บทที่ 66 หลินจือคือคนนอก

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

เทาเท่ก็ได้รับสายที่วีนาโทรมา ในตอนที่คุณท่านยังทานข้าวเย็นไม่เสร็จ

หลังจากเขารับสาย ที่ปลายสายก็มีเสียงผู้หญิงที่ฟังดูเสียใจและสำลัก เขาฟังออก นั่นเป็นเสียงร้องไห้ของซูซี

แม่เขาพูดกับเขาอย่างขมขื่นว่า:“เทาเท่ ระหว่างลูกกับซีแม่รู้แล้วนะ”

“ซีก็รู้ว่าตัวเองผิด และหลินจือก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่?ทำไมลูกยกโทษให้เธอไม่ได้?”

คำว่าวีนา “และหลินจือก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่”ทำให้เทาเท่โมโหมาก ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่แม่แท้ๆของเขา เขาคงตะคอกใส่ไปแล้ว

แต่น้ำเสียงของเขามีความโกรธ:“ถ้าไม่มีคนช่วยชกผู้ช่วยผู้กำกับนั่นให้เธอล่ะ?ถ้าเธอขี้ขลาดปล่อยผู้ช่วยผู้กำกับทำแบบนั้นล่ะ?”

“แม่ เป็นคนทำอะไรต้องมีบรรทัดฐาน”

วีนาคิดไม่ถึงว่าเทาเท่จะพูดจาคมคายแบบนี้ ทำให้ชะงักไปทันที

จากนั้นเธอรีบพูดว่า:“ใช่ๆๆ เรื่องนี้ซีทำไม่ถูกจริงๆ เธอก็ยอมรับว่าตัวเองผิดแล้ว ร้องไห้จนเหนื่อยหอบไปหมด”

“แล้วก็ ซีเป็นผู้หญิง ทำไมลูกพูดจาแรงกับเธอย่างนั้นล่ะ?”

เทาเท่หัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาพูดแรงอะไรไปเหรอ?

เขาเพิ่งบอกให้ซูซีอย่าอวดความสัมพันธ์ของพวกเขาอีกต่อไป นี่แรงเหรอ?

เสียงร้องไห้ซูซีในสายดังมาก เทาเท่ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเอาโทรศัพท์ห่างจากหู

คุณท่านที่อยู่ตรงข้ามจงใจส่งเสียงฮึดฮัด ใช้การกระทำเพื่อแสดงความรังเกียจต่อเทาเท่และวีนา

วีนาถอนหายใจพูดว่า:“วันนี้แม่มาช่วยตัดสินให้ เรื่องนี้ถือว่าผ่านไปแล้วเถอะ ไว้วันไหนลูกมากินข้าวกับซี ก็ถือว่าคืนดีกันแล้ว”

“ลูกสองคนก็คบกันนานแล้ว หลินจือนั่น สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่คนนอก”

วีนายังคงพูดไป เทาเท่ไม่ตอบเธอสักคำ ยังไงก็ไม่ยอมยกโทษให้ซูซี

“ผมกินข้าวกับปู่อยู่ แค่นี้ก่อนนะครับ”เทาเท่จงใจพูดแบบนี้

วีนาได้ยิน ก็พูดทันที:“งั้นวางสายเถอะ”

วีนากับคุณท่านไม่ถูกกันนัก นอกจากความขัดแย้งระหว่างลูกสะใภ้กับพ่อแม่อีกฝ่ายแบบสมัยก่อนแล้ว สำหรับปัญหาของหลินจือแล้ว ความขัดแย้งทั้งสองร้ายแรงยิ่งกว่า

ตอนนั้นวีนายืนยันจะเอาเงินให้ครอบครัวหลินจือ หลังจากคุณท่านพิจารณาแล้ว คิดว่าหลินจือเป็นผู้หญิงดี แต่งเข้าตระกูลฟอเรนาได้

และคุณท่านยังเอาแต่ปกป้องหลินจือหลังจากที่หลินจือแต่งงานกับเทาเท่ ทำเอาวีนาโกรธแทบตาย

