ตอนที่ 344 เรียกเสี่ยวซีซี

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

— ปัง! —

มู่เฉียนซีผลักเขาออกไป

“ข้าไม่ว่าอย่างไรทั้งนั้น  สายน้ำขุนเขาแปรเปลี่ยนได้ สันดานดั้งเดิมนั้นยากกลับกลาย ต่อไปเจ้าอย่ายั่วโทสะข้าก็พอ” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็นชา

เชียนอ้าวเซี่ยนั้นแปลกประหลาด  ยิ่งเขาโดนตีมากเท่าไหร่ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ดูมีเสน่ห์แพรวพราวมากขึ้นเท่านั้นจนแทบจะทำให้ทุกคนหลงใหลไปกับเขา

ชายหนุ่มรูปงามเช่นนี้ก็นับว่าเป็นความผิดมากแล้ว เขายังมายิ้มอีก นี่มันบังคับให้คนกระทำความผิดชัด ๆ

ผู้นำกลุ่มนักผจญภัยผู้นั้นยิ้มพลางกล่าว “หากคุณชายผู้นี้ยอมร่วมมือด้วย พวกเรายินดีเป็นอย่างมาก เช่นนั้นข้าขอแนะนำตัวก่อนก็แล้วกัน ข้ามีนามว่าอู่เผิง เป็นผู้นำกลุ่ม”

มู่เฉียนซียิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวเบา ๆ “ข้ามีนามว่ามู่เฉียนซี”

“เสี่ยวซีซี!  ในที่สุดข้าก็ได้ทราบนามเจ้า” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวขัดขึ้น แววตาสดใสมองมู่เฉียนซีด้วยความตื่นเต้น

‘เสี่ยวซีซีรึ ?’ มุมปากมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย  เดิมทีเขาเรียกนางว่าแม่นางคนงามก็น่ารำคาญใจมากพออยู่แล้ว ยังจะมาเรียกเช่นนี้อีก นางแทบอยากจะวางยาพิษเขาให้เป็นใบ้ไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

นางรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่ปกปิดเก่ง แสดงละครได้เก่งกาจ เช่นนั้นเรื่องที่เขาเป็นคนไร้ประโยชน์ จะจริงหรือเท็จก็คงยากที่จะแยกแยะได้  แต่หากเขาเป็นคนไร้ประโยชน์จริง คนในจวนของเขาจะส่งเพียงแค่องครักษ์มาปกป้องและยอมให้เขาออกมาวิ่งเล่นได้อย่างสบายใจเช่นนี้หรือ ?

ต่อให้มีเสี่ยวหงกับอู๋ตี้อยู่ข้างกาย นางก็ไม่ต้องการทำอะไรผลีผลามโดยที่ไม่รู้ถึงระดับของศัตรูอย่างแน่นอน

“อืม แม่นางมู่” อู่เผิงทวนเสียงขรึม

“ได้ยินว่าจะรวมกลุ่มกัน เพิ่มข้าอีกสักคนได้หรือไม่ ?” ทันใดนั้นเสียงที่โอหังและอวดดีก็ดังขึ้น

องค์หญิงรองที่ถูกฝังอยู่ในกองหิมะเป็นชั่วยาม ในเวลานี้ได้ตามมาจนพบกับมู่เฉียนซีและคนอื่น ๆ แล้ว  เดิมทีนางเพียงแค่อยากจะมาแก้แค้น แต่ดูเหมือนว่าจะได้ยินอะไรดี ๆ เข้าเสียก่อน

“แม่นางผู้นี้คือ…?”

จำนวนคนยิ่งมากเท่าไหร่ กำลังในการต่อสู้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ปฏิเสธสำหรับการขอเข้าร่วมของนาง

องค์หญิงรองกล่าวอย่างหยิ่งผยองในทันใด “ข้าอิ๋นซวงซวง เป็นองค์หญิงรองแห่งแคว้นอิ๋นเหยียนผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักของทุกคนดี การที่ข้าเข้าร่วมกับพวกเจ้า นับว่าเป็นเกียรติของพวกเจ้ามากรู้ไว้เสียด้วย”

อู่เผิงยิ้มพลางกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นองค์หญิงรอง ข้านั้นได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว นึกไม่ถึงว่าองค์หญิงจะงดงามหมดจดถึงเพียงนี้ พรสวรรค์ก็สูงส่ง…”

อู่เผิงกล่าวยกย่ององค์หญิงรองจนองค์หญิงรองผู้นี้มีความภูมิใจร่างแทบลอย

มู่เฉียนซีมิได้สนใจว่าใครจะต้องการเข้าร่วมด้วย สิ่งที่นางสนใจมีเพียง… “หากพวกเขาเข้าร่วมภารกิจนี้ด้วย แล้วดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นจะแบ่งกันอย่างไรรึ ?”

