ตอนที่ 268 ที่แท้ผู้บังคับกองซ่งก็เป็นคนแบบนี้ / ตอนที่ 269 กินอะไรสักหน่อย

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ตอนที่ 268 ที่แท้ผู้บังคับกองซ่งก็เป็นคนแบบนี้

 

 

ในที่สุดท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้ว ชุยหังนอนอ่อนแรงไปทั้งตัวอยู่บนเตียงพลางมองใบหน้ายิ้มเยาะของหลูจื้อ

 

 

“เป็นไงบ้าง ฉันพูดคำไหนคำนั้นใช่ไหม” หลูจื้อถาม

 

 

ชุยหังไม่มีแรงเหลือพอที่จะพูดะไรได้อีกแล้ว ได้แต่มองเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจเล็กน้อยพลางพูดว่า: “ต่อไปฉันจะต้องออกกำลังกายแล้ว”

 

 

“ไม่ต้อง ตอนนี้นายเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว” หลูจื้อว่า

 

 

“ไม่ได้ ตอนนี้ขนาดแรงจะขัดขืนยังไม่มีเลย” ชุยหังว่า

 

 

มือใหญ่ๆ ของหลูจื้อกดลงบนตัวของชุยหังและพูดว่า: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องขัดขืนหรอกเพราะไม่ว่ายังไงผลลัพธ์มันก็เหมือนกัน ยิ่งนายขัดขืนมากเท่าไหร่ เวลาก็อาจจะนานมากขึ้นเท่านั้น”

 

 

ชุยหังพูดไม่ออก นี่เขาพบเจอกับคนประเภทไหนกัน?

 

 

“ฉันหิวแล้วออกไปหาอะไรกินสักหน่อยเถอะ” ชุยหังพูดอย่างอ่อนแรง เพียงแค่พยายามถ่วงเวลาให้มากที่สุด

 

 

หลูจื้อเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามอย่างตรงไปตรงมาว่า: “นายพึ่งจะกินเสร็จไปไม่ใช่หรอ”

 

 

“…”

 

 

ชุยหังแสดงออกไปว่าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว คนๆ นี้ใช่ครูฝึกผู้เข้มงวดเมื่อก่อนคนนั้นจริงหรอ

 

 

“นายดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว…” เขาถอดถอนใจอย่างตรงไปตรงมา

 

 

“เปลี่ยนเป็นดีขึ้นหรือว่าเปลี่ยนเป็นไม่ดี?” หลูจื้อถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความข่มขู่ จากนั้นโน้มตัวลงแล้วจ้องมองชุยหัง

 

 

ชุยหังเห็นการกระทำของเขาก็รู้ในทันทีว่าควรจะทำตัวอย่างไร: “มันก็ต้องดีขึ้นอยู่แล้ว”

 

 

โทรศัพท์ของหลูจื้อดังขึ้น เป็นสายจากซ่งไข่โทรเข้ามา

 

 

“ฮัลโหล ผู้บังคับกองซ่งฉันเอง อืม รับออกมาแล้ว จัดการไปยกหนึ่งแล้ว” หลูจื้อพูดกับอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา

 

 

เส้นขีดสีดำปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชุยหัง นี่กำลังบอกอะไรเป็นนัยๆ อยู่หรอ

 

 

เมื่อเห็นว่าชุยหังเองก็เหมือนอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไรหลูจื้อจึงฝืนใจกดเปิดสปีกเกอร์โฟน

 

 

เสียงของซ่งไข่ดังออกมาจากข้างในว่า: “จัดการให้เยอะหน่อยสักสองสามรอบ เดี๋ยวเขาก็ทำตัวดีแล้ว…”

 

 

คิดไม่ถึงว่าที่แท้จะมีใครบางคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเขา…

 

 

หลูจื้อมองมาทางชุยหังอย่างได้รับชัยชนะ ราวกับกำลังพูดว่าดูเอาเถอะคนที่ทรยศนาย ไม่ได้ทรยศนายแค่ครั้งเดียวด้วยนะ

 

 

ชุยหังพูดไม่ออกแล้ว สายตาเรียวยาวคู่นี้ทำให้ตนไม่สามารถหาคำไหนที่เหมาะสมจะมาบรรยายมันได้เลย

 

 

“เขากำลังฟังอยู่ข้างๆ ด้วยนะ นายมีอะไรอยากจะอธิบายกับเขาไหม” หลูจื้อถามออกไปตรงๆ

 

 

ทางด้านซ่งไข่นิ่งเงียบไปชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่าเขาคงคาดไม่ถึงว่าหลูจื้อจะทำแบบนี้

 

 

