ตอนที่ 260 นางโดนหลอก

เมื่อได้ยินแบบนี้ซูหวานหว่านก็ตะลึงงันลงไปครู่หนึ่ง นางไม่คิดว่าฉีเฉิงเฟิงจะอวดดีได้ขนาด พูดออกมาได้อย่างไรว่าต้องการตัวนาง! หญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าฉีเฉิงเฟิงเป็นสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์ และตอนนี้อีกฝ่ายก็ไม่สามารถซ่อนตัวตนที่แท้จริงของตนเองได้อีกต่อไป!

เหตุใดตอนนั้นนางถึงตกหลุมรักเขาได้กันนะ ซูหวานหว่านเอ่ยตำหนิตนเองอยู่ภายในใจ ก่อนจะพูดออกมาว่า “ไล่ให้เขาออกไปซะ! ข้าไม่ตอบตกลง!”

“อ่า…ข้าน้อยยังพูดไม่จบเจ้าค่ะ!” คนรับใช้คนนั้นลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “เมื่อครู่ผู้ติดตามขององค์ชายสามบอกกับข้าว่า องค์ชายจะมอบสูตรนั้นกับท่านก็ได้ แต่องค์ชายขอให้ท่านไปพบเขาในเช้าวันวันรุ่งขึ้นที่ภูเขาเหวิน”

ภูเขาเหวินคือสถานที่ใด ซูหวานหว่านไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่นางรู้สึกว่ามันไม่ใช่สถานที่ดีแน่ ๆ แต่เพื่อสูตรนั้น นางจะไปที่นั่น!

หากแต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเข้าใจผิด ซูหวานหว่านจึงมองไปที่คนใช้คนนั้น “ไปบอกพ่อบ้าน พรุ่งนี้ข้าจะหางานใหม่ให้กับเจ้า! แค่ส่งข่าวยังทำให้ดีไม่ได้เลย!”

“เจ้าค่ะ” คนรับใช้ก้มศีรษะลง เก็บซ่อนแววตาแฝงไปด้วยความชั่วร้ายเอาไว้ ปากเอ่ยพูด “งั้นข้าน้อยขอตัวก่อน”

ซูหวานหว่านพยายามควบคุมสติอารมณ์ตัวเอง และเดินกลับไปยังห้องนอนของตน หญิงสาวนำนกออกมาจากมิติฟาร์มเพื่อไปสอบถามเกี่ยวกับภูเขาภูเขาเหวิน ไม่นานนักนกก็บินกลับมาส่งข่าว ทำให้รับรู้ภูเขาเหวินนั้นเป็นสถานที่แบบไหน ภูเขาเหวินตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองหลวง ห่างออกไปประมาณสามลี้ ภูเขาเหวินเป็นสถานที่อบอุ่น มีน้ำพุร้อนอยู่สองแห่ง คนมีฐานะมักจะไปเที่ยวพักผ่อนที่นั่น บ่อน้ำพุร้อนที่มักจะเต็มไปด้วยผู้คนในช่วงฤดูหนาว สถานที่แห่งนี้จึงเหมาะแก่การพักผ่อน

ทำไมฉีเฉิงเฟิงถึงนัดนางไปยังสถานที่แบบนั้น? ซูหวานหว่านไม่อาจเข้าใจได้ และคิดว่าฉีเฉิงเฟิงยังดักรอนางอยู่ที่ประตูบ้าน จึงตัดสินใจที่จะเดินออกไปถามเขา ใครจะไปรู้ในขณะที่เดินออกไป นางจะได้พบกับคนรับใช้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอีกฝ่ายก็พลันก้มหน้าลงและรีบเดินเข้ามาพูดว่า “วันนี้ข้าน้อยเห็นองค์ชายสามนั่งรออยู่ที่ประตูหน้าบ้าน ข้าคิดว่าองค์ชายจะนั่งอยู่นานไม่ลุกไปไหนเสียอีก! แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะออกไปแล้ว! หึ!”