อู่เผิง “ของแม่นางมู่ยังคงเป็นหกกลีบไม่มีเปลี่ยนแปลง องค์หญิงรองสองกลีบ ส่วนพวกข้ากลีบเดียว”

ดวงตาของมู่เฉียนซีหรี่ลงเล็กน้อย ช่างผิดปกติยิ่งนัก  เหตุใดเขาจึงดูไร้ท่าทีทุกข์ร้อนทั้ง ๆ ที่ฝ่ายตนจะได้ส่วนแบ่งเพียงน้อยนิดเช่นนั้น ?

เดิมทีเขาเป็นผู้ที่รู้เรื่องดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นก่อนใคร ทว่าเวลานี้กลับยอมให้ตนเองได้ผลประโยชน์น้อยที่สุด  อู่เผิงเกรงว่าจะถูกสงสัยจึงอธิบายต่อ “พวกข้าได้รับบาดเจ็บกันอย่างสาหัส ไม่มีกำลังในการต่อสู้ที่เพียงพอ เดิมทีแล้วพวกข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นั้น หากเอาดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นนั้นมาไม่ได้ ก็คงจะถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์กลืนไป ถึงตอนนั้นแม้แต่กลีบเดียวก็คงจะไม่ได้”

“ทว่าตอนนี้มีพวกเจ้าตกลงจะช่วยลงมือด้วยความยึดมั่นและเป็นธรรม พวกข้าได้แค่กลีบเดียวนับว่าเป็นวาสนามากแล้ว”

อิ๋นซวงซวง “เจ้าจะรับส่วนแบ่งเพียงกลีบเดียวก็แล้วแต่เจ้า ทว่าเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาจัดส่วนแบ่งให้ข้าเพียงสองกลีบเล่า ?!  ไม่ได้! ข้าจะเอาหกกลีบ ให้นางผู้นั้นสองกลีบ ข้าเป็นใครแล้วนางเป็นใคร ?”

เชียนอ้าวเซี่ยย่างเท้าเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ  มองไปที่อิ๋นซวงซวงพลางกล่าว “แล้วเจ้าเป็นใคร ? มีสิทธิ์อะไรมาเทียบกับเสี่ยวซีซีของข้ารึ ?”

“ข้าเป็นองค์หญิงแห่งแคว้นอิ๋นเหยียนอย่างไรเล่า!”

“เหอะ ๆ” เชียนอ้าวเซี่ยหัวเราะเยาะ “เป็นแค่องค์หญิงแคว้นเล็ก ๆ กล้ามาทำตัวกำเริบเสิบสานต่อหน้าเสี่ยวซีซีที่รักของข้า”

“จะ… เจ้า…”

“เจ้ารังแกสตรีรึ ?” อิ๋นซวงซวงกล่าวอย่างกล้ำกลืนฝืนใจ

เชียนอ้าวเซี่ย “เจ้าแน่ใจรึว่าข้ารังแกสตรี ?”

อิ๋นซวงซวงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนแทบจะเป็นลมล้มลง เหตุใดบุรุษชุดขาวตรงหน้านางถึงได้น่ารังเกียจเช่นนี้

มู่เฉียนซี “พอเถอะ พวกเจ้าเงียบปากกันเสียให้หมด  นี่องค์หญิง หากเจ้าอยากได้หกกลีบ เจ้าก็มาสู้กับข้า หากเจ้าเอาชนะข้าได้ข้าจะให้เจ้า”

กล่าวเช่นนั้นไปแล้ว กระบี่มังกรเพลิงถูกชักออกมาจากฝัก  พลันคมกระบี่ก็พุ่งเข้าไปประชิดที่คอของอิ๋นซวงซวงอย่างรวดเร็ว

ดูเหมือนว่าเวลานี้มู่เฉียนซีจะรับรู้ได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของกระบี่มังกรเพลิง …มากเกินไป! …ไม่อร่อย!

เชียนอ้าวเซี่ยยิ้มพลางกล่าว “เสี่ยวซีซีมีพลังและเกรี้ยวกราดอย่างน่าชื่นชมยิ่งนัก เจ้าบอกจะลงมือก็ลงมือทันที  ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ตัดคอนางไปก็สิ้นเรื่อง ตัดเลย ตัดเลย!”

องครักษ์ของอิ๋นซวงซวงเห็นเช่นนี้ต่างก็ตกใจจนเหงื่อไหลพราก “แม่นางอย่าวู่วามไปเลย องค์หญิงของพวกข้ายังเยาว์ ที่ทำไปก็เป็นเพราะไม่รู้ความ”

ถึงแม้ว่าอิ๋นซวงซวงจะเป็นถึงอัจฉริยะอันดับต้น ๆ ของแคว้นอิ๋นเหยียน และเดิมทีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เฉียนซี แต่ดวงตาของนางตอนนี้กลับมีประกายแสงเย็นวาบปรากฏขึ้นมา

“อยากสู้ข้าก็จะสู้ เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้ามากนักรึ ? หากข้าแพ้ สองกลีบของข้าก็จะให้เจ้า ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เจ้า แต่ถ้าหากว่าเจ้าแพ้ ไม่เพียงแต่เจ้าจะเสียหกกลีบ แต่เจ้าต้องมาเป็นข้ารับใช้ของข้าด้วย”