บรรยากาศค่อนข้างอึดอัดนิดหน่อย ผ่านไปสักพักซ่งไข่ถึงพูดออกมาว่า: “อะแฮ่ม คือว่าชุยหัง นายยอมสารภาพผิดดีๆ เถอะนะ ครั้งนี้ไม่ใช่ว่าฉันทรยศนายนะ ยังไงก็ตามที่นายบอกที่อยู่ของนายกับฉันก็ไม่ใช่เพราะว่าอยากให้หลูจื้อไปหาหรอ ในเมื่อเขาไปถึงที่นั่นแล้วนายก็แอบดีใจเถอะ แน่นอนว่าทำให้ผู้บังคับกองหลูหนุ่มอนาคตไกลของพวกเราไปยืนที่ไท่อานได้นายก็ควรจะแสดงออกให้มันดีสักหน่อย ถือเสียว่าเป็นการชดเชยไง เอาล่ะแบบนี้แหละนะ กลับมาแล้วค่อยว่ากัน ฉันไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พวกนายเชิญต่อเลย”

 

 

หลังจากพูดออกมากองโตแล้วเขาก็กดตัดสายโทรศัพท์ไปเลย

 

 

ชุยหังพูดไม่ออกแล้ว รู้สึกว่าซ่งไข่เหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้ว

 

 

ในความทรงจำของตนเขามักจะดูหนักแน่นเป็นผู้อาวุโสที่เชื่อถือพึ่งพาได้มาก แต่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกว่าภาพลักษณ์ของซ่งไข่เหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

 

เปลี่ยนเป็นแย่ลงก็ยังพูดได้ไม่เต็มปาก ดูเหมือนจะไม่ซื่อสัตย์เคร่งขรึมอย่างแต่ก่อนแล้ว…

 

 

หลูจื้อโยนโทรศัพท์มือถือไปอีกด้านอย่างไม่ใส่ใจแล้วพูดว่า: “นายได้ยินหมดแล้ว?”

 

 

“อืม ได้ยินแล้ว…แต่ว่าฉันก็ยังหิวอยู่ดี ออกไปหาอะไรกินหน่อยได้ไหม” ชุยหังยังคงดิ้นรนครั้งสุดท้าย

 

 

หลูจื้อครุ่นคิดสักพักแล้วพูดขึ้น: “โอเค งั้นฉันจะออกไปซื้อของกินให้นาย นายอาบน้ำอยู่ที่ห้องเถอะ”

 

 

“ยังต้องอาบน้ำ? ฉันอาบจนหนังจะหลุดแล้ว” ชุยหังว่า

 

 

หลูจื้อพูดขึ้น: “นายจะไม่อาบก็ได้ยังไงก็ต้องเหงื่อออกอีกอยู่ดี ฉันบอกไปแล้วว่าคืนนี้ฉันไม่มีทางให้นายมีโอกาสได้นอนหลับแน่”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 269 กินอะไรสักหน่อย

 

 

หลังจากพูดจบหลูจื้อก็สวมเสื้อผ้าเดินออกไปแล้ว ทิ้งชุยหังทำหน้าซีดเซียวเอาไว้

 

 

เขาไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแม้แต่นิดแล้วจริงๆ แทบไม่อยากขยับแล้ว

 

 

การเคลื่อนไหวของหลูจื้อดูเหมือนจะรวดเร็วเกินไป ยังไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมงเขาก็กลับมาแล้ว

 

 

เมื่อชุยหังเหลือบมองของสิ่งที่เขาถืออยู่ในมือก็เข้าใจในทันทีเพราะมันต่างก็เป็นอาหารประเภทแป้งจำพวกแพนเค้ก หมั่นโถวอะไรทำนองนั้น

 

 

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยากปล่อยให้ตนได้พักผ่อนแบบสบายๆ นานอีกสักหน่อยได้เลยจริงๆ

 

 

“กินข้าวเถอะ นายหิวไม่ใช่หรอ อาหารพวกนี้ย่อยง่ายแล้วมันก็ดีต่อกระเพาะนายด้วย” หลูจื้อว่า

 

 

ชุยหังพึ่งจะเข้าไปอาบน้ำแบบลวกๆ ออกมาเมื่อครู่ ท้องก็เริ่มร้องครวญครางขึ้นมาแล้ว พอเห็นของที่หลูจื้อถือกลับมาก็รู้สึกอยากอาหารมากทีเดียว

 

 

“นี่มีตะเกียบ นี่มีอาหารอยู่ด้วย อย่าทำอย่างกับว่าฉันไม่รู้จักเอาใจใส่เมียแบบนั้น” หลูจื้อยื่นตะเกียบส่งมาให้

 

 

ชุยหังรีบพูดกลับไปว่า: “ไม่กล้าๆ ฉันไม่กล้าคิดแบบนั้นหรอก”

 

 

“นายคิดหรือไม่คิดแบบนี้ ฉันไม่รู้เลยมั้ง” หลูจื้อถาม

 

 

ชุยหังรีบเปลี่ยนเรื่องคุยและพูดว่า: “นายก็กินสักหน่อยเถอะ เหนื่อยมาทั้งคืนแล้วแถมยังนอนหลับไปแค่แปปเดียวเอง”

 

 

“อย่าคิดว่าพอนายพูดแบบนี้แล้วพอกินข้าวเสร็จฉันจะปล่อยให้นายไปนอนนะ” หลูจื้อมองทะลุกลยุทธ์เล็กๆ ของชุยหังออกในทันที

 

 

“นายแกล้งทำเป็นเลอะเลือนหน่อยได้ไหม แบบว่าไม่รู้อะไรสักอย่างเลยแบบนี้?” ชุยหังบ่นพึมพำ