แต่ถึงแม้วีนาจะไม่พอใจคุณท่านมากแค่ไหน แต่ไม่กล้าตอบโต้ใดๆ เพราะว่าคุณท่านมีชื่อเสียงมากในเมืองเจสเวิร์ด และคำพูดก็มีอำนาจในตระกูลฟอเรนามาก

อีกประเด็นหนึ่งคือ คุณท่านอารมณ์ร้อน ถ้าทำเขาโมโหขึ้นมา เขาก็จะสั่งสอนอย่างไว้เกรงใจ

วีนาที่เป็นตัวแทนของสตรีผู้สูงศักดิ์ ต้องมีหน้ามีตาอย่างมาก ไม่อยากถูกสั่งสอนจนต้องอับอาย

ดังนั้นได้ยินเทาเท่บอกว่าอยู่กับคุณท่าน จึงรีบวางสาย

คุณท่านตระกูลฟอเรนาจ้องเทาเท่อย่างไม่พอใจ:“ตัวเองรับมือกับแม่ไม่ได้ ก็เอาฉันไปอ้าง?”

เทาเท่ตอบอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น:“จะเอาปู่มาอ้างได้ไงล่ะ?หมายความว่าปู่เป็นที่เคารพนับถืออย่างสูง เธอไม่กล้ายุ่งกับปู่”

คุณท่านตระกูลฟอเรนาถอนหายใจ คิดว่าเขาพูดโน้มน้าวจิตใจเก่ง

คุณท่านตำหนิวีนา:“พินอินเป็นอย่างนี้ได้ เพราะว่าแม่แกตามใจจนเสียคน!ลูกตัวเองยังสอนไม่ดี ยังจะยุ่งเรื่องชาวบ้านอีก”

เทาเท่เตือนเขา:“ผมก็ลูกเธอ”

ความหมายก็คือเขาไม่ได้เหลวไหลอย่างพินอิน

เรื่องนิสัยนี้ ส่วนหนึ่งมาจากธรรมชาติ อีกส่วนมาจากการเลี้ยงดู

คุณท่านกลอกตา ว่าเขาอย่างไม่เกรงใจ:“แกคิดว่าแกเป็นคนดี?”

เทาเท่:“……”

*

บ้านพ่อแม่ของเทาเท่

วีนาวางสายแล้วจึงปลอบซูซีที่ร้องไห้อย่างหนัก:“เอาล่ะๆ อย่าร้องไห้เลย ฉันต่อว่าเขาไปแล้ว”

“เดี๋ยวรอเขาใจเย็น ต้องโทรหาเธอแน่”

ซูซียังน้ำตาไหล:“น้าวีนา เทาเท่จะไม่สนฉันจริงๆแล้วหรือเปล่าคะ?”

“จะเป็นไปได้ไง!”วีนาพูด“พวกเธอแค่ทะเลาะกันเฉยๆเท่านั้น คนสองคนคบกันมันก็ต้องมีเรื่องที่ไม่ราบรื่นบ้าง?พอใจเย็นลงแล้วก็ดีเอง”

พินอินนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ เล่นไปพูดไปว่า:“พี่ชายฉันนี่สุดยอดนะ เพื่อหลินจือแล้วนึกไม่ถึงเลยว่าจะทะเลาะกับซีจนเป็นแบบนี้ บ้าหรือเปล่า?”

วีนาเกือบโมโหเพราะคำพูดของเธอ นี่เธอกำลังสาดน้ำมันใส่กองไฟอยู่เหรอเนี่ย?

เป็นการบอกชัดเจนว่าพี่ชายเธอทะเลาะกับซูซีเพื่อหลินจือ แล้วจะให้ซูซีเอาหน้าไปไว้ไหน?

วีนาจ้องพินอินเขม็ง ปลอบซูซีอีกครั้ง:“เทาเท่จะทะเลาะกับเธอเพราะหลินจือได้ไง?เขาทำเพื่อภาพลักษณ์เธอ และเพื่อภาพลักษณ์ตระกูลฟอเรนาของพวกเราไม่ใช่เหรอ?”

