เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ผู้ใดบอกว่าข้าจะควบคุมแม่นางคนงามเล่า ? อย่างไรเสียข้าก็เป็นผู้ที่อยู่ข้างล่าง ควบคุมไม่ได้ก็คือควบคุมไม่ได้”
ชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งสามารถบอกได้อย่างเต็มปากว่าเขาคือคนที่อยู่ ‘ข้างล่าง’ คาดว่าทั่วทั้งทวีปเซี่ยโจวคงมีแค่คุณชายของพวกเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่กล้ากล่าวออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำเช่นนี้
เหล่าองครักษ์รู้สึกเคารพคุณชายอย่างถวายหัวเป็นที่สุด
หลังจากที่ได้เล่นงานจนเสือดาวยอมสยบ มู่เฉียนซีก็ได้นำมันโยนไปไว้ในมิติแล้วมองดูใบหน้าของเชียนอ้าวเซี่ยที่กำลังมองนางอย่างเคารพเป็นหนักหนา นางกล่าว “เฮ้! เจ้าไม่มีพลังความสามารถอันใด ถึงต่อให้พลังความสามารถของเหล่าองครักษ์ของเจ้าจะไม่เลวก็ตาม แต่เจ้าก็ไม่ควรที่จะมาเสี่ยงชีวิตในทุ่งน้ำแข็งนี้ กลับไปอยู่เรือนอยู่จวนของเจ้าเพื่อเสพสุขไม่ดีกว่ารึ ?”
เชียนอ้าวเซี่ย “แม่นางคนงาม เช่นนั้นเจ้าก็กลับไปเสพสุขที่บ้านกับข้าสิ เจ้าต้องการสิ่งใด ข้าจะให้สิ่งนั้น ให้ทุกอย่างเลย”
มู่เฉียนซีจนปัญญา “เจ้าชอบข้าตรงไหนกัน ?”
แท้ที่จริงนางนั้นทราบดีว่าบุรุษผู้น่ารำคาญผู้นี้ชอบใบหน้าของนาง แต่ทว่าใบหน้าของเขาเองนั้นก็ไม่เลว เช่นนั้นเขาควรส่องกระจกมองตนเองก็น่าจะพึงพอใจแล้วมิใช่หรืออย่างไร ?
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวด้วยความเจ็บปวดหัวใจว่า “เจ้าไม่ชอบข้าที่ตรงไหน ข้าจะเปลี่ยนให้เจ้า”
มู่เฉียนซีถอนหายใจหนึ่งเฮือก กวาดตามองเขาอย่างพิจารณาแล้วกล่าวขึ้น “ทั้งตัวของเจ้าไม่มีตรงใดที่ข้าชอบ ต่อให้เจ้าไปเกิดใหม่เป็นร้อยเป็นพันครั้งข้าก็ไม่ชอบ เช่นนั้น ลาก่อน”
“โปรดอย่าไป…” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างเศร้าโศก
ในตอนนี้เอง กลิ่นคาวเลือดอย่างเข้มข้นลอยเข้ามาเตะจมูก สายตาอันเฉียบคมของมู่เฉียนซีเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาที่พวกนาง คนพวกนั้นดูคล้ายกับกลุ่มนักผจญภัยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เหมือนไปเสียทั้งหมด
บนร่างกายของพวกเขามีบาดแผลประปราย พวกเขาเดินเข้ามาก่อนจะกล่าวถามขึ้น “พวกเจ้าเอายาเม็ดสำหรับรักษาอาการบาดเจ็บติดตัวมาหรือไม่ ? พวกเรายินดีที่จะนำสิ่งของออกมาทำการแลกเปลี่ยน”
คิ้วที่งดงามของเชียนอ้าวเซี่ยเริ่มขมวดเล็กน้อย นอกจากเรื่องของสาวงามแล้ว เขาไม่สนใจเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น
