ตอนที่ 789 เทพแห่งความตายที่มองไม่เห็น

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

โลกระบบย่อยการป้องกันที่สอง

แสงเตือนสงครามขนาดใหญ่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก สะท้อนท้องนภาให้เป็นสีชาด

เพราะทั่วโลกอยู่ในสภาพสงคราม เสียงแจ้งเตือนจึงไม่หยุดดัง

ถึงแม้เสียงการแจ้งเตือนเหล่านี้จะดังและรุนแรง แต่มันถูกทำให้เสถียรด้วยเสียงแทะที่ละเอียดอ่อนและหนักอึ้ง

มันคือเสียงสัตว์ประหลาดกำลังกัดแทะ

สัตว์ประหลาดบรรพกาลยังคงรุดหน้าเข้าสู่สมรภูมิ

ทั่วโลกหายไปสองถึงสามส่วน จุดป้องกันหลักของโลกยังไม่ถูกพิชิต

นี่คือการต่อสู้อันยาวนานและยากลำบาก

โชคยังดี สัตว์ประหลาดบรรพกาลมีประสบการณ์ในเรื่องนี้สูง บ้างโจมตี บ้างป้องกัน บ้างเคลื่อนไหวอย่างสงบและเป็นระเบียบยามต่อสู้ ไม่แสดงความหงุดหงิดแต่ใดๆ

ผู้ปกครองโลกบรรพกาลและสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ปรากฏตัวในสมรภูมิ

พวกมันทั้งหมดรวมตัวที่ด้านหลังขณะรอช่วงเวลาการต่อสู้อันดุเดือดอย่างเงียบงัน

พวกมันทำลายระบบย่อยไปหนึ่งหมื่นแปดพันแปดร้อยดวงแล้ว มีโลกหกร้อยสี่สิบเจ็ดแห่งที่มีสภาพคล้ายกับระบบย่อยการป้องกันที่สอง

แสดงว่าสัตว์ประหลาดรู้ว่าจะชนะอย่างไรโดยที่ตัวเองสูญเสียน้อยที่สุด

พวกมันเพียงต้องทำตามวิธีที่เคยสำรวจแบบเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อบรรลุสู่ชัยชนะในตอนท้าย

แต่พวกมันไม่รู้ว่าเหนือศีรษะนั้น มีคนผู้หนึ่งกำลังจับตาดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อย่างเงียบงัน

กู่ฉิงซานนั่นเอง

เขาเพิ่งมาถึงโลกนี้ในสภาพล่องหน

“โลกทางฝั่งเทคโนโลยี…ออกจะแปลกไปเสียหน่อย…”

กู่ฉิงซานมองนักสู้กำลังสู้กับสัตว์ประหลาดขณะพึมพำเช่นนั้น

เขาไม่มั่นใจอยู่พักหนึ่งก่อนจะเหาะลงไปยังใจกลางสมรภูมิ

ตอนนี้ สัตว์ประหลาดบรรพกาลหลายสิบตัวรุมเข้าใส่นักสู้เกราะสูงห้าเมตรที่กองอยู่บนพื้นก่อนกัดอย่างบ้าคลั่ง

นักสู้เกราะส่งการโจมตีด้วยคลื่นกระแทกอันน่าตกตะลึงออกไป สังหารสัตว์ประหลาดที่อยู่ใกล้ที่สุดลงได้

เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่มากขนาดนี้ มันไม่มีทางขัดขืนได้ ทำให้ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว

สัตว์ประหลาดพุ่งเข้าหานักสู้เกราะตัวต่อไป

ตอนนี้ กู่ฉิงซานเดินมายืนอยู่หน้าซากจักรกล

เขาตรวจสอบอย่างละเอียดสักพักก่อนหยิบมีดเยือกแข็งออกมาและตวัดลงไปตามชิ้นส่วนเครื่องจักรที่ได้รับความเสียหาย

‘ฉัวะ’

โลหิตไหลหลั่ง เนื้อเยื่อมัดกล้ามสีแดงสดใสถูกเฉือนออกมา

กู่ฉิงซานเก็บมีดก่อนพยักหน้าเล็กน้อย

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกว่าแปลกประหลาด

นี่ไม่ใช่เกราะเหล็กกล้าธรรมดา

มันคืออาวุธต่อสู้ที่ถูกสร้างจากอวัยวะสิ่งมีชีวิต ทั่วร่างประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อมากมายที่ยืนยันได้ว่าเป็นร่างมนุษย์ เมื่อได้รับความเสียหายมากเกินไป โลหิตจะไหลออกมา

