บทที่ 67 เขตทหารขอความช่วยเหลือ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ฉินเจิงหรงเห็นแบบนี้ การยั่วเย้าบนหน้ายิ่งเผยชัดเจน

“คุณปู่ ผมว่านะครับ เขากำลังหลอกลวงคนอื่น ถ้ามีความสามารถอยู่จริง ทำไมโดนผมว่าไม่กี่คำถึงไปแล้วล่ะ? นี่เห็นได้ชัดว่ากินปูนร้อนท้อง!”

ฉินเจิ้งถอนหายใจทีหนึ่ง มองหลานคนนี้ของตนเอง แล้วส่ายหน้าไม่เลิก “เจิงหรง แกผิดแล้ว นี่เขาไม่ใช่กินปูนร้อนท้อง แต่ว่าจิตใจหยิ่งยโส ไม่อยากถูกคนเข้าใจผิดแบบนี้!”

“ถ้าเป็นคนทั่วไปจริง จะรู้ได้ยังไงกันว่าเป็นเพราะฉันบำเพ็ญฌานด้วยวิธีที่ตกทอดมากจากตระกูลแล้ว ถึงทำให้อวัยวะภายในของตัวเองได้รับบาดเจ็บล่ะ?”

ฉินเจิงหรงตะลึงนิดหน่อย “หรือว่าเขาไม่ใช่คนต้มตุ๋น?”

“ย่อมไม่ใช่คนต้มตุ๋นแน่นอน แกนะ บุ่มบ่ามล่วงเกินคนอื่นเขาเกินไป หวังว่าพี่สาวแกจะโน้มน้าวเขากลับมาได้”

ฉินเจิ้งตอบกลับไปประโยคหนึ่ง ความจริงในใจค่อนข้างไม่ถือสาวิธีพูดของเย่เทียน

ที่เขาบำเพ็ญฌานคือวิธีที่ตกทอดของตระกูล บกพร่องอยู่หน่อยจริง จึงสร้างบาดแผลภายในให้เขาแล้ว

แต่คำพูดเย่เทียนเมื่อสักครู่ เขากลับไม่เชื่อ บาดเจ็บภายในเท่านั้น จะทำให้เขาตายได้อย่างไรกันล่ะ?

ในขณะเดียวกัน ฉินโล่หยินก็ตามเย่เทียนทัน ขวางเขาไว้แล้ว

“เย่เทียน คุณอย่าเพิ่งไป ฉันขอโทษคุณแทนน้องชายฉัน!”

เย่เทียนหยุดฝีเท้าลง มองทางเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะแล้ว “ไม่จำเป็นหรอก ฉันไม่ได้โกรธ!”

ฉินโล่หยินกลับไม่เชื่อ พูดอย่างค่อนข้างจำใจ “คุณอย่าน้อยใจขนาดนี้สิ น้องชายฉันนิสัยตรงไปตรงมาและพูดจาขวานผ่าซาก แต่ไหนแต่ไรพูดจาไม่ใช้สมอง ฉันเลี้ยงข้างคุณมื้อหนึ่ง ถือว่าเป็นการขอโทษยังไม่โอเคเหรอ?”

“ไม่ต้องจริงๆ”

เย่เทียนจำใจแล้ว สมัยนี้ พูดความจริงยังไม่มีใครเชื่อเลย

ฉินโล่หยินเห็นบนหน้าเขาไม่มีความโกรธอะไรจริงๆ ขณะเดียวกันในใจนิ่งสงบ อดกังวลขึ้นมาอยู่บ้างไม่ได้ จึงถามว่า “เย่เทียน เมื่อกี้ที่คุณพูดมา เป็นเรื่องจริงหรือว่าปลอม?”

“ย่อมเป็นเรื่องจริงแน่นอน โดยเฉพาะนี่ยังเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด! เธอกลับไปเกลี้ยกล่อมปู่เธอ ให้เขาล้มเลิกการบำเพ็ญฌานด้วยวิธีฝึกนี้เถอะ”

เย่เทียนบอกไป ความจริงในใจไม่ค่อยอยากพัวพันกับตระกูลฉินอีกแล้ว

เพราะเมื่อสักครู่ตอนที่ฉินเจิงหรงเอ่ยปากซักถามข้อสงสัยกับเขา นายท่านฉินก็ไม่ได้ห้ามปราม นี่อธิบายว่า ตัวฉินเจิ้งเอง ความจริงไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่เขาพูด

ในเมื่อไม่เชื่อกัน ทำไมเขาต้องเสียเวลามาทำเรื่องราวที่เหนื่อยเปล่านี้ด้วย?