เขาไปแล้วงั้นเหรอ? ซูหวานหว่านหันหลังเดินกลับไปที่ลานบ้าน

อย่างที่ทุกคนรู้ ในตอนนี้ฉีเฉิงเฟิงยังคงนั่งรอหญิงสาวอยู่หน้าประตูหน้าบ้านเช่นเดิม และมีผู้ติดตามของนั่งเฝ้าอยู่ด้านข้าง ชายหนุ่มนอนเอนหลังอย่างสบายใจ พร้อมกับกำชับคนอื่นว่า “ถ้าพวกเจ้าเห็นคุณหนูใหญ่ออกมาเมื่อไร ให้รีบบอกข้า”

ทั้งภายในบ้านและภายนอกบ้านต่างมีบรรยากาศอึมครึม

เช้าวันรุ่งขึ้น ซูหวานหว่านก็ได้ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ และได้สั่งให้คนใช้ไปเตรียมรถม้า ส่วนนางก็ได้ต้มยาจีนให้แม่จ้าวขณะที่รอคนใช้นำรถม้ามา เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จนางก็เตรียมขึ้นรถม้าไปยังภูเขาเหวินทันที

รถม้าจอดรอซูหวานหว่านอยู่ที่ประตูหลังบ้าน เมื่อหญิงสาวขึ้นรถเรียบร้อยแล้วรถม้าก็เคลื่อนตัวทันที

เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม ซูหวานหว่านก็เดินทางมาถึงภูเขาเหวิน พลันเห็นคนใช้ในชุดเสื้อคลุมตัวยืนตัวสั่นรับลมฤดูใบไม้ร่วง เมื่อเห็นซูหวานหว่านก็รีบเดินเข้ามาและเอ่ยอย่างนอมน้อมว่า “ท่านคือคุณหนูใหญ่ตระกูลจ้าวใช่หรือไม่?”

“เจ้าค่ะ” สาวใช้ผู้ติดตามของซูหวานหว่านตอบแทน แล้วคนใช้คนนั้นก็นำเดินซูหวานหว่านและสาวใช้เข้าไปยังห้องแห่งหนึ่ง

หากแต่ยิ่งเดินเข้าไปซูหวานหว่านก็เริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาเรื่อย ๆ แม้แต่ความชื้นและอุณหภูมิก็ดูเหมือนว่าจะสูงกว่าข้างนอกมาก คนใช้คนนั้นพานางมาถึงห้องหนึ่ง หลังจากเปิดประตูออกมา นางก็ถอดรองเท้าแล้วเดินพาซูหวานหว่านเข้าไปในห้องขนาดใหญ่ข้างใน

ภายในห้องเต็มไปด้วยหมอกสีขาว กลิ่นหอมของดอกไม้จันทน์ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว นี่คงเป็นห้องแช่น้ำพุร้อนส่วนตัว

“คุณหนูใหญ่มาถึงแล้วเจ้าค่ะ” คนใช้เอ่ยแล้วถอยออกหลังออกไป

แต่ซูหวานหว่านกลับไม่เห็นผู้ใดอยู่ภายในห้องนั้นเลย ในขณะที่กำลังยืนสงสัย น้ำพุร้อนก็สาดกระเซ็นออกมา นางเห็นหัวคนสองหัวปรากฏขึ้นบนมาผิวน้ำ เป็นหัวของชายและหญิง!

ชายคนนั้นนั่งหันหลังให้กับซูหวานหว่าน ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นใบหน้าของชายคนนั้นอย่างชัดเจน แต่ซูหวานหว่านรู้สึกมั่นใจว่าเขาคือฉีเฉิงเฟิง! ส่วนหญิงสาวอีกคนส่งเสียงหัวเราะคิกคัก และกำลังจะกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของฉีเฉิงเฟิง แต่เมื่อเห็นซูหวานหว่านนางก็รีบยกมือปกปิดใบหน้าทันที “ตายแล้ว! ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก! ทาสคนนี้ถูกคนอื่นเห็นแล้ว! ข้าจะกล้าสู้หน้าคนอื่นต่อไปได้อย่างไรกัน!”

