ถึงแม้ไม่เข้าใจว่าใบหน้าเย็นชาแปลกๆของเทาเท่นั้นเป็นเพราะอะไร แต่พอเขาไปแล้ว หลินจือก็รู้สึกว่าโลกนั้นปลอดโปร่ง
“นิสัยอย่างประธานเทาเท่นี้……”เจเทาวน์ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ คำพูดจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
“นิสัยของคนรวย”หลินจือวิจารณ์อย่างไม่เกรงใจ
เจเทาวน์หัวเราะออกมา:“คุณวิจารณ์ได้เฉียบคมมาก”
เพราะว่ามีอำนาจ ดังนั้นจึงหยิ่งยโสมากถึงขนาดมองทุกอย่างไม่อยู่ในสายตา
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ความสามารถของเทาเท่โดดเด่นมาก หลายปีมานี้ฟอเรนากรุ๊ปอยู่ในมือเขาก็พัฒนาได้อย่างแข็งแกร่งด้วยความรวดเร็ว
ฟอเรนาเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นบริษัทที่เทาเท่ก่อตั้งขึ้นเฉยๆ ตอนนี้ก็กลายเป็นหัวหน้าใหญ่ของวงการบันเทิงเมืองเจสเวิร์ด
ดังนั้น เทาเท่จึงมีคุณสมบัติที่จะไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
แต่ว่า ถ้าในเรื่องความรักยังทำแบบนี้ ก็กลัวว่าจะเจอเรื่องที่ทำให้ล้มเหลวได้
แน่นอนว่า ถ้าผู้หญิงที่เขารักไม่แคร์สภาพเขาแบบนี้ เขาก็สามารถมีความสุขได้อย่างสมบูรณ์
*
ตอนอาหารค่ำ คุณท่านตระกูลฟอเรนาเพิ่งทานข้าว ด้านนอกประตูก็มีเสียงเครื่องยนต์รถเข้ามา
พ่อบ้านชะโงกหน้ามอง:“เหมือนจะเป็นเทาเท่”
คุณท่านตระกูลฟอเรนายกมุมปากเล็กน้อย จากนั้นส่งเสียงฮึดฮัด:“กระสับกระส่ายแบบนี้ ไม่เหมือนเขาเลย”
พ่อบ้านพูดยิ้มๆ:“นั่นเพราะแผนของคุณดี”
คุณท่านตระกูลฟอเรนายิ้มอย่างภูมิใจ จากนั้นนั่งตัวตรงรอให้เทาเท่เข้ามา
เทาเท่เข้ามาแล้วก็ไม่เกรงใจสักนิด ล้างมือแล้วนั่งลงตรงข้ามคุณท่าน
คุณท่านพูดอย่างไม่ต้อนรับนัก:“ไม่ใช่วันหยุดนี่ คนยุ่งอย่างแกมาได้ด้วยเหรอ”
แน่นอนว่าเทาเท่ฟังคำเยาะเย้ยในคำพูดของคุณท่านออก จึงตอบอย่างไม่แคร์ว่า:“นานแล้วที่ไม่ได้มาเยี่ยมปู่ วันนี้ผมว่างพอดี”
คุณท่านดื่มซุปอย่างสบายๆ:“ยากที่จะว่างแบบนี้ ทำไมไม่รีบไปเดทกับสาวสาวซูซีของแกล่ะ มาดูคนแก่อย่างฉันทำไม”
เทาเท่ยังไม่พูดอะไร จู่ๆคุณท่านก็ชักสีหน้าแล้วพูดอย่างโมโห:“ฉันได้ยินว่าซูซีทำอะไรกับหลินจือ ฉันเตือนแกนะ ครั้งนี้เห็นแก่หน้าของแกฉันเลยไม่ไปจัดการเธอ ครั้งหน้าถ้าเธอทำเรื่องมากเกินไปแบบนี้อีก ฉันจะไปคุยกับเธอ ไม่ได้ก็จะหาคนไปล่วงละเมิดเธอ”
เทาเท่เงยมองไปที่คุณท่าน สายตาหม่นลง
คุณท่านรู้เรื่องพวกนี้ได้ไง?
หรือข้างกายเขาจะมีคุณท่านสายลับที่ส่งมา?
