บทที่291 นักหลอมยา
อี้เฉินเฟยครุ่นคิดคำพูดของกู้ชูหน่วนอย่างละเอียด

สักพักใหญ่เขาก็อารมณ์ดี ยิ้มอย่างอ่อนโยน “สุภาพบุรุษไม่พรากความงามของผู้อื่นไป ในเมื่อแขกชั้นล่างชอบแผนที่ไข่มุกมังกรสีฟ้าขนาดนี้ งั้นข้าก็ไม่แย่งแล้วล่ะ”

กู้ชูหน่วนลูบคาง คำพูดนี้ทำไมถึงฟังดูคุ้นๆนะ?

แต่อี้เฉินเฟยฉลาดได้สักที

สามพันล้าน……

จิ๊ๆๆ

ทรัพย์สินทั้งหมดของเย่จิ่งหานหายไปหมดแล้วหรือเปล่า

“สามพันล้านครั้งที่หนึ่ง สามพันล้านครั้งที่สอง สามพันล้านครั้งที่สาม ยินดีกับแขกหมายเลขยี่สิบแปดด้วย ได้รับแผนที่ไข่มุกมังกรสีฟ้า”

ทุกคนต่างก็มองเย่จิ่งหานอย่างอิจฉา

หนึ่งในนั้นอยากจะแย่งมามาก แต่อีกฝ่ายเป็นถึงเทพสงครามแห่งแคว้นเย่ จะให้พวกเขาแย่งมาได้ยังไง?

คนรับใช้ของอี้เฉินเฟยก็รู้สึกเสียดายมาก

สามพันล้านเยอะเกินไป……เสียดายที่ท่านอี้เตรียมตัวมาตั้งนาน สุดท้ายกลับไม่ได้ไป

อ๋องเจ๋อในใจขมขื่น เดินออกจากงานประมูลอย่างเหงาหงอย

หางตาของซ่างกวนฉู่ประกายแสงเยือกเย็นออกมา มุมปากระตุกยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

คนของเผ่าเทียนเฟิ่นบ่นพึมพำ “ทำตามแผนการที่วางไว้ จะต้องแย่งแผนที่ไข่มุกมังกรสีฟ้ามาให้ได้”

“ขอรับ”

ภายในงานการประมูล เพราะงานประมูลครั้งนี้จบได้อย่างราบรื่น ใบหน้าของเสี่ยวลู่ก็มีรอยยิ้มตลอด “ขอบคุณทุกท่านมาร่วมงานประมูลเฟิงเซียง และยินดีกับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่ได้รับของประมูลที่ต้องการไป แน่นอนว่า แขกผู้มีเกียรติที่ไม่ได้ของประมูลกลับไปก็อย่าเศร้าใจไป เพราะเจ็ดวันหลังจากนี้ ที่จัดงานประมูลเฟิงเซียงจะจัดการประมูลครั้งใหญ่ขึ้น ของที่ประมูลนั้นก็ดีกว่าครั้งนี้มาก”

อะไรนะ……

หลังจากนี้เจ็ดวันจะจัดงานประมูลอีกเหรอ?

และของยังดีกว่าครั้งนี้ด้วย?

คุณพระ ของประมูลครั้งนี้นับได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแล้วนะ ถ้าดีกว่านี้ คงได้ล้ำค่าในล้ำค่าแน่

หรือว่า พวกเขาจะเอาไข่มุกมังกรออกมาประมูล

“ไข่มุกมังกรคืออะไร จะเอาออกมาประมูลได้ยังไง อีกอย่าง คนที่ประมูลไข่มุกมังกรไปได้ ถึงจะมีงานประมูลเฟิงเซียงปกป้อง จะมีชีวิตรอดได้เหรอ?”

“ข้าว่าไม่มีไข่มุกมังกรหรอก อย่างมากก็เหมือนกับครั้งนี้ สามารถหาเบาะแสจากไข่มุกมังกรก็เท่านั้น”

“นั่นก็เป็นสมบัติล้ำค่าเหมือนกัน”

“สมบัติล้ำค่าแล้วยังไง พวกเราไม่มีเงินประมูลมาสักหน่อย สามพันล้านเชียวนะ จิ๊ๆๆ……”

“งานประมูลครั้งนี้ ขอจบลงเพียงเท่านั้น ขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก” เสี่ยวลู่โค้งคำนับแขกผู้มีเกียรติทุกคน