มู่เฉียนซียิ้มขี้เล่น “ได้ ข้าเสนอนี้ของเจ้าไม่เลวเลย”

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอิ๋นซวงซวงผู้นี้กำลังเล่นปาหี่อะไร แต่นางก็ไม่มีอะไรต้องกลัว  เพียงต่อสู้กันอย่างเปิดเผย นางไม่กลัวไม่อยู่แล้ว แต่ถ้าหากแม่นางผู้นี้คิดจะต่อสู้แบบลอบโจมตี นางจะทำให้อีกฝ่ายตายอย่างสมใจ

อิ๋นซวงซวง “ในเมื่อเจ้ายอมรับข้อตกลง เช่นนั้นก็เอาคมกระบี่ของเจ้าออกไป ลอบโจมตีกันเช่นนี้ไม่นับว่าชนะ”

“ย่อมได้” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวอย่างแผ่วเบา  นางเก็บกระบี่มังกรเพลิงกลับมาอย่างสุขุม

ประกายแสงเย็นวาบผ่านดวงตาของอิ๋นซวงซวงอีกครั้ง นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ซวงเอ๋อร์ ฆ่านางซะ!”

— ตูม! —

ทันใดนั้นอสรพิษเขียวสองหัวพุ่งเข้าหามู่เฉียนซี

เชียนอ้าวเซี่ยตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ “เสี่ยวซีซีระวัง!”

อสรพิษเขียวสองหัวกระโจนใส่มู่เฉียนซี ทว่ามันโฉบเข้ามายังร่างมายาของมู่เฉียนซีเท่านั้น ไม่ใช่ร่างจริง

มู่เฉียนซียิ้มเย้ยหยัน “เหอะ ที่แท้องค์หญิงรองโดนพิษงูแต่ไม่ได้ฝังตนในกองหิมะเพื่อแก้พิษเพราะมีสัตว์พันธสัญญาคอยช่วยเอาไว้นี่เอง”

หากถูกฝังในกองหิมะเป็นชั่วยามจริง ๆ คาดว่าอิ๋นซวงซวงคงจะไข้ขึ้นสูง ป่วยหนักจนถูกส่งตัวกลับวังไปแล้ว คงจะไม่มากระโดดโลดเต้นอยู่ต่อหน้านางตรงนี้

อู่เผิงและคนอื่น ๆ ต่างผงะกันไปครู่หนึ่ง “อสรพิษเขียวสองหัว สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง สมกับเป็นองค์หญิงรองจริง ๆ ที่มีสัตว์พันธสัญญาเช่นนี้ เห็นทีแม่นางมู่คงลำบากแล้ว”

เมื่อมองไปที่อสรพิษเขียวสองหัวตัวนั้น ดวงตาของมู่เฉียนซีก็เปล่งแสงเย็นวาบขึ้น

ย้อนกลับไปที่ดินแดนลึกลับในครานั้น ชิงอิ่งคู่หูของนางถูกอสรพิษสามหัวเล่นงานเข้าจึงได้หลับใหลไปนาน มาวันนี้มีเจ้าอสรพิษเขียวสองหัวมาปรากฏตัวต่อหน้านาง จะให้นางเกรงใจได้อย่างไรกัน ?

ในขณะที่อสรพิษเขียวสองหัวพุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซีอีกครั้ง มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นว่า “อู๋ตี้ มีผักใบเขียวสำหรับเจ้า ออกมาลิ้มรสสักหน่อยเถอะ”

“ขอรับนายท่าน” แสงสีขาวกะพริบขึ้น อู๋ตี้พุ่งพรวดออกมาทันที

พวกเขาทุกคนในที่นั้นเห็นแมวน้อยตัวเล็กขนาดเท่าฝ่ามือพุ่งพรวดออกมายืนบนไหล่ของมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเข้ม “องค์หญิงรอง คิดว่าสัตว์พันธสัญญาของเจ้าจะเอาชนะข้าได้รึ ? ข้าก็มีสัตว์พันธสัญญาเช่นกัน”

อิ๋นซวงซวงหัวเราะเย้ยหยัน “เหอะ เจ้าคิดว่าลูกแมวตัวเล็ก ๆ ที่ไม่นับว่าเป็นสัตว์วิญญาณระดับหนึ่งตัวนี้จะเป็นคู่ต่อสู้เสี่ยวซวงของข้าอย่างนั้นหรือ ?”

“ข้าคืออู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทาน หนึ่งเดียวในใต้หล้าผู้สามารถเอาชนะเจ้าผักใบเขียวนี้ได้สบาย” แมวน้อยเงยหน้ากล่าวอย่างภาคภูมิใจ จากนั้นมันก็หายไปจากไหล่ของมู่เฉียนซีภายในชั่วพริบตาเดียว

— กรึก! —

จากนั้นพวกเขาก็เหมือนว่าจะได้ยินเสียงแตกหักบางอย่างขึ้น

.