 

 

หลูจื้อพูดขึ้น: “อะไรก็ไม่ต้องพูดแล้วก็ทำงานไปอย่างเงียบๆ ใช่ไหม”

 

 

เขายังจงใจเน้นออกเสียงหนักคำว่า ‘ทำงาน’ ด้วย มันทำให้ชุยหังยิ่งจนปัญญามากขึ้นไปอีก

 

 

ช่างมันละ เขาอยากจะพูดอะไรก็ให้พูดไปเถอะ เผื่อว่าเขาไม่ยอมให้ตนนอนหลับจริงๆ ขึ้นมาถ้าอย่างนั้นอย่างน้อยตนก็ต้องทำให้ท้องอิ่มเอาไว้ก่อนค่อยว่ากัน

 

 

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว หลูจื้อก็จัดการเก็บของทุกอย่างก่อนจะโยนไปไว้อีกมุมอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะตรงขึ้นเตียงนอน

 

 

“กินอิ่มแล้วใช่ไหม” หลูจื้อจัดการจับชุยหังที่กำลังคิดหนีเอาไว้ด้วยมือเดียว

 

 

ชุยหังไม่มีทางเลือกอื่นพูดได้เพียงว่า: “กินอิ่มแล้ว แต่ว่า”

 

 

“แต่ว่าอะไร ฉันจะปล่อยให้นายย่อยสักพักไม่งั้นกลัวว่าอีกเดี๋ยวลำไส้นายจะบิดตัวเอา” หลูจื้อกล่าว

 

 

จากนั้นชุยหังถึงได้นอนลงอย่างสบายใจพลางหนุนแขนของหลูจื้อไปด้วย

 

 

“เมื่อไหร่ฉันถึงจะสามารถฝึกได้ถึงระดับของนาย?” ชุยหังอดที่จะถามไม่ได้

 

 

หลูจื้อพูดตอบอย่างไร้ความปราณี: “ชาติหน้าเถอะ ชาตินี้นายไม่ต้องคิดแล้วล่ะ นายขี้เกียจขนาดนี้ยังคิดอยากจะฝึกให้ได้ถึงระดับฉัน?”

 

 

ชุยหังไม่พูดอะไรแล้ว รู้ก็พอแล้วไหม จำเป็นต้องพูดมันออกมาตรงๆ ไหม ให้มันบอบบางอ่อนโยนกว่านี้หน่อยไม่ได้หรอ

 

 

“นายควบคุมฉันได้นะ…เผื่อว่าฉันสามารถฝึกขึ้นมาได้ล่ะ?” ชุยหังถาม

 

 

“งั้นฉันจะช่วยนายฝึกแล้วกัน ตราบเท่าที่ฉันมีเวลาฉันจะให้นายฝึกฝนดีๆ อย่างแน่นอน ขับเหงื่อออกจากร่างกายได้ก็ดีมากแล้ว” หลูจื้อกล่าว

 

 

ชุยหังไม่อยากพูดอะไรแล้ว ความหมายของหลูจื้อเขาเข้าใจมันดี

 

 

หัวข้อนี้ดูเหมือนจะเลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ

 

 

เมื่อผู้ชายแท้มีเซ็กส์ ริเริ่มลิ้มรสความหวานก็จะเสพติดเอาได้ง่ายๆ

 

 

“ฉันไปห้องน้ำ นายพักผ่อนก่อนสักหน่อยเถอะ” ชุยหังว่า

 

 

หลูจื้อพูดขึ้น: “อย่าคิดจะถ่วงเวลาให้มากเกินไปนะ ฉันจะดูเวลาให้นายเอง นายหาทางจัดการเองแล้วกัน”

 

 

ชุยหังเดินอืดอาดไปเข้าห้องจากนั้นก็ล็อคประตูด้วยเรียบร้อย

 

 

เมื่อหลูจื้อเห็นการกระทำของเขาก็หัวเราะออกมา

 

 

แต่ว่าเขาไม่ได้คิดที่จะปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้จริงๆ ครั้งนี้ชุยหังทำให้เขาเป็นกังวลเกินไป ถ้าไม่ทำให้เขายอมแพ้ในคราวเดียวครั้งหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำยังไงอีกแล้ว

 

 

หลังจากผ่านไปนานชุยหังก็ยังไม่ออกมา

 

 

หลูจื้อก้าวลงเหยียบพื้นไปยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำพลางถามขึ้นว่า: “นายทำอะไรอยู่ข้างใน นอนหลับไปแล้วหรือเปล่า”

 

 

ชุยหังตกใจมากจนรีบพูดขึ้นว่า: “เปล่าๆ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้…”

 

 

“ฉันนับสิบเท่านั้นนะ สิบ เก้า แปด เจ็ด…”

 

 

เมื่อเปิดประตูออก ชุยหังยืนอยู่ตรงนั้นแล้วพูดว่า: “ฉันออกมาแล้ว ออกมาแล้ว…”

 

 

หลูจื้อยิ้มพลางชำเลืองมองเขา ก่อนจะอุ้มตัวชุยหังขึ้นพาเดินกลับไป