วีนาพูดว่าตระกูลฟอเรนาของพวกเรา ก็ทำให้ซูซีอารมณ์ดีเล็กน้อย ไม่งั้นเธอคงโกรธพินอินจริงๆ

“เทาเท่แต่งงานกับเธอสามปีไม่เคยจะแลเธอสักครั้ง พอหย่ากันแล้วออกโรงแทนเธอได้ไง?แบบนั้นเขาก็——”วีนาพูดถึงตรงนี้ก็รีบหยุด เกือบหลุดพูดออกไป ว่าลูกชายตัวเองเลวแค่ไหน

แต่ไม่ใช่เหรอ?ลูกชายเธอหย่าแล้วถึงมาคะนึงถึงหลินจือ นั่นเลวสุดๆ

ซูซีเช็ดน้ำตา อารมณ์สงบลงเล็กน้อย:“ขอโทษนะคะน้าวีนา คืนนี้ฉันควบคุมอารมณ์ไม่ได้”

วีนาตบมือของเธอ:“อะไรกัน?ในใจฉัน เธอก็เหมือนกับพินอิน เป็นเลือกเนื้อของฉันเอง”

“แค่เธอดีกับเทาเท่ ก็รีบแต่งละมีหลานชายอ้วนๆให้ฉัน ฉันก็ไม่คิดอะไรแล้ว”

ซูซียิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อย

วีนาพูดอีกว่า:“ดึกแล้ว เดี๋ยวต้องไปพักผ่อนก่อน เธออยู่เล่นกับพินอินละกัน”

วีนาขึ้นไป พินอินเก็บโทรศัพท์แล้วพูดเสียงเบากับซูซี:“หลินจือนั่น มีพี่ชายที่ไม่เอาการเอางาน กับพ่อที่ติดการพนันไม่ใช่เหรอ?”

“ทำไมเธอต้องจัดการยัยนั่นเองล่ะ?ให้พวกเขาสองคนไปก่อกวนหลินจือก็พอแล้วนี่?”

“พวกเขาสองคนวุ่นวายขึ้นมา ก็เพียงพอที่จะให้หลินจือได้รับผลกระทบไปด้วย ถึงตอนนั้นเธอยังจะมีความคิดอยากไปอ่อยพี่ชายฉันอีกที่ไหนกัน”

พินอินรู้ดีว่าพ่อกับพี่ชายของหลินจือหน้าด้านและก่อความวุ่นวาย ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เขาสองคนก่อความวุ่นวาย คุณท่านอาจไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของหลินจือ

ซูซีเงยมองไปที่พินอินอย่างตกใจ เธอคิดไม่ถึงว่าพินอินจะมีเจตนาแบบนี้

พินอินไม่พูดถึงเรื่องนี้ซูซีก็ลืมไปแล้ว เธอคลายคิ้วออกมาอย่างโล่งอก:“พินอิน มีเธออยู่ช่างดีเสียจริง”

พินอินพูดอีกว่า:“ครั้งนี้พวกเราไม่ต้องเสนอหน้า หาเบอร์ที่ไม่ลงทะเบียนส่งข้อความให้พวกเขา บอกที่อยู่หลินจือแก่พวกเขาตอนนี้”

“ที่เหลือก็รอพวกเขาทะเลาะกัน”พินอินพูดจบก็ยิ้มอย่างพอใจและร้ายกาจ

ซูซีพยักหน้ารับคำแนะนำของพินอิน:“ความคิดนี้ดีมาก!พินอิน ขอบคุณที่ช่วยฉัน”

พินอินนอนบนโซฟาอีกครั้ง:“นี่ ถึงตอนนั้นเธอแต่งกับพี่ชายฉันแล้ว ต้องช่วยฉันพูดอะไรน่าฟังด้วยนะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว”ถึงซูซีจะพูดแบบนี้ แต่ในใจกลับรังเกียจพินอินอย่างมาก

ถึงตอนนั้นเธอแต่งเข้าไปจริงๆ อย่างแรกคือให้เทาเท่ส่งพินอินไปต่างประเทศ พินอินจะได้ไม่ทำให้เกิดเรื่องน่าอาย