กู้ชูหน่วนบิดขี้เกียจ หมุนคอ “ในที่สุดก็จบลงสักที ถึงเวลากลับบ้านกินมื้อเย็นพอดี”

เย่จิ่งหานส่งสัญญาณให้ชิงเฟิง ชิงเฟิงรับทราบแล้วพูดว่า “ขอรับ ข้าน้อยจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ รับรองว่าไม่มีใครแย่งของนายท่านไปได้แน่นอน”

กู้ชูหน่วนลูบคาง ก็รู้สึกได้ว่า สงครามครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว

คนไม่น้อยต่างก็ทยอยออกจากงานประมูล กู้ชูหน่วนกับเย่จิ่งหานก็กำลังจะออกไป เสี่ยวลู่กลับบิดเอวเดินมาตรงหน้าพวกเขาด้วยท่าทีที่เซ็กซี่ ยิ้มอย่างพริ้มเพราชวนให้คนหลงเสน่ห์

“สองท่านโปรดรอก่อน ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านสนใจมาร่วมงานการประมูลเฟิงเซียงที่จะจัดการเจ็ดวันหลังจากนี้ไหม”

กู้ชูหน่วนมองดูรูปร่างที่มีสัดส่วนได้รูป รวมไปถึงใบหน้าที่งดงามดุจดั่งดอกบัว จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ของในงานประมูลเฟิงเซียงข้าไม่สนใจ แต่พี่เสี่ยวลู่สวยขนาดนี้ ข้าสนใจเจ้ามากกว่านะ”

เสี่ยวลู่พูดอย่างเขินอายว่า “ฮูหยิน ท่านนี่ร้ายจริงๆ สามีของท่านยังยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าหึงแล้วชักดาบฟันข้าขึ้นมาจะทำยังไง?”

“เขาน่ะเหรอ……เหอะ ก็เป็นราชานักหึงจริงนั่นแหละ”

เย่จิ่งหานหรี่ตาลง มองอย่างตักเตือน

เสี่ยวลู่หยิบบัตรเชิญออกมาสองใบ แล้วเปลี่ยนประเด็นอย่างรู้เวลา “นี่เป็นบัตรเชิญสำหรับแขกพิเศษ หวังว่าสองท่านจะมาเยือนที่จัดงานประมูลเฟิงเซียงในสิ้นเดือนนี้”

กู้ชูหน่วนรับบัตรเชิญมา เชยคางของนางขึ้นอย่างหยอกเล่น “สาวสวยเชิญขนาดนี้ พวกเราจะไม่มาได้ยังไง วางใจได้ สิ้นเดือนนี้พวกเราจะมาร่วมงานประมูลเฟิงเซียงแน่นอน”

“งั้นเสี่ยวลู่จะรอสองท่านอยู่ที่ที่จัดงานประมูลเฟิงเซียงนะเจ้าคะ”

ออกมาจากงานประมูลเฟิงเซียง เย่จิ่งหานก็ทำหน้าบึ้งตึงตลอด

ตลอดทางที่กลับไป พวกเขานั่งอยู่ในรถม้าของเย่จิ่งหาน กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้ว่ารถม้าใช้วัสดุอะไรทำขึ้นมา มองจากด้านนอกแล้ว รถม้าธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ พื้นที่ด้านในกลับกว้างใหญ่มาก ทั้งดื่มชาเล่นหมากรุก แถมยังนอนพักผ่อนได้ อีกทั้งธนูอาบพิษมีดดาบก็แทงไม่เข้าด้วย พอกระทบโดนรถม้าก็จะมีเสียงเหล็กกระทบกันดังออกมา

ตลอดทางที่ผ่านมา มีเสียงฆ่าหั่นกันดังขึ้น ไม่เคยขาดสายเลย ตามด้วยเสียงร้องครวญคราง

พื้นสั่นสะเทือนขึ้นเป็นระยะ ไม่รู้ว่าด้านนอกต่อสู้กันดุเดือดแค่ไหน

กู้ชูหน่วนรู้ว่า คนพวกนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อแย่งแผนที่ไข่มุกมังกรสีฟ้าจากเย่จิ่งหาน

แล้วมองไปยังเย่จิ่งหานอีกที เขากำลังนั่งอยู่ข้างหน้าต่างของรถม้าแล้วดื่มชาอ่านหนังสืออย่างสง่างาม เหมือนไม่ได้ยินเสียงฆ่าหั่นกันด้านนอก