คุณท่านส่งเสียงฮึดฮัด:“จ้องฉันทำไม?ซูซีทำเรื่องแบบนี้ บอกได้แค่ว่าเป็นปัญหาที่ชัดเจนว่า แกเป็นผู้ชายได้ล้มเหลวมาก ชักจูงผู้หญิงของแกไม่ได้!”
เทาเท่ก้มหน้าลง:“ใครบอกเธอเป็นผู้หญิงของผมล่ะ?”
คุณท่านตกใจ:“ไม่ใช่ผู้หญิงของแก?ไม่เคยนอนด้วยเหรอไง?”
คุณท่านบ่น:“งั้นแกก็ล้มเหลวมากไปแล้ว ปล่อยดาราคนดังที่สวยงามแบบนี้ไปโดยไม่นอนด้วย มีเรื่องในใจที่พูดยากอะไรเหรอ?”
คุณท่านต่อว่าเทาเท่อย่างไม่เกรงใจ แม้แต่คำพูดว่าเรื่องในใจที่พูดยากยังพูดออกมาได้
พ่อบ้านไอเบาๆด้านหลังคุณท่าน บอกเป็นนัยว่าให้คุณท่านระวังหน่อย มีที่ไหนกันที่บ่นหลานชายว่าด้านความเป็นชายใช้งานไม่ได้?
ยังอยากให้ตระกูลฟอเรนาของพวกเขาสืบทอดเชื้อสายหรือเปล่า?
คุณท่านเข้าใจทันที จากนั้นพูดอีกว่า:“คงจะไม่มีเรื่องอะไรที่พูดออกมายากสินะ น่าจะแค่ชอบใครสักคนที่นำความรู้สึกมาให้เขาเท่านั้น”
คุณท่านถอนหายใจอย่างแผ่วเบา:“แค่เสียดายน่ะ ชอบอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ได้มา”
คุณท่านพูดเสียหายต่อเทาเท่ทีละคำๆ อย่างไม่คำนึงถึงความรู้สึก
เผชิญหน้ากับคำต่อว่าของคุณท่านที่รุนแรง เทาเท่ไม่หงุดหงิดสักนิด
เขากินอย่างสง่างาม หลังจากคุณท่านกินเสร็จจึงพูดนิ่งๆ:“ผมมีคำแนะนำ”
คุณท่านไม่เข้าใจ:“คำแนะนำอะไร?”
เทาเท่พูดอย่างสบายๆ:“ผมแนะนำให้ปู่จัดทอล์กโชว์ ปู่พูดคนเดียวได้นานมาก จะต้องไม่มีที่นั่งว่างแน่”
คุณท่านก็โกรธจ้องตาเขม็งทันที เจ้าหมอนี่กำลังกล่าวหาเขา!
จึงดื่มซุปเพื่อบรรเทาอาการโกรธ เขาพูดไปตรงๆอย่างอารมณ์เสีย:“มาหาฉันทำไม?”
เทาเท่จึงพูดว่า:“ปู่นัดบอดให้หลินจือ จะให้ผมเอาหน้าไปไว้ไหน?”
คุณท่านไม่เกรงใจสักนิด:“แกอยากเอาไว้ไหนก็ไว้ตรงนั้นสิ”
เทาเท่ปวดหัวเล็กน้อย
คุณท่านหัวเราะอย่างเย็นชาอีกครั้ง:“รู้สึกเสียหน้า?”
“งั้นไปใส่ใจพินอินให้ดีกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ พูดถึงเสียหน้า นอกจากเธอก็ไม่มีใครแล้วที่เสียหน้า”
“เปลี่ยนแฟนได้ทั้งวัน เป็นผู้หญิง แต่ไม่รักนวลสงวนตัวเลย”
“เดิมทีฉันอยากหาคนดีๆให้เธอ ตอนนี้ฉันอับอายเหลือเกินที่พูดถึงเธอ ฉันเนี่ยแหละที่ไม่รู้จะเอาหน้าแก่ๆนี้ไปไว้ไหน”
“ถ้าเธอยังทำเรื่องฉาวอย่างท้องก่อนแต่งแล้วไปเอาเด็กออกอีก ฉันว่าฉันจะไล่เธอออกจากตระกูลแล้ว!”