“อย่าได้กลัวไปเลย ข้าคนนี้จะโอบอุ้มเจ้าเอาไว้เอง เจ้าเองก็พักอยู่ในภูเขาเหวินนี่ ข้าจะแวะมาหาเจ้าทุกครั้งที่ข้ามีเวลา”

“คุณหนู!” สาวใช้ผู้ติดตามที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กล่าวออกมาว่า “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าองค์ชายสามจะเป็นคนแบบนี้! เมื่อวานองค์ชายยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่หักหลังทรยศท่าน แต่วันนี้กลับมาอยู่กับหญิงคนอื่นได้! คุณหนูอย่าไปยุ่งกับเขาเลย!”

“มันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว ข้าจะไปชอบคนประเภทนั้นได้อย่างไรกัน” ซูหวานหว่านจึงเอ่ยออกมาว่า “ฉีเฉิงเฟิง ข้าแค่ต้องการสูตรลับของอวี้ลู่เกาเท่านั้น! เจ้าจงเอาสูตรมาให้ข้า แล้วข้าจะออกไปจากที่นี่ ไม่อยู่ขัดขวางเจ้าอีกต่อไป!”

“ทำไมคุณหนูใหญ่ตระกูลจ้าวจึงรีบร้อนเช่นนี้ น้องสามของข้าคงทำให้เจ้ารำคาญมากจริง ๆ เจ้าคงจะเกลียดเขามากเลยสินะ” ชายคนนั้นพูดออกมา พร้อมกับกอดหญิงสาวคนนั้นเอาไว้แล้วหมุนตัวกลับมา ทันทีที่เห็นใบหน้าของเขาซูหวานหว่านก็ตกใจทันที ชายคนนี้ไม่ใช่ฉีเฉิงเฟิง หากแต่เป็นฉีเต๋อหลง!

เมื่อนึกถึงเสื้อผ้าหลวม ๆ ที่คนใช้คนนั้นสวมใส่เมื่อวันก่อน เห็นได้ชัดว่าขนาดของเสื้อมันใหญ่เกินไปสองขนาด คนใช้ในตระกูลของนางจะสั่งตัดเสื้อผ้าใส่ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป คนใช้คนนั้นไม่ได้เป็นคนใช้ในบ้านของนาง ซูหวานหว่านรู้ตัวขึ้นมาทันทีว่าตัวเองกำลังถูกฉีเต๋อหลงหลอกเข้าให้แล้ว!

ซูหวานหว่านไม่รู้ว่าฉีเต๋อหลงมีจุดประสงค์คืออะไร หญิงสาวจึงเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาว่า “องค์ชายรอง ท่านอย่าได้มาสร้างปัญหา!”

“ตระกูลจ้าวของพวกเจ้าช่างเป็นตระกูลที่หลอกลวงคนอื่นได้ดีจริง ๆ!” ฉีเต๋อหลงยกยิ้มและกล่าวออกมาอีกว่า “คนหนึ่งชอบอำนาจ อีกคนหนึ่งก็ชอบเงิน ตระกูลของเจ้ามันไม่ได้มีดีอะไรเลย”

ฉีเต๋อหลงกำลังเอ่ยวาจาถากถางเฉียวหน่วนอวี้ใช่ไหม? แต่ว่านางไม่ได้ชอบ ‘เงิน’ เช่นนี้แล้วเลยทำให้ซูหวานหว่านรู้สึกเกลียดฉีเต๋อหลงมากขึ้นไปอีก “องค์ชายรอง ข้าอยากจะถามท่านอย่างหนึ่งว่า ท่านมีสูตรอวี้ลู่เกาหรือไม่!”