กู่ฉิงซานเหาะขึ้นสู่ท้องนภาอีกครั้งขณะมองรอบข้าง

ทั่วดินแดนล้วนสร้างจากเหล็กกล้า แต่สิ่งปลูกสร้างจำนวนมากทั่วดินแดนถูกกลืนกินโดยสัตว์ประหลาดดุร้ายขนาดเล็กคล้ายมดบิน

ป้อมปืนบนสิ่งปลูกสร้างบางแห่งจะทำการโจมตีอันทรงพลังเพื่อกวาดล้างฝูงมดบินจำนวนมากเพียงไม่กี่ครั้ง

ตอนนี้ มดบินถอยทัพ สัตว์ประหลาดบรรพกาลทรงพลังอย่างงูสองปีกหกขาขึ้นมาสู่แนวหน้าก่อนทำลายป้อมปืนบนสิ่งปลูกสร้าง

หลังจากนั้น นักสู้เกราะจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นและเข้าสู่สมรภูมิเพื่อสู้กับศัตรู

สัตว์ประหลาดบรรพกาลบุกเข้ามาทันที

การต่อสู้เข้าสู่ช่วงการต่อสู้ระยะประชิดอย่างตึงเครียด

หลังจากต่อสู้กันสักพัก สัตว์ประหลาดบรรพกาลที่ได้เปรียบเรื่องจำนวนและพลังต่อสู้ยึดครองส่วนหนึ่งของดินแดนไปได้ก่อนรุดหน้าต่อ

เหตุการณ์นี้เกิดซ้ำไปมา พื้นที่ที่สัตว์ประหลาดยึดครองมากขึ้นเรื่อยๆ

กู่ฉิงซานมองฉากที่กำลังเกิดขึ้นในสมรภูมิ

นี่คือสิ่งที่เรียกว่าสงครามหรือ

เขาส่ายหน้า เบือนสายตาหนีแล้วมองมาที่หน้าต่างระบบเทพสงคราม

แถวข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าต่าง

“ระบบเทพสงครามเชื่อมต่อกับระบบป้องกันของโลกแล้ว”

“พบตำแหน่งลับของแกนป้องกันโลก”

“โปรดเคลื่อนที่ไปหนึ่งหมื่นสองพันกิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเตรียมยึดระบบป้องกันโลกใบนี้”

หลังจากอ่านข้อความนี้ กู่ฉิงซานอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เจ้าสามารถยึดระบบป้องกันของโลกนี้ได้หรือ”

‘ติ๊ง!’

ระบบเทพสงครามตอบว่า “ไม่ใช่ข้า ท่านต่างหาก ท่านคือเผ่าพันธุ์มนุษย์ แน่นอนว่ามีสิทธิ์ยึดระบบป้องกัน”

“อ้อ ข้าคิดว่าเจ้าจะมีพลังมากกว่านั้นเสียอีก” กู่ฉิงซานกล่าว

ระบบเทพสงครามเมินเขา

กู่ฉิงซานประเมินเวลาล่องหนอย่างละเอียดก่อนเหาะไปทางตะวันออกเฉียงใต้ทันที

ระบบเทพสงครามพลันกล่าวอีกครั้งว่า “ช้าก่อน”

“มีอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“เวลาล่องหนของท่านเหลือเฟือ เก็บรวบรวมพลังวิญญาณก่อนแล้วค่อยไปแกนป้องกัน” ระบบเทพสงครามกล่าว

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ข้าจัดการสัตว์ประหลาดระดับสูงไม่ได้นะ”

“ฆ่าพวกทหารก็พอ” ระบบเทพสงครามกล่าว

กู่ฉิงซานลังเลสักพักแล้วกล่าวทันทีว่า “เอาเถอะ เจ้าจับเวลาให้ข้า ถ้าเวลาใกล้หมดแล้วก็บอกด้วยละกัน”

“ได้” ระบบเทพสงครามกล่าว

กู่ฉิงซานเหาะเข้าสู่ใจกลางสมรภูมิก่อนง้างมีดเยือกแข็งในมือขึ้นมา

มีดส่องแสงทอประกาย

ทหารบรรพกาลถูกฟันขาดเป็นสองส่วน

แถวขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงครามทันที

“ท่านสังหารสัตว์หนามบรรพกาล ได้รับพลังวิญญาณสี่หมื่นแต้ม”

“ระบบทำการเก็บไว้สามหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบห้าแต้ม”

“ท่านเหลือพลังวิญญาณ: ยี่สิบเจ็ดส่วนหกร้อย”

กู่ฉิงซานชำเลืองมองอีกฝ่ายขณะถือมีดเยือกแข็งแล้วสังหารสัตว์ประหลาดตัวต่อไป

ทั่วสมรภูมิทอดยาวเกือบหนึ่งพันไมล์ มีการต่อสู้ดุเดือดทุกหนแห่ง นอกจากนี้ กู่ฉิงซานยังอยู่ในสภาพล่องหน เขาไม่สนใจที่จะส่งเสียงมากเกินไปขณะเปลี่ยนตำแหน่งเป็นครั้งคราว การต่อสู้ของเขาจึงไม่ดึงดูดเผ่าพันธุ์บรรพกาล

พลังวิญญาณเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

“พลังวิญญาณบวกหนึ่ง”

“พลังวิญญาณบวกสาม”

“พลังวิญญาณบวกห้า”

“พลังวิญญาณบวกเก้า”

กู่ฉิงซานทำการเก็บเกี่ยวชีวิตของสัตว์ประหลาดตลอดทาง แต่ในใจของเขายังเต็มไปด้วยความสงสัย

นี่เป็นครั้งแรกที่ระบบเทพสงครามแจ้งเตือนให้เขาเก็บรวบรวมพลังวิญญาณ

นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หรือว่าระบบเทพสงครามจ่ายพลังวิญญาณมากเกินไปจนถึงขั้นสาหัสจริงๆ

กู่ฉิงซานหรี่ตา

นี่มันไม่ถูก

ตอนอยู่ที่ใต้ดินของโลกเซินหวู่ ระบบเทพสงครามถามเขาว่าอยากกลับไปอดีตเพื่อหลีกเลี่ยงสภาวะความเป็นความตายหรือไม่

เป็นความจริงที่ระบบเทพสงครามไม่สามารถเดินทางผ่านมิติและเวลาได้ แต่แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น ระบบกลับไม่กล่าวถึงพลังวิญญาณเลย

ทำไมตอนนี้ระบบเทพสงครามถึงขอพลังวิญญาณล่ะ

กู่ฉิงซานครุ่นคิด มือยังคงขยับไปมา

เขากวัดแกว่งมีดอีกครั้งเพื่อสังหารสัตว์ประหลาดบรรพกาลตรงหน้า จากนั้นเปลี่ยนสถานที่เพื่อทำการสังหารสัตว์ประหลาดต่อ

ด้วยการจมดิ่งสู่ความคิด ความเร็วการสังหารสัตว์ประหลาดของกู่ฉิงซานยิ่งมายิ่งเร็ว

เพราะระบบต้องการพลังวิญญาณ ไม่ว่าจะเพื่อรักษาความเสียหายหรือจะเพื่อสิ่งอื่น กู่ฉิงซานก็ตัดสินใจที่จะช่วย

อย่างไรเสีย ระบบก็ไม่เคยปฏิบัติกับเขาแบบแย่ๆ มาก่อน

มีดเยือกแข็งเหมือนกับหิมะ มันปรากฏขึ้นและหายไปบนสมรภูมิเป็นครั้งคราว ทุกที่ที่มันผ่าน สัตว์ประหลาดจะถูกฟาดฟัน

ไม่มีสัตว์ประหลาดตัวไหนที่สามารถมองเห็นกู่ฉิงซานได้

ตอนนี้ เขาคือเทพแห่งความตายที่ล่องหนอยู่

ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว

เสียงเด่นชัดดังขึ้นมา

‘ติ๊ง!’

ระบบเทพสงครามกล่าวว่า “เอาล่ะ ท่านต้องใช้เวลาที่เหลือเพื่อมุ่งสู่แกนป้องกันโลกนี้”

กู่ฉิงซานหยุดมือ

เขามองหน้าต่างระบบเทพสงครามและมองค่าพลังวิญญาณประจำตัว

“พลังวิญญาณที่เหลือ: สามพันเก้าร้อยยี่สิบเจ็ดส่วนหกร้อย”

สำหรับเขา นี่ถือเป็นการเก็บเกี่ยวที่ดี

ส่วนระบบเทพสงคราม พลังวิญญาณที่ได้รับนั้นถือว่าเป็นจำนวนที่มาก อยู่ที่ราวสิบล้าน

พลังวิญญาณจำนวนนี้มากพอที่จะทำทุกสิ่ง

ต่อให้จะบาดเจ็บเพราะมอบพลังวิญญาณให้ก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเผชิญกับพลังวิญญาณที่มากขนาดนี้ คาดว่าอีกไม่ช้าก็คงหายดี

กู่ฉิงซานถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ระบบ ถ้ามีโอกาสล่องหนอีกในอนาคต พวกเรายังต้องฆ่าแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า”

“แน่นอน ข้าต้องการพลังวิญญาณอีก” ระบบเทพสงครามกล่าว

กู่ฉิงซานนิ่ง

“เอาเถอะ ข้าหวังว่าจะมีโอกาสได้รับพลังวิญญาณจำนวนมากอีกในภายหลัง”

กู่ฉิงซานกล่าวพร้อมรอยยิ้ม แต่ในใจค่อยๆ ดิ่งวูบ

………………………………