เฉินตงที่อยู่ด้านข้างอธิบาย“คุณหยางครับถึงแม้ตระกูลจ้าวจะเป็นผู้นำหลักของหกตระกูลใหญ่แต่ชอบความสันโดษครับไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกเจ้าบ้านเฉียนไปหาตระกูลจ้าวแล้วครับแต่ตระกูลจ้าวก็ปฏิเสธความร่วมมือในครั้งนี้ครับ”

ได้ยินดังนี้

หยางเฟิงก็รู้สึกอยากรู้เรื่องตระกูลจ้าวผู้ลี้ลับขึ้นมาในบัดดล

เขาถือถ้วยชาขึ้นมาดื่มหนึ่งคำ

จากนั้นก็หลับตาใช้ความคิด

เมื่อเห็นหยางเฟิงไม่พูดเฉินตงกับเฉียนหม่านถังก็เริ่มตึงเครียดขึ้นมา

ถ้าหยางเฟิงไม่ช่วยลำพังอำนาจความสามารถของพวกเขาก็ยากที่จะต่อต้านแก๊งฟ้าดิน

ถึงแม้แก๊งฟ้าดินจะแยกอำนาจมากว่าร้อยปีทว่าอูฐที่ผอมตายก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี

ยิ่งไปกว่านั้น

หลายปีมานี้แก๊งฟ้าดินฝึกฝนและสั่งสมกำลังมาโดยตลอดจึงยากจะที่วิเคราะห์กำลังที่แท้จริง!

หลังจากที่ดื่มชาหมดแก้วหยางเฟิงก็ปากเสียงเรียบ“ผมตกลงจะร่วมมือกับพวกคุณ!”

“ขอบคุณครับคุณหยาง”

เห็นหยางเฟิงรับปากเฉินตงกับเฉียนหม่านถังก็ปีติยินดีเป็นล้นพ้น

ไม่รอให้พวกเขาสองคนดีใจนานหยางเฟิงก็เอ่ยด้วยใบหน้าไร้อารมณ์“แต่…ผมมีเงื่อนไขหนึ่ง!”

เฉินตงกับเฉียนหม่านถังสบตากันถามด้วยความประหวั่น“ไม่ทราบว่าคุณหยางมีเงื่อนไขอะไรครับ?”

หยางเฟิงกล่าว“เงื่อนไขของผมง่ายมากพวกคุณต้องฟังคำสั่งจากผมโดยไม่มีข้อแม้!”

ซึ่งเฉินตงสวามิภักดิ์ต่อหยางเฟิงนานแล้ว

ส่วนเฉียนหม่านถังนั้นลังเลชั่วครู่

เมื่อเห็นดังนั้นเฉินตงก็รีบดึงเฉียนหม่านถังแล้วกล่าวว่า“คุณหยางครับพวกเราไม่มีปัญหาครับ!”

หยางเฟิงจึงจะกล่าวเสียงเรียบว่า“งั้นก็ถอยไปได้!”

“ครับคุณหยาง”

ทันทีที่พวกเขาออกไป

เสือขาวก็ถามด้วยความฉงนสนเท่ห์“ท่านแม่ทัพจะร่วมมือกับพวกเขาจริงๆเหรอครับ?ฉันว่าเฉียนหม่านถังแค่อยากใช้ท่านเป็นเครื่องมือ……”

หยางเฟิงยิ้มเนือยๆ“ฉันรู้ว่าเฉียนหม่านถังเป็นคนคดในข้องอในกระดูกแม้แต่หกตระกูลใหญ่ก็ไม่มีความจริงใจที่จะร่วมมือกับฉันแต่แล้วยังไงล่ะ?”

“พวกเรามาจินหลิงจำเป็นต้องมาคนให้ใช้งานเมื่อเฉียนหม่านถังมาหาถึงที่แล้วงั้นก็ใช้แก้ขัดไปก่อนถ้าพวกเขากล้าเล่นไม่ซื่อเมื่อไหร่การที่เรากำจัดพวกเขาก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยไม่ใช่เหรอ!”

“เสือขาวนายมุทะลุเกินไปแล้วต้องหัดใช้สมองบ้างต้องรู้จักยืมอำนาจคนอื่นมาใช้บ้าง”

ได้ยินดังนั้นเสือขาวก็ไม่พูดอะไรอีก

เขาทำงานรับใช้ท่านแม่ทัพอย่างเต็มที่ก็พอฝึกใช้สมองให้เหนื่อยทำไม?

……

เวลาเดียวกัน

สำนักงานใหญ่ของแก๊งฟ้าดิน

“บอสครับสายลับส่งข่าวมาว่าหยางเฟิงมาถึงจินหลิงแล้วครับจากนั้นเฉินตงหัวหน้าสำนักหงและผู้นำตระกูลเฉียนเฉียนหม่านถังไปหาหยางเฟิงที่โรงแรมครับทั้งสองฝ่ายคุยกันลับๆหนึ่งชั่วโมงกว่าครับ……”

เจ้าแก๊งฟ้าดินคนหนึ่งรายงานกับเฉินป้าเซียนอย่างมีสัมมาคารวะ

ได้ยินดังนั้นเฉินป้าเซียนก็หัวเราะเย็นแล้วไม่พูดอะไร

เฉ่าซือไห่รู้สึกร้อนรน

เขารีบยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า“บอสครับสำนักหงกับหกตระกูลใหญ่จะร่วมมือกับหยางเฟิงพวกเราต้องป้องกันนะครับพรุ่งนี้ก็ถึงวันงานประลองบู๊หากเกิดอะไรขึ้นก็จะแย่นะครับ”

เฉินป้าเซียนโบกมือ“ไม่เป็นไรฉันคาดเดาไว้แล้วรอให้พวกเรารวบรวมพลังนักบู๊ในภาคใต้เสร็จสิ่งแรกที่ทำตอนจัดการหกตระกูลใหญ่ตอนนี้หกตระกูลใหญ่ก็แค่สุนัขจนตรอกเท่านั้น”

“แต่ว่า……”

เฉ่าซือไห่ยังอยากพูดต่อทว่าถูกเฉินป้าเซียนตัดบท

“เฉ่าปิง”

เฉ่าปิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเฉ่าซือไห่แล้วนิ่งเงียบมาโดยตลอดเมื่อได้ยินเฉินป้าเซียนเรียกตนก็ชะงักไปชั่วขณะ

เฉ่าปิงเอ่ยด้วยความเหลือเชื่อ“ท่านบอสเรียกผมเหรอครับ?”

เฉินป้าเซียนยิ้มเอ่ย“ถูกต้องเฉ่าปิงฉันจะมอบภารกิจให้นายทำ”

เฉ่าปิงถามด้วยความตื่นเต้น“ไม่ทราบว่าบอสจะให้ผมทำอะไรครับ?”

เฉินป้าเซียนกล่าวว่า“นายไปที่หู้ไห่แล้วติดต่อสี่ตระกูลใหญ่ในหู้ไห่บอกพวกเขาว่าแก๊งฟ้าดินยินดีช่วยเหลือพวกเขาโค่นล้มสำนักหงจะให้พวกเขาเป็นอำนาจหลักของหู้ไห่!”