หนึ่งปีก่อนใบตั้งท้องของซูซีนั้น ที่จริงใช้ผลอัลตราซาวนด์ของพินอินมาแต่งเอา พินอินตั้งท้องอย่างไม่ระวัง จึงได้แต่แอบไปเอาออกที่โรงพยาบาล
ซูซีไปกับเธอ ทั้งสองร่วมมือกัน ตัดสินใจใช้ผลอัลตราซาวนด์นี้มายั่วยุหลินจือ
แน่นอนว่า เรื่องนี้มีแค่ซูซีกับพินอินสองคนที่รู้
แต่หลินจือกลับรู้ แต่ว่าเธอไม่ได้บอกต่อหน้าเทาเท่ ดังนั้นตระกูลฟอเรนาคนอื่นๆจึงไม่รู้
เทาเท่พูดอย่างไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองอีกครั้ง:“ผมใส่ใจเธอไม่ไหว”
และไม่อยากใส่ใจ
อะไรที่ควรพูดเขาก็บอกพินอินจนเหนื่อยไปหมดแล้ว แต่เธอยังทำตามใจตัวเอง เปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาจะทำอะไรได้?
คุณท่านโกรธจัด:“ใส่ใจน้องสาวแท้ๆของตัวเองไม่ได้ แต่ใส่ใจภรรยาเก่าตัวเองได้?ใส่ใจปู่ตัวเองได้?”
เทาเท่:“……”
วาทศิลป์ของคุณท่านไม่ธรรมดาเลย ทำเอาเทาเท่กระอักกระอ่วนจนพูดไม่ออก
ภายใต้ความหมดหนทางเขาได้แต่พูดแทนไปว่า:“งั้นก่อนที่ปู่แนะนำแฟนให้หลินจือ ควรถามความเต็มใจเธอก่อนไหม?”
“ถ้าเธอไม่ยินยอม แต่ปู่จะแนะนำให้เธอให้ได้ นั่นไม่ได้เป็นการบีบบังคับให้เธอลำบากใจเหรอ?”
เทาเท่มั่นใจว่าหลินจือไม่เต็มใจที่คุณท่านจัดหาให้ แต่เธอเป็นคนใจอ่อน คุณท่านยืนหยัดไปเธอก็ไม่ปฏิเสธแน่
คุณท่านพูดไปเลยว่า:“เธอยินยอมอยู่แล้ว ยังไงก็ยินยอม”
เทาเท่มองคุณท่านเงียบๆอยู่พักหนึ่ง จากนั้นพูดอย่างเฉียบขาดว่า:“ปู่ไม่จำเป็นต้องยั่วยุผม แบบนี้จะเป็นการทรมานเธอ”
“ใครยั่วยุแก?ฉันจะยั่วยุแกทำไม?แกไม่รักเธอนี่”คุณท่านตะโกนไปอย่างปากแข็ง
โอเค เขายอมรับ สาเหตุส่วนหนึ่งก็เพื่อยั่วยุหลานชายตัวเอง แต่สาเหตุอีกส่วนหนึ่งก็หวังว่าหลินจือจะมีที่พึ่งพิงที่ดีได้จริงๆ
แน่นอนว่า ถ้าสามารถคบกับหลานชายเขาได้อีก ทั้งสองฝ่ายรักกันดีและรักกันมาก แบบนั้นก็คงดี
“ไม่ได้ยั่วยุผมก็ดี”เทาเท่มองคุณท่านอย่างมีความหมาย จากนั้นพูดอีกว่า“กินข้าวเถอะ ไม่งั้นเย็นหมด”
เขาพูดจบก็หยิบตะเกียบมาชิมอาหารอร่อยทั้งโต๊ะ กินอย่างดื่มด่ำไปทีละคำ
คุณท่านไม่พอใจอย่างมากกับท่าทางนิ่งๆไม่สะทกสะท้านของเขาแบบนี้ จึงโกรธจนกินไปไม่กี่คำ
ของอร่อยเต็มโต๊ะนั้น เดิมทีเขาเตรียมไว้ให้ตัวเอง สุดท้ายก็เข้าท้องหมอนี่ไปหมด
เล่นสงครามจิตวิทยากับหลานชายอย่างเขานี้ เขารู้สึกว่าแรงกายกับใจไปด้วยกันไม่ได้นัก