“โถ่ ในเมื่อเจ้าว่าข้าโกหกเจ้าให้มา ณ ที่แห่งนี้ แล้วเหตุใดเจ้าถึงยังถามคำถามนี่กับข้าอยู่อีก?” ฉีเต๋อหลงตอบ พร้อมกับตักน้ำอุ่นขึ้นมาแล้วสาดใส่ตัวของซูหวานหว่านพร้อมพูดออกมาว่า “คุณหนูใหญ่ตระกูลจ้าว ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่แล้วก็มาเล่นสนุกด้วยกันสิ! การมาที่นี่ของเจ้าจะได้ไม่เสียเปล่า”

ฉีเต๋อหลงกำลังหมายความว่าเขาไม่มีสูตรอวี้ลู่เกาตั้งแต่แรกงั้นเหรอ แล้วเขายังต้องการตัวของนางอีก! ช่างหน้าด้านเสียจริง! ซูหวานหว่านจึงเอ่ยออกมาด้วยรน้ำเสียงเย็นชาว่า “ขอบคุณสำหรับความประสงค์ดีขององค์ชายรอง ทว่าถ้าข้าไม่ออกไปในตอนนี้ ข้าคงจะละอายใจมากที่รบกวนเวลาส่วนตัวขององค์ชาย”

หลังจากพูดจบ ซูหวานหว่านก็ยกเท้าเตรียมหันหลังกลับไป สาวใช้ผู้ติดตามก็เดินตามออกไปด้วย แต่ยังเดินไม่ทันถึงประตูก็มีองครักษ์ร่างสูงกำยำสองสามคน เดินเข้ามาใกล้พวกนางและใช้ดาบขวางเอาไว้

“เจ้าคิดว่ามาถึงที่นี่แล้วจะเดินออกไปได้อย่างง่าย ๆ อย่างงั้นหรือ?” ฉีเต๋อหลงหัวเราะออกมา และหญิงสาวที่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนก็ไม่ได้ตกใจอะไร นางยังคงคลอเคลียเกาะแขนของฉีเต๋อหลงแล้วพูดว่า “องค์ชายรอง นางขี้เหร่จะตาย ท่านคงไม่ได้ชอบนางใช่ไหม?”

กล้าถามออกมาได้อย่างไรว่าเขาชอบหญิงขี้เหร่ สีหน้าของฉีเต๋อหลงพลันเปลี่ยนสี และเขาก็ไล่สาวใช้คนนั้นออกไปอย่างเย็นชา ทำให้นางจ้องมองไปที่ซูหวานหว่านด้วยความแค้น ก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจ

ภายในพริบตาเดียวซูหวานหว่านก็พบว่าร่างกายของตนกำลังรู้สึกแปลกไป!

นางรู้สึกอยากจะเปลือยกายท่ามกลางน้ำพุร้อน และนางก็รู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้!

ซูหวานหว่านรู้สึกร้อนวูบไปทั่วท้องของนาง เหมือนกับว่านางได้กินยาปลุกกำหนัดเข้าไปอย่างไรอย่างงั้น! ดวงตาของซูหวานหว่านก็ค่อย ๆ พร่าเบลอ จู่ ๆ นางก็พบว่าความร้อนแรงนั้นได้รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งนี้มันทำให้นางอดตกใจไม่ได้ นางไม่ได้อยากทำแบบนั้นแต่ว่าทำไมร่างกายของนางมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ได้อย่างไงกัน?

เมื่อเห็นเหงื่อที่ผุดขึ้นตามหน้าผากของซูหวานหว่าน ฉีเต๋อหลงก็กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “ซูหวานหว่าน ตั้งแต่ที่เจ้าก้าวเข้ามา ในห้องนี้ก็ปกคลุมไปด้วยควันของยาปลุกกำหนัด มันทำให้ตอนนี้เจ้ารู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งตัว และขาของเจ้าคงจะกำลังอ่อนแรงลง เจ้ายังคิดว่าตัวเองจะหนีจากข้าไปได้อีกอย่างงั้นหรือ?”

พอพูดจบ ดวงตาของฉีเต๋อหลงก็เปล่งประกายขึ้นมา “ใครก็ได้! เข้ามาชำระร่างกายของนางที แล้วพานางโยนลงมาให้ข้า!”