“ร้ายแรงขนาดนี้จริงเหรอ? ความจริงฉันก็บำเพ็ญฌานด้วยวิธีการต่อสู้ที่ตกทอดจากตระกูลเหมือนกัน ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลย”

ในใจฉินโล่หยินยังไม่เชื่อคำพูดของเย่เทียนอยู่บ้าง

เย่เทียนยักไหล่ บอกว่า “ในเมื่อเธอไม่เชื่อ งั้นก็ช่างมันเถอะ!”

“อย่าสิ ฉันเชื่อคุณ งั้นคุณบอกมา มีวิธีอะไรสามารถแก้ไขได้ไหม?”

ฉินโล่หยินร้อนใจแล้ว รีบดึงแขนของเย่เทียนไว้

เย่เทียนขมวดคิ้วนิดหน่อย บอกว่า “ฉันเคยบอกแล้วไง นอกจากหยุดบำเพ็ญฌาน ไม่อย่างนั้นก็คือปรับปรุงวิธีฝึก”

หยุดบำเพ็ญฌาน? ปรับปรุงวิธีฝึก?

ฉินโล่หยินหัวเราะขมขื่นอยู่ในใจ ปู่ของเธอหลงใหลการต่อสู้มาโดยตลอด โดยเฉพาะกิจการขนาดใหญ่ของตระกูลฉิน คืออาศัยศิลปะการต่อสู้ที่ตกทอดของตระกูลสู้เอามา ปู่ของเธอไม่อาจหยุดได้

สำหรับการปรับปรุงวิธีฝึก นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย

เพราะวิธีการต่อสู้ส่วนหนึ่ง จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะการต่อสู้ ผนึกกับสิ่งที่เรียนมาทั้งชีวิต ถึงสร้างออกมาได้

การสร้างวิธีฝึกส่วนหนึ่ง ต้องสิ้นเปลืองสติปัญญาและกำลังจำนวนมาก บอกว่าแก้ก็แก้ได้เลยได้อย่างไรกัน?

จะว่าไป วิธีฝึกส่วนนี้ ใครสามารถแก้ได้?

ผู้แข็งแกร่งระดับดินหรือว่าผู้แข็งแกร่งระดับฟ้า?

ฉินโล่หยินลังเลครู่หนึ่ง ถามว่า “นอกจากพวกนี้แล้ว ยังมีทางเลือกที่สามอีกหรือเปล่า?”

เย่เทียนมองเธอท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนต่ออาการป่วยของปู่ตนเองจริงๆ รู้สึกเห็นใจขึ้นมา คิดดูแล้วหยิบกล่องไม้ออกมาจากอ้อมอก บอกว่า “ข้างในนี้มียาเม็ดหนึ่ง สามารถรักษาชีวิตปู่เธอได้ครั้งหนึ่ง เธอเอาไปเถอะ”

ยื่นกล่องเล็กให้เธอ เย่เทียนก็ไม่รอฉินโล่หยินตอบสนองกลับมา มุดเข้าในรถอย่างรวดเร็ว

ฉินโล่หยินมองเย่เทียนจากไป ในดวงตาซับซ้อนแล้วครู่หนึ่ง ในมือจับกล่องไม้นั้นไว้แน่น สัญชาตญาณบอกเธอ กล่องไม้นี้สามารถช่วยชีวิตปู่เธอได้ครั้งหนึ่งเป็นแน่!

……

ถ้าพูดถึงเย่เทียน เวลานี้กลับมาถึงที่ผับดรุณียั่วรักแล้ว แต่ที่เขานึกไม่ถึงคือ ดึงดูดแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาสองสามคน

“คุณเย่!”

ในห้องทำงานของซูเหมย เฉิงหลงยืนตัวตรงดิ่ง ทักทายไปยังเย่เทียน

เฉิงหลงที่ถูกเย่เทียนโจมตีจนแพ้ ในใจไม่ได้มีความไม่พอใจต่อเย่เทียนสักนิด แต่ทว่ายิ่งนับถือเพิ่มขึ้น

เพราะเขาเป็นทหาร ทหารเลื่อมใสและส่งเสริมผู้แข็งแกร่งมาแต่ไหนแต่ไร เย่เทียนในด้านความสามารถ ก็พิชิตเขาได้ถึงที่สุด

“นายมาหาฉันที่นี่ทำอะไร?”