กู้ชูหน่วนเปิดม่านรถม้าออกไปดู ด้านนอกเต็มไปด้วยคาวเลือด นักฆ่าชุดดำมากมายพุ่งเข้ามารอบๆ ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ศพล้มระเนระนาดลง

ในป่ามีศพกองเป็นภูเขา เลือดไหลเป็นลำธาร ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีเศษซากของแขนและขาที่ขาดออกจากกัน

ภาพบรรยากาศภายนอกและภายในรถม้าเป็นสองเหตุการณ์เลยล่ะ

กู้ชูหน่วนมองดูรอบๆไม่เห็นอี้เฉินเฟย นางก็ถึงโล่งอก

ปล่อยม่านลง กู้ชูหน่วนก็ขยับเข้าไปใกล้เย่จิ่งหาน เทน้ำชาร้อนๆให้เขากับมือ แล้วพูดเสียงหวานว่า “สามีเจ้าคะ แผนที่ม้วนหนังแกะโบราณลึกลับนั้น เอาให้ข้าได้หรือเปล่า”

“ไม่ให้”

“งั้นยืมข้าดูหน่อย ได้หรือไม่?”

“ไม่ได้”

“งั้นเจ้าจะประมูลแผนที่นั้นมาทำไมกัน?”

“เอามาเป็นหมอน”

“……”

“เจรจากันไม่ได้เลยเหรอ?”

เย่จิ่งหานเงยหน้าขึ้น แล้วพูดว่า “บอกข้ามา เจ้ากับอี้เฉินเฟยเป็นอะไรกัน ถ้าเป็นคำตอบที่ข้าต้องการ ข้าจะพิจารณาให้เจ้าดูแผนที่ได้”

“จะเป็นอะไรกันได้อีก ก็ต้องเป็นพี่น้องกันน่ะสิ”

“พี่น้อง?”

“ข้านับถือเขาเป็นพี่ชายแท้ๆ เขาก็มองว่าข้าเป็นน้องสาวแท้ๆเช่นกัน ไม่ใช่พี่น้องแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก”

“เจ้ารู้จักเขาครั้งแรกเมื่อไหร่?”

“งานชุมนุมแข่งขันบุ๋น”

เย่จิ่งหานไม่พูด แต่สีหน้าบนใบหน้า เขียนเต็มไว้ว่าไม่เชื่อ

กู้ชูหน่วนขอแผนที่จากเขาอีกครั้ง เย่จิ่งหานกลับไม่สนใจคำพูดของนาง และไม่สนใจนางอีกเลย

กู้ชูหน่วนรู้สึกหมดอารมณ์ จึงหยิบสารานุกรมหลอมยาออกมา เปิดอ่านเนื้อหาด้านในอย่างละเอียด

เหตุผลที่บอกว่าสารานุกรมหลอมยาไม่สมบูรณ์ นั่นเป็นเพราะมีบางหน้าที่ถูกฉีกออก จึงทำให้สารานุกรมหลอมยาเหลือแค่ครึ่งเดียว

แล้วอ่านดูตัวหนังสือด้านใน กลับเป็นอักษรเสี่ยวจ้วนของสมัยโบราณ

ให้ตายสิ

นางรู้สึกเหมือนโดนหลอกเลย

คนในยุคสมัยนี้ ไม่เข้าใจตัวอักษรก่อนราชวงศ์ฉินและฮั่นเลย

สารานุกรมหลอมยาเล่มนี้ถึงจะถูกคนอื่นประมูลไป ก็เป็นได้แค่ของมีค่าที่จะโยนทิ้งก็น่าเสียดาย และไม่สามารถเรียนอะไรจากในนี้ได้เลย

ยังดีที่ก่อนหน้านี้นางเรียนมาก่อน รู้จักอักษรโบราณนิดๆหน่อยๆ

ยาแข็งตัวของเลือด หญ้าจื่อเยียน โตนงาช้าง น้ำค้าง ต้นดาวอินคาอย่างละสามอัน นำใส่ไว้ในเตาหลอม……เอ๊ะ……

วิธีการหลอมยานี้เหมือนกับที่นางเคยทำเมื่อชาติก่อนเลย?

ยาแข็งตัวของเลือด?

ยาระดับสอง?

โลกใบนี้ ยาระดับสองเหมือนจะมีค่ามาก