มู่เฉียนซีผู้มีพลังจิตที่แข็งแกร่งพบว่าคนที่กล่าวถามออกมานั้น มีพลังเป็นถึงจักรรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง หากพวกเขาคิดที่จะปล้นนางขึ้นมา เกรงว่าคงจะเกิดปัญหาอยู่บ้าง
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “ข้าพอจะมีอยู่บ้างโดยเป็นยาเม็ด ที่ข้านี้มียาเม็ดสำหรับรักษาอาการบาดเจ็บอยู่จำนวนหนึ่ง แต่เรื่องราคานั้น ข้าต้องขอดูว่าพวกเจ้ามีสมุนไพรวิญญาณอะไรมาบ้าง”
มู่เฉียนซีนำขวดยาออกมาหลายขวด ส่วนฝ่ายตรงข้ามก็เป็นผู้ที่ตรงไปตรงมา พวกเขาไม่มัวชักช้า นำเอาสมุนไพรวิญญาณออกมาไม่น้อย การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้เอง เชียนอ้าวเซี่ยก็เดินเข้ามาหานางอีกครั้ง “แม่นางคนงาม ดูเหมือนว่าข้าจะพบว่าเจ้าชอบสมุนไพรวิญาณและชอบที่จะหลบหน้าข้าด้วย”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเกียจคร้าน “นับว่าเจ้านั้นรู้ตัวดีว่าข้ารำคาญเจ้า ข้าขอบอกไว้เลยว่าต่อให้เป็นวัชพืชเพียงหนึ่งต้นก็ยังถือว่าดีกว่าเจ้า”
“ข้าแย่ถึงเพียงนั้นเลยรึ ?!” หัวใจของเชียนอ้าวเซี่ยแทบจะแตกสลายไป ด้วยใบหน้าที่สามารถทำให้ผู้คนหลงผิดชอบชั่วดีได้ ไม่ว่าจะเป็นสตรีงามผู้ใด เพียงแค่สบตาเขาเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้นางผู้นั้นจมปลักรักเขาได้
แต่มาวันนี้กลับตาลปัตร เขาโดนรังเกียจอย่างถึงที่สุด
มู่เฉียนซีคว้าคอเสื้อของเชียนอ้าวเซี่ยเอาไว้ นางกล่าว “ข้าจะบอกเจ้าให้นะคุณชายเซี่ย หากว่าเจ้าคิดว่าชีวิตนี้มันช่างน่าเบื่อหน่าย อยากจะหาความสนุก ในใต้หล้านี้มีของเล่นตั้งมากมาย แต่ว่าตัวข้าไม่มีความสนใจใด ๆ ที่จะมาเล่นกับเจ้า เจ้าเลิกแสร้งทำอย่างนั้นอย่างนี้ เลิกตีสีหน้าจอมปลอมพวกนั้นได้แล้ว”
การแสดงสีหน้าของชายผู้นี้สมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก หากนำเขาไปอยู่ในยุคปัจจุบันคงจะได้เป็นบุคคลระดับดาราเป็นแน่แท้ เขาตีสีหน้าต่าง ๆ ได้หลากหลาย สามารถหลอกผู้คนได้มากมายในใต้หล้า แต่การกระทำนั้นในทุก ๆ ท่วงท่าของเขาไม่อาจหลอกนางได้
ดวงตาสีดำเงาเป็นประกายคู่นั้นของเชียนอ้าวเซี่ยทอแววสงสัย เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ การแสดงละครตบตาของเขาที่ทำมายี่สิบปีกลับมีคนมองมันออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แถมคนผู้นี้ยังเพิ่งพบเจอกันไม่นานเสียด้วย
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “แม่นาง… ข้านั้นจริงใจต่อเจ้า ความรู้สึกที่ข้ามีให้เจ้ามันออกมาจากก้นบึ้งหัวใจของข้า…”
มู่เฉียนซีผลักเขาออกไปก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าช่างน่าเบื่อเสียยิ่งกว่าสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นเสียอีก จะไปไหนก็ไปได้แล้วไป!”
