้วยนิ้วที่เปื้อนเลือดตัวเอง เขียนตัวอักษรแถวหนึ่งอย่างบิดเบี้ยวลงบนกระดาษสีขาวแผ่นนั้น

【ฉันไม่รู้ เป็นบุคคลนิรนามส่งให้ฉัน】

“เธอไม่รู้?เธอกำลังหลอกฉันอยู่หรือ?”สายตาของเส้นหมี่เยือกเย็นลงไป เต็มไปด้วยความหม่นหมอง น่ากลัวอย่างมาก

แป้งร่ำส่ายหน้าด้วยความกลัวทันที:【ไม่ ฉันไม่ได้หลอกเธอจริงๆ ฉันไม่รู้ ฉันก็ตามหาเธออยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้เธอหายการติดต่อไปแล้ว ฉันหาเธอไม่เจอ

ผู้หญิงคนนี้ ภายใต้ความเจ็บและหวาดกลัวมหาศาล ในที่สุดก็เขียนออกมา

เส้นหมี่จึงเข้าสู่ความคิด

แม้แต่เธอก็ยังไม่ใช่คนบงการ?

ถ้างั้นความลับนี้แหล่งที่มาที่เปิดเผยเป็นคนแรกคือใครกันแน่?เป็นใครที่รู้ว่าเธอซ่อนความลับนี้ไว้ในหนังสือเล่มนี้?และเป็นใครที่เอาหนังสือเล่มนี้ให้ผู้หญิงคนนี้?

เส้นหมี่ตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง

ราวกับเป็นเรื่องที่ถูกตัวเองจับได้ไม่ง่าย แต่จู่ๆ ก็สูญเสียการควบคุมไปอีกครั้ง ในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วินาที เธอยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความตื่นตระหนกจนลืมไปเลยว่าจะทำอะไร

และตอนนี้เอง แป้งร่ำที่ล้มอยู่ตรงนั้นกัดฟันคลานขึ้นมาจากพื้น

เธอเดินกะเผลกไปที่หน้าประตู จากนั้นเปิดประตูออก:“ฮือ……ฮือฮือ……”

“พระเจ้า!เกิดอะไรขึ้น?พวกคุณดูสิ ทำไมบนตัวเธอมีแต่เลือด?”

“ใช่ ยังมีมีดด้วย!”

“กรี๊ด มีการฆาตกรรม!”

เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวด ในที่สุดก็ระเบิดคฤหาสน์แห่งนี้ ทันใดนั้น ทั้งชั้นบนและชั้นล่างก็วุ่นวายขึ้นมา สถานการณ์โกลาหลเป็นอย่างมาก

ตอนนี้มาร์ตินกำลังตามหาเส้นหมี่

หลังจากเขาแยกกับเส้นหมี่ ไปที่ห้องรับแขก แป๊บเดียวก็รู้ว่าสุขาวดีอยู่ที่ไหน

แต่ว่า พอเธอออกไปหายัยโง่นั่นอีกครั้ง กลับเห็นว่ายัยนั่นไม่อยู่แล้ว จนกระทั่งตอนนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมา ทันใดนั้นก็เห็นผู้หญิงที่ทั้งตัวมีแต่เลือดและที่อกยังมีมีดปักไว้ออกมา

“ยัยโง่——”

สมองของเขาเหมือนค้างไป พุ่งพรวดจะขึ้นไป

แต่ตอนนี้เอง สุขาวดีที่อยู่ชั้นบนลงมาแล้ว พอเธอเห็นฉากที่หลานสาวร้องโหยหวนแบบนี้ ก็กรีดร้องไปด้านในอย่างไม่พูดอะไร:“ฆาตกรฆ่าคน!รีบจับเธอเร็ว!!”

พูดจบ ทันใดนั้น ชั้นบนก็มีคนใช้สองคนพุ่งเข้ามาพอดี ตอนเส้นหมี่ออกมาจากด้านใน หนึ่งในนั้นเตะเธอเข้าที่หน้าอก

“อื้อ——”

“เส้นหมี่!!”

มาร์ตินเห็นอยู่ชั้นล่าง ตะโกนไปอย่างโมโห ดึงคนเหล่านั้นออกไปแล้วรีบขึ้นไป