เย่เทียนส่งเสียงถามอย่างแปลกใจอยู่บ้าง สายตามองผู้ชายวัยกลางคนด้านหลังของเฉิงหลง

ผู้ชายวัยกลางคนนั้นสวมชุดลำลอง แต่บนตัวมีลักษณะท่าทางน่าเกรงกลัว พอมองก็รู้ว่าความสามารถไม่ธรรมดา ถึงแม้เขาจะยืนอยู่ด้านหลัง แต่เห็นได้ชัดมาก ดูจากท่าทีเคารพนบนอบที่สองสามคนในนี้แสดงออกมา เย่เทียนรู้ว่า เขาถึงเป็นคนที่คุณวุฒิและประสบการณ์สูงที่สุด

“คุณเย่ ได้ยินชื่อเสียงมานาน วันนี้ได้เจอตัวจริง นึกไม่ถึงว่าจะไม่ธรรมดา!”

เวลานี้ ชายวัยกลางคนเข้ามาต้อนรับ ยื่นมือที่หนังด้านเต็มที่ออกไปหาเย่เทียน

ในใจเย่เทียนหวั่นไหว มุมปากวาดรอยยิ้มขึ้น จับมือกับฝ่ายตรงข้ามไว้

ชั่วขณะที่จับมือนั้น เย่เทียนรู้สึกว่ามีแรงมหาศาลกดลงมา ในใจเขาแอบหัวเราะ อยากแข่งพลังมือกับเขา?

เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพละกำลังที่ยิ่งใหญ่นั้นของอีกฝ่าย ถ้าเขายังไม่บรรลุถึงฝึกพลังชั้นสาม บางทีอาจจะต้องโดนอีกฝ่ายเอาชนะเข้าจริง

แต่ว่า ในเวลานี้……

มุมปากเย่เทียนวาดเส้นรัศมีวงกลมขึ้น ใช้แรงอยู่ในใจเงียบๆ

“เอ๋?”

คาดไม่ถึงชายวัยกลางคนจะดูออกทั้งหมด สายตาที่มองทางเย่เทียนเป็นประกายแล้ว

เขารับรู้ถึงการมีอยู่ของเย่เทียนจากปากของเฉิงหลง ดังนั้นถึงรีบเข้ามาโดยเฉพาะ เป้าหมายคืออยากลองเชิงขีดจำกัดของเย่เทียน

เมื่อสักครู่เขาเพียงแค่ใช้กำลังสามส่วนไป กลับนึกไม่ถึงว่าเย่เทียนจะสามารถแข่งกับเขาได้จริง มองท่าทางของเย่เทียนที่ผ่อนคลายสบายดี ในใจเขาแอบพูดว่าไม่เลว

แต่กลับลงมือแบบไม่ปรานีสักนิดเดียว เพิ่มกำลังขึ้นฉับพลัน!

ได้ยินเสียงแกรกๆๆ นิดหนึ่งดังขึ้น ลอยมาจากในมือของผู้ชายทั้งสอง

“หัวหน้า……”

เฉิงหลงมองสีหน้าของชายวัยกลางคนจากขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง เส้นเลือดปูดขึ้น อดตะโกนขึ้นอย่างกังวลไม่ได้

ป้าบ!

ชายวัยกลางคนดึงมือของตนเองกลับมา ไพล่หลังไว้กระตุกเล็กน้อย บนหน้ากลับไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย หัวเราะฮาๆ

“พ่อหนุ่ม แรงเยอะมากนะ!”

“พอๆ กันแหละครับ”

เย่เทียนยักไหล่ เก็บมือกลับแล้ว

ในใจชายวัยกลางคนกลัดกลุ้มอยู่นิดหน่อย สายตาที่มองทางเย่เทียนนับวันยิ่งตกใจ

เมื่อสักครู่เขาเกือบจะใช้แรงทั้งหมด ถึงแม้เป็นแผ่นเหล็ก ล้วนสามารถบีบแหลกละเอียดได้โดยตรง!

เย่เทียนไม่เพียงไม่ได้บาดเจ็บเพราะเหตุนี้ แม้แต่สีหน้ายังไม่เปลี่ยน นี่ทำให้เขารู้ว่า กำลังของเย่เทียนไม่ด้อยกว่าเขาเด็ดขาด

โดยเฉพาะ เย่เทียนเพิ่งอายุยี่สิบต้นๆ หนุ่มอย่างมาก ขอเพียงเพิ่มการฝึกฝนขึ้นอีกหน่อย ในเขตทหารสามารถเพิ่มผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งได้เป็นแน่

แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้

“คุณเย่ ผมซิงเฉียนหู่เป็นตัวแทนของเขตทหารเจียงหนัน ขอร้องให้คุณช่วยเหลือเรื่องหนึ่ง!”

“เรื่องอะไร?” เย่เทียนยักคิ้ว

ซิงเฉียนหู่สูดหายใจลึก พูดว่า “คุ้มครองประธานบริหารของบริษัทแซ่เฉิน เฉินหวั่นชิง!”