จู่ ๆ มู่เฉียนซีก็นึกถึงใบหน้าน่าหลานอวี้ขึ้นมา ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของน่าหลานอวี้นั้น อย่างน้อยก็ขายหัวเราะหาเงินทองได้ ทว่าแววตาเจ้าเล่ห์ที่อยู่ภายใต้ดวงตาอ่อนโยนของเชียนอ้าวเซี่ยผู้นี้นางมองออก เขาเป็นคนประเภทที่เอาทุกคนเป็นของเล่นไว้หยอกล้อ
คนเช่นนี้จะไม่น่าเบื่อได้อย่างไร ?
สุนัขจิ้งจอก! เชียนอ้าวเซี่ยก้มหน้าลง เขากล่าวพลางทำท่าทางให้ดูน่าเวทนา “แม่นางคนงาม เจ้าเชื่อข้าครั้งหนึ่งเถอะ”
“ไสหัวไป!” มู่เฉียนซีเหลือจะทน นางเตะเขาไปจนได้
ขณะที่เชียนอ้าวเซี่ยกําลังพัวพันกับมู่เฉียนซีนั้น ผู้นำกลุ่มนักผจญภัยก็กล่าวขึ้นว่า “คุณชายท่านนี้ ดูเหมือนท่านจะไม่ธรรมดา และองครักษ์ที่อยู่ข้างกายของท่านล้วนแต่เป็นมือดี ข้ามีเรื่องอยากจะให้พวกท่านช่วยเสียหน่อย มิทราบว่าจะได้หรือไม่ ?”
เชียนอ้าวเซี่ยถูกสตรีงามปฏิเสธและกําลังเศร้าโศกอยู่ ไม่มีอารมณ์จะไปสนใจอะไรพวกเขาจึงกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส “ไม่ เจ้าไปหาผู้อื่นเถอะ”
“คุณชายจะไม่ฟังหน่อยหรือว่ามันคือเรื่องอะไร ?” ชายผู้นั้นกล่าวขึ้นด้วยความค้างคา
ในเวลานี้มู่เฉียนซีเปิดปากกล่าวขึ้นว่า “เรื่องอะไรรึ ? ข้านั้นอยากรู้ว่าจะมีส่วนได้อะไรหากว่าตกลงช่วย ?”
ผู้นำกลุ่มนักผจญภัยยิ้ม กล่าวขึ้น “พวกเราได้ไปพบดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้น ณ ที่แห่งหนึ่งของหุบเขาน้ำแข็ง แต่ทว่าด้านในมีสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งปกป้องอยู่ คนของพวกเราได้รับบาดเจ็บอย่างหนักตั้งแต่ต้น เกรงว่าคงจะไม่มีทางเอาชนะสัตว์วิญญาณเหล่านั้นได้ จึงอยากที่จะขอให้ทั้งสองท่านช่วยเหลือพวกเรา”
“ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นเป็นสมุนไพรวิญญาณที่ใกล้เคียงสมุนไพรวิญญาณระดับสวรรค์มากที่สุด ทว่ามันกลับมีอยู่ในแดนน้ำแข็งของแคว้นอิ๋นเหยียน” มู่เฉียนซีพึมพำเบา ๆ เวลานี้นางตื่นเต้นเสียจนดวงตาทั้งคู่ส่องประกาย เชียนอ้าวเซี่ยเห็นดวงตาคู่นั้นของมู่เฉียนซีก็ตกตะลึงเล็กน้อย นี่สิถึงจะเป็นดวงตาที่มีอารมณ์รักโลภโกรธหลง คนเป็น ๆ ที่มีชีวิตควรจะมีการแสดงออกเช่นนี้ ไม่ใช่เย็นชาไร้อารมณ์อย่างที่นางทำให้เขาเห็นมาโดยตลอด
ริมฝีปากของเชียนอ้าวเซี่ยที่ออกสีแดงคล้ายดอกซากุระก็ได้เม้มเข้าเบา ๆ
ผู้นำกลุ่มนักผจญภัยยิ้ม กล่าวกับเชียนอ้าวเซี่ย “ดูเหมือนว่าคุณชายเองก็เป็นผู้รอบรู้ในเรื่องสมุนไพรวิญญาณ”
ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้น ถ้าหากว่าพิษร้ายโบราณที่อยู่ในตัวท่านอาเล็กกำเริบก่อนที่นางจะหาหม้อเทพนิรันดร์เจอ ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นจะสามารถกดยั้งอาการกำเริบของพิษเอาไว้ได้อีกครั้ง เช่นนั้นแล้วนางจึงต้องการที่จะได้ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นมาเป็นอย่างมาก …ถ้าหากว่าร่วมมือกันกับพวกเขาแล้วได้ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นมาคงจะเป็นการดี
“หากเราร่วมมือกันแล้วได้ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นมา เราก็แบ่งกัน เป็นพวกเจ้าเอาไปห้ากลีบ พวกเราสี่กลีบเป็นเช่นไร ?” ชายผู้นั้นกล่าวถามความเห็น
“ไม่” มู่เฉียนซีส่ายศีรษะเบา ๆ
ผู้นำกลุ่มนักผจญภัยรีบกล่าว “หรือว่าพวกเจ้าคิดว่าน้อยเกินไป พวกเราสามารถตกลงกันได้”
มู่เฉียนซี “พวกเจ้าสามกลีบ ข้าหกกลีบ” ผู้นำกลุ่มนักผจญภัย “เจ้า… หรือว่าเจ้าคนเดียว พวกเขา…”
“ข้าไม่ใช่พวกเดียวกับพวกเขามาแต่แรกอยู่แล้ว ข้าเพียงคนเดียวก็เพียงพอ”
“นั่นเกรงว่าจะมิได้ แม่นางนั้นเป็นเพียงปรมาจารย์ภูตผู้หนึ่ง ถึงแม้จะแข็งแกร่งกว่าคนในกลุ่มของเราอยู่บ้างก็ตาม แต่จะไปต่อกรกับเหล่าสัตว์วิญญาณที่คอยปกป้องดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นนั้นท่าจะยากนัก เจ้ามิใช่คู่มือของพวกมัน แม่นางจงอย่าได้ล้อเล่นเช่นนี้เลย”
มู่เฉียนซีเหลือบมองกลุ่มของพวกนักผจญภัย นอกจากผู้แข็งแกร่งระดับราชาและจักรพรรดิแล้ว ยังมีชายหนุ่มอีกหกคนอยู่ในกลุ่มของพวกเขา พลังความแข็งแกร่งของพวกเขาถือว่ายังไม่สูงมากนัก
ต่อให้พาคนรุ่นหลังมาฝึกฝน ก็ยังถือว่านําพามามากเกินไป หากเกิดอันตรายขึ้นมา พวกเขาเองจะดูแลกันไม่ทั่วถึง นางนั้นมีเสี่ยวหงกับอู๋ตี้อยู่ด้วย แน่นอนว่านางไปเพียงผู้เดียวก็เพียงพอ แต่ทว่าเห็นได้ชัดว่าพวกนั้นไม่เชื่อว่านาง
ในตอนที่มู่เฉียนซีจะนำเสี่ยวหงกับอู๋ตี้ออกมานี้เอง เชียนอ้าวเซี่ยเดินมากล่าวว่า “ใครบอกว่าพวกเราไม่ได้มาด้วยกัน ? แม่นางไปที่ไหน ข้าก็จะไปที่นั่น ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นอะไรนั่นข้าไม่เอา ส่วนแบ่งของข้า ข้ายกให้แม่นางผู้นี้ทั้งหมด”
มู่เฉียนซีขมวดคิ้ว มองเชียนอ้าวเซี่ยด้วยสายตาตำหนิ “เจ้า… หรือว่าสิ่งที่ข้าพูดก่อนหน้านี้จะไม่ชัดเจน ? หากเจ้าอยากหาคนเล่นด้วยให้ไปหาผู้อื่น ข้าไม่เล่นด้วย”
ดวงตาที่เหมือนดั่งผลึกสีดําของเชียนอ้าวเซี่ยกลอกไปมา เขายิ้มอย่างมีเสน่ห์ก่อนจะกล่าวว่า “แม่นาง ถ้าหากข้าบอกว่าข้าอยากลองจริงจังในครั้งนี้ เจ้าจะว่าอย่างไร ?”
.